ตอนที่ 49 เธอแค่เซ็นก็พอแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 49 เธอแค่เซ็นก็พอแล้ว
ต๭นที่ 49 เธอแค่เซ็นก็พอแล้ว นภสรกินโจ๊กไปครึ่งถ้วยก็รู้สึกไม่อยากกินแล้ว เธอเข้าไปอาบน้ำอุ่นในห้องน้ำจึงทำให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเยอะ นภสรเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปหาหมอ ถูกฉีดยาไปหนึ่งเข็มจากนั้นก็รับยาแล้วกลับมาพัก ระหว่างทางที่กำลังกลับได้รับสายโทรศัพท์จากบริษัทที่ไปสัมภาษณ์งานเมื่อวาน “สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะใช่คุณนภสรหรือเปล่าบริษัทเรายินดีรับคุณเข้าทำงานแล้วค่ะ” พอนภสรได้ยินใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม “ขอบคุณค่ะ อาทิตย์ฉันจะไปรายงานตัวตามเวลาที่กำหนด” นภสรกลับบ้านอย่างอารมณ์ดีแต่กลับเห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญอยู่หน้าประตู นรมนที่เธอปฏิเสธไปเมื่อวานนั่นเอง “อย่ามาขวางทางประตู ถอยไป ฉันจะเปิดประตู” สีหน้าของนภสรไม่ค่อยดี เธอสวมชุดกีฬาสีเทาทั้งตัวมือทั้งสองข้างสอดไว้ในกระเป๋าเสื้อน้ำเสียงไม่สนใจใยดี “ฟังฉันพูดให้จบก่อน” นรมนเห็นสีหน้าของนภสรซีดขาวใบหน้าของเธอจึงขยับไปด้านข้างอย่างรังเกียจ “เรื่องที่ฉันพูดกับเธอเมื่อวานเธอคิดดีหรือยัง ถ้าเธอกลับเข้าไปทำงานที่บริษัท คุณปู่จะยกหุ้นให้เธอ” เรื่องที่ต้องยกหุ้นให้นภสร นรมนรู้สึกอึดอัดไม่พอใจแต่มันเป็นคำสั่งของคุณปู่ ไม่ว่าเธอจะขัดขวางอย่างไรคุณปู่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจบอกให้เธอต้องพานภสรกลับมาให้ได้ “หรอ...” นภสรตอบรับเย็นชาหลังจากนั้นจะเปิดประตูเข้าไป นรมนหูตาไวจึงรีบเหยียดขาออกไปขวางประตูไว้ ไม่ให้นภสรปิดประตู ใบหน้านภสรแสดงออกว่าเริ่มหมดความอดทนยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรไปที่ป้อมยาม “มีผู้หญิงแปลกๆน่าสงสัยยืนอยู่หน้าประตูของฉันไม่ยอมไปไหน รบกวนคุณมาจับตัวเธอไปด้วย” นภสรพูดเสร็จจึงไม่ปิดประตูแล้วยืนตาจ้องตากับนรมนอยู่ที่หน้าประตู นรมนรู้มาตลอดว่านภสรไม่ใช่คนที่ควรจะมีเรื่องด้วย คิดไม่ถึงว่านภสรจะไม่ไว้หน้าเธอขนาดนี้ นรมนกัดปากตัวเองข่มความไม่พอใจไว้ “นี่มันเป็นความต้องการของคุณปู่นะ ไม่มีอะไรแอบแฝงขอเพียงแค่เธอยอมกลับไปทำงานที่บริษัทของบ้านไชยกาล คุณปู่จะเอาหุ้นของบ้านไชยกาลให้เธอ สัญญาได้ถูกจัดทำมาเรียบร้อยแล้วขอแค่เธอเซ็นชื่อก็มีผลสมบูรณ์แล้ว” ทันใดนั้นทางเดินมีเสียงคนเดินมา คนที่เดินมาคือยามที่นภสรโทรไปแจ้ง สีหน้าของนรมนเปลี่ยนทันทีนำเอกสารในมือโยนเข้าไปในห้อง เธอไม่อยากถูกยามไล่ให้กลับ เรื่องแบบนี้มันน่าอายสิ้นดี นภสรก้มหน้ามองเอกสารที่อยู่บนพื้นแต่ไม่ได้ก้มลงไปเก็บ เพ่งสมาธิมองนรมนรอให้ยามมาเจอเธอ ยามมองเห็นนรมนแล้วย้ายสายตามามองนภสรอีก “คุณนภสร...” นภสรทำท่าอนุญาต “เธอคนนี้แหละ นึกว่าโรคจิตขวางอยู่หน้าประตูคิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนขายประกัน” นภสรพูดอยู่แล้วเปิดประตู หยิบเอาเอกสารที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาขึ้นมา ยามหันมองหน้ากัน นรมนโกรธจนหน้าซีดขาวรู้สึกขายหน้ามากที่ต้องมาเสียหน้าต่อหน้าแค่ยามสองคน เธอโมโหหันมาถลึงตาใส่นภสรแล้วรีบร้อนเดินลงจากตึก “รบกวนพวกคุณด้วยนะคะ” นภสรพยักหน้ายิ้มให้ยาม ถูกสาวสวยขอบคุณยามทั้งสองคนจึงรู้สึกเขินอายยิ้มเกรงใจแล้วเดินออกมา …… กลับเข้ามาในห้องนภสรจึงเปิดเอกสารออกเอามาอ่านอย่างละเอียดเป็นจริงอย่างที่คาดมันมีช่องโหว่อยู่สองสามที่ โชคดีตอนที่เธออยู่ต่างประเทศมีให้เลือกเรียนวิชาโทกฎหมาย มิฉะนั้นเธอคงตกหลุมพรางปู่ของเธอแน่ๆ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าปู่ของเธอจะมีแผนการอะไร แต่ว่าสามารถเอาหุ้นกลับคืนมาได้เป็นเรื่องที่เธอต้องการทำ ไม่ว่าปู่ของเธอจะมีแผนอะไร ไม่ว่าจะมารูปแบบใดเธอก็มีวิธีรับมือได้ คิดกลับไปกลับมา นภสรยังรู้สึกว่าควรจะคว้าโอกาสนี้ไว้ เธอติดต่อไปที่ทนายความเพื่อร่างสัญญาที่มีช่องโหว่ขึ้นมาใหม่หลังจากนั้นจึงไปหาปู่ของเธอ ไม่ได้มาที่บริษัทของบ้านไชยกาลช่วงระยะหนึ่งแล้ว เธอยืนอยู่หน้าประตูบริษัทนึกไม่ถึงว่าจะรู้สึกดูไม่คุ้นเคยเล็กน้อย เมื่อเข้ามาข้างในกลับถูกพนักงานที่อยู่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ขวางไว้ “สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครคะ” นภสรหันไปมองที่เคาน์เตอร์ ดูไม่ใช่คนใหม่ก่อนหน้านี้ที่นภสรทำงานอยู่ที่นี่พนักงานคนนี้ก็อยู่ ดูไปแล้วน่าจะจงใจทำให้เธอขายหน้า “ฉันมาหาคุณปู่ของฉัน” นภสรพูดแล้วปัดผมท่าทางสบายๆแต่ยังคงแฝงด้วยความสง่าน่าเกรงขาม ก่อนที่จะมาวันนี้เธอตั้งใจแต่งหน้าให้งดงาม ทำให้เดิมทีที่องค์ประกอบบนใบหน้าที่สวยอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความงดงามสว่างสดใสยิ่งขึ้น มองมาที่คนยืนอยู่ด้านหน้าตรงเคาน์เตอร์ที่พึ่งจะถามออกมานั้นรู้ว่าตัวเองต้อยต่ำโดยไม่รู้ตัวขึ้นมา “ที่นี่คือบริษัท ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมาหาคุณปู่ท่านไหน” พนักงานที่เคาน์เตอร์คนนี้ยังเฉไฉต่อไป น่าจะเป็นเพราะนรมนสั่งการไว้แน่ๆจึงทำท่าทางไม่ดีต่อนภสร นภสรเหลือบมองเย็นชา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรต่อหน้าพนักงานคนนั้น คุณปู่ของเธอให้นรมนไปโน้มน้าวให้เธอกลับมาทำงานคาดว่าน่าจะมีสาเหตุอะไรที่มากกว่านั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้ทำไมเธอจะไม่ใช้ประโยชน์ดูล่ะ โทรศัพท์โทรออกไปสัญญาณรอสายดังสองครั้งก็มีคนรับแล้ว สิ่งที่เธอคิดเป็นจริงอย่างที่คาดการณ์ไว้ “นภสรหรือ ทำไมไม่กลับบ้านเลย นานแล้วนะที่ไม่ได้กลับบ้าน.... ” พอรับสายธมกรก็ทักทายขึ้นมาเองก่อน นภสรก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องบาดหมางใจกันก่อนหน้านี้ พูดเสียงอ่อนโยน “ไม่ใช่หนูไม่อยากกลับมา ตอนนี้หนูอยู่ใต้ตึกบริษัทแต่พนักงานไม่ให้หนูขึ้นไปค่ะ” “มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรอ ปู่จะรีบลงไปเดี๋ยวนี้” คำพูดของธมกรทำให้นภสรรู้สึกเหนือความคาดหมายมากแต่ถ้าเจาจะลงมาเธอก็ไม่ขัดข้อง พอเธอวางโทรศัพท์ ท่าทางของพนักงานยังคงมองแบบไม่เชื่อถือเธอ จ้องมองที่เธอไม่ให้คลาดสายตา ยิ้มของนภสรยิ้มไม่ถึงดวงตา “จ้องฉันทำไม ตอนนี้ฉันไม่ขึ้นไปแล้วมีคนจะลงมารับฉัน” พนักงานไม่เชื่อแม้แต่น้อยว่าจะมีคนมารับเธอ เข้าใจว่าเธอตั้งใจพูดเพื่อรักษาหน้าตัวเอง พนักงานจึงไม่ได้ใส่ใจ “คุณผู้หญิงคะ ถ้าคุณอยากเข้าพบท่านประธานกรรมการ ฉันช่วยคุณโทรไปสอบถามที่ห้องเลขาได้นะคะ” ในความรู้สึกของพนักงาน เธอคิดว่าเธออนุโลมมากแล้ว ใครๆก็รู้ว่าในบ้านไชยกาลคุณหนูรองไม่เป็นที่รักใคร แล้วยังชอบมั่วกับคนข้างนอกไปทั่ว “ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนคุณด้วยนะ แต่ว่า ตอนนี้ไม่ต้องการแล้วล่ะ” นภสรพูดจบจึงเดินไปข้างหน้าไปหาธมกรเรียกน้ำเสียงหวานๆ “คุณปู่คะ” ถึงแม้ว่าธมกรจะเป็นคนรักษาหน้าตัวเอง แต่เห็นนภสรทำเหมือนไม่มีเรื่องมาก่อนสีหน้าของเขาจึงดูธรรมชาติขึ้นเล็กน้อย “มาแล้วทำไมไม่ขึ้นไปข้างบน” “พนักงานที่เคาน์เตอร์ไม่ยอมให้หนูขึ้นไปอ่ะค่ะ” นภสรคล้องที่แขนของธมกรยิ้มอย่างสวยงามพูด “ไม่รู้ก็ช่างไป แต่รู้แล้วว่าพนักงานของบริษัทบ้านไชยกาลเป็นแบบนี้หมด ไม่เห็นคุณปู่อยู่ในสายตาพนักงานแบบนี้จะเอาไว้ได้อย่างไร” นภสรยิ้มแล้วหันไปมองพนักงาน พนักงานคนนั้นดูช็อกนิ่งงันไป ธมกรเข้าใจความหมายของนภสรอย่างรวดเร็วหันไปถามเธอ “หนูคิดว่าจะทำยังไง” นภสรกระตุกมุมปาก “แน่นอนว่าเราต้องไล่เธอออกค่ะ” 
已经是最新一章了
加载中