ตอนที่ 55 ท่าทางเลือกผักยังสวยขนาดนี้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 55 ท่าทางเลือกผักยังสวยขนาดนี้
ต๭นที่ 55 ท่าทางเลือกผักยังสวยขนาดนี้ นภสรถลึงตาใส่พิมลแข พิมลแขแลบลิ้นใส่นภสร ไม่พูดอะไรอีก โยธินหลบไปอยู่อีกด้านหนึ่ง แอบกดถ่ายรูปนภสรที่กำลังเลือกผักสองสามใบส่งไปให้ปองพล แล้วยังเขียนข้อความแนบไปด้วย “ปองพล ภรรยาของนายแค่เลือกผักยังสวยขนาดนี้” …… ปองพลกำลังประชุมในบริษัทL.K เขานั่งอยู่หัวโต๊ะในมือกำลังถือเอกสารโครงการ แต่ข้อความที่พึ่งส่งขึ้นมาให้ยิ่งอ่านไปเรื่อยๆสีหน้าเขาก็ยิ่งแย่ขึ้น ผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ในห้องประชุมเห็นสีหน้าของปองพลดูไม่สบอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆทุกคนต่างเงียบเป็นเป่าสากแม้แต่หายใจยังไม่กล้า อย่างที่คาดการณ์ไว้ผ่านไปหนึ่งนาทีเอกสารโครงการที่อยู่ในมือของปองพลถูกโยนลงมาที่กลางโต๊ะประชุม น้ำเสียงเรียบเย็น “นี่คือแผนงานหลังจากที่พวกคุณเสียเวลาในการถกเถียงวิจัยเป็นเดือนหรือ” อุณหภูมิในห้องประชุมลดลงทันทีไม่มีใครกล้าเปิดปากพูด ไม่มีใครสามารถเดาอารมณ์ของบอสว่าเป็นอย่างไร ได้แล้วก็ไม่มีใครกล้ามีปัญหากับเขา “ติ๊ง” ปองพลหันไปมองโทรศัพท์ของตัวเอง มีข้อความเข้ามา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นข้อความที่โยธินส่งเข้ามา พอเปิดดูสิ่งที่ปรากฏเข้าสู่ครรลองสายตาคือนภสรที่นั่งอยู่บนโต๊ะกำลังก้มหน้าก้มตาเลือกผัก คิ้วที่ขมวดอยู่ของปองพลคลายออกเล็กน้อย เปิดดูภาพแต่ละภาพพร้อมบันทึกเก็บไว้จนถึงภาพสุดท้ายที่มีข้อความแนบมา “ปองพล ภรรยาของนายแค่เลือกผักยังสวยขนาดนี้” รู้ว่าเป็นภรรยาของเขาโยธินยังกล้าถ่ายรูปส่งมาให้เขาแล้ว ยังจะมาคุยโวโอ้อวดต่อหน้าเขาถ้ารู้ว่าตอนนี้เขาเข้าไปหานภสรไม่ได้ ดูสิว่าเขาจะกลับไม่กลับไปช่วยโยธินที่บริษัทC.M ลูกน้องที่อยู่ในห้องประชุมต่างก็มองสีหน้าของปองพลเห็นว่าสีหน้าของเขาที่ดูดีขึ้นเล็กน้อยนั้นเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาอีก ทุกคนในที่นั้นต่างสวดขอพร ในใจตัวเองดูแล้วครั้งนี้พวกเขาคงจะหนีไม่พ้น ปองพลกำโทรศัพท์แน่นไม่ได้เงยหน้าขึ้น “ให้เวลาพวกคุณอีกหนึ่งอาทิตย์ถ้าทำแผนงานออกมาทำให้ผมพอใจไม่ได้ก็พากันเก็บของไปอยู่ที่บ้านได้เลย” ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมตอบพร้อมเพรียงกัน “ขอบคุณครับท่านประธาน” ยอมให้โอกาสพวกเขานั้นมันคือการลงโทษที่เบาและมีเมตตาที่สุด ตั้งแต่เช้าก็ได้ยินว่าบอสใหญ่กลับมาแต่ไม่ค่อยเปิดเผยตัวให้เห็นเท่าไหร่มีแค่ช่วงนี้ที่มาที่บริษัทบ่อยๆ การทำงานเฉียบขาดทำการรวดเร็วเข้มงวดกวดขัน “ปิดการประชุม ออกไปกันได้” ถึงแม้ว่าคำพูดของปองพลจะพูดกับลูกน้องแต่ว่าสายตาของเขากลับมองอยู่ที่รูปถ่ายของนภสร ตอนเธอกำลังเลือกผักดูไม่เย็นชาเลยสักนิดกลับกันดูอ่อนโยนมาก ปลายนิ้วเรียวยาวเกลี่ยๆที่ใบหน้าของนภสรที่หน้าจอเบาๆ ภายนัยตาดำสนิทของเขาค่อยๆปรากฏแววอ่อนโยนออก เขานอนไม่หลับมาหลายคืนติดต่อกันอยู่ที่ต่างประเทศมาหลายปี ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนทำไมอยู่ดีๆถึงมาเป็นตอนที่ไม่มีนภสรอยู่ข้างๆเลยนอนไม่หลับ เพียงแค่เรื่องที่เกี่ยวกับเธอต่อให้เป็นเรื่องเล็กเพียงนิดเดียวก็ทำให้เขาร้อนใจขึ้นมาได้ พงศกรพูดถูกเขาควรจะไปตรวจสุขภาพร่างกายบางทีร่างกายของเขาอาจจะมีอะไรผิดปกติถึงทำให้นอนไม่หลับ ในตอนที่เขากำลังคิดอยู่นั้นก็มีสายของพงศกรโทนเข้ามา “ท่านประธาน ผมนัดคุณหมอให้คุณเรียบร้อยแล้วเลขาของคุณบอกว่าช่วงเที่ยงสามารถปลีกตัวได้หนึ่งชั่วโมง” ปองพลฟังแต่ใจคิดไปอีกเรื่องหนึ่งโดยไม่ได้พูดออกมา หนึ่งชั่วโมงไปตรวจสุขภาพหรือ ปองพลขมวดคิ้ว พูดโดยไม่ต้องคิด “ตอนเที่ยงฉันมีธุระ เปลี่ยนเวลาไปเป็นเวลาอื่น” พูดจบ เขาชะงักเล็กน้อย ตอนเที่ยงเขาเหมือนกับจะไม่มีแผนอะไร เขาแค่อยากไปหานภสร นภสรยอมให้โยธินเข้าไปแล้วทำไมเขาจะเข้าไปบ้างไม่ได้ …… คุณชายโยธินนั่งอยู่บนโซฟาจ้องดูการแข่งขันบอล นภสรกับพิมลแขหั่นผักวางไว้ในจานเรียบร้อยแล้วนำไปตั้งบนโต๊ะ เห็นว่าเนื้อวัวที่อยู่ในจานล้นเกินไปจึงจะไปเอาจานอีกใบมาแบ่งออก พอเธอก้าวเข้าไปในครัวเสียงโทรศัพท์ของโยธินก็ดังขึ้น เขามองไปที่ห้องครัวชั่วครู่แล้วถึงรับโทรศัพท์ “มีอะไร” “เปิดประตู” เสียงที่ดังมาจากปลายสายสองคำแล้วก็ตัดสายไปแน่ชัดว่านี่เป็นรูปแบบการจัดการสำหรับคนที่ไม่สำคัญต้องกระชับใจความให้มากที่สุดของปองพลแน่ๆ” “เฮ้ย เขารู้จักกับปองพลมาสิบกว่าปีทำไมถึงกลายเป็นคนที่ไม่สำคัญไปได้” โยธินรู้สึกว่าตัวเขาเองก็ควรจะไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลให้ละเอียดเหมือนกัน เขาหันไปมองทางห้องครัว แอบชำเลืองๆมองเห็นนภสรยืนคุยอะไรกันสักอย่างกับพิมลแข พอดีมากที่เธอหันหลังมาทางเขาจึงทำตัวเหมือนขโมยยืนขึ้นไปเปิดประตู พอโยธินเปิดประตูแล้วเลยถาม “วันนี้นายไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมาที่นี่ได้” ปองพลชายตามองโยธินไม่พูดจา โยธินหุบปากโดยอัตโนมัติอดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่าสถานการณ์ตอนนี้ของปองพลกับนภสรเป็นยังไงกันแน่ พอเข้ามาในห้องก็ได้กลิ่นชาบูลอยมา เขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาจะสองเดือนแล้วเขาจึงรู้จักทุกซอกทุกมุมของที่นี่เป็นอย่างดี เดินเข้ามาแล้วพลันสอดส่องสายตามองหานภสร โยธินเดินมาอยู่ด้านข้างปองพลพูดเบาๆ “อยู่ในห้องครัว” ปองพลมองไปที่ห้องครัวพอดีกลับได้ยินเสียงหัวเราะสดใสไม่รู้ว่าสองสาวคุยอะไรกันทำไมถึงยิ้มออกมา พิมลแขไอแห้งๆพูดเบาๆ “ตอนนี้ฉันเห็นไม้จิ้มฟันก็ให้นึกถึงไอ้คนหลงตัวเอง....” นภสรทุบพิมลแขเบาๆ “ถ้าโยธินได้ยินเข้า เขาต้องฟาดเธออย่างแน่นอน” “กลัวที่ไหนล่ะทั้งขาวทั้งผอมเหมือนกับนกอ่อนแอ” พิมลแขเบะปากใช้ช้อนคนๆในหม้อ นภสรคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองจะมาเอาจานถึงเข้ามาในครัวจึงหันตัวไปทางชั้นวางถ้วยจาน พยายามเขย่งเท้าเพื่อจะเอื้อมให้หยิบถึง ทันใดนั้น แขนที่ดูแข็งแรงวางพาดที่บนเอวของเธอช่วยให้เธอทรงตัวมั่นคง มือใหญ่อีกข้างเอื้อมไปหยิบจานลงมาต่อหน้าต่อตาเธอ นภสรใจกระตุกแรงรีบหันกลับมาคนที่อยู่ต่อหน้าเธอคือปองพลที่มีคิ้วและดวงตาดำสวย “หยิบไม่ถึงทำไมไม่บอกคนอื่น จะฝืนทำไม” ปองพลตำหนิออกไปหยิบจานมาล้างในอ่างล้างจาน นภสรมองเขาอย่างตะลึงงัน “คุณมาได้ยังไง” สิ่งที่เธอพูดคือเขามาที่นี่ได้ยังไงแต่ไม่ได้พูดว่าเขาเข้ามาได้ยังไง ปองพลที่ล้างจานอยู่หยุดชะงักมุมปากยกขึ้นมีรอยโดดเดี่ยวเล็กน้อยจนมองไม่เห็น “อันนั้น....” นภสรปลุกปลอบใจตัวเองแล้วพูดออกมา “คุณปองพล เอาจานใบนั้นมาให้ฉันก็พอแล้ว” นภสรเอื้อมมือจับเอาจานในมือปองพลมาแล้วส่งผ้าขนหนูให้เขา “เช็ดมือเถอะค่ะ” บนโลกใบนี้มีคนประเภทหนึ่งเกิดมาเพื่อได้แค่แหงนหน้ามอง นภสรรู้สึกว่าปองพลคือคนประเภทนั้น เธอก้มมองเขาที่ก้มตัวลงล้างจานรู้สึกว่าแปลกๆอยากจะเอาจานมาล้างเองหลังจากนั้นถึงจะยกชาไปให้เขา แล้วปล่อยให้เขานั่งนิ่งๆอยู่ข้างๆ แต่ไหนแต่ไรมาเธอเป็นคนที่ไม่แบ่งชนชั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เจอคนแล้วรู้สึกว่าต้องยอมสวามิภักดิ์ให้ “ขอบคุณ” เหมือนกับครั้งแรกที่เจอนภสรแล้วเธอสงบนิ่ง ปองพลรับผ้าเช็ดมือมาจากนภสรพูดขอบคุณเธออย่างมีมารยาท นภสรรีบโบกมือ “ไม่ต้อง” อย่ามาขอบคุณเธอเชียว เธอรู้สึกกดดัน
已经是最新一章了
加载中