ตอนที่ 57 ถ้าวัดตามมาตรฐานของผม ยังห่างไกลอีกมาก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 57 ถ้าวัดตามมาตรฐานของผม ยังห่างไกลอีกมาก
ต๭นที่ 57 ถ้าวัดตามมาตรฐานของผม ยังห่างไกลอีกมาก วันพุธ “เอกสารเตรียมเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” นภสรเรียงเอกสารในมือซ้อนกันจัดให้เรียบร้อยแล้วสอดเข้าไปในซองเอกสารอย่างระมัดระวังไปด้วยแล้วหันไปถามพิมลแขไปด้วย พิมลแขเงยหน้าขึ้นมามองนภาร “เตรียมครบเรียบร้อยแล้ว” “ดีมาก เตรียมออกเดินทางกัน” นภสรถือเสื้อโค้ตของตัวเองเดินนำหน้า เดินไปถึงห้องโถงถึงจึงนึกได้ว่าตัวเองลืมเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง “รอแปป ฉันโทรศัพท์ก่อน” เธอพูดกับพิมลแขแล้วหันตัวเดินไปอีกด้านเพื่อโทรศัพท์หานรมน เมื่อมีคนรับสายนภสรจึงพูดเข้าประเด็น “ตอนนี้ฉันกำลังจะไปคุยงานที่บริษัทL.Kจะไปหรือไม่ไปก็ตามใจนะ” พูดจบนภสรจึงวางสาย เดินเข้าไปเรียกพิมลแข “ไปกันเถอะ” นภสรขับรถมีพิมลแขนั่งไปด้วย รถพึ่งจะขับออกมาจากลานจอดรถจึงเห็นรถของนรมนจอดอยู่ในนั้นแล้ว “นรมนเธอมาทำไม” พิมลแขหันไปมองนรมนแล้วหันมาถามนภสร เธอจะไปคุยงานที่บริษัทL.Kกับพวกเราด้วย” นภสรยิ้มมีเลศนัย “นรมนหน้าด้านมากบอสปองพลจงใจเลือกเธอแล้ว นรมนยังจะเสนอหน้าเข้ามาอีกหน้าไม่อายจริงๆ” …… รถของนภสรเป็นรถบิวอิคครุ่นหลังคาต่ำ เป็นรถคันที่เธอพึ่งกลับจากต่างประเทศซื้อไปด้วยเงินห้าแสนกว่าบาท เงินที่ซื้อเป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรงของเธอที่หามาเองรวมทั้งประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รถยังคงใหม่เอี่ยม เพียงแต่ว่ารถบิวอิค ของเธอเมื่อจอดเทียบกับรถออดี้ของนรมนเห็นได้ชัดว่ารถเธอกระจอกมาก นภสรเยี่ยมหน้าออกไปทางหน้าต่างเห็นรถของนรมน สายตาของเธอปรากฏรอยยิ้มแดกดัน เพราะว่ามีคนนอกอยู่เธอยังคงต้องแกล้งเป็นคนอ่อนโยน เธอมองไปที่นภสรแล้วยิ้ม “มานั่งรถของฉันสิไปกันสามคนเอารถไปสองคันมันดูวุ่นวาย” ไม่รอให้นภสรพูดอะไร พิมลแขก็ทนไม่ไหวพูดออกมา “หัวหน้านรมนเกรงใจเกินไปแล้ว ปกติทั่วไปดิฉันกับคุณนภสรสองคนนั่งรถคันเดียวก็ไม่ได้รู้สึกวุ่นวายอะไร” ความหมายที่สื่อออกมา นรมนนั้นถึงจะเป็นที่โผล่ออกมาทำให้มันวุ่นวาย นรมนตัวแข็งค้าง พนักงานตัวเล็กๆกล้าพูดจาเสียดสีเธอ แต่บนใบหน้าของเธอกลับไม่ได้เปลี่ยนไป “นภสร ผู้ช่วยของเธอคนนี้ดูน่าสนใจดีนะ” “ประธานบริษัทL.Kก็รู้ว่าผู้ช่วยของฉันน่าสนใจ ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกว่าเธอน่าสนใจหรือเปล่านะ” นภสรพูดจบจึงขับรถออกมาก่อนขับนำหน้ารถของนรมน นรมนแอบกัดฟัน ผู้หญิงที่ชื่อเสียงแย่ๆมีแต่คนดูถูกกับพนักงานตัวเล็กที่แค่เธอกระดิกนิ้วก็จัดการได้แล้ว ประธานบริษัทL.Kก็แค่ไม่เคยเจอเธอแค่นั้นเอง ถ้าได้เจอเธอน่าจะรู้ว่าเธอเหมาะสมในกันเจรจาความร่วมมือมากกว่านภสรอีก …… เมื่อถึงบริษัทL.K นภสรกับพิมลแขจึงเดินเข้าไป พนักงานฝ่ายต้อนรับจำเธอได้พอเห็นเธอจึงยิ้มออกมาแล้วเรียก “คุณนภสร” “สวัสดีค่ะ” เธอตอบกลับอย่างมีมารยาท หลังจากนั้นจึงเดินเข้าไปหาปองพลอย่างชำนาญทาง ตอนที่นรมนตามหลังมา นภสรกับพิมลแขเตรียมจะเข้าไปในลิฟต์ “สวัสดีค่ะ ฉันมาเจรจาความร่วมมือพร้อมกันกับพวกเธอ ฉันชื่อนรมนเป็นหัวหน้าโครงการบริษัทไชยกาล” นรมนห่วงแต่ชื่อเสียงหน้าตาตัวเองจึงรีบแนะนำสถานะตัวเองกับพนักงานฝ่ายต้อนรับก่อน พนักงานฝ่ายต้อนรับเพียงแค่ตอบกลับอย่างมีมารยาท “สวัสดีค่ะคุณนรมน ขอโทษนะคะคุณมาติดต่อธุระอะไรหรือคะ” นรมนยังคงรักษาสีหน้าตัวเองไว้ “ ฉันมาเจรจาความร่วมมือกับบริษัท L.K.” “ขอโทษเป็นอย่างสูงค่ะ ฉันต้องโทรไปยืนยันที่เลขาสักครู่ คุณนัดท่านไหนไว้ไหมคะ นัดไว้เวลาไหน” พนักงานต้อนรับถือโทรศัพท์ขึ้นมา เงยหน้ามองนรมน ในที่สุดสีหน้าของนรมนจึงเปลี่ยนสีเล็กน้อย เธอบอกไปแล้วอย่างชัดเจนว่าเธอมาพร้อมกับนภสรเพื่อมาเจรจาความร่วมมือกับประธานบริษัทL.K แต่ว่าพนักงานต้อนรับกลับจงใจบิดเบือนสิ่งที่เธอสื่อ เพื่อที่จะไม่ทำให้ตัวเองดูไม่ดี เธอจึงรีบหาทางออกให้ตัวเอง “ขอโทษนะคะฉันเอาเอกสารมาไม่ครบไว้วันหลังฉันจะมาใหม่ ขอบคุณ” พนักงานต้อนรับยิ้มหวานยกมือสวัสดี …… เวลาเดียวกันที่นรมนเดินออกไป นภสรกับพิมลแขก็เข้าไปในลิฟต์ พิมลแขพูดอย่างแปลกใจ “ทำไมเธอรู้ว่าพนักงานต้อนรับจะไม่ให้นรมนเข้ามา” “ไม่รู้” นภสรยิ้มอย่างไม่มีทางเลี่ยง “ฉันเข้าใจว่าปองพลไม่มีทางสนใจนรมนแน่ๆแต่แค่คิดไม่ถึงว่าแม้กระทั่งเข้ามาภายในบริษัทL.Kยังเข้าไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะว่าฉันประเมินเธอสูงไป” นภสรคิดไม่ถึงจริงๆว่าแม้กระทั่งประตูใหญ่พนักงานต้อนรับยังไม่ยอมให้นรมนเข้ามา มันเป็นจริงอย่างที่ว่าเจ้าของเป็นอย่างไรพนักงานก็เป็นอย่างนั้น เธออดที่จะคิดไม่ได้ช่วงเวลาที่ผ่านเธอเจอพนักงานต้อนรับมาแล้วสามแห่ง พนักงานต้อนรับบริษัทถึงแม้ว่าไม่มีเรื่องอะไรแต่จงใจหาข้ออ้าง แต่ว่าอย่างน้อยยังรู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบ บริษัทไชยกาลของครอบครัวเธอ พนักงานต้อนรับนั้นดูแย่เหมือนขยะมาก พนักงานต้อนรับของบริษัท L.K. นั้นเหมือนกับปองพลประธานบริษัทมาก ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดไม่ไว้หน้าใครดูจริงใจมาก คิดมาถึงตรงนี้นภสรอดไม่ได้เม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม พิมลแขกระทุ้งนภสร “ตอนนี้มันเป็นฤดูเดือนแรกของฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ท่าทางแบบนั้นของเธอกำลังมีความรักหรือไง” “เธอสิที่กำลังมีความรัก” ลิฟต์มาถึงชั้นที่ต้องการพอดี นภสรทำท่าทางกดที่หน้าผากของพิมลแขแรงๆ จึงก้าวขาเดินออกไป “คุณนภสรมาแล้วหรือคะ ท่านประธานกำลังรอคุณอยู่ในห้อง เดินตามดิฉันมาเลยค่ะ ” เลขาปองพลเห็นนภสรจึงยิ้มเข้ามาทักทายเธอ “ขอบคุณค่ะ” นภสรกับพิมลแขเดินตามหลังเธอ ภายในห้องทำงาน เลขาพาพวกเธอเข้าไป พูดอย่างนอบน้อม “ท่านประธานคะ คุณนภสรกับคุณพิมลแขมาถึงแล้วครับ” ไม่รู้ว่าปองพลกำลังดูอะไรอยู่ เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้น แค่ตอบรับ “อืม” เบาๆ “เชิญนั่งตรงนี้ก่อนค่ะ ท่านประธานพึ่งจะมาบริษัทไม่กี่วันมีเรื่องที่ต้องจัดการมากมาย ต้องขออภัยด้วยนะคะ” ถึงแม้ว่าเลขาจะดูออกว่าความสัมพันธ์ของปองพลกับนภสรไม่ธรรมดา แต่ก่อนที่ทุกอย่างอย่างไม่ชัดเจนในฐานะที่เธอเป็นพนักงานสิ่งที่ควรพูดเธอก็ต้องพูด สิ่งที่ควรทำก็ต้องทำ เลขาของปองพลรินน้ำให้พวกเขาแล้วจึงหันตัวเดินกลับออกไป ผ่านไปสองนาทีปองพลถึงยืนขึ้นแล้วเดินเข้ามาหา ตอนที่สายตาตกอยู่ที่ตัวนภสร ในตาของเขามีประกายดำวาบพัดผ่าน วันนี้นภสรสวมชุดเครื่องแบบทั้งชุด ชุดสั้น กระโปรงเข้ารูป ชุดเครื่องแบบสีดำทำให้เน้นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอให้น่าดึงดูดมากขึ้น เอวบางๆของเธอแค่เอื้อมมือเข้าไปก็สามารถหักเอวเธอได้ ขายาวขาวๆดูน่ามอง ปองพลรู้สึกลำคอแห้งผาก เอื้อมมือไปปลดเนกไทถึงจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับพวกเธอ “เริ่มกันเลย พวกคุณมีเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงนะ” นภสรเงยหน้ามองปองพล ปองพลเริ่มอธิบาย “มีเรื่องต้องจัดการเยอะจึงต้องจัดสรรเฉลี่ยเวลา” นภสรเกือบจะลืมไปว่าสถานะเขาคือประธานบริษัทL.Kความจริงแล้วเขาคงยุ่งมาก เธอจึงไม่เยิ่นเย้อเริ่มเจรจาเรื่องที่เคยคุยทิ้งไว้เมื่อครั้งที่แล้วต่อ เพราะคำพูดครั้งที่แล้วของปองพล เธอจึงกลับไปทำการบ้านมาไม่น้อย รู้สึกว่าในที่สุดเมื่อเธออยู่ต่อหน้าปองพลเธอสามารถทำลายแรงกดดันลงไปรู้สึกสบายใจอารมณ์ปลอดโปร่งที่สุด เนื้อหาการเจรจาครั้งนี้เสร็จลงรวดเร็ว ตลอดระยะการพูดคุยปองพลพูดไม่เยอะ ท้ายที่สุด เขาแค่พูดความคิดเห็นว่า “อืม มีการพัฒนาขึ้นมากจริงๆ” นภสรเม้มริมฝีปาก อยากจะซ่อนอารมณ์ฮึกเหิมเล็กๆน้อยๆแล้วจึงค่อยได้ยินปองพลพูดขึ้นมาอีก “แต่ว่า ถ้าวัดตามมาตรฐานของผม ยังห่างไกลอีกมาก”
已经是最新一章了
加载中