ตอนที่ 61 อาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์ไม่ว่าง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 61 อาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์ไม่ว่าง
ต๭นที่ 61 อาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์ไม่ว่าง “ท่านประธาน” เสียงที่อยู่ด้านนอกเข้ามา ปองพลหันตัวเดินกลับไปทางประตู เมื่อเดินกลับมาในมือมีถุงกลับมาด้วยหนึ่งถุง “เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” พูดเสร็จจึงเดินกลับออกไปและปิดประตูเรียบร้อย นภสรจ้องประตูที่ปิดลงอย่างมึนงง ชั่วครู่เธอจึงเปิดดูของในถุง ภายในถุงมีเสื้อผ้าทั้งที่ใส่ข้างนอกและชุดชั้นใน แววตาของนภสรเกิดประกายเก้อเขินออกมาชั่วแวบหนึ่ง ปองพลคงไม่ได้บอกให้พงศกรไปซื้อมาหรอกนะ พอคิดไปถึงสไตล์การทำงานตามปกติทั่วไปของปองพลแล้ว เธอก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ พอนำเสื้อผ้าออกมาใส่ เธอพบว่าขนาดเหมาะกับตัวเธอพอดี เมื่อเสื้อเชิ้ตแบบถักกับกางเกงขายาวง่ายๆอยู่บนตัวของนภสร ทำให้ตัวเธอดูมีชีวิตชีวาและเรียบร้อย ตอนที่ผลักประตูออกไปเธอเห็นปองพลยืนสูบหรี่อยู่ด้านหน้าของหน้าต่าง เมื่อเขาเห็นเธอเดินออกมาจึงดับบุหรี่ที่อยู่ในมือ มองขึ้นลงพิจารณาจากนั้นจึงพูดสรุปออกมาเอง “เสื้อผ้าใส่ได้พอดีเลย” “ขอบคุณค่ะ” ระหว่างคนทั้งสองคนยืนอยู่ต่อหน้ากันเกิดความเงียบ มองดูเหินห่างกัน นภสรยกเรื่องเก่าขึ้นมาพูด “มีเวลาว่างหรือเปล่าคะ วันนี้ไปทำเรื่องหย่ากันเถอะ” ถ้าทำเรื่องหย่าให้แล้วเสร็จก่อน เธอกับปองพลก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก ไม่ว่าเขาจะทำอะไร มีเป้าหมายอย่างไรมันก็จะไม่เกี่ยวข้องกับเธอทั้งนั้น “ไม่ว่าง” ใบหน้าของปองพลเดิมก็ไม่แสดงสีหน้าใดๆอยู่แล้วดูขรึมขึ้นมากกว่าเดิมอีกแล้วถามย้อนกลับนภสร “เตรียมจะรับมือลูกพี่ลูกน้องคุณยังไง” “เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วง” ปองพลเอื้อมมือไปจับผมยาวที่ด้านหลังไว้มันเปียกๆรู้สึกไม่ค่อยสบาย นภสรเห็นปองพลไม่พูด จึงถามขึ้นมาอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณว่างวันไหน” “อาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์ ผมไม่มีเวลาว่างเลย” ฟังน้ำเสียงของปองพลที่พูดแล้วดูแปลกๆเหมือนกำลังโกรธ “ผมต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ อย่างน้อยก็หนึ่งสัปดาห์” แค่ได้ยินว่าหนึ่งสัปดาห์นภสรจึงขมวดคิ้วขึ้น “ก่อนที่จะไปเราไปดำเนินเรื่องนี้ก่อนได้ไหม” “ไม่ได้ อีกสักครู่ผมมีเรื่องต้องไปจัดการ เที่ยวบินตอนเย็นนี้” พูดจบเขาจึงหมุนตัวเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดแฟ้มเอกสารกองใหญ่ที่อยู่บนโต๊ะ ท่าท่างของปองพลดูไม่ทุกข์ร้อนใดๆ ในเมื่อเขาตอบตกลงแล้วน่าจะไม่เปลี่ยนใจแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าปองพลเหมือนไม่อยากไปแต่เธอก็ไม่โง่ถามออกมาหรอก …… เมื่อเดินออกมาจากห้องทำงาน นภสรเห็นพิมลแขกำลังคุยกับพงศกรอย่างออกรสออกชาติ ท่าทางดูถูกคอกันอย่างมาก “พิมลแข” นภสรเดินเข้ามาหาพิมลแขในมือเธอถือถุงเสื้อผ้าเปียกมาด้วย พิมลแขหันมาหานภสร ใบหน้ามีรอยยิ้ม “อ้าว นภสรออกมาแล้วหรอ มาเร็ว มานั่งตรงนี้” นภสรส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่ดีกว่า ฉันอยากกลับบ้านก่อน” “ถ้าอย่างนั้นฉัน.....” นภสรยกมือโบกปัดปฏิเสธ “เธอคุยกับคุณพงศกรต่อเถอะ ฉันไม่เป็นไร” พิมลแขมีอิสระในการคบเพื่อน ถ้าเธอคุยถูกคอกับพงศกรและอยากจะคุยต่ออีกสักพักก็ต้องแล้วแต่พิมลแขอยู่แล้ว พิมลแขได้ยินนภสรพูดแบบนี้ จึงวิ่งกลับไปคุยกับพงศกรต่ออย่างที่คาดไว้ไม่ผิด นภสรส่ายหัว ตั้งแต่ตอนที่เธอเริ่มรู้จักพิมลแข พิมลแขก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เหมือนว่าไม่ว่ากับใครก็คุยถูกคอ ถ้าเจอสิ่งที่ไม่ชอบก็จะพูอออกมาตรงๆ นิสัยตรงไปตรงมายิ่งกว่าไม้บรรทัด …… เมื่อนภสรก้าวขาเดินออกไป ปองพลก็เดินเข้ามาติดๆ เห็นพงศกรกำลังคุยกับพิมลแขอย่างออกรสออกชาติสายตาเกิดประกายแวบบออกมาพร้อมมองไปรอบๆ แต่ทว่ากลับมองไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่เขาอยากเจอ สีหน้าจึงขรึมขึ้นแล้วเดินเข้าไป “พงศกร” “ท่านประธาน” พงศกรที่กำลังคุยกับพิมลแขได้ยินเสียงเรียกจึงรีบยืนตัวตรงขึ้น “นำรายการเดือนนี้มาตรวจความถูกต้องอีกครั้งหลังจากนั้นเอาไปให้ฉัน แล้วก็ จองตั๋วเครื่องไปอเมริกาคืนนี้” ปองพลสั่งแบบรวบรัดเสร็จจึงหันกลับแล้วจะเข้าไปข้างในอีก ได้ยินเสียงพงศกรที่เรียกเขาตามหลังมา “ตัวบินไปอเมริกาคืนนี้มีแค่เที่ยวเดียวตอนตีหนึ่ง เที่ยวอื่นๆไม่มีแล้วครับ” ปองพลหยุดชะงักหันหน้ากลับมามองสายตาเย็นชา “ฉันไม่สนว่าจะกี่โมง วันนี้ต้องได้ไป นายก็ต้องไปด้วย” พูดแล้วว่าบินคืนนี้ก็ต้องบินคืนนี้ เขาเป็นนักธุกิจที่พูดตำไหนคำนั้น เมื่อปองพลเข้าไปในห้องทำงานแล้ว พิมลแขถึงถามพงศกร “ทำไมตอนเขาบอกว่าให้คุณไปด้วยสีหน้าคุณถึงดูเจ็บปวดขนาดนั้นล่ะ” พงสกรพูดด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “เพราะว่าผมเมาเครื่องบิน” “ท่านประธานของคุณรู้หรือเปล่าว่าคุณเมาเครื่องบิน” พิมลแขรู้สึกสงสารชายหนุ่มรูปหล่อตาสีฟ้านิดหน่อย นั่งเครื่องไปอเมริกาใช้เวลาตั้งสิบกว่าชั่วโมง “เพราะว่าท่านประธานรู้ถึงให้ผมไปด้วยเนี่ยแหล่ะ” พิมลแขได้ยินอย่างนั้นจึงรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจ “เพราะอะไรหรือ” พงศกรฝืนยิ้ม “ความต้องการของผู้ชายที่ไม่ได้เติมเต็ม ทำให้อารมณ์ดูรุนแรง” “อ๋อ” พิมลแขรับทันที พงศกรมองพิมลแขด้วยสายตาที่ไม่อาจคาดเดาได้ และกลับไปจองตั๋วในอินเตอร์เนต เห็นพงสกรมีเรื่องต้องทำ พิมลแขจึงขอตัวออกไปก่อน พงศกรจองตั๋วเรียบร้อย จึงนำรายการที่ตรวจเช็คเรียบร้อยแล้วเอาไปให้ปองพลที่ห้องทำงาน พงศกรส่งรายการให้ปองพล “ท่านประธานนี่เป็นรายการของเดือนนี้ครับ” ปองพลรับมาดูเห็นว่ามันคือเอกสารอันก่อนหน้านี้ที่เขาเคยอ่านมาแล้ว คิ้วขมวดขึ้น “พงศกร” พงศกรติดตามปองพลมาหลายปี พอปองพลพูดงศกรรู้ทันทีว่าปองพลต้องการอะไร พงศกรลังเลแต่ในที่สุดก็ตัดสินใจพูดความจริง “เมื่อวานนี้วันที่สิบห้า รายการฉบับนี้เป็นของเมื่อวานที่ท่านประธานเคยอ่านแล้ว” ปองพลชะงักไป สายตาดูแปลกใจ พงศกรหลุบตาลง เตรียมพร้อมรับอารมณ์ที่คาดการณ์ไว้แล้ว รู้อย่างนี้ไม่พูดความจริงยังจะดีกว่า ท่าท่างที่ดูอารมณ์ดีของท่านประธานจะมีก็แค่ตอนอยู่ต่อหน้าคุณนภสรเท่านั้น สำหรับเขาแล้วท่านประธานไม่ได้อารมณ์ดีขนาดนั้น พอท่านประธานอารมณ์ไม่ดีคนแรกที่โชคร้ายก็จะเป็นพงศกรทุกครั้ง ทั้งๆเรื่องที่ท่านประธานจะไปต่างประเทศมันเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ทำไมยังเจาะจงเรียกเขาไปด้วย เขาก็เมาเครื่องบิน ผ่านไปสักพัก ทันใดนั้นปองพลจึงถามคำถามที่น่ากลัวที่สุดสำหรับพงศกร “พงศกร นายเคยแต่งงานไหม” “ไม่....ไม่เคยครับ” ทำไมอยู่ๆท่านประธานถึงถามคำถามประหลาดแบบนี้ ราวกับว่าปองพลมีเรื่องรบกวนใจ หัวคิ้วมุ่นขึ้น โบกมือให้เขาออกไป “ช่างเถอะ นายออกไปเถอะ” พงศกรเดินออกไปได้สองก้าวจากนั้นจึงถอยกลับมา “ท่านประธาน ถ้าผมช่วยท่านนัดคุณนภสรมากินข้าวกับท่านได้ ไปอเมริกาครั้งนี้ไม่ต้องพาผมไปด้วยจะได้ไหม” ปองพลตอบโดยไม่คิด “ได้” แค่ชั่วพริบตาพงศกรตระหนักแล้วว่าช่างหน้าเศร้าจริงๆเป็นลูกน้องมาหลายปียังมีค่าไม่เท่ากับหมูเลย …… หลังจากนภสรกลับมาถึงบ้านเป่าผมจนแห้งแล้วจึงนอนหลับไป จนกระทั่งมีสายจากพิมลแขเข้ามาเธอจึงตื่น “ว่าไง” นภสรรับโทรศัพท์โดยที่ยังหลับตาอยู่ น้ำเสียงสดในของพิมลแขดังจากอีกปลายสาย “เธอทำไรอยู่ นอนหรือ ออกมากินข้าวกัน” “ที่ไหน” พูดถึงเรื่องกินข้าว นภสรจึงรู้สึกว่าตัวเองก็เริ่มหิวขึ้นมาเล็กน้อย พิมลแขบอกสถานที่แล้วรีบวางสายไป นภสรตื่นนอนแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่ง่ายๆแล้วออกไป สถานที่พิมลแขบอกเป็นตลาดนัดกลางคืน พูดตรงๆก็คืออาหารข้างทางนั่นเอง บ้านไชยกาลไม่อนุญาตให้เธอกินอาหารข้างทาง แต่ก่อนก็มีพิมลแขแหละที่พาเธอมากินที่นี่อยู่สองสามครั้งเธอรู้สึกว่ามันน่าสนใจรสชาติอาหารก็ไม่เลว เธอจอดรถเสร็จ เดินเข้ามาพบง่านอกจากพิมลแขแล้วยังมีผู้อีกสองคนอยู่ด้วย พิมลแขรีบอธิบาย “ฉันชวนแค่พงศกร ฉันไม่ได้เรียกบอสปองพลมานะฉันสาบาน” 
已经是最新一章了
加载中