ตอนที่ 64 ข่าวลือในบริษัท   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 64 ข่าวลือในบริษัท
ต๭นที่ 64 ข่าวลือในบริษัท “ท่านพูด ท่านมองคุณปู่ผิดไป ท่านมองไชยกาลผิดไป นึกไม่ถึงว่ะใช้วิธีสกปรกแบบนี้ได้” น้ำเสียงของนภสรพูดขึ้นมาแล้วเบาลงในช่วงท้าย ธมกรโมโหหน้าเขียว ด่าใส่หน้านรมนด้วยความโมโห “นี่มันเพราะแกทำทั้งหมด ไหนว่ามาสิ ไปเรียนเรื่องเลวๆแบบนี้มาจากไหน บ้านไชยกาลสอนแกแบบนี้หรือไง” “คุณปู่...หนูคิดแค่คิดว่าอยากจะให้เซ็นสัญญาได้โดยเร็ว ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้” ตั้งเด็กจนโตธมกรไม่เคยพูดตะคอกใส่นรมนแบบนี้มาก่อน นรมนจึงอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว “ไม่คิดมาก่อนหรอ ในสมองของแกมันมีแต่น้ำหรือไง ความหมายของแกคือ บ้านไชยกาลเลี้ยงแกมาหลายปีเลี้ยงจนแกกลายเป็นคนโง่คนหนึ่งงั้นหรอ” น้ำเสียงของธมกรดูรุนแรง อีกทั้งยิ่งพูดยิ่งโมโหมากขึ้น ยังมีเรื่องที่ทำให้นภสรคาดไม่ถึง “คุณปู่” นรมนของตาแดง ครั้งนี้เธอรู้สึกเสียใจจริงๆ ตอนที่เธอพูดเสนอเรื่องนี้ขึ้นไปธมกรก็ยังเห็นด้วยอยู่เลย พอมาตอนนี้ประธานบริษัทLKรู้แล้วว่าพวกเธอวางแผนลับหลัง ก็เลยเอาความผิดทั้งหมดมาโยนใส่เธอคนเดียว “คุณปู่ อย่าโกรธเลยค่ะ ท่านประธานLKยังคงเชื่อมั่นในตัวคุณปู่ชื่อเสียงของคุณปู่ยังไม่ถูกทำลายอย่างแน่นอน หายโกรธนะคะ” นภสรเดินไปประคองธมกรให้นั่งลง “หนูให้เลขาไปชงชาแล้วยกเข้ามาให้ ดีไหมคะ” ตอนนี้นภสรเข้าใจหมดแล้ว เรื่องที่นรมนทำมันเป็นแผนการของเธอเอง และแน่นอนว่านรมนต้องคิดหาวิธีทางเพื่อให้ธมกรเห็นด้วยถึงลงมือ เพียงแต่ว่าสิ่งที่นรมนคาดการณ์ไว้มันผิดนิดเดียว ในชีวิตนี้สิ่งที่ธมกรภาคภูมิใจก็คือไชยการ เขาต้องการให้ไชยกาลแข่งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เขาสนใจแค่ภาพลักษณ์ของตัวเองที่อยู่ในสายตาของกลุ่มคนที่ร่วมทำธุรกิจด้วยกัน “แกกลับไปคิดพิจารณามทบทวนตัวเองสักพัก ช่วงเวลานี้ตำแหน่งของแกก็ให้คนมาแทนสักระยะ ออกไป” ธมกรทำตามที่นภสรบอก ความจริงธมกรยังคงกังวลว่านภสรจะรู้หรือเปล่าว่าเรื่องนี้ที่นรมนทำ เขาเองก็เห็นด้วยแต่ว่าดูท่าแล้วนภสรน่าจะไม่รู้ นรมนรู้ว่าตอนนี้พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์จึงหันตัวกลับเดินออกไป เธอถูกนภสรย้อนหันกลับมากัดอีกครั้ง ความเกลียดในใจของเธอที่มีต่อนภสรจึงเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีก หลังจากที่นรมนเดินออกไปนภสรจึงปลอบธมกรอีกครู่หนึ่ง จึงเดินออกมา …… กลับมาถึงที่ห้องทำงานของตัวเอง เห็นว่าพิมลแขกำลังรอเธออยู่ พิมลแขรีบวิ่งมาดูหน้าด้านที่บวมแดงของนภสร รู้สึกปวดใจอย่างมาก “ยัยโสเภณีคนนี้ ทำไมถึงตีได้รุนแรงขนาดนี้” “คิดไม่ถึงว่าคำพูดของฉันจะใช้ได้ขนาดนี้ ดูสิทำให้นรมนโกรธจนตบหน้าฉันได้” นภสรพูดไปด้วย แล้วก็หยิบกระจกออกมาจากกระเป๋าด้วย หน้าของเธอที่ถูกตบมันบวมแดงมากจริงๆ ““แต่ก่อนเธอไม่ได้สังเกตล่ะสิ ตอนที่ยังเรียนหนังสืออยู่ ถ้านทจรยิ้มให้เธอเล็กน้อยสีหน้าของนรมนนั้น.....” มาตอนนี้พอพิมลแขนึกขึ้นได้ก็รู้สึกว่าหนาวยะเยือกขึ้นมา พิมลแขเป็นเพื่อนร่วมห้องกับนภสรแถมยังเป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้นจึงมีโอกาสเจอกับนรมนและนทจรด้วย นภสรชะงักไป ย้อนกลับไปคิดอย่างละเอียดแต่กลับพบว่าตัวเองนึกไม่ค่อยออกแล้ว “ตอนนี้นทจรเป็นคู่หมั้นของนรมน ทำไมนรมนถึงยังเกลียดเธอขนาดนี้ หรือว่ารังแกฉันจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว” ใบหน้านภสรคิดไม่ตก เธอไม่เข้าใจมาโดยตลอดว่านรมนคิดอะไรอยู่กันแน่ เธอไม่รู้จริงๆว่าตัวเองไปทำให้นรมนรู้สึกว่านภสรคุกคำเธอ จึงทำให้นรมนคิดเป็นศัตรูกับเธออยู่ตลอดเวลา “ถ้าเธออยากรู้ว่านรมนคิดอะไรอยู่ ก่อนอื่นเธอต้องกลายเป็นคนแบบนรมนก่อน” พิมลแขไม่ชอบนรมนมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่อยากรู้แล้วล่ะว่านรมนกำลังคิดอะไร เรื่องครั้งนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้มันจบและผ่านไปง่ายๆแบบนี้” เรื่องในตอนนั้น คิดซะว่าเธอยังเด็กยังมีความคาดหวังจากไชยกาลอยู่ ดังนั้นจึงปลูกฝังความร้ายกาจมาขนาดนี้ พิมลแขไม่รู้สึกว่าเรื่องครั้งนี้จะทำให้นรมนล้มลงไปได้ “พวกกรรมการเก่าแก่ต่างก็เอ็นดูนรมนกันมากไม่ใช่หรอ” “นักเรียนที่สอบได้คะแนนเต็มร้อยมาตลอด แล้วมาได้คะแนนเก้าสิบเก้าคะแนนแค่ครั้งเดียวคนก็เข้าใจว่าความสามารถเธอลดลง แต่คนที่ได้คะแนนห้าสิบเก้าคะแนนมาตลอดอยู่ก็ทำคะแนนได้หกสิบคะแนน ทุกคนต่างก็ชื่นชมเธอ นี่แหละมันคือจิตใจของคนทั่วไป” น้ำเสียงของนภสรดูฮึกเหิมเล็กน้อย “นภสร นิสัยไม่ดีเลยนะจ๊ะ” พิมลแขพูดเสียงเจื้อยแจ้ว นภสรไม่ตอบอะไร “……” …… เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ภายในบริษัทมีข่าวลือซุบซิบหลุดออกมา จะเป็นอะไรไปได้ถ้าไม่เป็นเพราะคุณหนูรองเซ็นสัญญากับบริษัทLKได้ คุณหนูใหญ่นรมนเกิดอิจฉาจึงตบเธอต่อหน้าคนอื่นอย่างคาดไม่ถึง แต่ก็มีคนพูดว่า คุณหนูใหญ่เป็นคนควบคุมอารมณ์ตัวเองได้จะตบคนต่อหน้าคนอื่นได้ยังไงกัน จะต้องเป็นเพราะคุณหนูรองทำเกินไปแน่ๆ ส่วนทั้งสองหัวข้อนั้นสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นชื่นชมนภสรที่เป็นคุณหนูรอง “เข้าใจว่าคุณหนูรองสวยแต่รูปจูบไม่หอม คิดไม่ถึงว่าจะมีความสามารถ” “คนแบบเธอนั้นจะมีความสามารถอะไร อาจจะอาศัยเอาตัว.....อย่างนั้นน่ะ” “ชู่ว์ เธอคิดว่าประธานบริษัทLKเป็นใครแค่หาคนหน้าตาสะสวยอย่างไรก็ได้แส่งไปนอนกับท่านแล้วท่านจะเซ็นสัญญากับเธอหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงท่านจะทำให้บริษัทLKยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้หรือไง” “ดูมีเหตุผล ถ้าว่าอย่างนั้นแล้วคุณหนูรองก็เป็นคนมีความสามารถจริงๆ” “ฉันกลับรู้สึกว่าหัวหน้านรมนเสแสร้งเก่ง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเธอก็ไม่ควรที่จะลงไม้ลงมือต่อหน้าผู้คน ตบหน้าคนอื่นนะ ยิ่งไปกว่านั้นคนนั้นยังเป็นลูกพี่ลูกน้องตัวเองแท้ๆ ไม่แน่นะท่าท่างสง่างามอ่อนโยนแต่ก่อนนั้นมันก็แค่เสแสร้งแกล้งทำทั้งหมด ” “……” ได้ยินเสียงที่อยู่ข้างนอกค่อยๆหายไป นภสรจึงเดินออกมาจากห้องที่กั้นไว้ตรงห้องน้ำ สิ่งที่เธอต้องการก็คือแบบนี้แหละ ทั้งดีและไม่ดีผสมกันไป อยู่ในระดับที่พอดี สถานการณ์ตอนนี้กำลังดี ทันใดนั้นพิมลแขได้เดินเข้ามาเห็นนภสรจึงพูดขึ้น “ฉันนึกว่าเธอตกห้องน้ำไปแล้ว เธอไม่อยากเลี้ยงข้าวฉันใช่ไหม” พิมลแขรอนภสรสรอยู่ข้างนอก รอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นนภสรเดินออกมา จึงเดินตรงเข้ามาหานภสรในห้องน้ำ นภสรเลิกคิ้วขึ้น “คนอย่างฉันดูแคร์เรื่องเงินแค่นั้นหรอ” ตอนนี้ในมือเธอมีหุ้นแล้ว และปลายปีก็จะมีการแบ่งผลกำไรของผู้ถือหุ้น พิมลแขปรายตามองค้อน “เงินแค่นั้นของเธอเทียบกับบอสปองพลแล้ว......” ประโยคสุดท้ายเธอไม่พูด ทำเสียงจิ๊จ๊ะสองครั้ง ก็ทำให้นภสรเข้าใจความหมาย ได้ยินพิมลแขพูดถึงปองพล นภสรจึงดูใจลอยขึ้นมา จะว่าไปแล้วเธอก็ควรจะขอบคุณปองพลในเรื่องนี้ แรกสุดเธอบอกว่าเธอหลอกใช้เขา ตอนนี้ทั้งสองคนต่างก็ใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน เพื่อเป้าหมายของตัวเองจึงต้องใช้ประโยชน์จากอีกฝ่ายสักนิด …… เช้าตรู่วันเสาร์นภสรรับสายจากธมกร “วันนี้ตอนเย็นมีงานเลี้ยงครอบครัวจัดอยู่ที่ club beautiful nightมาให้ตรงเวลาด้วย” ธมกรไม่เปิดโอกาสให้พูดแทรก เห็นชัดเจนว่านภสรจะต้องไปร่วม เธอนึกถึงครั้งที่แล้ว หลังจากที่เธอมาร่วมงานเลี้ยงครอบครัวแล้วเกิดเรื่องนั้นขึ้นทำให้เธอดูเคร่งเครียดขึ้นมา “เกรงว่าคุณผู้หญิงกับคุณอาสะใภ้คงไม่อยากเจอมั้งคะ เพื่อไม่ให้ทุกคนไม่สนุก หนูไม่ไปแล้วกันนะคะ เรื่องที่คุณปู่ใส่ใจหนู หนูขอเก็บมันไว้ในใจทั้งหมดค่ะ” น้ำเสียงของนภสรทั่งเบาทั้งอ่อนโยน ตั้งใจฟังดีๆถึงจะรู้ว่ามันแฝงด้วยความน่ากลัว คำพูดนิ่มหูพูดเอาใจธมกร ทำให้น้ำเสียงของธมกรอ่อนลงเล็กน้อย “ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น บอกให้มาก็มา อย่ามาทำให้คนอื่นเอาไปนินทาได้”
已经是最新一章了
加载中