ตอนที่ 67 ผมออกไปได้ แต่เขาอยากเข้าไป   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 67 ผมออกไปได้ แต่เขาอยากเข้าไป
ต๭นที่ 67 ผมออกไปได้ แต่เขาอยากเข้าไป สิ่งที่ตามมาต่อจากเสียงที่แหบแห้งพูดจบคือ เสียงเสื้อผ้าของนภสรที่ถูกฉีก เสียงดัง “แคว๊ก” ชุดกระโปรงสีแดงที่เธอรักกลายเป็นเศษผ้าอยู่ในมือ คำพูดและการกระทำของปองพลแสดงชัดเจนว่าถ้าไม่ได้ทำตามที่เขาต้องการเขาจะไม่มีทางหยุดง่ายๆ แต่ว่า นภสรก็ไม่ใช่คนที่จะควบคุมจัดวางง่ายๆ ปองพลเอาเศษผ้าในมือทิ้งไปสายตาเกิดประกายมือดำน่ากลัว ตอนที่เห็นเธอยืนอยู่หน้าประตู club beautiful nightเขาอยากจะทำแบบนี้มาก ตอนที่เธอใส่กระโปรงสีแดงเธอเหมือนภูติที่ลงมาจากเขาทั้งบริสุทธิ์ทั้งมีเสน่ห์ เขาอยากจะฉีกชุดของเธอหลังจากนั้นก็อยากจะลงมือแรงๆ ดังนั้น เดิมที่แค่อยากจะขับรถไปที่บ้านของเธอทำอาหารง่ายๆกินแล้วค่อยกลับ จึงเปลี่ยนแผนกะทันหันพาเธอตรงมาที่คอนโดของเขา ยังไงไม่ช้าก็เร็วเธอต้องกลายมาเป็นคุณผู้หญิงของที่นี่ ริมฝีปากของปองพลเลื่อนออกมาจากข้างหูมาที่ริมฝีปากชุ่มชื้นของนภสร จูบของเขาดูกระหายไม่มีความอ่อนโยนสักนิด เหมือนกับหมาป่าที่หิวโหนมาเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ได้เจออาหารที่ถูกปาก ค่อยๆกินช้าๆไม่ไหว อยากจะรีบกลืนลงไปในท้องก่อนค่อยว่ากัน นภสรถูกจูบจนหายใจแทบไม่ทันมือสองข้างทุบไปที่หลังของปองพลแต่ปองพลกลับไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย เธออยากจะใช้ขาทั้งสองข้างของเธอจึงพบว่าขาของเธอทั้งสองข้างไม่รู้ว่าถูกแยกออกจากกันตั้งแต่ตอนไหน ตัวของปองนั้นอยู่อยู่ตรงกลางระหว่างขาเธอมือข้างหนึ่งจับที่หลังและอีกข้างประคองที่หัวของเธอ ตอนนี้เธอขยับตัวไม่ได้เลย จนกระทั่งเธอรู้สึกว่าริมฝีปากของเธอแสบร้อน เขาจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้น เขาเอื้อมมือไปลูบๆที่ริมฝีปากบวมแดงของนภสรอย่างทะนุถนอมพูดครางต่ำ “ร้องเรียกว่าท่านประธานปองพลดูอีกสิ” เสียงของปองพลแหบแห้งประหลาด น้ำเสียงทุ่มต่ำมาก เหมือนเสียงของนกนางแอ่นที่มอมเมาให้ลุ่มหลง นภสรฟังแล้วใจรู้สึกไขว้เขวกัดริมฝีปากหันไปอีกดานไม่มองเขา ท่าทางดื้อรั้นแบบนั้นทำให้เขาอยากจะกินเธอแล้วกลืนลงไป “ทำไมไม่เรียกแล้วล่ะ” ปองพลพูดอยู่แล้วขยับเข้าไปใกล้ๆหูของเธอแล้วกัดที่หูของเธอ รู้สึกได้ว่าเขาทำให้นภสรตัวสั่นเล็กน้อย ปองพลจึงยิ้มเบาๆ เป็นเพราะปองพลทำให้ร่างกายของนภสรไร้เรี่ยวแรงไปทั้งตัว เขาเหมือนกับภูเขาที่ทับเธอไว้ให้ขยับไปไหนไม่ได้ เวลานี้ยังได้ยินเขาหัวเราะเธอทั้งโกรธทั้งอายจึงกัดเข้าที่คอของเขา ผู้ชายที่อยู่ด้านบนตัวเธอแข็งค้างฉับพลัน มือที่จับแขนเธอไว้ยิ่งจับแน่นขึ้นเรื่อยๆ รอจนเธอเลิกกัด เขาจึงประคองเธอให้ลุกขึ้นแล้วกัดที่หน้าอกของเธอ “เจ็บ....” หลังจากที่นภสรตะโกนว่าเจ็บ เขาจึงเลิกกัดแล้วจูบเบาๆจูบแล้วจูบอีก ยังเงยหน้าไปจับที่ริมฝีปากของเธออีกด้วย มือข้างนึงของเขาลูบไล้ลงไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะเคยมีอะไรกันแค่ครั้งเดียวแต่ร่างกายทั้งสองคนยังจำรสสัมผัสของกันและกันได้ ปองพลถอดปราการชิ้นสุดท้ายออกปากที่จูบนภสรจึงหยุดลง “เรียกว่าที่รัก” นภสรกัดฟันแล้วพูดออกมา “ออกไปให้พ้น” สีหน้าปองพลตกใจไม่กี่วินาที หลังจากนั้นจึงขยับเข้าไปใกล้อย่างจงใจ “ผมไปให้ได้นะ แต่เขาอยากจะเข้าไปข้างใน” นภสรยังไม่ได้พูดอะไร ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาขัดจังหวะการกระทำของปองพล สัญญาณดังขึ้นถี่ๆไม่มีท่าทีจะหยุด นภสรฉวยโอกาสตอนที่ปองพลใจลอยผลักเขาออกแรงๆแล้วพลิกตัวไปอีกด้านเอาผ้าห่มมาห่อตัวอย่างมิดชิด ที่ปองพลใจลอยไปชั่วครู่เพราะเสียงโทรศัพท์ดังมาจากเครื่องส่วนตัว แสดงว่าเรื่องนี้ถ้าไม่เร่งด่วนจริงพงศกรกับโยธินคงไม่โทรมาหาเขา นภสรจ้องมองปองพลอย่างระแวดระวัง ตอนที่เห็นเขายืนขึ้นควานหาโทรศัพท์ใจของเธอดูร่วงหล่นไปไม่รู้ว่าเป็นเพราะผิดหวังหรือสบายใจ ปองพลหยิบโทรศัพท์จากเสื้อผ้าที่กองอยู่พื้นขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ นภสรเห็นประตูห้องน้ำปิดลง ใบหน้าดูงงงันวาบขึ้น แล้วจึงยิ้มเย็นชา ก่อนหน้านี้เธอเกือบจะเชื่อว่าคำพูดเหล่านั้นของเขามันมาจากใจ วินาทีก่อนยังนัวเนียกับเธออยู่บนเตียง ผู้ชายที่รีบจะรีบร้อนฉวยโอกาสทำ เวลานี้กลับนิ่งสงบไปรับสายโทรศัพท์ในห้องอาบน้ำ ใบหน้าของนภสรเย็นช้าพลิกตัวลงจากเตียง เสื้อผ้าของตัวเองใส่ไม่ได้ เธอจึงไปหาเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวของผองพลข้างในเต็มไปด้วยพวกประเภทเสื้อสูท แต่โชคดีที่ยังมีชุดกีฬา เธอเอาเสื้อเชิ้ตมาสวมแล้วดึงเอากางเกงวอร์มของเขามาสวมอย่างรีบร้อน เธอค่อยๆย่องออกมาจากห้องแต่งตัวเห็นไฟในห้องน้ำยังเปิดอยู่ จึงเดินออกไปอย่างระมัดระวัง พอมาถึงใต้ตึกเธอหยิบกระเป๋าของเธอเดินไปทางประตูจำได้ว่ากุญแจรถของปองพลวางไว้ที่ริมประตู เธอควานหาไปทั่วแล้วก็เจออย่างรวดเร็ว ลานบ้านไม่ได้เปิดไฟตอนที่เธอออกมาแม้กระทั่งรองเท้าก็ไม่ได้ใส่ ออกมาถึงหน้าประตูอย่างลำบากแล้วขับรถของปองพลออกไป …… ตอนที่ปองพลออกจากห้องอาบน้ำมาก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถดังมาจากใต้ตึก หันหัวไปทางหัวเตียงก็ไม่เห็นแม้แต่เงานภสร เห็นแค่ชุดที่ถูกเขาฉีกกับรองเท้าส้นสูง ปองพลเคร่งขรึมขึ้นชั่วครู่แล้วถึงโทรศัพท์ไปหาพงศกร “ขับรถเข้ามา” พูดบอกกระชับใจความ แล้วหันตัวเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว ห้องแต่งตัวที่แต่ไหนแต่ไรมาเรียบร้อยเป็นระเบียบตอนนี้เหมือนกับถูกปล้น เสื้อผ้ากางเกงถูกทิ้งระเกะระกะ เขานึกภาพออกเลยว่านภสรคงวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาอยากจะหาเสื้อผ้าที่สามารถใส่ได้สักตัว รอยยิ้มค้างไว้ที่ริมฝีปาก เขารีบหาชุดเสื้อผ้าใส่แล้วเดินลงมา …… นภสรขับรถมาเร็วตลอดทางกลับมาถึงคอนโดของตัวเอง ค่อยยังชั่วที่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนไร้ผู้คน ไม่มีใครเห็นสภาพทุลักทุเลของเธอ เธอเดินเข้าไปในลิฟต์ แล้วก็มีคนเดินตามหลังเข้ามา พอหันหน้าไปมองเห็นว่าเป็นเพื่อนบ้านผู้หญิงที่อยู่ตรงข้ามห้องเธอ นภสรไม่รู้ว่าเธอคนนั้นชื่ออะไรทั้งสองคนไม่ได้มีความสนิทสนมกันก็เลยไม่สนใจเธอ แต่ว่าเรื่องที่นภสรไม่สนใจนาลีนั้นมันจะทำให้นาลีไม่มาหาเรื่องเธอ ในมือของนาลีถืออาหารที่สั่งมาจากข้างนอก เธอมองขึ้นลงพิจารณานภสร “โอ๊ะ ดึกดื่นค่อนคืนแอบไปหาชู้ที่ไหนมา ฉันก็ว่าอยู่ว่ายังไม่เข้าลิฟต์ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยมา” นภสรพูดตอบกลับเย็นชา “ไม่เน่าเท่าปากคุณหรอก” “ชิ” นาลีชำเลืองมองนภสร แล้วพิงไปที่พนังลิฟต์อย่างเกียจคร้าน “ก็พึ่งจะรู้สภาพสังคม ผู้ชายดีก็ถูกทำลายไปหมด” นภสรคิดไปถึงครั้งที่แล้วตอนที่ปองพลมาที่บ้านเธอนาลีเคยเจอเขา เธอมองไปที่นาลีแสร้งเป็นยิ้มแล้วพูด “ผู้ชายดีๆยอมถูกทำลายยังไม่ชอบตัวเอง จะมาโทษฉันหรอ” “เธอ” นาลียกมือเอาอาหารที่อยู่ในมือโยนใส่นภสร “เธอลองโยนเข้ามาสิ” นภสรกอดอด มองเย็นชา เสื้อผ้าผู้ชายตัวใหญ่หลวมโพรก เห็นชัดว่าไม่เข้ากันแต่ไม่ได้ทำให้พลังของเธอลดต่ำลง นาลีถลึงตาจ้องใส่นภสรอย่างดุดัน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่กล้าโยนอาหารที่อยู่ในมือออกไป
已经是最新一章了
加载中