ตอนที่ 71 เอาไซส์ใหญ่มาละกัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 71 เอาไซส์ใหญ่มาละกัน
ต๭นที่ 71 เอาไซส์ใหญ่มาละกัน นภสรรีบร้อนเอาน้ำแข็งไปวางไว้บนหัวของเขาแล้วดึงมือกลับกำลังจะออกไปโทรศัพท์ แต่มือกลับถูกปองพลจับไว้ น้ำเสียงของเขาแหบแห้งไร้เรี่ยวแรง “ไม่อนุญาตให้ส่งผมไปโรงพยาบาลนะ มิฉะนั้นผมจะยกเลิกสัญญากับไชยกาล” เมื่อนภสรได้ยินจึงถลึงตาใส่ปองพล “ดื้อจริงๆเลย” ถ้าไม่ใช่เพราะเขามาป่วยอยู่ที่บ้านเธอพอดี เธอไม่อยากจะสนใจเขาด้วยซ้ำ นี่ยังมาข่มขู่เธอไม่ให้ส่งไปโรงพยาบาลอีก “ผมพูดจริงทำจริง...” ดวงตาเขาปรือน้อยๆ น้ำเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ป่วยอย่างนี้ยังจะมาข่มขู่เธอ เพราะปองพลข่มขู่เธอไว้ เธอจึงวิ่งออกไปข้างนอกเพื่อโทรศัพท์หาพงศกร “คุณมารับท่านประธานของคุณกลับไปได้ไหม” “ขออภัยด้วยครับคุณนภสร ตอนนี้ผมทิ้งน้องสาวไปไม่ได้” น้ำเสียงของพงศกรดูลำบากใจแฝงด้วยความรู้สึกผิด ถ้าเทียบท่านประธานกับน้องสาวแล้ว แน่นอนว่าน้องสาวต้องสำคัญกว่า นภสรจึงพูดอะไรได้ “ขอให้น้องสาวของคุณหายเร็วๆนะคะ” นภสรพูดเสร็จจึงวางสายไป พงศกรที่อยู่ปลายสายยกมือพนมขึ้นไว้ตรงหน้าอก ถ้าจะโทษก็ต้องโทษท่านประธาน เมื่อวานนี้ท่านกำชับเขาไว้ว่าสองสามวันนี้ถ้าได้รับสายจากนภสรไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ไม่ต้องสนใจ …… นภสรวางสายแล้วเดินกลับมายืนที่ข้างเตียงมองปองพล เธอตบๆหน้าของเขาเบาๆ “คุณปองพล” ปองพลจับมือของเธอไว้ “อืม” “คุณอยู่ที่บ้านไหวไหม ฉันโทรเรียกหมอมาแล้วค่อยเปลี่ยนชุดใหม่ให้คุณ” นภสรมองดูร่างไม่มีเรี่ยวแรงของปองพลแล้วคิ้วจึงขมวดขึ้นเล็กน้อย ปกติทั่วไปดูเป็นผู้ชายแข็งแรง จู่ๆก็ล้มป่วยจึงทำให้รู้สึกเป็นห่วง เธอไม่รู้ว่าปองพลได้ยินสิ่งที่เธอพูดชัดเจนไหม เพียงแค่ตอบรับ “อืม” เบาๆ นภสรยังไม่ไว้วางใจจึงใช้มืออังที่หน้าผากเขาอีกครั้ง คงเพราะว่าถุงน้ำแข็งที่เอามาวางที่หน้าผากไว้ จึงทำให้ตอนจับที่หน้าผากไม่รู้สึกตัวร้อนมากแล้ว แต่เธอยังคิดว่าน่าจะควรเรียกหมอมาอยู่ดี เธอเหน็บขอบผ้าห่มให้ปองพลแล้วหันตัวจะเดินออกไป จึงได้ยินเสียงเบาหวิวของปองพลพูด “อย่าลืมว่าต้องซื้ออันที่ใส่ข้างในด้วยนะ” “……”นภสรหยุดเดิน หันกลับมาหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไป ได้ยินเสียงปิดประตู ปองพลที่นอนอยู่บนเตียงจึงค่อยๆลืมตาขึ้น เวียนหัวเป็นอย่างมาก แต่ว่าหลายปีมานี้ที่เข้าต่อสู้ฝ่าฟันทำธุรกิจจนมาถึงตอนนี้ ไม่ว่าเขาจะป่วยตัวร้อนไม่สบายยังไงก็ต้องประคองให้ตัวเองมีสติอยู่เสมอ เห็นแน่ชัดแล้วว่านภสรออกไปข้างนอกแล้วเขาจึงลุกขึ้นลงจากเตียงเดินเกาะผนังเข้าไปห้องน้ำ ปวดร้าวไปทั้งตัวแต่เขาต้องการจะอาบน้ำ …… เพราะว่านภสรเป็นห่วงปองพลที่อยู่ที่บ้าน เธอจึงทำธุระต่างๆด้วยความรวดเร็ว เดินตรงเข้าไปในห้างสรรพสินค้าไปซื้อชุดนอนสองชุดและชุดลำลองอีกสองชุด ตอนที่เดินหิ้วถุงจะออกมาจึงนึกขึ้นได้ถึงคำพูดของปองที่พูดก่อนเธอจะออกมา ทำใจสู้หน้าด้านเดินกลับเข้าไปอีก “คุณผู้หญิง คุณมีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ” “ใน....ใน....กางเกงใน” สีหน้านภสรดูอึดอัด พูดติดๆขัดๆ โชคดีที่คนขายเชี่ยวชาญจึงยิ้มแล้วพูด “ซื้อให้สามีใช่ไหมคะ เขาใส่ขนาดเท่าไหร่” ขนาดเท่าไหร่หรอ ปองพลใส่ขนาดเท่าไหร่กันนะ นภสรหน้าแดงไปทั้งหน้า เธอจะรู้ได้ยังไงว่าปองพลใส่ขนาดเท่าไหร่ คนขายเห็นท่าทางของนภสรแล้วจึงเผลอยิ้มออกมา “สูงประมาณเท่าไหร่ รอบเอวของกางเกงที่ใส่ทั่วไป” “น่าจะประมาณ190เซนติเมตร” เธอเองก็ไม่ค่อยมั่นใจ แต่ทุกครั้งเมื่อเธอยืนต่อหน้าเขาเธอรู้สึกว่าตัวเองเตี้ยมาก คิดๆแล้วจึงพูดดูฝืนๆ “เอาไซส์ที่ใหญ่ที่สุดแล้วกันค่ะ” เมื่อคนขายได้ยินดังนั้นจึงเลือกกางเกงในผู้ชายไซส์ที่ใหญ่ที่สุดให้นภสรสองตัว นภสรจ่ายเงินท่าทางลับๆล่อแล้วรีบหนีออกจากห้าง กลับมาถึงรถเธอจึงเคาะหน้าผากตัวเองต่อหน้าพวงมาลัยรถแรงๆสองครั้ง เธอไม่เคยทำเรื่องหน้าอายขนาดนี้มาก่อน เป็นเพราะตาบ้าปองพลแท้เลยๆ แต่ตาบ้านคนนั้นตอนนี้ยังคงนอนอยู่ที่บ้านของเธอ เธอไปเชิญคุณหมอที่คลินิกให้ไปตรวจอาการปองพลอยู่ที่บ้าน …… ตอนที่เธอกับคุณหมอมาถึงที่บ้าน นภสรนึกได้ว่าปองพลไม่ได้สวมเสื้อผ้าจึงให้คุณหมอนั่งรอที่ข้างนอกห้องนอนก่อน เธอจึงหิ้วถุงเสื้อผ้าเดินเข้าไปในห้องนอน ปองพลยังนอนอยู่บนเตียงเหมือนกับตอนที่เธอออกไปข้างนอก เธอผลักๆปองพล เปลือกตาของเขาจึงค่อยๆเผยขึ้น นภสรโยนเสื้อให้เขา “ใส่เข้าไป คุณหมอมาแล้ว” “อืม”ปองพลตอบรับ แต่กลับไม่ขยับ นภสรมองเขาแวบหนึ่ง ทันใดนั้นเธอจึงเห็นว่าผมของเขาเปียก คิ้วจึงขมวดขึ้นแล้วถาม “คุณอาบน้ำหรอ” ปองพลไม่ตอบอะไร แสดงว่ายอมรับ “ยังป่วยไม่พอใช่ไหม” เธอออกไปเชิญหมอมาแต่เขาทำไรตัวร้อนยังไปอาบน้ำอีก เพราะว่าป่วย ดวงตาสีนิลจึงดูชื้นๆแปลกประหลาด ดูแล้วรู้สึกถึงความโอนโยน “ผมไม่เป็นอะไร” นภสรตวาดใส่ปองพล “หุบปาก” เมือปองพลได้ยินนึกไม่ถึงว่าเขาจะหุบปากอย่างว่าง่าย ท่าทีของนภสรดูกระแทกกระทั้นช่วยปองพลเปลี่ยนชุด แล้วโยนกางเกงให้เขา “จะไม่ใส่ก็ตามใจ” หลังจากนั้นจึงออกจากห้องไปแล้วให้คุณหมอเข้ามา คุณหมอใส่น้ำเกลือให้เขา เอายาให้ แล้วกำชับเรื่องอาหารการกินที่คนป่วยกินได้และไม่ได้ ที่จริงถึงคุณหมอไม่บอกเธอก็รู้ เพราะว่าตอนเธอใช้ชีวิตคนเดียวอยู่ต่างประเทศ เรื่องเป็นหวัดไม่สามารถห้ามได้ เธอโทรศัพท์ไปลางาน แล้วอยู่บ้านเฝ้าไข้ปองพล ผ่านไปสองชั่วโมงจึงวัดไข้ปองพล อาหารกลางวันเธอสั่งมาจากข้างนอก พอกินเสร็จจึงวัดไข้ของปองพลอีก อุณหภูมิของปองพลใกล้จะเข้าสู่ภาวะปกติแล้วเธอจึงสบายใจขึ้นเล็กน้อย จึงฟุบลงที่ข้างเตียง …… ตื่นขึ้นมาอีกที เธอได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำพูดอยู่ในห้อง เธอจึงพลิกตัว ..... เดี๋ยวก่อน พลิกตัวหรอ นภสรเด้งตัวลุกขึ้นมาทันทีเห็นว่าตัวเองอยู่บนเตียงที่ด้านข้างไม่มีคนอยู่ ปองพลที่คุยโทรศัพท์อยู่ตรงด้านหน้าของหน้าต่างได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านหลัง จึงพูดกำชับคนในปลายสายสักครู่จึงหันตัวเดินเข้ามาหาเธอ ส่วนภสรนั้นกลับสังเกตน้ำเสียงของปองพลที่คุยโทรศัพท์เมื่อกี้นั้นดูอ่อนโยนมาก ก่อนหน้านี้เธอเคยเห็นปองพลรับสายโยธินน้ำเสียงดูเรียบๆเย็นชาไม่มีความรู้สึก คนแบบไหนกันถึงทำให้ปองพลต้องคุยด้วยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างเป็นธรรมชาติ หัวใจของนภสรเต้นกระหน่ำ ตื่นแล้วหรอ หิวหรือยัง ปองพลสวมชุดนอนลายตารางที่เธอซื้อมาให้ ผมสีดำ ใบหน้าซีดเซียว ราวกับผู้ชายที่ออกมาจากภาพวาด เขาเอื้อมมือมาจัดผมที่ยุ่งเหยิงตรงบริเวณหน้าผากของเธอ “อยากกินอะไรเดี๋ยวผมจะไปทำให้” นภสรได้ยินน้ำเสียงของเขาแล้วชะงักชั่วครู่ถึงพูด “คุณยังป่วยอยู่” “ไม่เป็นไร ดีขึ้นแล้ว” ปองพลยิ้มๆตาสบตานภสร นภสรนึกถึงเมื่อสักครู่ที่เขารับสายโทรศัพท์ สายตาไร้ความรู้สึก พลิกตัวแล้วลงจากเตียงไม่มองปองพลอีก อาการดีขึ้นแล้วก็กลับไปได้แล้ว นภสรพูดไปด้วยแล้วเดินไปห้องน้ำ รอจนนภสรล้างหน้าล้างตาเสร็จจึงเปิดประตูออกมา เธอเห็นห้องโล่งๆไม่มีคนอยู่จึงรู้สึกใจหายขึ้นมาทันที จึงเดินไปข้างหน้าสองก้าวได้ยินเสียง “เคล้งคล้าง”ดังออกมาจากห้องครัวดังออกมา 
已经是最新一章了
加载中