ตอนที่ 81 ไม่หลับไม่นอน มาทำอะไรตรงนี้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 81 ไม่หลับไม่นอน มาทำอะไรตรงนี้
ต๭นที่ 81 ไม่หลับไม่นอน มาทำอะไรตรงนี้ “ไม่ต้องหรอก ฉันสวมมันมาตั้งหลายปี อีกอย่างมันก็ยังไม่เสีย ฉันคุ้นเคยมันแล้วล่ะ” นภสรมองไปยังนาฬิกาที่เธอสวมอยู่และเผยใบหน้ายิ้มอย่างสดใส จริมที่กำลังหัวเราะเอื้อมมือไปลูบหัวเธอ ปองพลผู้ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆกำลังมองดูความเคลื่อนไหวของคนทั้งสองที่ดูเหมือนจะสนิทกันมากด้วยความแคลงใจ เขาเดินเข้ามาและเอื้อมมือมาแตะที่หัวไหล่ของนภสรและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่คิดว่าคุณจริมกับภรรยาของผมรู้จักกันมาก่อน” เมื่อได้ยินคำว่า “ภรรยา” ใบหน้าของจริมก็ดูเหมือนความตกใจและหันหน้าไปหานภสรเพื่อเป็นการยืนยัน นภสรไม่คิดว่าปองพลจะกล้าพูดแบบนี้ เธอไม่รู้จะตอบเขาอย่างไรจึงได้แต่ก้มหน้าโดยมีจริมที่กำลังจ้องมองเธออยู่ จริมรู้แค่ว่าเธอยอมรับแล้ว แม้ว่าเขาจะตกใจ แต่นี่ไม่ใช่เวลามาพูดถึงเรื่องนี้ เขาก้มลงเพื่อเก็บของ แล้วพูดออกมาเพียงสองประโยคหลังจากนั้นก็จากไป นภสรเดินมาส่งเขาที่หน้าประตูและมองเขาเดินจากไปไกล เธอเตรียมจะหันหลังกลับแต่ก็ได้ยินเสียงพูดของปองพล “จะไม่ได้เจอกันแล้ว คงไม่อยากจากกันล่ะสิ?” นภสรรู้สึกว่าน้ำเสียงที่ได้ยินนั้นผิดปกติ แต่ปองพลก็พูดถูกแล้ว ในมุมของเธอก็ไม่อยากจะจากลา “นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เจอพี่จริมมันก็อดไม่ได้จริงๆ” เธอถอนหายใจ พี่จริมเรียกได้ว่าเป็นพี่ชายคนสนิท ยังไม่อยากลาจากกันเลย ปองพลสูดหายใจลึกเพื่อระงับไฟที่สุมภายในใจของเขา เขามองไปที่นภสรเพียงครู่ ก็เดินขึ้นไป “คุณ...” นภสรกำลังจะหันไปเรียกเขา แต่มองเห็นแค่แผ่นหลังอันแสนเย็นชาของเขาจึงเงียบเสียงไป เธอหันไปมองเนื้อที่อยู่ในกรง “พ่อของแกทำไมถึงเจ้าอารมณ์อย่างนี้นะ” เนื้อชำเลืองตามองเธอแล้วหลับต่อ นภสรกระซิบต่ออย่างช่วยไม่ได้ “แกก็ด้วยชอบใช้อารมณ์เป็นใหญ่เหมือนกัน...” …… มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในเย็นวันนี้ นภสรง่วงมาตั้งนานแล้ว ปองพลก็ขึ้นไปข้างบนแล้วเขาน่าจะนอนหลับแล้วล่ะ เย็นนี้เธอจะค้างที่นี่หรอ? พอเธอจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธอมาพักที่นี่ครั้งก่อน หน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เมื่อคิดว่าเธอกับปองพลคุยกันชัดเจนแล้ว เขาก็ไม่ควรทำแบบนั้นกับเธอ พอคิดได้แบบนี้ เธอจึงเดินขึ้นไปชั้นบน ทันทีที่ขึ้นไปถึงชั้นบนก็เห็นปองพลกำลังสวมชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมาจากห้องนอน “คุณยังไม่นอนหรอ?” เห็นปองพลยืนอยู่ตรงหน้าเธอก็ทำตัวไม่ถูก เธอมักจะรู้สึกแปลกๆและภายในใจยังทิ้งร่องรอยของความอาย ทันทีที่น้ำเสียงของเธอเบาลง ปองพลจึงหันไปปิดประตู “……” ทำไมเขาถึงเป็นคนขี้โมโหอย่างนี้นะ? ไม่รู้ว่าปองพลกำลังโมโหเรื่องอะไร นภสรทำได้เพียงแต่หาที่นอนห้องข้างๆห้องนอนใหญ่ เมื่อเปิดดูตู้เสื้อผ้ากลับพบว่าไม่มีเสื้อผ้าอะไรอยู่ในนั้นเธอก็ไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน ทำยังไงดีล่ะ? หรือต้องไปเคาะห้องของปองพล ก็คงต้องเป็นแบบนั้น เธอเดินไปหน้าประตูห้องของปองพลแล้วเคาะ นี่เขาโกรธเธอถึงขั้นไม่เปิดประตูให้เธอเลยหรอ พอผ่านไปสามสิบวิ ปองพลจึงยอมเดินมาเปิดประตู เมื่อเห็นนภสรยืนอยู่ประตู ภายใต้ดวงตาเป็นประกายมืดของเขา น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความคาดหวังเล็กน้อย “ทำอะไรน่ะ?” ดวงตาที่สามารถแผดเผาคนได้มองมาที่นภสร นภสรก้มหัวแล้วพูดว่า”ฉันขอยืมเสื้อผ้าคุณได้ไหม ฉันไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน...” “ปัง” ปองพลปิดประตูอย่างเย็นชา หลังจากนั้นผ่านไปไม่กี่วิ ประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง แต่นภสรก็ไม่เห็นร่างของเขา มีเพียงแต่เสื้อเชิ้ตที่ลอยออกมาตกบนหัวของเธอ หลังจากนภสรถือเสื้อเชิ้ตออกไป ประตูก็ถูกปิดอีกครั้ง นภสรขมวดคิ้วเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่ใช่เพราะเขานึกได้ว่าครั้งที่แล้วเธอพูดไม่ดีกับเขา แล้วกลับต้องมานั่งเสียใจที่ช่วยเธองั้นหรอ? นภสรยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกถึงความเป็นไปได้ เธอหอบเอาเสื้อเชิ้ตกลับมาที่ห้อง หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอจึงเปลี่ยนเป็นใส่เสื้อเชิ้ตตัวนั้น แล้วนำเสื้อผ้าและชุดชั้นในออกมาซักเพื่อจะใส่พรุ่งนี้ แต่ทว่าสภาพอากาศแบบนี้ ผึ่งยังไงก็คงแห้งไม่ทันพรุ่งนี้ แต่ก็ไม่กล้าไปเคาะประตูห้องปองพลอีกครั้ง เธอจึงค่อยๆมองไปรอบๆและย่องออกไปข้างนอก เธอหาเครื่องอบแห้งที่บริเวณชั้นหนึ่ง หลังจากรอเสื้อผ้าและชุดชั้นในแห้งเสร็จกำลังจะเตรียมตัวขึ้นไปข้างบน ก็พบปองพลที่กำลังลงมาชั้นล่าง นภสรพยายามซ่อนพวกมันไว้ในมือแล้วเอ่ยเรียก “คุณปองพล” ใบหน้าเขาดูไม่มีอาการง่วงนอน เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะนอนไม่หลับแล้วลงมาหาอะไรดื่ม ปองพลไม่คิดว่าจะเจอเธอข้างล่างตอนดึกขนาดนี้ ตาของเขาจ้องไปที่ขาเรียวเนียน เสื้อเชิ้ตสีดำที่เขาให้เธอ ยิ่งทำให้ผิวของเธอดูขาว อีกทั้งเสื้อเชิ้ตสีดำที่เธอสวมทั้งใหญ่และกว้างเผยให้เห็นไหล่เปลือยที่ห่างออกไปเพียงเล็กน้อย ทำให้ร่างบางของเธอดูน่าทะนุถนอม เสื้อเชิ้ตสีดำ ผิวขาวราวกับหิมะ ทำให้แทบละสายตาไปไหนไม่ได้ เขาหันหน้าหนีและรู้สึกแน่นลำคอ จึงยื่นมือมาบนคอก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้สวมเน็กไทด์ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำแล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “ไม่หลับไม่นอนมาวิ่งทำอะไรตรงนี้!” “ไม่มีอะไร” นภสรก้มหัวลงเล็กน้อยแล้วกอดเสื้อผ้าแน่น ปองพลเห็นว่าในมือเธอกำลังถือของบางอย่างอยู่ จึงไม่ถามอะไรมาก จึงยกเท้าเดินลงมา นภสรไม่มองเขาและรีบเดินหนีขึ้นไป ให้เขาเปิดทางให้และพยายามอยู่ห่างจากเขา แต่ทว่าเธอสวมรองเท้าแตะใหญ่เกินไป เมื่อเหยียบไปที่ขอบบันไดเท้าของเธอไม่ได้เหยียบไปด้วย เมื่อเท้าข้างหนึ่งลื่นทำให้เจ้าของร่างก็ถอยหลังเหมือนจะล้ม “ว้าย...” นภสรตกใจ มือทั้งสองของเธอคลายออกเพื่อคว้าอะไรบางอย่างไว้ ของในมือก็หล่นลงพื้น มือและดวงตาปองพลรู้สึกตัวอย่างว่องไว เขารีบจับมือเธอและใช้แรงเพียงเล็กน้อยดึงเข้าสู่อ้อมแขนของเขา ด้วยเหตุนี้ทำให้มือของนภสรกำลังวางอยู่บนเอวของเขา เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อรู้สึกตัวว่ามือของตัวเองวางอยู่บนเอวของปองพล เธอรู้สึกขายหน้ากับเหตุการณ์เมื่อกี้จึงรีบผลักมือออกมาราวกับถูกไฟช๊อต แต่ว่ามือของปองพลที่กำลังโอบเอวเธออยู่นั้นยิ่งผลักออกยิ่งกระชับแน่นขึ้น ทำให้เธอหลุดจากอ้อมกอดของเขาไม่สำเร็จ เธอผลักแล้วผลักอีก “คุณ...” เสียงอื้ออึงของเธอมีความสั่นไหวเล็กน้อย แต่กลับได้ยินเสียงปองพลหัวเราะในลำคออย่างดูผ่อนคลาย สายตาสองคู่ประสานกัน สายตาของนภสรคล้ายกับหวาดกลัวสายตาอันแสนเร่าร้อนของปองพลที่เหมือนกำลังแผดเผา มือใหญ่ที่วางอยู่บนเอวนั้นเริ่มร้อนขึ้นโดยผ่านเนื้อผ้าบางๆของเธอ ปองพลยังคงไม่พูดอะไร ริมฝีปากของนภสรสั่นระริก “คุณ...ปล่อยฉันได้แล้ว...ฮึกก” ไม่รอให้พูดจบ ริมฝีปากของเธอก็ถูกปิดด้วยจูบอันแสนลึกล้ำ มือของปองพลลูบผมหนาราวกับผ้าไหมที่กำลังปกคลุมบนแผ่นหลังของเธอ ริมฝีปากที่ร้อนระอุประทับบนริมฝีปากของเธอเหมือนกำลังเผาไหม้ มืออีกข้างของเขากำลังลูบไล้บนเอวของเธออย่างไม่หยุดพัก หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วิ มือที่กำลังโอบอยู่รอบเอวก็ลดลงมาโดยสัญชาตญาณ จูบของเขาทั้งลึกล้ำและหนักหน่วง จนแทบจะขาดใจ 
已经是最新一章了
加载中