บทที่92 ยัยตัวป่วนที่ปากไม่ตรงกับใจ   1/    
已经是第一章了
บทที่92 ยัยตัวป่วนที่ปากไม่ตรงกับใจ
บ๗ที่92 ยัยตัวป่วนที่ปากไม่ตรงกับใจ หลังจากนภสรได้ฟังคำพูดของเขาก็ค่อยๆผ่อนคลายลง เขาคิดว่ากางเกงที่เธอใส่อยู่นั้นไม่ค่อยสะดวกเลยยกสะโพกของเธอขึ้นแล้วถอดมันทิ้ง นภสรอุทานออกมา ใช้สองมือกอดตัวเองไว้ ความรู้สึกเปลือยเปล่าทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ พลิกตัวอยากจะมุดเข้าไปในผ้าห่ม ปองพลให้โอกาสเธอที่ไหน ฝ่ามือที่ร้อนแรงบีบข้อเท้าของเธอไว้ ราวกับความร้อนนั้นจะแผดเผาตัวเธอไปด้วย นภสรที่ถูกปองพลลากกลับมา เขาใช้เข่าข้างหนึ่งแยกขาทั้งคู่ของเธอออกส่วนขาอีกข้างของเขาก็ถูกเบียดเข้าไปแล้วเช่นกัน นภสรถูกบังคับให้แยกขาออกแล้วไขว้ไว้ที่รอบเอวของของเขา เธอไม่รู้ว่าเหตุการณ์ในคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยเจอมาก่อนเลยทำให้เธอรู้สึกทั้งกลัวและทั้งอาย ไม่มีอะไรปกปิดร่างกายของเธอเลย นภสรสัมผัสได้ถึงความร้อนและวัตถุแข็งๆผ่านเสื้อผ้าของเขาที่แนบกับตัวเธอโดยไม่มีแม้แต่ช่องว่าง เมื่อมองไปที่ชุดสูทที่กองอยู่บนพื้น ทำไมให้เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เลยค่อยๆถอยหลัง “เวลาแบบนี้ยังคิดจะหนีอีกหรอ?” ปองพลคิดว่าเธอจะหนีอีก น้ำเสียงของเขาสื่อถึงความโกรธและไม่อาจจะอดกลั้นต่อไปได้ มือข้างหนึ่งของเขาวางไว้ตรงหน้าอกของเธอ ส่วนอีกข้างก็เข้าไปจากด้านล่างด้วยความหยาบคาย เมื่อถูกรุกรานด้วยบางอย่างที่ไม่ได้เป็นของร่างกายตัวเอง ทำให้เธออึดอัดจนอุทานออกมา เธอเผลอปัดมือของปองพลอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่าเธอไม่สามารถทนต่อไปได้อีก ปองพลใช้มือข้างหนึ่งจับมือทั้งสองข้างของเธอแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะของเธอ ส่วนอีกข้างเอาออกมาจากร่างกายเธอพร้อมกับของเหลวร้อนชื้นบางอย่าง ปองพลบิดนิ้วของเขาไปมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆออกมาทีหนึ่ง นภสรไม่เห็นสีหน้าของเขาแต่ได้ยินเขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “เปียกแล้วนะ” นภสรอายมากเลยพยายามเอาหน้ามุดเข้าไปในผ้าห่ม ทั้งๆที่รู้สึกว่าไม่เหมาะสมและอยากจะต่อต้านเขา แต่เมื่อฟังอีกฝ่ายพูดแล้วกลับรู้สึกรอคอยมากกว่าเดิม เวลาต่อมา เธอได้ยินเสียง “พรึ่บ” สายตาของเธอก็ค่อยๆสว่างขึ้นมา ปองพลเปิดไฟหัวเตียงถึงแม้ว่าเธอจะมุดหน้าลงไปในผ้าห่มยังไงก็ปิดหูที่แดงด้วยความเขินอายและเส้นผมที่เปียกไปด้วยเหงื่อของเธอไม่มิด เขารู้สึกแน่นที่ลำคอเลยก้มลงไปจูบที่ข้างหูของเธอ “อายขนาดนั้นเลยหรอ?” “ปิด..ไฟ….” เธอไม่กล้าแม้แต่จะขยับแถมมือยังถูกเขาจับไว้อีก เสียงของเธอสั่น และทั้งตัวเธอปรากฏสีชมพูของเลือดที่สูบฉีดระเรื่อๆ ขาของนภสรยังพันอยู่รอบเอวของเขา บนเรือนร่างของเธอไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว ผิวขาวเนียนของเธอแดงระเรื่อ ผมสีดำของเธอกระจายไปตามหมอน ร่างกายของเธออ่อนช้อยราวกับดอกไม้ ทั้งตัวเธอถูกขังอยู่ในผ้าห่มสีเทาเข้มและดึงรั้งเขาเข้ามาทำกับเธอ เพราะความตื่นเต้นขาที่เกี่ยวรอบเอวของเขาแน่นเล็กน้อย เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะถอดกางเกงของตัวเองออกได้หมด นภสรรู้สึกได้ว่าปองพลไม่ได้ทำอะไรเลยค่อยๆหันหน้าออกมาแล้วอยากจะค่อยๆเอาขาออก แต่กลับคาดไม่ถึงว่าทันทีที่เธอหันกลับมาปองพลก็ใช้ร่างกายอันแข็งแรงของเขากดลงมาอีกครั้ง ริมฝีปากที่เร่าร้อน มือใหญ่ของเขาคลึงอยู่บนตัวเธอ บนเรือนร่างของทั้งคู่ไม่มีสิ่งขวางกั้นอีกต่อไป ทุกการสัมผัสบนร่างกายนำพาความรู้สึกประหลาดมาด้วย คล้ายกับมีกระแสไฟฟ้าไหลเข้าสู่ร่างกาย การกระทำของเขาไม่รุนแรงและหยาบคายเท่าตอนแรกแต่กลับค่อยๆอ่อนโยนขึ้นมา นภสรรู้สึกได้ถึงความรักร่างกายของเธอค่อยๆผ่อนคลายลง มือทั้งคู่ของเธอได้รับอิสระตอนไหนก็ไม่รู้แล้วคล้องไว้รอบคอของเขา รู้สึกได้ว่าแขนบางๆของเธอยกขึ้นมาการเคลื่อนไหวของเธอนั้นทำเอาใจของเขากระตุก จากที่อยากจะสงบสติตัวเองลงอีกหน่อยกลายเป็นว่าไม่อาจจะทนต่อไปได้อีก มือข้างหนึ่งยกสะโพกของเธอขึ้นมาแล้วดันเข้าไปในช่องอันคับแคบของเธอ ดันเข้าไปได้แค่ครึ่งเสียงของนภสรก็ดังขึ้นว่า “เจ็บ...” ปองพลที่เหงื่อท่วมตัวก็หยุดลงแล้วก้มลงมาจูบเธอ “ก็ชอบรังแกผม ไม่ใช่หรอ?” เขาไม่ได้ดันเข้าไปข้างในต่อแต่ก็บดคลึงอยู่แบบนั้น นภสรสั่นสะท้านไปทั้งตัวแล้วพูดว่า “อย่าทำแบบนี้...” “ได้ ไม่ทำแบบนี้” ปองพลพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดันเอวเข้าไปทีเดียวก็เข้าไปได้หมดทั้งลำ นภสรที่ถูกจู่โจมเข้ามาอย่างไม่ทันได้เตรียมตัวถึงกับร้องออกมาเสียงหลง คอขาวบางของเธอถูกยกขึ้น บนใบหน้าเล็กๆของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนา แขนของเธอจากที่คล้องอยู่บนคอก็เปลี่ยนมาจับที่ไหล่ของเขา “เจ็บ…” เธอรู้สึกทั้งปวดทั้งคัน ดวงตาของเธอรื้นไปด้วยน้ำตา ไหล่ของปองพลถูกเธอจิกจนเลือดไหล ความเจ็บปวดกลับยิ่งกระตุ้นประสาทสัมผัสของเขาแล้วช่วงล่างของเขายังถูกกอดแน่นไว้อีก ถ้าเขาสามารถทนต่อไปได้เขาก็ไม่ใช่ผู้ชายแล้ว “แค่เจ็บหรอ?” ปองพลซุกไซร้เข้าไปในซอกคอของเธอแล้วประทับรอยสีแดงไว้ แล้วเปลี่ยนไปไซร้ที่หูของเธอเขาใช้ปากสัมผัสที่ติ่งหูของเธอจะจูบก็ไม่จูบแต่แตะไว้แบบนั้นแล้วช่วงล่างก็ค่อยๆขยับ แล้วถามว่า “แล้วแบบนี้...ดีไหม?” หูเป็นส่วนที่รับความรู้สึกได้ไวมาก ถูกเขาพูดใส่ข้างหูขณะที่แตะหูเธออยู่แบบนี้ นภสรเสียงสั่นและครวญครางออกมา เธอทั้งอายทั้งโกรธจึงส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ดี ไม่ดี...” “เธอมันปากไม่ตรงกับใจจริงๆ” ปองพลขบที่หูเธอเบาๆด้วยความรำคาญเล็กน้อย พออกพอใจกับการที่เห็นเธอกระตุกและขดตัวไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ไม่ปิดกลั้นอะไรอีกต่อไปและเริ่มรุกเร้าใส่เธอชุดใหญ่ ริมฝีปากเร่าร้อนของเขาจูบไปที่ดวงตาของเธอแล้วค่อยๆไล้ต่ำลงมาวนเวียนอยู่แถวๆหน้าอกของเธอเขาจูบเธอนับครั้งไม่ถ้วนแล้วยังใช้มือคลึงเล่นอยู่แบบนั้น ผู้ชายมักจะมีความสามารถที่ผู้หญิงเราไม่อาจเทียบได้ ไม่นานนภสรก็พูดคำว่า “ไม่” ออกมาอีกครั้ง คล้ายกับว่าเธอเป็นเรือที่ลอยอยู่กลางมหาสมุทรแล้วถูกปองพลทำอะไรตามใจชอบได้ นภสรปิดตาทั้งคู่ของเธอเอาไว้ อาศัยเพียงแสงสลัวๆจากไฟหัวเตียงที่ทำให้เธอมองเห็นความน่าหลงใหลของชายที่อยู่บนตัวเธอ ………… ในตอนที่ทุกอย่างสงบลงก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว นภสรที่ขดอยู่ในผ้าห่มขนาดตายังไม่อยากจะลืมยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะเปิดปากพูดเลย แต่ว่า ปองพลยังอยู่ในร่างกายของเธอ ทำให้เธอจะไม่พูดก็ไม่ได้ “เอาออกไป” เธอดันร่างใหญ่ของเขาออกด้วยความหงุดหงิด เสียงนุ่มเหมือนน้ำของเธอเหมือนว่ากำลังออดอ้อนเขาอยู่ พอปองพลได้ยินแล้วก็อยากหยอกเย้าเธอและเธอก็ยิ่งมีปฏิกิริยาขึ้นมา เขาคว้าไปจับมือของเธอให้วางอยู่บนเอวของเขา มือข้างหนึ่งเหยียดไปที่หลังของเธอแล้ววางลงบนไหล่แล้วกดเข้าหาตัวเอง ร่างกายของทั้งคู่ก็ยังประสานกันอยู่แบบนั้น ท่าทางที่เขาทำก็เพียงเพื่อให้ตัวเองเข้าไปได้ลึกขึ้นเท่านั้นเอง นภสรที่พึ่งจะจัดการกับอารมณ์ปรารถนาเสร็จแต่ด้วยท่าทางแบบนี้ของเขาแล้วเสียงครวญครางนุ่มนวลก็ออกมาจากปากของหญิงสาวที่กำลังสั่นเทิ้มอยู่ ปองพลที่ตอนแรกกะจะปล่อยผ่านแล้วแต่พอเห็นเธอเป็นแบบนี้ ไฟปรารถนาในใจลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เขาก้มลงจูบเธออย่างดุเดือด ถามด้วยน้ำเสียงหนักทุ้มว่า “อยากจะทำไมันอีกรอบหรอ?” 
已经是最新一章了
加载中