บทที่ 99 กลัวว่าฉันจะตายไปพร้อมกับเธอ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 99 กลัวว่าฉันจะตายไปพร้อมกับเธอ
บ๗ที่ 99 กลัวว่าฉันจะตายไปพร้อมกับเธอ เธอรู้สึกว่าปองพลมีแต่เรื่องลึกลับเต็มไปหมด ถ้าเพียงให้นภสรไปคิดเธอคงไม่สามารถคิดออกแน่ เขารู้มาก่อนหน้านั้นแล้วและเคยบอกเธอไว้แล้วด้วย เพียงแค่ไม่สามารถบอกเป้าหมายของเขาออกมาได้ในตอนนี้ คิดถึงตรงนี้สีหน้าของนภสรก็ยิ่งแสดงอารมณ์อาการไม่เข้าใจเธอเดินกลับไปล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอีกรอบ และแต่งหน้าเพิ่มอีกนิดหน่อย แล้วถึงเดินเข้าไปในงานเลี้ยงอีกครั้ง แต่เมื่อกำลังจะเดินไปถึงก็ถูกมือใหญ่ๆมือหนึ่งที่อยู่ด้านข้างดึงเข้าไปในลิฟต์ได้อย่างปลอดภัย “ปั้ง” เสียงประตูลิฟต์ปิดลง นภสรยังไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็มีฝ่ามือหนึ่งข้างตบลงมายังหน้าของเธอเป็นการต้อนรับ ทันใดนั้นเธอรู้สึกเพียงแค่หน้าของตนเองร้อนผ่าวขึ้นและเจ็บแสบ “เพี้ยะ” เสียงใสๆดังขึ้น ในหูของเธอมีแต่เสียงอื้อ “นภสร เธอยังจะกล้าอ่อยจรอีกหรอ! เขาเป็นคู่หมั้นของฉัน ทำไมถึงหน้าไม่อายอย่างนี้!” น้ำเสียงร้ายกาจของนรมนวิ่งเข้ามาในหู นภสรที่จับหน้าด้วยความสงสัยคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงเพิ่งจะเข้าใจว่าสิ่งที่เธอกำลังจะพูดนั้นคืออะไร เรื่องเมื่อวันศุกร์เย็น เธอยังไม่ได้คิดบัญชีกับนรมนเลย นรมนก็มาสร้างเรื่องน่าปวดหัวให้เธออีกแล้ว นภสรมองหน้านรมนพรางยิ้มอย่างเยือกเย็น ฝ่ามือที่เพิ่งตบลงไปอย่างหนักของนรมรนั้น ก็ทำให้หน้าที่เพิ่งจะแต่งหน้าเสร็ดูไม่จืดเลย ซึ่งเห็นได้ว่าเมื่อกี้ที่เธอเพิ่งจะตบลงไปเธอตบหนักขนาดไหน ภายในใจคิดเกลียดนภสรมาก “หน้าไม่อาย? เธอเอาตาที่ไหนดูว่าฉันอ่อยเขา สามีของฉันดีกว่าเขาเป็นร้อยเท่าพันเท่า ฉันจำเป็นต้องอ่อยเขาหรอ?” นภสรเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว นัยน์ตาจ้องมองไปที่นรมนอย่างเยือกเย็นตั้งแต่เล็กจนโตนรมนมักจะชอบมาวุ่นวายกับเธอ แม้ว่าเธอจะหาทางหลบหลีกยังไง นรมนก็จะหาวิธีหาเรื่องเธอ “ตอนที่เธอยังไม่กลับประเทศฉันกับจรยังดีๆกันอยู่เลย พอเธอกลับมาเขาก็เปลี่ยนไป ทั้งหมดมันเป็นเพราะเธอ เธอไปอยู่ต่างประเทศให้ได้ตลอดก็ดีสิ เธอจะกลับมาอีกทำไม!” เนื่องจากประตูถูกปิด อีกทั้งทางด้านนี้ก็ไม่ค่อยมีคนผ่านมา ดังนั้นดูเหมือนว่านรมนจึงวางใจลงโดยไม่ได้สนใจท่าทางที่สง่างามแบบที่คนทั่วไปได้เห็นเธอและตะโกนใส่นภสรจนคอเป็นเอ็น สายตาของนภสรเยือกเย็น หน้าครึ่งด้านที่เพิ่งจะถูกนรมนตบเข้าอย่างจังค่อยๆบวมขึ้นและรู้สึกชา เธอยกมือลองจับหน้าดูสักหน่อย ก็ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ตอนนี้มันชาไปหมด นภสรหยีดวงตาที่กลมสวยลง กัดริมฝีปาก จ้องไปยังนรมนและตะโกนเสียงดังแล้วเงื้อมมือขึ้นตบกลับคืน น้ำมือการตบของเธอครั้งนี้ไม่มีการออมแรงแม้แต่นิดเดียว “เธอคิดว่าเธอเป็นใคร อยากจะตบฉันก็ตบงั้นหรอ?” นภสรยื่นมือไปหยิกแก้มของนรมนที “คิดว่าตัวเองเป็นพี่สาวคนโตของตระกูลไชยกาลก็จะดูถูกได้ซะทุกอย่าง?” เมื่อก่อนเธอไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนักจึงมักจะคิดดีทำดีกับตระกูลไชยกาล แต่คนพวกนี้เป็นพวกที่ได้คืบจะเอาศอกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว บังคับเธอให้แต่งงานกับธนวรรธ ทำให้เมื่อสิบสามปีก่อนเธอไม่ได้เจอหน้าพ่อ ทำให้เธอต้องถูกทิ้งให้ออกไปต่างประเทศ “นภสรเธอจะทำอะไร!” นรมนถูกสายตาโกรธแค้นของนภสรจ้องมองจนทำให้เธอหวาดกลัว เพราะเธอได้รับการฟูมฟักที่ดีไม่ว่าจะเป็นการเอาใจใส่หรือการถูกมอบความรักมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเธอจึงมองว่านภสรดูต่ำกว่าเธอ ก่อนที่นภสรจะไปต่างประเทศก็มีเพียงแค่กระเป๋าใบเดียว เธอไม่สนใจนภสรสักนิด อีกทั้งยังคิดแผนการอย่างแยบยลให้นภสรทำแท้งและรีบให้ผู้ใหญ่ตระกูลไชยกาลไล่เธอไปต่างประเทศ คิดว่าเธอจะไปตกระกำลำบากที่ต่างประเทศ และหาทางเอาตัวรอดเอง แต่ไม่เคยคิดเลยว่านภสรจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย หลังจากกลับมาไม่ใช่แค่จะมาเอาหุ้นกลับไป มิหนำซ้ำยังไปแต่งงานกับสามีไม่มีเงินไม่มีอำนาจแต่อัศวินก็เทียบไม่ได้ อีกด้านยังมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับผู้บริหารในเครือLK ทำให้คุณปู่ตั้งตารอเธอ ขนาดนทจรยังทำดีกับนภสรเลยด้วยซ้ำ และเรื่องที่เธอทำไปทั้งหมดนั้น เหมือนกับว่าจะไม่มีผลกระทบอะไรกับนภสรเลย มิหนำซ้ำยังทำให้เธอยิ่งใช้ชีวิตได้ดีขึ้น เธอไม่พอใจ   มือของนภสรมี่กำลังจิกมือของนรมนอยู่นั้นก็ค่อยๆลื่นลงไปบีบคอเธอ และกดตัวเธอไปที่กำแพงอย่างแรง “กลัวอะไรหรอ? กลัวว่าฉันจะตายไปพร้อมกับเธอ?” นภสรยิ้มเยาะเย้ย “เธอคิดว่าเธอเหมาะสม?” น่าจะเป็นเพราะนรมนถูกนทจรทำให้เธอสับสนมาก่อน ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มาดักรอนภสรและดึงเธอไปตบในที่ลับสายตาคนแบบนี้ หากจะพูดถึงการสู้แบบตัวต่อตัว น้ำมือของนรมนเทียบไม่ได้กับนภสร เธออยู่อย่างสงบมาจนโต ความสามารถในการป้องกันตัวเองสักนิดก็ไม่มี เรื่องเมื่อวันศุกร์ที่นรมนตั้งใจให้คนวางยาพิษเธอนั้น ทำให้นภสรโกรธเธอมาก ในเมื่อนรมนเกลียดเธอ แล้วทำไมเธอถึงจะไม่เกลียดนรมนล่ะ “นภสร เธอ...เออะ...ทางที่ดีที่สุดเธอปล่อยฉันเถอะ...” มือหนึ่งของนรมนยกขึ้นเหนือหัว ส่วนอีกมือจับโทรศัพท์ ทว่านภสรเห็นว่าการกระทำของเธอด้วยสายตาเย็นชา เธอจึงใช้อีกมือห้ามโทรศัพท์ของเธอ “กลัวอะไรล่ะ เธอรู้มั้ยว่าฉันมางานเลี้ยงนี้ทำไม เพราะฉันรู้ไงว่าเธอจะมา เรื่องเมื่อคืนวันศุกร์ฉันต้องเจอกับอะไรเธอก็รู้ดีกว่าใคร...” เธอมองเห็นม่านตาของนรมนที่ค่อยๆเล็กลง สายตานั้นแสดงออกถึงความหวาดกลัว สีหน้าของนภสรก็เผยถึงความพึงพอใจ “ฉันเตรียมของไว้หมดแล้ว ฉันเตรียมมันไว้ก็มากพอที่จะซ้อนเธอได้ อีกอย่างไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่” พูดจบก็กระตุกยิ้มเย้ยอย่างร้ายกาจ “เธอกล้า!” นรมนจ้องเขม็งและเริ่มเพิ่มแรงดิ้น “เธอยังกล้าที่จะวางยาใส่ฉัน แล้วทำไมฉันจะไม่กล้าทำกลับล่ะ?” สีหน้าของนภสรพอใจมาก “เธอเองก็ควรจะได้ลิ้มรสชาติของความอดสูดู” นี่คือนรมน เรื่องอะไรที่เธอทำได้ คนอื่นจะทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะทำอะไร เธอจะเป็นคนถูกเสมอ ส่วนคนอื่นผิดหมด “นภสร ถึงเธอกล้าวางยาฉัน ต่อให้ฉันตายไปฉันก็จะไม่ปล่อยเธอแน่!” “งั้นตอนที่เธอให้คนมาวางยาฉัน คิดบ้างมั้ยว่าความรู้สึกฉันจะเป็นเหมือนกับเธอในตอนนี้ ต่อให้ฉันตายไปก็ไม่มีทางปล่อยเธอไว้แน่!” นภสรไม่สนว่านรมนจะขัดขืนเธอยังไง มือที่บีบคอเธออยู่นั้นค่อยๆแรงขึ้น มือของนรมนบีบมือของนภสรแน่น นัยน์ตาจ้องมองด้วยความตกใจ “เธอมันสมควรแล้วล่ะ เธอมันควรจะรีบตายๆไปให้พ้น...” “คุณนรมนยอมรับแล้วสินะว่าเมื่อคืนวันศุกร์ให้คนมาวางยาฉัน?” ทันใดนั้นเองประตูก็ถูกเปิดออก ก็มีเงาหนึ่งเดินเข้ามา ทำให้ทั้งนภสรและนรมนต่างตกใจทั้งคู่ นภสรมองด้วยความสงสัย ทันใดนั้นก็เห็นว่าเป็นปองพล เธอจึงผ่อนแรงที่มือลง “คุณมาได้ยังไง?” ปองพลไม่พูดอะไร แล้วจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เยือกเย็น นภสรรู้ว่าเขากำลังมองอะไรก็ลูบหน้าตัวเอง “ฉันไม่เป็นไร ไปดูตรงหน้าประตูให้หน่อย นี่เป็นเรื่องของฉันกับเธอ” มองดูท่าทางที่ปองพลทำต่อนภสรแล้ว นรมนจึงรีบเอ่ย “คุณรู้มั้ยว่าภรรยาของคุณกำลังเล่นกับอยู่กับใคร คุณปองเป็นผู้ชายที่ใจกว้างมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ การที่ถูกสวมเขาคงจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แบบนี้สินะ”  
已经是最新一章了
加载中