ตอนที่474 คุณไม่รักฉันกับแม่ฉันหรอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่474 คุณไม่รักฉันกับแม่ฉันหรอ
ตอนที่474 คุณไม่รักฉันกับแม่ฉันหรอ ระหว่างทางกลับ ธีมนต์นั่งอยู่เบาะหลัง ก็หันไปเห็นการโต้ตอบของเตชิตเมื่อครู่ กลายเป็นเงียบขึ้นมา นัชชาตอนแรกนึกว่าเขานั่งเครื่องบินมาไม่ค่อยสบาย จึงค่อยๆรับรู้ว่า ลูกไม่ใช่ไม่สบาย แต่เป็นเพราะความรู้สึกขัดแย้ง แต่ความรู้สึกขัดแย้งนี้ไม่ใช่กับเธอ แต่เป็นเตชิต ภายในรถค่อนข้างเงียบ บางครั้งเตชิตก็ยกประเด็นขึ้นมาพูด เด็กน้อยก็ไม่คิดจะออกความคิดเห็นอะไร ชายแก่เกิดความสับสนในทันที ไม่รู้จะพูดยังไงกับลูกชายดี คิดใคร่ครวญชั่วขณะหนึ่ง เขาก็บอกคนขับรถให้ขับไปที่สวนสนุกแห่งหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในเมือง J นัชชาเข้าใจความหมายของเขา จึงส่งข้อความไปบอกณัชชนม์ อธิบายว่าทานข้าวเสร็จแล้วจะไปที่โรงพยาบาล หนึ่งชั่วโมงต่อมา รถจอดอยู่ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในสวนสนุก จอดรถให้สนิท นัชชาและเตชิตนำเด็กน้อยตรงไปที่ภัตราคารหมุนลอยฟ้าแก้วชั้นบนสุด ผู้จัดการนำไปด้วยตัวเอง หาที่นั่งชมวิวที่ดีที่สุด มองจากตรงนี้ลงไป เกือบจะเห็นวิวทั้งหมดของสวนสนุก โดยเฉพาะตอนที่เปิดให้เข้าชมยังมีการแสดงจุดพลุอีกด้วย ด้านล่างทั้งหมดจะเป็นแสงไฟรูปร่างเทพนิยายจากทุกมุมโลก ไม่มีเด็กที่ไหนไม่ชอบที่นี่ ธีมนต์ก็ไม่ยกเว้น แต่เขาเพียงมองเพียงแวบเดียวและบังคับให้ตัวเองเบนสายตาออกมา ท่าทางแกล้งทำเป็นเอาใจยากทำให้นัชชาอยากจะหัวเราะออกมา แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้หัวเราะออกมา ตอนนี้เด็กยังบาดหมางและโกรธอยู่ ยังไงก็ต้องรักษาหน้าไว้ หลังจากสั่งอาหารเสร็จ นัชชาเห็นว่าพ่อลูกไม่ได้สนทนากันเลย เลยถือโอกาสไปห้องน้ำเพื่อให้สองคนได้มีช่องว่างอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เตชิตยกแก้วขึ้นมาแล้วกลืนน้ำลาย หาเรื่องพูดคุย “ครึ่งปีมานี้การเรียนปรับตัวได้ไหม ได้ข่าวมาว่าคะแนนข้อสอบปลายภาคไม่เลวเลย ได้ A หมดเลย?” ธีมนต์ยู่ปาก เด็กน้อยไม่เต็มใจที่จะตอบ “คณิตกับอังกฤษได้ A+ ครับ” “ไม่เลวเลย” เตชิตพยักหน้าอย่างพอใจ “ระดับไม่ต่างจากพ่อตอนนั้นเลย” ธีมนต์ไม่ได้พูดต่อ สายตามองรอบข้าง หลีกการสบสายตากับเขาอย่างพิถีพิถันมาก มองดูบรรยากาศที่เย็นลงอย่างช่วยไม่ได้ เตชิตถามเขาต่อ “ทำไมไม่พูดเลย พ่อกลับมาไม่ดีใจหรอ?” ยังไงก็เป็นหัวหน้าครอบครัว ร่างกายเผยความเป็นผู้ใหญ่ออกมา ธีมนต์จึงทำเสียงเล็กน้อย เม้มปากก้มศีรษะมองจานบนโต๊ะ ท่าทางไม่ต่างจากเตชิต นานมาก เขาถึงเอ่ยปากอย่างหนักแน่น “พ่อสัญญากับผมว่าจะมารับ ผ่านมานานขนาดนี้ พ่อผิดคำพูด!” วันนี้เมื่อเห็นคุณพ่อปรากฏกายที่ทางเข้าสนามบิน ธีมนต์ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าดีใจมากๆ ตื่นเต้นหาที่เปรียบไม่ได้ แต่หลังจากกอดกัน เห็นชนุดมจากไป ในใจก็รู้สึกอ่อนไหวขึ้นมา ไม่ใช่ว่าโกรธ แต่เป็นเพราะรู้สึกโดดเดี่ยว เด็กไม่รู้จะแสดงออกมาอย่างไร ทำได้เพียงควบคุมความรู้สึกเอาไว้ ไม่ได้พูดอะไรมาก ถามมาตั้งนานสุดท้ายก็พูดความจริงออกมา เตชิตถอนหายใจออกมา ร่างที่เอนพิงเก้าอี้โน้มเข้ามาใกล้ “พ่อไม่ได้ผิดคำพูดนะครับ พ่ออยากกลับมาหาลูกกับแม่ แต่ว่ามันล่าช้า” ธีมนต์ไม่พอใจกับคำตอบนี้อย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงหนักแน่นมีความน้อยใจ “เรื่องอะไรจะสำคัญกว่าผมกับแม่ได้ล่ะครับ?” เตชิตเอียงคอคิด ตัดสินใจว่าจะเผยออกมานิดหน่อย “ตอนพ่อกลับไปพ่อป่วยอยู่ หมอบอกว่าต้องทำกายภาพถึงกลับมาได้ พ่อคิดถึงลูกกับแม่มาตลอดไม่เคยลืม” พอพูดจบ ดวงตาดำสนิทของเด็กน้อยสุดท้ายก็ปิดไม่มิด “ป่วย?” “อืม แต่ตอนนี้สบายดีแล้ว” หลังจากเตชิตพูดจบ ก็สำรวจตนเองอย่างมีเหตุผล “แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง จากลูกกับแม่มานานขนาดนี้ เป็นความผิดของพ่อ พ่อขอโทษนะ ขอโทษนะลูก” ธีมนต์ได้ยินเขาขอโทษก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เดิมทีความรู้สึกหดหู่ก็หายไป “หลังจากที่พ่อจากไปแม่ก็เศร้ามาก ทุกครั้งที่ถามถึงพ่อ แม่ก็จะมีท่าทางรู้สึกแย่ พ่อครับ ต่อจากนี้ไปพ่อห้ามจากแม่กับผมไปแล้วนะครับ ผมไม่อยากให้แม่เศร้า” ธีมนต์อยู่กับนัชชามาตั้งแต่เล็ก แรกเริ่มเขาเป็นเด็กที่ ‘ไม่มีพ่อ’ มาโดยตลอด นัชชาก็ลำบากมาก เขาเข้าใจดี ดังนั้นตอนนี้เขาก็เลยใส่ใจกับการจากไปขอเตชิตเป็นพิเศษ เขาไม่อยากให้แม่เศร้า และไม่อยากเป็นเดก็ที่ไม่มีพ่ออีกแล้ว เตชิตเข้าใจความคิดทุกอย่างของเด็ก รู้สึกผิดยิ่งกว่าเสียใจ “พ่อสัญญานะ ต่อจากนี้ไปจะอยู่เคียงข้างลูก ลูกกับแม่พูดอะไรพ่อก็จะทำอย่างนั้น ฟังทั้งคู่ทุกอย่างเลย” “จริงหรอครับ?” ธีมนต์เงยหน้าขึ้นถามอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เตชิตพยักหน้าอย่างไม่คิด “จริงสิ” “งั้นดีครับ ผมอยากทานไอศกรีมวนิลา” ธีมนต์กรอกตา ชี้ไอศรีมบนเมนูอย่างน้ำลายไหล เตชิตนึว่าเขาจะต้องการอะไรมาก คิดไม่ถึงว่าจริงๆจะคือ...... นัชชาเพิ่งบอกว่าไม่อนุญาตให้เขาทานของเย็น กลัวว่าหลังจากกลับมาจากลอนดอนกินของพวกนี้แล้วจะทำให้ท้องไส้ไม่สบาย แต่สถานการณ์ในตอนนี้ ตัวเองได้รับปากลูกไปแล้ว จึงกลับคำไม่ได้ เตชิตคิดไปคิดมา สั่งไอศรีมกับพนักงาน หลังจากมองดูธีมนต์หยิบช้อนขึ้นมาใส่ปากอย่างมีความสุขอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เข้าไปใกล้อย่างสุขใจ “ให้พ่อกินคำหนึ่งได้ไหมครับ?” ธีมนต์มองชามเล็กของตน แล้วยื่นช้อนให้เขาอย่างใจกว้างมาก “ได้ครับ” เตชิตรับมา ยกช้อนขึ้นมาด้วยสายตาแหลมคม ภายในพริบตาเดียว เขาที่ไม่ได้ชอบกินของเย็นก็กลืนไอศรีมเข้าปากไป ธีมนต์เห็นการกระทำเขาโดยตลอด จนกระทั่งเขากลืนลงไป จึงหันกลับมามองไอศกรีมบนชามเล็กตรงหน้า “……” หมดแล้ว เหลือไม่ถึงเศษหนึ่งส่วนสาม ธีมนต์ร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา จนกระทั่งไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมา “พ่อครับ......” “อืม รสชาติไม่แย่” เตชิตหยิบช้อนขึ้นมาตักในชามเล็กอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วกลับไปนั่งในที่ตน ตอนที่นัชชาผลักประตูเข้ามาก็เกิดบรรยากาศแปลกๆท่ามกลางความกระอักกระอ่วน ที่เธอไปเข้าห้องน้ำเพื่อให้ทั้งสองได้เปิดปากคุยกัน คิดไม่ถึงว่ากลับมาแล้วยังเป็นบรรยากาศแบบนี้ เธอเอ่ยถามผู้ชายข้างกาย “เกิดอะไรขึ้น?” “ไม่มีอะไร คุยกับลูกชัดเจนแล้ว” เตชิตพูดจบก็ชี้ไปที่ไอศกรีมตรงหน้าลูกชาย “ให้ลูกกินไปมากกว่าครึ่ง เดาว่ากำลังโกรธผม” นัชชาถึงเข้าใจ มองผู้ใหญ่หนึ่งเด็กหนึ่งที่นั่งมองหน้ากันโดยไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือขำดี ไม่มีใครพูดออกมาแต่กลับมีท่าทางที่สนใจกันและกัน อย่างไรก็ตาม กลับทำให้คนอบอุ่นใจ ทานอาหารมื้อหนึ่งเสร็จแล้ว เกือบจะสิบโมงแล้ว ธีมนต์ทานเสร็จก็ง่วงนอน ผู้ใหญ่ทั้งสองก็รู้สึกเหนื่อยล้า แต่อย่างไรก็ตามเมทนียังอยู่ที่โรงพยาบาล หลังจากส่งเด็กน้อยที่คฤหาสน์ ก็รีบขับรถไปที่โรงพยาบาล ถึงโรงพยาบาลก็เกือบเช้าตรู่แล้ว ตอนนัชชาลงจากรถก็หาวหนึ่งที เตชิตก็จูงมือเธอเดินเข้าลิฟต์ไปอย่างสบายใจ “คืนนี้ไม่ต้องเฝ้ายาม ฉันกับพยาบาลสองคนก็พอแล้ว” เขากังวลว่าร่างกายเธอจะไม่ไหว “ไม่เป็นไร พ่อฉันพูดจากห่างเหินกับคุณ ฉันกลัวว่าพ่อจะเขินที่จะพูดกับคุณ” เตชิตพึมพำกับตัวเองสักพักโดยไม่ได้พูดอะไร นิ้วโป้งที่ฝ่ามือใหญ่ลูบหลังมือเธอ “คุณเหนื่อยเกินไปผมจะเจ็บหัวใจนะ”
已经是最新一章了
加载中