ตอนที่479 คนสวยออกมาจากห้องน้ำ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่479 คนสวยออกมาจากห้องน้ำ
ตอนที่479 คนสวยออกมาจากห้องน้ำ นัชชานึกถึงการนัดหมายเมื่อก่อนของทั้งสอง เพียงแต่...... “คุณยังไม่ดีขึ้นเลยจะแต่งงานได้ยังไง? ฉันได้ยินคนอื่นพูดว่างานแต่งใช้แรงมาก” สิ่งที่นัชชากังวลมากที่สุดก็ปัญหาสุขภาพ เธอก็รอมานานแล้ว และไม่สนใจว่าจะรออีกสักนิด ใครจะไปรู้ว่าคำพูดนี้สำหรับเตชิต จะโจมตีและทำร้ายอีโก้ของเขา จึงเลิกคิ้วตอบกลับทันที “ผมเข้าเรือนหอได้แรงกายจะมีปัญหาอะไร?” ในอีกความหมายหนึ่ง ถ้าเข้าเรือนหอได้อย่างอื่นก็ไม่ได้ยากอะไร “……” นัชชาหมดคำจะพูด ตั้งใจว่าจะไม่สนใจเขา อย่ามองภายนอกที่เย็นชาและเย่อหยิงของผู้ชายคนนี้ แต่ในใจนั้นบ้าบอ มีแต่เพียงเธอเท่านั้นที่รู้ พูดจบประโยคหนึ่ง ระหว่างทางกลับบ้านนัชชาก็ไม่ได้พูดกับเขาสักประโยคเดียว หันศีรษะไปมองนอกหน้าต่าง บรรยากาศดีมากๆ ถึงไวโรจน์วิลล่าแล้ว ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ ธีมนต์ก็รีบวิ่งออกไป วิ่งออกไปหารถอย่างน่ากลัว เตชิตก็ลงจากรถมาหาร่างเล็กจ้ำม่ำของลูกชาย “คิดถึงพ่อไหม?” “คิดถึงครับ” เสียงเล็กน้อมแน้มของธีมนต์น่ารัก คนฟังก็ใจเต้นเร็ว “แต่ผมคิดถึงแม่มากกว่า” “……” เตชิตกระตุกเปลือกตา พิสูจน์ว่าเป็นลูกชายเขา ประโยคเดียวทำให้ตกลงมาจากสวรรค์ โอ้ ตำแหน่งของคนเป็นแม่ยังสำคัญกว่านิดหน่อยนะเนี่ย นัชชาลงมาจากรถ ธีมนต์ปล่อยมือจากพ่อทันทีแล้วไปจูงแม่ ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความสุข “แม่ครับ ผมคิดถึงแม่มาก~” เตชิตไม่ได้รู้สึกแย่ ใครทำให้เขาทำไม่ดีล่ะ ทำได้เพียงเดินตามแม่ลูกไปอย่างยินยอม เมื่อเข้าประตู น้ารินก็มาต้อนรับทันที รับของในมือมา “คุณผู้ชาย คุณนัชชา ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ” “กลับบ้านมาดีจริงๆ” นัชชาเปลี่ยนรองเท้าและปฏิบัติต่อน้ารินเสมือนเป็นคนในครอบครัว “ช่วงนี้ต้องรบกวนน้ารินหน่อยนะคะ” “ไม่รบกวนเลยค่ะ รู้ว่าวันนี้คุณกับคุณผู้ชายกลับมาบ้าน ฉันก็ให้แม่บ้านกลับไปก่อนแล้ว มีคนคอยช่วยในช่วงนี้ไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยเกินไป” เตชิตขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างบน ตอนลงมาก็ใกล้ถึงเวลาทานอาหารกลางวันพอดี น้ารินทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว อุดมสมบูรณ์มากกว่าปกตินิดหน่อย เพื่อต้อนรับพวกเขากลับบ้าน นัชชาในช่วงนี้ร่างกายใช้แรงมากเกินไป ขึ้นไปล้างหน้าล้างตานิดหน่อยพอนอนบนเตียงสักพักก็หลับไป เตชิตเล่นเกมส์กับลูกชายอยู่ด้านล่าง ธีมนต์ชินกับการนอนกลางวัน ทานอาหารกลางวันเสร็จก็รู้สึกง่วงอย่างมก เตชิตกล่อมเขานอนแล้วก็กลับไปที่ห้องใหญ่ ผลักประตูเข้าไปก็เจอร่างเล็กนอนราบอยู่บนเตียง เขาหยุดฝีเท้าลง หยุดมองอยู่ที่เดิมครึ่งนาทีก่อนจะเดินเข้าไปข้างเตียง หลังจากค่อยๆโอบร่างขึ้นมา แล้วดึงผ้าห่มบางข้างๆมาคลุมเธอไว้ เส้นผมบางตกลงมาปกคลุมใบหน้าขาวเธอ เขาค่อยๆจัดทรงผมให้อย่างระมัดระวัง ท่าทางอ่อนโยนกลัวว่าเธอจะตื่น ช่วงนี้อยู่โรงพยาบาลเหนื่อยจะตายอยู่แล้วินะ ตอนนอนถึงได้หายใจหนักเป็นพิเศษ ขอบตาก็ดำ เตชิตดูท่าทางบอบบางของเธอ ในใจก็โทษตัวเองที่ไม่ดูแลเธอให้ดี โชคดีที่ตอนนี้เธออยู่ข้างกายตน ยังมีโอกาสได้ชดใช้ให้เธอ เตชิตโน้มศีรษะลงไปจูบอ่อนโยนบนหน้าผากเธอ “หลับดีๆนะ ที่รัก” เขาขึ้นเตียงไปนอนข้างๆ หยิบโทรศัพท์ที่อยู่หัวเตียงมาเปิดรูปภาพที่ส่งมาในที่ออกแบบ ทั้งหมดเป็นการออกแบบงานแต่งงาน สายตาของเขามองภาพด้วยความอ่อนโยนขึ้นมา มองทีละภาพอย่างอดทน เลือกอย่างละเอียด หนึ่งเดือนต่อมา ร่างกายของเตชิตก็เกือบจะไม่มีปัญหาแล้ว เรื่องที่เขากลับมาทุกคนก็รู้ตั้งนานแล้ว เพียงแต่ไม่ได้มารบกวน รู้ว่าเขาค่อนข้างยุ่ง ดีที่มีเวลาช่วงนี้ นัชชาเลยเรียกแขกมาที่บ้าน ปรัณเป็นแขกคนรกที่อยากเชิญมา เรียกธนัทกับชนัยด้วย ชายทั้งสี่คนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก หลังจากเป็นห่วงก็ค่อยๆแหย่ธีมนต์ขึ้นมา สุท้ายเห็นว่าเตชิตทนไม่ได้ อุ้มลูกตัวเองไป “ชอบก็มีลูกเองอย่ามาแกล้งลูกคนอื่น” “จะดูแลได้ยังไง พี่เตชิตอย่ามาขี้เหนียวหน่อยเลย!” ชนัยมีท่าทีสบายๆอย่างเคย “ถ้าคลอดเองได้คงคลอดไปนานแล้ว” ได้ยินดังนั้น นัชชาก็มองปรัณแวบหนึ่ง วันนี้เขาพาสุวีรามาด้วย ทั้งสองคบกันมาไม่น้อยไปกว่าเธอกับเตชิตเลย แม้ว่าธนัทกับจินต์จะยังไม่ได้คุยกันชัดเจน ยังไงก็ถือว่าเป็นแฟนกัน ส่วนชนัยตัวคนเดียว หลายปีแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีใครข้างกาย แล้วยังจะไปกังวลแทนเขาอีก “ชนัย นายนี่สเปคสูงไปแล้วยังไม่หาอีก หลายปีแล้วยังหาที่ถูกใจไม่ได้อีก?” ชนัยได้ยินประโยคนี้ ก็ยืนยันกับเธอด้วยความจริงใจ “พี่สะใภ้ สถานการณ์ผมตอนนี้ ถ้ามีคนที่เหมาะสมผมจะไม่หาหรอ ไม่มีจริงๆครับ ไม่มีจริงๆๆๆๆ!” “งั้น......” นัชชาศอกกระทุ้งเตชิต “คุณแนะนำชนัยหน่อยสิ” “แนะนำให้เขา?” เตชิตขมวดคิ้ว จากนั้นก็เล่นมุกตลก “คุณก็อย่าให้เขาทำร้ายผู้หญิงในบ้าน” ชนัยก็รีบรับหัวข้อมา “ใช่แล้วพี่สะใภ้ ไม่ต้องช่วยดูแลผมเลย ผมหาได้ไม่ดีหรอ ผมตั้งใจหานะ รับประกันเลยว่าสิ้นปีนี้จะพามา โอเคไหม?” นัชชาเห็นหน้าเขาที่ดูถูกล่อลวง อดไม่ได้ที่จำหัวเราะออกมา “โอเค เชื่อนะ” อาหารเย็นน้ารินเตรียมหม้อไฟ หนึ่งคือคนเยอะจะได้สะดวก สองคือตอนนี้อากาศเริ่มเย็น ทานหม้อไฟร่างกายจะได้อบอุ่น ส่วนประกอบอาหารเยอะล้วนแล้วไม่มีที่ตลาด ก้นหม้อเคี่ยวกระดูกหมูและไก่ไว้ ธีมนต์ชอบทาน ชนัยชอบดื่มเบียร์ บรรยากาศกำลังไม่เลว แต่นัชชาไม่ให้ดื่ม กลัวว่าร่างกายของเตชิตจะรับไม่ไหว ปรัณให้คนเอาเหล้ายามาจากหลังรถ ไม่มีโทษต่อร่างกาย ไม่ค่อยแรงมาก อยู่ในขอบเขตที่เขารับได้ ไม่เจอกันนาน อารมณ์ของเตชิตค่อนข้างเพิ่มขึ้น ผู้ชายมารวมตัวกันก้จะสนุกสนาน นัชชาเลยไม่ได้พูดอะไร ก็ตามเขาไป ทานอาหารกันถึงสามทุ่มครึ่ง ธีมนต์ถูกน้ารินกล่อมนอนแล้ว ดีที่ในบ้านกันเสียงดีมาก จะพูดคุยกันยังไงก็ไม่กระทบไปถึงลูก หม้อไฟยังคงต้มอยู่ ควันสีขาวเดือดลอยขึ้นมาเหนือศีรษะแล้วหายไป ทานจนถึงสุดท้ายแล้วจนทุกคนไม่ขยับตะเกียบ ส่วนมากจะคุยกัน “เตชิต ตอนนี้ร่างกายก็ดีขึ้นแล้ว คิดอยากจะทำอะไรไหม?” ธนัทเป็นคนบ้างาน เลยคิดแทนเขา เตชิตตอบอย่างสงบนิ่ง “ไม่มี” “ยังอยากลงทุนต่อไหม?” พวกเขารู้ว่าตอนแรกทำไมเตชิตถึงได้เข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ใช่ความสนใจส่วนตัวหรือว่าชอบ แต่ตอนนั้นเพราะนัชชาไม่อยู่ จึงเป็นโอกาสหนึ่งในการติดต่อกัน สิ่งที่เขาชอบคือการทำกฎหมาย อยากเป็นนักกฎหมาย ในส่วนนนี้ธนัทรู้มาตลอด ทุกครั้งที่อยู่ดึก เขาออกมาจากตึกมืดๆคนเดียว ก็จะคิดถึงครั้งหนึ่งที่พวกเขาเคยดิ้นรนมาด้วยกัน พูดถึงประเด็นนี้พอดี มีช่องแบบนี้ ธนัทอดที่จะถามออกไปไม่ได้ “ไม่งั้นนายมาทางนี้มา ตอนนี้งานบริษัทโคตรเยอะ ฉันก็ยุ่งไม่ไหวแล้ว ให้คนอื่นทำทั้งหมดฉันก็ไม่ไว้ใจ” ปีนั้นนัชชาถูกตัดสินผิดให้เข้าคุก และยังมีอุบัติเหตุอีก ที่จริงแล้วในที่สุดทุกคนก็เข้าใจ เรื่องนี้โจมตีและมีผลกระทบต่อเตชิตมาก ดังนั้นหลายปีมาแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้กันมากนัก แต่ตอนนี้นัชชากลับมาแล้ว อะไรที่ประสบแล้วก็ผ่านไปแล้ว ธีมนต์ก็โตแล้ว เรื่องทั้งหมดก็ควรปล่อยวาง ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องกฎหมายสำหรับเตชิตแล้วเขาชอบมาก และใช้บ่อย พูดจบ ในห้องอาหารก็เกิดความเงียบชั่วขณะหนึ่ง ปรัณก็ส่งเสียงไม่ให้เงียบขึ้นมา นัชชาก็ยกมือขึ้นกุมหลังมือของเตชิตทันที มองไปที่เขาอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องพูดเรื่องงานก่อน ปีนั้นพวกเราก็รู้จักกันแล้วที่เตนัทลอว์เฟิร์ม ก็อยากกลับไปดูจริงๆนะ” พูดประโยคนี้ออกไป จุดยืนของเธอก็ชัดเจน ต้องบอกเลยว่านัชชาเป็นผู้หญิงที่ฉลาด เรื่องนี้เธอจะไม่ทำให้ทุกคนกระอักกระอ่วน และยังให้พื้นที่ในการตัดสินใจของเตชิตด้วย เธออยากจะบอกทุกคนว่า เธอได้หมด เตชิตสบตาเธอ ดวงตาที่สงบนิ่งมาตลอดจู่ๆก็สั่นไหวขึ้นมา ถามเธออย่างไม่มั่นใจ “คุณอยากกลับไปหรอ?” นัชชาพยักหน้าอย่างพอใจ “ก็อยากนะ” ธนัทดีใจมาก “อยากมาตอนไหนมาได้ตลอดเลย เตชิตก็แน่วแน่เกินไปแล้ว ปีนี้บอกว่าไม่มาก็ไม่มา เอาหน้าที่ทั้งหมดโยนให้ฉันหมดเลย ยุ่งจนจะตายอยู่แล้ว” “พี่ธนัท งั้นผมไปได้ไหมอะ?” ชนัยเล่นมุกได้ถูกเวลา ปรัณจ้องเขา แล้วพูดน้ำเสียงเย็นชา “แกจะไปสร้างปัญหาล่ะสิ?” เปลี่ยนเรื่องคุยแล้ว บรรยากาศก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา มองเห็นเวลาใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว เงียบกันสักพักหนึ่งก่อนจะบอกลากัน นัชชาและเตชิตไปส่งคนที่ประตู เห็นรถหายไปจากประตูใหญ่แล้วจึงหมุนตัวกลับเข้าไป ยุ่งมาค่อนวัน นัชชารู้สึกว่าทั้งร่างมีแต่กลิ่นหม้อไฟ “ฉันขึ้นไปอาบน้ำชั้นบนก่อนนะ” “โอเค” ห้องในบ้านเยอะ เตชิตไปที่ข้างๆห้องรับแขกอาบ นัชชาเลือกชุดนอนสายเดี่ยวผ้าไหมสีแดง ปลายกระโปรงอยู่กลางต้นขา ผ้าลูกไม้ดูยั่วยวน ผมยังไม่แห้ง ก็ถือผ้าออกมา เตชิตก็อาบเสร็จแล้ว มองตามเสสียงมา เห็นเพียงประตูห้องน้ำเปิดอยู่ ไม่เห็นคน มีแต่ไอน้ำที่เหลืออยู่คลุมเครือ หลังมือขาวผลักประตู ก็เห็นสีแดงสะดุดตาปรากฎอยู่ในสายตา เธอสูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดเซนติเมตร ไม่เยอะไม่มากกำลังพอดี สัดส่วนขายาวดีมาก ด้านล่างผอมเพรียว ไม่มีอะไรที่เธอขาด แขนทั้งสองข้างก็เรียวยาว ทั้งร่างสวยงามราวกับปั้นออกมา เตชิตชอบเวลาเธอใส่เสื้อผ้ามีสีสันมาก ยิ่งขับให้ผิวเธอขาว เขากลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว ควบคุมตัวเองไม่ให้มองไปที่หน้าอกเธอ รอให้เดินมาด้านหน้า เขาควบคุมอารมณ์ได้ดี เงยสายตาขึ้นมาอย่างสงบนิ่ง “อาบเสร็จแล้วหรอ?” น้ำเสียงเขาเรียบ แต่ว่าสายตาที่สงบนิ่งนั้นกดความปรารถนาไว้ มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้
已经是最新一章了
加载中