ตอนที่ 42 ไม่ใช่คนแน่ๆ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 42 ไม่ใช่คนแน่ๆ
ต๭นที่ 42 ไม่ใช่คนแน่ๆ พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงของนภสรก็ถูกกลืนลงไปในลำคอด้วยปากของคนตรงหน้า ริมฝีปากนุ่มนวลของหญิงสาวยิ่งปลุกเร้าอารมณ์กระหายของชายหนุ่ม ต้นแขนกำยำแข็งแรงของกมลภูโอบเอวบางของนภสรเอาไว้ เพียงอึดใจเดียว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองก็มาอยู่บนเตียงห้องนอนเสียแล้ว นภสรรู้สึกเหมือนตัวเองดิ่งลงไปน้ำทะเลลึกและกำลังดิ้นรนภายใต้กระแสคลื่นน้ำเเรงที่ซัดเธอไปมา ความเจ็บปวดถูกส่งผ่านไปยังทุกอณูเนื้อบนร่างกาย จนกระทั่งเธอหมดสติไปจนไม่รับรู้อะไรอีก ช่วงบ่ายของวันต่อมา กมลภูที่นั่งอยู่บนขอบเตียงขมวดคิ้วแน่น สายตานุคู่คมจับจ้องไปที่ใบหน้าหมดจดของหญิงสาวที่ซีดเซียวเล็กน้อย เมื่อวานจู่ๆเธอก็บุกเข้ามาในห้องเอง ฤทธิ์ยาเลยยิ่งทำให้สติของเขาขาดบั้น แม้เขาจะรู้ว่าเป็นเธอ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ต้องศิโรราบให้กับฤทธิ์ยาจนเสียการควบคุม เเละจนตอนนี้นภสรก็ยังคงไม่ตื่นสักที สายตานุ่มลึกมองไล่ไปที่ใบหน้ายามหลับใหลของหญิงสาวภายใต้ความเงียบสงบอย่างเนิ่นนาน จนกระทั่งตกกลางคืน นภสรจึงจะเริ่มงัวเงียตื่นขึ้นอย่างสะลึมสะลือ เธอพยายามลืมตาขึ้นรับเเสง สิ่งแรกที่ปรากฏแก่สายตาของเธอก็คือใบหน้าหล่อเหลาคมคายอันแสนคุ้นเคยของกมลภู เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนถูกประมวลขึ้นเป็นฉากๆเข้ามาในหัวสมองของนภสร หน้าเธอพลันแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุกทันที "ตื่นได้แล้ว"กมลภูเอ่ยและจ้องมองไปที่เธอ สักพัก นภสรจึงพยายามเอ่ยเสียงพูดด้วยความละอายว่า:"คุณเก้า เมื่อวานนี้......?" "ฉันถูกวางยา!" "อะไรนะ มีคนวางยาคุณงั้นเหรอ!"นภสรอุทานขึ้นอย่างตกใจ "อืม ฉันให้จิรายุไปจับตัวคนทำแล้ว" เมื่อคืนเธอดูออกว่าสีหน้าของกมลภูไม่ค่อยปกตินัก เเต่เธอกลับคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนวางยาเขา ที่แท้เมื่อวานเธอก็เป็นคนพาตัวเองมาเป็นยาแก้ฤทธิ์ของคุณเก้านี่เอง เธอพูดไม่ออก แต่ในเมื่อเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว งั้นเธอก็ไม่ควรจะเล่นตัวอะไรอีก อีกอย่าง คุณเก้าก็เพิ่งจะอายุยี่สิบเก้าปีเอง แถมหน้าตายังหล่อลากลงดินขนาดนี้ เธอก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว แม้ว่าจะทำเธอแทบขาดใจตาย แต่นี่ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณคุณเก้าด้วยร่างกายเหมือนอย่างที่พูดไว้ล่ะนะ "หิวหรือเปล่า อยากกินอะไรไหม"นิ้วมือร้อนรุ่มของกมลภูปาดเส้นผมที่บังหน้าเธอไปอีกข้าง พร้อมถามด้วยความห่วงใย สิ้นเสียง นภสรถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองหิวเหลือเกิน เธอขยับร่างกายเล็กน้อย กะว่าจะลุกขึ้นมานั่ง แต่ก็พลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดทันที เอวของเหมือนจะแตกหักให้ได้ก็ไม่ปาน แขนขาก็อ่อนแรงไปหมด จู่ๆเธอก็นึกถึงกมลภูที่เธอเห็นเมื่อวาน เธอเห็นกับตา เขาว่องไวมาก คนธรรมดาไม่มีทางจะว่องไวขนาดนั้นได้ แถมแรงยังเยอะสุดๆด้วย คุณเก้าเป็นใครกันแน่ หรืออาจจะไม่ใช่คนด้วยซ้ำ! คิดไปคิดมา นภสรก็ทำหน้าหงอยเหมือนจะร้องไห้ออกมา แขนขาเธอหมดเรี่ยวแรงจนเธอเริ่มสงสัยว่าตัวเองจะเป็นอัมพาตหรือเปล่า มองดูท่าทางของหญิงสาวที่ทุรนทุราย ชายหนุ่มยกยิ้ม เอ่ยด้วยน้ำเสียงยั่วยวนว่า:"ถ้าลุกไม่ได้ก็ไม่ต้องลุกแล้ว ฉันป้อนเธอเอง" น่าอาย น่าอายที่สุด! หน้าของนภสรแดงก่ำกว่าเดิม กมลภูจับจ้องหญิงสาวตัวเล็กที่อยู่บนเตียง. แม้ว่าเขาจะทรมานเธอแทบขาดใจตาย แต่เขาก็ไม่เคยเสียใจภายหลัง ยังไงเธอก็เป็นคนของเขา ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ตาม ทันใดนั้นข้างนอกก็มีคนมาเคาะประตู เป็นฐากูรนั่นเอง กมลภูหันหลังเดินออกไป ท้ายที่สุดนภสรก็ลองลุกขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก ระหว่างที่กมลภูไม่อยู่ เธอเปิดผ้าห่มแอบเหลือบร่างกายตัวเองเล็กน้อย แม่เจ้า!เธอมั่นใจกว่าเดิมว่ากมลภูต้องไม่ใช่คนแน่ๆ! ฐากูรนำรถเข็นอาหารมาให้กมลภู กมลภูเข็นอาหารมาที่เตียงด้วยตัวเอง มีอาหารมากมายถูกจัดวางบนนั้น "อยากกินอะไร"กมลภูเอ่ยถามนภสร นภสรมองกมลภูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม กมลภูรู้ว่าเธอสงสัยอะไร ครั้งนี้เธอเห็นแล้ว เธอเห็นและรับรู้ได้ถึงความไม่ปกติของกมลภู เพียงแต่ตอนนี้ เขายังไม่สะดวกจะอธิบายให้เธอฟังนัก ฉะนั้นไว้คราวหลังค่อยพูดแล้วกัน "ไม่หิวเหรอ"ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง นภสรจ้องมองกมลภู ทั้งที่เขารู้อยู่แก่ใจว่าเธอกำลังสงสัยอะไร แต่กลับไม่คิดจะอธิบายอะไรเลย...... เธอรู้ดีว่ากมลภูเป็นคนยังไง เรื่องที่เขาอยากให้เธอรู้ เขาจะเป็นคนเปิดปากบอกเธอเอง แต่เรื่องที่เขาไม่อยากให้รู้ ไม่ว่าเธอจะซักถามยังไงก็ไม่ได้คำตอบกลับมาอยู่ดี ช่างเถอะ ไม่ถามแล้ว กินเอาแรงก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกทีดีกว่า "เนื้อ!"นภสรเอ่ยออกมาสั้นๆ ตอนนี้เธอรู้สึกหิวจนจะเขมือบวัวได้ทั้งตัวอยู่แล้ว เธอต้องการชาร์จพลังกายบัดเดี๋ยวนี้เลย กมลภูบรรจงใช้มีดหั่นสเต็กเนื้อให้เป็นชิ้นเล็กพอดีคำ เขาใช้ส้อมเสียบเนื้อแล้วป้อนนภสร นภสรอ้าปากรับอาหารที่คุณเก้าป้อนเองกับมือ พอกินสเต็กไปสองจาน ซดซุปไปอีกหนึ่งถ้วยใหญ่ นภสรจึงจะรู้สึกว่าตัวเองเหมือนได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ นภสรก็ล้มนอนลงบนเตียงเหมือนเดิม กมลภูบรรจงห่มผ้าให้หญิงสาว และพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า:"เธอนอนพักไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก" พูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไปทันที ได้ยินเสียงประตูปิดสนิทแล้ว นภสรจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอจ้องมองไปที่เพดาน เธอต้องไม่หวั่นไหวง่ายๆเพราะความอ่อนโยนที่ไม่แน่นอนของชายหนุ่ม ผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัวเสียจริง ทันทีที่กมลภูออกจากห้องนอนมาถึงห้องโถง สายตาอ่อนโยนพลันเปลี่ยนเป็นเย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง ชายหนุ่มเดินมาถึงจุดศูนย์กลางของห้องโถง จิรายุและฐากูรต่างก็คุกเข่าลงบนพื้น "จัดการถึงไหนแล้ว"กมลภูเอ่ยถามเสียงเย็น "จัดการเรียบร้อยแล้วครับ!"จิรายุก้มหัวตอบรับ:"เป็นความผิดพลาดของผมเอง โปรดลงโทษผมเถอะครับ!" "เป็นความผิดของผมเอง ลงโทษผมด้วยเถอะ!"ฐากูรพูดตาม ฐากูรมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องอาหารการกินของคุณเก้าอยู่แล้ว พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาก็ไม่พ้นที่จะต้องรับผิดชอบ มีคนริอาจมาลับๆล่อๆวางยาคุณเก้าได้อย่างไรกัน ขนาดครั้งนี้ยังกล้าวางยาแบบนี้ ครั้งหน้าอาจวางยาพิษก็เป็นได้ แต่พวกเขากลับไม่มีใครเอะใจเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในอาชีพตัวเองนัก ไม่เพียงเท่านี้ ยังทำให้คุณหนูคนนั้นหมดสติไปเป็นวัน มีใครไม่รู้บ้างว่าคุณเก้าห่วงใยและใส่ใจนภสรขนาดไหน เมื่อคืนแม้ว่าพวกเขาจะรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ ก็จริงที่เสียงของนภสรอาจดูทรมานเจียนตายไปบ้าง แต่พวกเขาก็ไม่คิดอะไร ก็คิดเพียงแค่ว่าเป็นเพราะคุณเก้าแข็งแกร่งเกินไป เเต่คิดไม่ถึงเลยว่าคุณเก้าจะรุนแรงขนาดนี้ นภสรเคยฝึกฝนมากับนักฆ่ามืออาชีพเชียวนะ สภาพร่างกายไม่มีทางอ่อนแอแรงน้อยเด็ดขาด ใครจะไปคิดว่าพอเจอคุณเก้าแล้วจะสาหัสขนาดนี้ ตอนเช้าที่คุณเก้าอารมณ์หงุดหงิดจนแทบคลุ้มคลั่ง เขาถึงจะรู้ว่าที่แท้คุณเก้าเสียการควบคุมตัวเองเพราะถูกวางยานี่เอง "ไส่หัวกลับไปรับโทษเองซะ!"กมลภูพูดเสียงเย็น "ครับ" "ครับ" จรินทร์ยืนอยู่บนดาดฟ้า ดวงตาใสฉายแววอำมหิต มองดูยัยผู้หญิงโง่เขลาคนนั้นที่ถูกเธอจ้างและกำลังโดนโยนลงน้ำทะเล ยังดีที่เธอไม่ได้ลงมือเอง และหาแพะรับบาปมาได้อย่างหวุดหวิด ดูท่าการที่จะเข้าใกล้ตีสนิทกมลภูคงต้องวางแผนใหม่อย่างรอบคอบซะเเล้ว ตอนที่กมลภูกลับมาที่ห้องนอน นภสรก็หลับไปแล้ว ชายหนุ่มถอดเสื้อออกเเละขึ้นเตียงดึงหญิงสาวตัวน้อยมาไว้ในอ้อมกอดทันที สาวน้อยในอ้อมอกขยับตัวและขมวดคิ้วท่าจะไม่พอใจเท่าไหร่นัก เธอขยับตัวอีกสักพักเพื่อเปลี่ยนท่าให้ตัวเองหลับสบาย แล้วจึงจะเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง ร่างกายที่ขยับถูไถไปมาของเธอ เป็นเหมือนน้ำมันที่เติมให้เชื้อเพลิงลุกโชนขึ้น แต่พอคิดได้ว่าเมื่อคืนก็เธอก็เหนื่อยอ่อนเจียนตายไปแล้ว ถ้าทำต่ออีกก็กลัวเธอจะรับไม่ไหว ชายหนุ่มจึงต้องยอมเเพ้เเละข่มตาหลับไปในที่สุด เช้าวันรุ่งขึ้น แสงอรุณยามเช้าสาดส่องเข้ามา นภสรขยับนิ้วมืออย่างสะเปะสะปะ หืม?ทำไมสัมผัสมันถึงแปลกๆ ไม่เหมือนตุ๊กตาหมีเลยสักนิด! นภสรลืมตาตื่นด้วยความตระหนก อะ!เธอกอดกมลภูไว้ได้ยังไงกัน อย่าบอกนะว่าเมื่อวาน....... พลันรู้สึกได้ว่าร่างกายไม่ได้มีอะไรผิดแปลกไป โล่งอกไปที ยังดีที่เขาไม่ได้ทำอะไร นภสรดึงมือตัวเองออก เธอกำลังจะลุกขึ้นเเต่ก็ถูกใครบางคนดึงเข้าอ้อมกอดเสียก่อน นภสรซบลงบนอกของกมลภู ใบหน้าพลันร้อนผ่าวขึ้นทันที:"คุณเก้า ตื่นได้แล้วมั้ง!" กมลภูยอมปล่อยสาวน้อยในอ้อมอกไปโดยดี ทั้งสองลุกออกจากเตียงแล้วไปรับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน บนโต๊ะอาหาร นภสรคาดเดาถึงตัวตนของคุณเก้าไปต่างๆนานาด้วยความสงสัย "คุณเก้า นอกจากจะแรงเยอะและว่องไวแล้ว ปกติคุณนอนบ้างไหม แล้วกินอย่างอื่นอีกไหมนอกจากอาหารพวกนี้"นภสรถามด้วยดวงตากลมใส เธอรู้สึกเพียงแค่ว่าโลกนี้มันช่างน่าอัศจรรย์เสียจริง กมลภูเหลือบมองนภสรแวบหนึ่ง เด็กคนนี้ต้องคิดว่าเขาเป็นผีดูดเลือดไปแล้วแน่ๆ "ต่อไปเธอก็จะถามว่าฉันชอบดูดเลือดคนหรือเปล่าใช่ไหม" เอ่อ ก็ไม่เชิงนักหรอก ผีดูดเลือดก็เป็นแค่ตัวละครในหนัง อีกอย่างพวกมันแพ้แสงอาทิตย์ด้วย แต่คุณเก้ายังไปเดินตากแดดยามเช้าที่สวนบ่อยๆอยู่เลย "นภสร เรื่องบางอย่างซักวันเธอจะรู้เอง"กมลภูก็ยังคงตัดสินใจไม่บอกเธอตอนนี้ หลังอาหาร พวกเขาก็นั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับไปที่เอ.เค จิรายุและฐากูรรีบไปรับบทลงโทษทันทีที่ถึงจุดหมาย ชายหนุ่มทั้งสองถูกไม้เรียวฟาดคนละห้าสิบที ตอนที่ออกมาจากห้องลงโทษ แผ่นหลังของทั้งสองต่างก็เปื้อนไปด้วยเลือด นภสรยืนอยู่บนดาดฟ้า มองดูคนสองคนที่ต่างก็ถูกพยุงกลับไปที่พักของตัวเอง เธอเผลอกอดแขนตัวเอง พลันอดรู้สึกเจ็บแทนไม่ได้ 
已经是最新一章了
加载中