ตอนที่ 43 มหัศจรรย์   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 43 มหัศจรรย์
ต๭นที่ 43 มหัศจรรย์ นภสรนั่งอยู่บนเก้าอี้ริมสระน้ำ พลันนึกย้อนไปถึงคืนนั้นที่กมลภูช่วยเธอไว้ อีกทั้งยังจะเรื่องที่เกิดขึ้นบนเรือสำราญนั่นอีก ยิ่งคิดก็รู้สึกว่ามันน่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก แต่ก่อนเธอก็เป็นเพียงแค่เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง แต่พอได้พบเจอกับกมลภูแล้ว ชีวิตเธอก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ครั้งแรกที่เธอได้รู้ว่าเอ.เคเป็นศูนย์รวมยอดนักฝีมือที่มีความสามารถระดับท๊อปของโลก เธอก็รู้สึกทึ่งมากพอแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะได้เจอเรื่องที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าเดิมอีก ตกลงคุณเก้าเป็นใครกันแน่ นภสรอยากลองไปถามคนอื่นๆเหลือเกิน แต่ก็กลัวว่าเรื่องที่ถามจะเป็นความลับที่คุณเก้าไม่ต้องการให้ใครรับรู้ เธอเกรงว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรจะไปถามสุ่มสี่สุ่มห้านัก ในขณะที่นภมรกำลังคิดไปต่างๆนานา จู่ๆกมลภูก็ปรากฏตัวขึ้น และสาวใช้ก็ขึ้นมาเรียกเธอลงไปรับประทานอาหารข้างล่างพอดี "คุณเก้าล่ะ!"นภสรเห็นกมลภูแล้วรีบเด้งตัวขึ้นทันที "คุณเก้ารอคุณหนูอยู่ที่ห้องอาหารแล้วค่ะ"สาวใช้ตอบ "โอเค เข้าใจแล้ว ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ"พูดเสร็จ นภสรก็ลุกขึ้นยืนทันที ระหว่างอาหารมื้อค่ำ นภสรดูเหมือนจะอยากอาหารมากนัก พอกินข้าวหมดไปจานหนึ่ง ก็เรียกคนใช้อีกว่า:"น้าพลอยคะ ช่วยตักข้าวให้หนูอีกจานหน่อยค่ะ" "ได้เลยค่ะ"ใช้เวลาไม่นาน นภสรก็ลงมือจัดการข้าวอีกจานต่ออย่างเอร็ดอร่อย ฐากูรแม้จะยังบาดเจ็บอยู่ แต่ก็ยังลากสังขารร่างกายตัวเองมาส่งเอกสารสำคัญให้กมลภู พอดิบพอดีกับตอนที่นภสรยังเคี้ยวข้าวในปากไม่ทันหมดก็สั่งให้คนใช้ตักข้าวให้อีกจานหนึ่ง ฐากูรมเผลอเหลือบไปมองนภสรด้วยสายตาที่อธิบายยาก ผู้หญิงคนนี้กินเยอะขนาดนี้ คงไม่ใช่ว่าท้องแล้วหรอกนะ นภสรรับรู้ได้ถึงสายตาของฐากูรที่กำลังมองมาที่เธอ เธอกลอกตาใส่เขา ดูก็รู้ว่าเขาคงจะตะลึงที่เธอกินเยอะขนาดนี้ เหอะ!ลองมาโดนทรมานแบบฉันดูสักคืนไหมล่ะ! มีเพียงกมลภูที่แอบยกยิ้มยางและดูจะอารมณ์ดีไม่น้อย มื้อค่ำกินเยอะไปหน่อยจริงๆนั่นแหละ นภสรเดินเล่นที่สวน พลางสงสัยว่าฐากูรคุยอะไรกับคุณเก้าที่ห้องสมุดจนนานขนาดนี้นะ ผ่านไปเนิ่นนาน ฐากูรถึงเพิ่งจะเดินออกมาจากตึกหลัก เห้อ จู่ๆนภสรก็ตระหนักขึ้นได้ ว่าการอยู่ข้างกายคุณเก้าก็ไม่ได้ง่ายนักนะ ฐากูรเดินผ่านนภสรพร้อมทักทายเพื่อรักษามารยาท ก็คุณเก้าตามใจเธอขนาดนี้ นภสรตอนนี้ก็ถือเป็นเจ้านายทั้วคนของเอ.เคไปแล้วก็ว่าได้ อะไรที่เขาต้องปฏิบัติกับผู้เป็นนายก็คงเลี่ยงไม่ได้ นภสรพยักหน้าตอบรับ จากนั้นก็เหลือบไปที่แผ่นหลังของฐากูร:"คุณฐากูร คุณยังไหวอยู่ไหมเนี่ย บาดเจ็บขนาดนี้แล้ว เรื่องพวกนี้ทำไมไม่วานให้คนอื่นไปทำซะล่ะ" ฐากูรยิ้มและตอบว่า:"ผมหนังหนาขนาดนี้ไม่เป็นไรหรอกครับ อีกอย่าง เอกสารพวกนี้คือเอกสารลับที่จะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ผมต้องส่งถึงมือคุณเก้ากับตัวก่อนถึงจะวางใจน่ะครับ" "อ้อ!"นภสรพยักหน้า ว่าเเต่หนังหนางั้นเหรอ นภสรมองฐากูรอย่างสำรวจ ดูเป็นตี๋และขาวขนาดนี้ ดูไม่ออกเลยว่าหนังหนาตรงไหน นภสรใช้นิ้วมือแตะไปที่ไหล่ของฐากูรอย่างซุกซน "ซี้ด!"ฐากูรขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น เจ็บจนกลั้นเสียงไว้ไม่อยู่ นภสรเห็นแล้วก็รีบเอามือออกทันที ใบหน้าเล็กพลันฉายแววรู้สึกผิด:"อะ!ขอโทษนะ คงจะเจ็บมากเลยใช่ไหม" เธอไม่ได้มีเจตนาจริงๆนะ แต่คือมันอดไม่ได้จริงๆ "ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้เจ็บมาก"ฐากูรกัดฟันพูดต่อว่า:"ยังดีที่คุณหนูไม่เป็นอะไร ถ้าคุณหนูยังต้องนอนพักอีกหนึ่งวัน ผมกับจิรายุคงจะไม่ใช่แค่โดนไม้เรียวฟาดแน่ๆ" เอ่อ นภสรหน้าหม่นลงทันที อย่าเอาเรื่องน่าอายแบบนี้มาพูดกันซึ่งๆหน้าแบบนี้จะได้ไหม "งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วกระผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"ฐากูรฝืนกัดฟันพูด "งั้นกลับไปเถอะ จะได้รีบไปพัก"นภสรพูดพลางโบกมือลา เมื่ออาหารย่อยได้ที่แล้ว นภสรจึงกลับไปที่ตึกหลัก เข้าลิฟต์และขึ้นไปที่ชั้นสาม ทีแรกกะว่าจะรีบไปเข้านอนทีเดียวเลย แต่แสงสีน้ำเงินที่ลอดผ่านมาจากห้องกระจกทำให้เธอต้องก้าวเดินเข้าไป วิวตรงหน้าสวยสะกดสายตาจนหาที่เปรียบมิได้ ดอกไม้ที่คลับคล้ายกุหลาบสีน้ำเงิน สวยงดงามแต่ซ่อนไว้ซึ่งความลึกลับ กลิ่นหอมเย้ายวนสะกดใจคน ตลบอวลไปทั่วรโหฐาน มันถูกเอามาปลูกไว้ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน มันคือดอกอะไรกันนะ ทำไมถึงได้สวยขนาดนี้ ระหว่างที่นภสรกำลังชื่นชมความงามของดอกไม้อยู่ เสียงฝีเท้าของชายหนุ่มก็ใกล้เข้ามาพร้อมน้ำเสียงอ่อนนุ่มว่า:"ชอบไหม" นภสรหันกลับไปตามต้นเสียง ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ นภสรยิ้มแย้มอย่างเริงร่า:"คุณเก้า นี่ดอกไม้อะไรเหรอคะ หอมแล้วก็สวยสุดๆเลย คล้ายกุหลาบสีน้ำเงิน แต่ส่องแสงได้ด้วย มหัศจรรย์สุดๆไปเลย!" "จริงๆแล้วมันก็เป็นหนึ่งในพันธุ์ของกุหลาบน้ำเงิน แต่เพราะถูกปลูกและดูแลเป็นพิเศษ เลยเป็นดอกไม้พันธุ์หายาก"กมลภูอธิบาย "ฉันชอบนะ ชอบที่สุดเลย!"ดวงตาใสของหญิงสาวพราวระยับ ชื่นชมทะเลดอกไม้สีน้ำเงินที่อยู่ตรงหน้าอย่างตื่นเต้น ใบหน้าเล็กเรียวงามที่อยู่ภายใต้ประกายแสงสีน้ำเงิน งดงามชดช้อยประหนึ่งภูติบุปผากลางทุ่งดอกไม้ กมลภูจดจ้องใบหน้ายิ้มแย้มของหญิงสาว พลันรู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดในโลกสำคัญไปกว่ารอยยิ้มของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเเล้ว จู่ๆเขาก็เหมือนจะเข้าใจแล้ว ว่าทำไมในโลกนี้จึงมีศึกชิงสาวงามจนก่อสงครามกันขึ้น อาจจะเพราะความรักใคร่จนขั้นสุดนั่นเอง "มันเหมือนฝันไปเลย ฉันเริ่มอยากอยู่ที่นี่แล้วสิ!"นภสรพูดพึมพำ เสียงของนภสรดึงกมลภูให้ออกจากภวังค์ เขาหลุบตาลงมองสาวน้อยกลางทุ่งดอกไม้ พร้อมเอ่ยว่า:"งั้นย้ายเตียงมาที่นี่เลยดีกว่า!" "หา!ย้ายเตียง!"นภสรตกตะลึงกับคำพูดของกมลภู ส่วนกมลภูก็กดโทรสั่งให้คนย้ายเตียงไปแล้ว "แต่นี่มันห้องกระจกนะ นอนนี่รู้สึกจะไม่ค่อยปลอดภัยยังไงชอบกล" ต่อมา นภสรรู้อย่างลึกซึ้งทันทีเลยว่าความรวดเร็วทันใจของคนมีตังค์นั้นเป็นยังไง และอะไรที่คุณคิดไม่ถึง คุณเก้าทำมันได้หมด ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เตียงนอนสีขาวก็ถูกตั้งตระหง่านกลางทุ่งดอกไม้ เตียงนอนกว้างใหญ่ถูกครอบบังไว้ด้วยผ้าม่านที่ถูกประดับด้วยลายผีเสื้อโบยบินไปมา ช่างมหัศจรรย์ และงดงามสุดๆไปเลย ผ้าห่มสีขาวบนเตียงก็ดูท่าจะอุ่นและสบายสุดๆ จู่ๆก็มีภาพหนึ่งไหลเข้ามาในหัวของนภสร ภาพที่เธอกับกมลภูนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน อ้ากกกกก!เมื่อกี้เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย ทำไมจู่ๆถึงไปคิดอะไรล่อแหลมแบบนั้นได้ กมลภูที่ยืนอยู่อีกข้างมองดูใบหน้าของนภสรที่อยู่ๆก็แดงเป็นลูกมะเขือเทศ ดวงตาคู่คมพลันฉายแววเจ้าเล่ห์ที่ยากจะเข้าใจ กมลภูดึงหญิงสาวมากอดไว้ในอ้อมอกโดยที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว นิ้วมือเรียวยาวช้อนคางเธอขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาแสนไร้ที่ตินั้นกำลังอยู่ต่อหน้าเธอ เสียงยั่วยวนพลันเอ่ยขึ้นว่า:"นภสร เธอคิดอะไรอยู่งั้นเหรอ" ถูกกมลภูโอบกอดไว้แบบนี้ นภสรหน้าแดงกว่าเดิม จังหวะหัวใจก็เต้นแรงกว่าเก่า ไม่ เธอจะไม่พูดเด็ดขาด! "ฉะฉันไม่ได้คิดอะไรซักหน่อย กะก็แค่อากาศมันร้อนนิดหน่อยน่ะ!"นภสรหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าสบสายตานุ่มลึกเย้ายวนใจของชายหนุ่มตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย "ร้อนเหรอ ใส่เสื้อหนาไปหรือเปล่า ถอดออกบ้างจะดีกว่าไหม"กมลภูหยอกกลับด้วยสีหน้าจริงจัง และก็จะทำจริงซะด้วย "ไม่ ไม่ต้องแล้ว ฉันไม่ร้อนแล้ว!"นภสรตกใจจนขดตัว:"คุณเก้า ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้ก็ใกล้สอบแล้ว ฉันเลยต้องรีบเข้านอนน่ะ เพื่อที่จะได้มีแรงไปสอบ สอบเอาคะแนนดี ตั้งใจเรียนเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เเละเพื่อตอบแทนคุณของคุณเก้าด้วย"นภสรพูดมั่วซั่วไปหมด กมลภูแอบยกยิ้มให้กับท่าทางลุกลนของหญิงสาว พลันก้มลงปิดปากเล็กของเธอที่พูดเจื้อยแจ้วไปมาไม่หยุด บรรยากาศเงียบสงบอันแสนหอมหวานค่อยๆก่อตัวขึ้น เมื่อพอใจแล้ว กมลภูจึงปล่อยนภสร และเปิดปากเอ่ยเสียงอ้อยอิ่งว่า:"รู้แล้ว" นภสรที่ได้รับอิสระแล้วรีบวิ่งหนีเข้าห้องนอนล๊อคประตูแน่นทันที วันนี้ก็เพิ่งจะขาดเรียนไปเอง เธอไม่ต้องการให้ตัวเองตื่นไม่ไหวอีกในวันพรุ่งนี้หรอกนะ! 
已经是最新一章了
加载中