ตอนที่13
ตนที่13
บริษัทของคุณพ่อเฉิงล้มละลายลงเซี่ยหลิงหลิงรู้สึกแปลกใจแต่ก็รู้สึกชอบอกชอบใจ
เธอส่งข้อความไปให้เย่ซีถามไปอย่างสบายๆ:“บ้านและเงินสามล้านเตรียมเอาไว้แล้วหรือยัง?รออยู่นะ”
อีกฝั่งหนึ่งของมือถือเย่ซีที่ได้รับข้อความนั้นรู้สึกโมโหจนแทบจะปามือถือทิ้งใบหน้าของเธอแสดงความดุร้ายเธอบิดและทุบโทรศัพท์หลายที:“ไม่มี!พวกแกจะหย่าหรือไม่หย่ามันเกี่ยวบ้าอะไรกับชั้น!”
เซี่ยหลิงหลิงพูดด้วยท่าทีได้เปรียบ:“พูดคำหยาบแบบนี้ได้ยังไงล่ะคะ”
เย่ซีบล๊อคเธอในทันที
รออยู่สักพักแต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับเซี่ยหลิงหลิงพอจะรู้อยู่บ้างแล้วล่ะว่าเย่ซีคงไม่อยากจะเจอหน้าเธอีกแล้ว
เซี่ยหลิงหลิงยักไหล่น่าเสียดายจังกะจะเยาะเย้ยเย่ซีมากกว่านี้อีกสักหน่อย
จริงๆแล้วเซี่ยหลิงหลิงรู้สึกลังเลและไม่สบายใจตามเนื้อเรื่องในหนังสือต้นฉบับเล่มนี้บริษัทของคุณพ่อเฉิงจะได้รับผลกระทบอย่างหนักในอีกหนึ่งปีต่อมาก่อนจะล้มละลายไปในที่สุดแต่ทำไมในตอนนี้เนื้อเรื่องมันถึงได้เกิดขึ้นเร็วขนาดนี้?เหมือนวลีButterflyeffectซะจริงๆ
แต่ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแนวน่ารักกุ๊กกิ๊กส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอการพัฒนาความสัมพันธ์ความรู้สึกระหว่างพระเอกและนางเอกพล็อตเรื่องจะเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อยก็คงจะไม่สำคัญเท่าไหร่
เซี่ยหลิงหลิงยังจำได้ดีเส้นทางความสำเร็จของพระเอกกู้โหยวไม่ได้พบเจอแต่ไฟเขียวตลอดทางในระหว่างทางนั้นทุกอย่างมีทั้งขึ้นและลงและถ้าเธอจำไม่ผิดล่ะก็ในปีนี้กู้โหยวจะถูกลูกน้องหักหลังทรุดไประยะนึงเลยทีเดียว
นางเอกมีความทรงจำของชีวิตในอดีตอยู่รู้ว่าเขาจะสามารถประสบความเร็จชีวิตรุ่งโรจน์ได้ในอนาคตเธอไม่ปล่อยให้กู้โหยวอยู่ตัวคนเดียวในช่วงสำคัญของชีวิตแต่คอยให้การแนะนำเขาอย่างอบอุ่นนุ่มนวลขอร้องอ้อนวอนให้เขาอดทนและพยายามต่อไปทำให้กู้โหยวรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากและในเวลาเดียวกันนั้นเองทั้งสองคนตกลงปรงใจกันจากนั้นกู้โหยวก็เดินตามทางตามแบบฉบับสนุขที่จงรักภักดี
และไม่นานหลังจากนั้นกู้โหยวผันตัวมาเป็นดาวรุ่งในวงการE-sportsค่าตัวพุ่งขึ้นสูงและสุดท้ายก็ได้แต่งงานกับนางเอก
เซี่ยหลิงหลิงคิดการที่คนเราสามารถย้อนกลับไปในอดีตได้อีกครั้งมันจะทำให้เรามีชีวิตที่สุขสบายได้จริงเหรอ?
อย่างไรก็ตามหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในหน่วยความทรงจำและความเปลี่ยนแปลงนอกเหนือจากสิ่งที่คาดคิดนั้นเริ่มมากขึ้นเรื่อยก็กลัวว่าจะทำให้คนเกิดความตื่นตระหนกและลเมื่อเป็นแบบนี้ผู้คนในพุทธศาสนาก็ยังคงเป็นชาวพุทธพวกเขาสามารถสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้ซึ่งมีค่าควรแก่การชื่ชม
เซี่ยหลิงหลิงหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายเซลฟี่ใบหน้าตัวเองเอาไว้มีความรู้สึกเวทนาตัวเองขึ้นมา
เธอถอนหายใจ
เฉิงรุ่ยที่กำลังจะไปเติมน้ำบังเอิญเดินผ่านมาได้ยินเสียงถอนหายใจเขามองไปที่เซี่ยหลิงหลิงก็ได้ยินเธอพรึมพรำกับตัวเองเบาๆ:“ฉันไมฉันถึงได้สวยขนาดนี้นะ?”
เฉิงรุ่ย:“......”
......
เกมถูกออนไลน์ขึ้นมาอีกครั้ง
เซี่ยหลิงหลิงออนไลน์เข้าเกมปุ๊ปก็เห็นเพื่อนๆหลายคนกำลังออนไลน์อยู่เธอเรียกพวกเขาให้มาเล่นเกมด้วยกันอย่างร่าเริงพอดีกับที่ช่วงนี้มีภารกิจให้ช่วยกันเล่นเป็นทีมจะได้รับอุปกรณ์ตัวใหม่ล่าสุดมาใช้ม้าไป๋หลงเรียกเพื่อนจำนวนหนึ่งให้มาเล่นเกมด้วยกันอย่างดีอกดีใจ
เติ้งปู้ลี่เซ่า:ฉันขาดอัศวินคนนึงมีใครสนใจบ้าง?
ม้าไป๋หลง:“รอก่อนเดี๋ยวไปดึงมาจากในแก๊งให้คนนึง”
ผ่านไปไม่นานม้าไป๋หลงแชทส่วนตัวมาหาเซี่ยหลิงหลิง
ม้าไป๋หลง:หลิงหลิงจ๊ะท่านมหาเทพบอกว่าเข้าว่างเธอโอเคมั้ย?
เซี่ยหลิงหลิงลังเลอยู่ครู่นึงถ้ายังปฎบัติเสธอีกในตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นการดีมั้ยคนก็มากันครบหมดแล้วหากเธอจะไม่ยอมเล่นเพราะกู้โหยวแบบนั้นอาจจะทำให้คนอื่นๆคิดว่าระหว่างพวกเขาสองคนนั้นมีอะไรกันจริงๆเพียงแค่ไม่คุยกันเองส่วนตัวก็คงพอแล้ว
หลิงหลิงหลิง:อื้มโอเค
ม้าไป๋หลง:งั้นดีเล๊ย!
สัตว์ประหลาดในแผนที่ขนาดเล็กนี้โจมตียากเซี่ยหลิงหลิงทำได้เพียงแค่คอยเดินตามหลังเพื่อเติมเลือดให้คนอื่นๆเท่านั้นกู้โกว๋เสินโหยวเปิดไมค์ขึ้นมาจัดการวางแผนให้ทุกคนว่าต่อไปควรโจมตีอย่างไรเสียงของเขาเพราะมากเป็นเสียงนุ่มๆทุ้มๆ
จากนั้นทุกคนก็ทยอยเปิดไมค์คุยกัน
ม้าไป๋หลงพูดว่า:สาวน้อยหลิงหลิงเธอก็เปิดไมค์ด้วยสิ!
หลิงหลิงหลิง:ไม่ดีกว่าเสียงฉันไม่เพราะ
ม้าไป๋หลง:มันจะแย่แค่ไหนกันเชียว
หลิงหลิงหลิง:แย่ซะจนนายอาจจะบล๊อคฉันไปเลย
กู้โกว๋เสินโหยวหัวเราะออกมาก่อให้เกิดเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวๆในทีม:“เสียงท่านมหาเทพเพราะสุดๆไปเลย!”
เซี่ยหลิงหลิงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
เกมตานี้กู้โกว๋เสินโหยวนำทีมได้อย่างคงเส้นคงวาเซี่ยหลิงหลิงแทบจะไม่ได้เติมเลือดให้ใครเลยเหมือนแค่มาตามดูพวกเขาเล่นอยู่อย่างเงียบๆเท่านั้นเธอยืนมองกู้โกว๋เสินโหยวในขณะที่คอยเป็นผู้บังคับบัญชาแล้วก็ยังใช้ท่าไม้ตายด้วยความมั่นใจจนฆ่าสัตว์ประหลาดตายได้ในที่สุดคนที่เก่งที่สุดในสนามแข่งนี้ก็คงจะเป็นเขาอย่างแน่นอน
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวๆต่างพากันชื่นชอบท่านมหาเทพขนาดนี้เพราะในตอนนี้กู้โกว๋เสินโหยวดูมีเสน่ห์มาก
เมื่อได้อุปกรณ์ใหม่ล่าสุดมาแล้วม้าไป๋หลงก็ให้เซี่ยหลิงหลิงเลือกก่อนอุปกรณ์บนตัวของเซี่ยหลิงหลิงที่เสียเงินซื้อมายังดีกว่าของพวกนี้ตั้งเยอะเธอจึงหยิบเอาแหวนมาวงนึงให้พอเป็นพิธีก่อนจะออกจากแผนที่ไปพร้อมกับพวกเขา
เซี่ยหลิงหลิงกะว่าจะออฟไลน์
เติ้งปู้ลี่เซ่า:เรามาเล่นกันอีกสักสองสามตาเถอะนานๆจะมีสาวน้อยที่เล่นตัวคุณหมอแล้วไม่ง้องแง้งงอแงแถมฝีมือก็ไม่ได้แย่
ก่อนหน้านี้ตอนเล่นเป็นทีมก็ถูกหลอกไปหลายครั้งนักทิพย์บางคนเล่นไม่ดีไม่ว่าเมื่อออกอุปกรณ์ตัวใหม่ล่าสุดมาก็มักจะมาทำเสียงออดเสียงอ้อนเรียกพี่ชายก็มีและผู้ชายที่ชอบเล่นเกมเพียงอย่างเดียวเท่านั้นและผู้หญิงประเภทแบบนี้แหละที่ยอมรับผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้มากที่สุดแต่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆก็ยังคงตกหลุมกับมุขพวกนั้นอยู่
เขาไม่ได้รู้สึกหดหู่ใจอะไร
แต่เมื่อเทียบกันแล้วแวบเดียวก็รู้สึกได้เลยว่าผู้หญิงที่พูดน้อยแถมตรงไปตรงมาอย่างหลิงหลิงหลิงดูไม่เลวเลย
หลิงหลิงหลิง:......ขอบคุณที่ชม
คนในทีมจำนวนหนึ่งเริ่มเปลี่ยนอุปกรณ์ของตัวเองเตรียมตัวเข้าไปเล่นด่านที่อันตรายและยากกว่าหากไม่ใช่เพราะว่ามีกู้โกว๋เสินโหยวอยู่ด้วยพวกเขาก็คงไม่กล้าเข้าไปกันเองแน่นอนไม่แน่ว่าการอยู่กับท่านมหาเทพอาจจะทำให้ได้อุปกรณ์ระดับเทพขึ้นมาก็เป็นได้
เซี่ยหลิงหลิงก็ยืนเป็นผีดิบต่อไป
กีบไปฟ้า:สาวน้อยหลิงหลิงเธอเล่นเกมไม่เอาอุปกรณ์และก็ไม่อัพเลเวลแล้วจะเล่นไปทำไม
หลิงหลิงหลิง:ดูวิวไงวิวในนี้สวยจะตาย
ม้าไป๋หลง:ฮิฮิเธอน่าสนใจจริงๆ
กู้โกว๋เสินโหยว:สวยจริงๆ
ม้าไป๋หลง:โหยโหยโหยท่ามหาเทพหมายถึงอะไรเหรอหมายถึงคนหรือวิวหรา
ม้าไป๋หลงไม่ค่อยถูกชะตากับไป๋อีเซวียนเซวียนใครๆก็ดูออกว่ากู้โกว๋เสินโหยวมีความรู้สึกดีๆให้กับหลิงหลิงหลิงเธอสนับสนุนให้ทั้งคู่ชอบกันจริงๆที่ส่งมุขไปแบบนั้นก็เพื่อให้ทั้งคู่มีโอกาสสานสัมพันธ์กันได้นั่นเอง
เซี่ยหลิงหลิงขมวดคิ้วตามหลักแล้วกู้โหยวอาจจะหมั้นกับไป๋เซวียนเซวียนไปแล้วมาแซวคนอื่นแบบนี้ถือว่าไม่สมควรเลยจริงๆ
ในหนังสือกู้โหยวเป็นคนที่อ่อนโยนและทรงพลังไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรจะเกิดเรื่องอะไรแบบนี้ขึ้นมาเลยด้วยซ้ำเขาจะยังหยอกล้อกับผู้หญิงคนอื่นๆทั้งที่มีคู่หมั้นแล้วแบบนี้ได้ยังไง?
หรือว่า......การตั้งค่าตัวละครคนเดิมของกู้โหยวถูกทำลายคงงั้นเหรอ
เซี่ยหลิงหลิงงงและไม่เข้าใจกับความคิดของตัวเองนี่มันคือโลกแห่งความจริงที่คงไม่มีอะไรอะไรจริงไปกว่านี้แล้วเฉิงรุ่ยไม่ได้เย็นชาและไร้ความรู้สึกขนาดนั้นบางทีเธอก็ไม่ควรเอานิสัยที่เขียนบอกไว้ในหนังสือมาเทียบกับผู้ชายตรงหน้าคนนี้เช่นกัน
ในขณะที่เขาวิพากษ์วิจารณ์อยู่นั้นม้าไป๋หลงก็เงียบสักครู่ก่อนจะพูดว่า:คือว่า......ไป๋อีเซวียนเซวียนบอกว่าจะขอเข้ามาเล่นด้วย
ไป๋อีเซวียนเซวียนเล่นตัวนักทิพย์เหมือนกันเซี่ยหลิงหลิงเห็นว่านี่เป็นโอกาสชิ่ง:ถ้าอย่างงั้นฉันออกดีกว่า
เติ้งปู้ลี่เซ่า:ไม่ต้องหรอกมันว่างอยู่ตำแหน่งนึงพอดีสนามหน้าค่อนข้างอันตรายมีนักทิพย์ไว้เผื่อสองคนดีกว่า
ตาของเซี่ยหลิงหลิงกระตุกชื่อของไป๋อีเซวียนเซวียนโชว์ขึ้นบนตารางของทีมเธอเปิดไมค์ขึ้นมาอย่างรวดเร็วเสียงนุ่มนุ่มเบาเบา:สาวน้อยหลิงหลิงอุปกรณืป้องกันของฉันไม่ค่อยดีเท่าของเธอเดี๋ยวเธอพาฉันไปด้วยสิ
เซี่ยหลิงหลิงไม่มั่นใจว่าเธอพูดแดกดันหรือเธอไม่ได้คิดอะไรแล้วจริงๆ
หลิงหลิงหลิง:อื้มฉันเป็นนักเติมเกมฉันสามารถช่วยแนะนำแพกเกจเติมเงินดีๆให้เธอได้นะ
เพียงคำเดียวสามารถทำให้อีกฝ่ายถึงกับเหวอได้
กู้โกว๋เสินโหยว:คริคริ
ไป๋อีเซีวยนเซวียนเริ่มไม่พอใจแล้ว:พี่โหยวคะนี่พี่หัวเราะเยาะฉันเหรอคะ
กู้โกว๋เสินโหยว:เปล่าเรามันเล่นเกมกันต่อดีกว่า
เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันทีกับคำที่ว่า“พี่โหยวคะ”ความโกรธสุดขั้วกระแทกลงมาเหมือนสายฟ้าฟาดพระเจ้าช่วยเสียงที่น่าอายแบบนั้นเขากล้าพูดมันออกมาได้ยังไงกัน!
ม้าไป๋หลงอาศัยจังหวะที่ยังไม่ได้เข้ากลุ่มทักแชทส่วนตัวมาหาเซี่ยหลิงหลิง
ม้าไป๋หลง:การออดอ้อนของผู้หญิงถือเป็นเครื่องมือพิฆาตเลยน้า
หลิงหลิงหลิง:......อย่างงั้นเหรอ
ม้าไป๋หลง:เธอก็ลองเอาไปใช้บ้างสิผู้ชายมักจะชอบอะไรแบบนี้
หลิงหลิงหลิง:อืม......
ในขณะที่พูดการเข้าสู่แผนที่ก็ดาวน์โหลดเสร็จสมบูรณ์เสียงนุ่มๆของกู้โกว๋เสินโหยวก็ดังขึ้น:นักทิพย์ทั้งสองคนเดินตามหลังมาเลยนะฉันจะดูแลพวกเธอเองวางใจได้
ด้านนี้เล่นยากมากเพราะเลือดของbossนั้นมีความหนาแน่นมากเลือดสามารถเต็มขึ้นมาได้เองยังไม่พอแต่มันยังสามารถเรียกเหล่าทหารมรณะได้อีกด้วยเซี่ยหลิงหลิงเป็นผู้เล่นสายธรรมะเธอจึงถูกฉากที่ดุร้ายน่ากลัวนี้ทำให้เธอรู้สึกตกใจกลัวแต่ก็ยังคงป้องกันในแนวหน้าอย่างมั่นคง
“เห้ยห้ยเห้ย!!เติมเลือดเติมเลือดฉันจะตายแล้ว”
“ไปไปไปไปอย่าให้มันกักเอาไว้ได้”
“นิ่งก่อน!”กู้โกว๋เสิ้นโหยวคือคนเดียวที่ดูมีสติที่สุด
เซี่ยหลิงหลิงเหนื่อยจนมือแทบจะเป็นตะคริวอยู่แล้วในขณะที่กำลังยืนหลบจากการถูกโจมตีอย่างระมัดระวังอยู่อีกด้านนึงก็เฝ้ารอเวลาเพื่อใช้สกิลการแช่แข็งเวลาคอยช่วยเหลือพวกเขาอยู่เรื่อยๆ......แม้ว่าเลเวลของเธอจะไม่ได้สูงอะไรมากนักมีเพียงแค่อุปกรณืในตัวที่ดีจนพอจะทำให้รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาบ้างแถมยังวิ่งไปวิ่งมาอย่างขยันขันแข็งนับได้ว่าช่วยได้มากเลยทีเดียว
เซี่ยหลิงหลิงรอเลือดเต็ม—ถูกฆ่าตาย—รอฟื้นคืนชีพ—รอเลือดเต็ม
แต่ที่แตกต่างออกไปจากเซี่ยหลิงหลิงก็คือเห็นได้ชัดว่าไป๋อีเซวียนเซวียนที่เลเวลสูงกว่าเธอเป็นสิบขั้นตั้งใจเกาะติดอยู่กับกู้โกว๋เสินโหยวตลอดเวลาคอยเติมเลือดให้เพียงแค่กู้โกว๋เสินโหยวเพียงคนเดียวโดยไม่สนใจคนอื่นๆเลย
การต่อสู้ในตานี้ดำเนินไปอย่างยากลำบากเมื่อเกมจบปุ๊บเติ้งปู้ลี่เซ่าก็พูดออกมาทันที
“เออไป๋อีเซวียนเซวียนทำไมเธอถึงคอยเติมเลือดให้แค่ท่านมหาเทพคนเดียวล่ะ?พวกเราไม่ใช่คนหรือยังไง”
“โชคดีที่มีสาวน้อยเซี่ยหลิงหลิงอยู่ด้วยไม่งั้นพวกเราคงได้หดหู่ตายแน่เลย”
“นั่นน่ะสิเธอลำเอียงมากไปแล้วนะ”
......
ทุกคนต่างก็รู้สึกไม่พอใจบ่นอุบอิบกันอย่างไม่หยุดหย่อนขณะเดียวกันนั้นกู้โกว๋เสินโหยวก็เปิดปากพูดขึ้นมาแล้ว:“เอาอุปกรณ์ที่ดีที่สุดอันนั้นให้หลิงหลิงหลิงไปเลยไม่มีใครขัดอะไรใช่มั้ย”
หลิงหลิงหลิงคอยช่วยชีวิตพวกเขาอย่างสุดกำลังแล้วอุปกรณ์ชิ้นนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเติมเลือดโดยเฉพาะเหมาะกับตัวละครนักเทพที่สุดทุกคนต่างพากันเห็นด้วยมีเพียงไป๋อีเซวียนเซวียนเท่านั้นที่เกิดอาการไม่พอใจ:“แต่พี่โหยวเป็นคนทำให้ได้มันมานะ”
ในตอนนั้นเสียงของกู้โกว๋เสิ้นโหยวก็เริ่มดุดันขึ้นเล็กน้อย:“เซวียนเซวียนพอได้แล้ว”
เซี่ยหลิงหลิงรับอุปกรณ์พิเศษนั้นมาจริงๆแล้วเธอก็ไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรไป๋อีเซวียนเซวียนจะต้องรู้สึกเกลียดเธอแล้วแน่ๆเพียงแต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะหาวิธีอะไรมาแก้แค้นเธอหรือเปล่า
ในความคิดของเซี่ยหลิงหลิงเธอมองว่านี่เป็นเพียงแค่เกมเท่านั้นเธอสามารถออกจากเกมได้ตลอดเวลามันก็แค่เรื่องเล็กๆเท่านั้น
แต่กับไป๋อีเซวียนเซวียนแล้วมันคือเรื่องใหญ่เลยล่ะ
นอกจากจะไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นเลยแถมยังทำให้กู้โหยวเกิดความไม่พอใจอีกเธอร้องห่มร้องไห้ไปขอให้เพื่อนสนิทช่วยปลอบใจในบทสนทนานั้นเต็มไปด้วยคำพูดที่ว่าหลิงหลิงหลิงแย่งแฟนของเธอไปไม่เห็นความผิดตัวเองแถมยังโทษว่าเป็นความผิดคนอื่น
อีกด้านหนึ่งเซี่ยหลิงหลิงเดินออกมาจากห้องนอนพอดีกับที่เฉิงรุ่ยเดินเข้าบ้านมาพอดี
จู่ๆในสมองก็ผุดคำพูดที่ม้าไป๋หลงเคยพูดไว้ขึ้นมา
เซี่ยหลิงหลิงเดินเข้าไปเขาก่อนจะเรียกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน:“พี่เฉิงคะ~”เค้าอยากกินเสี่ยวหลงซา~
คำพูดท่อนหลังไม่ทันได้พูดออกไปเฉิงรุ่ยตกอยู่ในความตกใจเปลือกตาที่ปกติจะดูขี้เกียจเริ่มขยิบขึ้นมาเล็กน้อยตาแข็งไปในทันทียังไม่ทันได้เปลี่ยนรองเท้าก็เดินตรงเข้ามาที่ห้องรับแขกทันที
เซี่ยหลิงหลิง:“??นายทะอะไรน่ะ?”
เฉิงรุ่ยรีบเดินกลับมาในมือของเขามีที่วัดไว้ถืออยู่......
“วัดไข้หน่อย”
เซี่ยหลิงหลิง:“......”
เดี๋ยวนะนี่เขาคิดว่าเธอไข้ขึ้นก็เลยเกิดอาการเพ้อเจ้องั้นเหรอ?ไหนบอกว่าผู้ชายทุกคนชอบอะไรแบบนี้ไง?ความมั่นใจที่เซี่ยหลิงหลิงพกมาเต็มอกได้ถูกทำลายลงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เซี่ยหลิงหลิงอายจนรู้สึกโกรธ:“นายเป็นผู้ชายภาษาอะไรกันเนี่ย!”รีบหันหลังเดินเข้าห้องแล้วปิดประตูลงทันที
เฉิงรุ่ยยืนอยู่ที่เดิมมองดูประตูที่ปิดสนิทลงนั้นอยู่เงียบๆ
โทรศัพท์มีเสียงดังติ๊ดขึ้นมาเป็นเสียงเตือนจากข้อความวีแชท
เซี่ยหลิงหลิง:“ฉันอยากกินเสี่ยวหลงซาของร้านสวีจี้อนุญาติให้นายตอบได้แค่อืมไม่งั้นไม่ต้องคุยกัน1อาทิตย์”
เฉิงรุ่ยตอบกลับทันควัน
“อืม”
ร้านสวีจี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านนักเฉิงรุ่ยไม่ชอบทานข้าวนอกบ้านแต่ก็ยอมออกไปซื้อกุ้งจนได้
เซี่ยหลิงหลิงกำลังจะชื่นชมเขาสักหน่อยแต่ในทันใดนั้นก็มีข้อความเด้งขึ้นมาในวีแชทของเธอเป็นข้อความจาก“ม้าไป๋หลง”
“หลิงหลิงเธอถูกเอาไปพูดถึงในฟอรัมเกมตอนนี้คนเข้าไปดูกันเต็มเลย!”