ตอนที่ 21
ตนที่ 21
เซี่ยหลิงหลิงไม่ได้ตั้งใจที่จะเมินเฉิงรุ่ย แต่เป็นเพราะเดิมทีนั้นเธอไม่ได้มองว่าจะเอาเฉิงรุ่ยมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะไปเที่ยวด้วย
เธอคิดแล้วคิดอีก ตัวเองก็ไม่มีเพื่อน เหงาและโดดเดี่ยวมาก ตอนแรกก็คิดอยากจะขายตั๋วไป แต่เพราะทริปสามวันสามารถพาไปได้เพียงสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น และยังคิดว่ากิจกรรมทุกอย่างจะต้องเข้าร่วมด้วยกัน หลังจากที่คิดทบทวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เซี่ยหลิงหลิงก็ตัดสินใจว่าจะไปคนเดียว
เฉิงรุ่ย? เฉิงรุ่ยไม่มีทางไปกับเธอแน่ๆ
เซี่ยหลิงหลิงไม่อยากจะทำคุณบูชาโทษ ก็เลยปฏิเสธความเป็นไปได้นี้อย่างเด็ดขาด
เธอเตรียมแผนการท่องเที่ยวอย่างดีอกดีใจ หลังจากที่เธอยืนยันข้อมูลส่วนตัวกับฝ่ายบริการลูกค้าของหรูเมิ่งลิ่ง และ ได้อธิบายว่าตัวเองจะไปเที่ยวคนเดียว จากนั้นเซี่ยหลิงหลิงก็สอบถามสภาพอากาศและตำแหน่งที่ตั้งของที่ที่จะไปอย่างละเอียด แล้วพอพบว่าที่จริงแล้วเป็นชายหาดส่วนตัว เธอก็เตรียมชุดบีกินี่สำหรับใส่ไปชายหาดด้วยความดีใจอย่างสุดชีวิต
แม้ว่าเธอจะว่ายน้ำไม่เป็น แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของการที่จะไปอาบแดดที่ชายหาด
เซี่ยหลิงหลิงในตอนนี้รู้สึกเสียดายขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าหากเธอได้ไปเที่ยวด้วยกันกับเพื่อน จะต้องได้รูปสวยๆ ติดไม้ติดมือกลับมามากมายอย่างแน่นอน
ในวันที่เซี่ยหลิงหลิงมีความสุขกว่าปกติสิบเท่า เฉิงรุ่ยกลับเงียบเหงาอยู่ในออฟฟิศ
ถ้าหากรู้จักกันมานาน รู้นิสัยของเขา ก็จะเข้าใจดีว่าตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีอย่างแน่นอน คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ คิดว่าเกมเป็นตัวสร้างปัญหา วิ่งแจ้นไปตรวจสอบอย่างหวาดกลัวและระมัดระวัง มีแต่ถูหนานเท่านั้นที่รู้ดีว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น
เรื่องนี้งานเข้าแล้ว
ยิ่งออกตัวปกป้องมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแย่หนักกว่าเดิม
เขาก็ไม่สบายใจเหมือนกัน ทั้งสองคนทะเลาะกันรึเปล่า ทำไมพี่สะใภ้กลับไม่พาบอสไปเที่ยวด้วยกันล่ะ
ในใจของเขาร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับมีพายุมรสุมก่อตัวอยู่ ภายนอกที่ยังดูเหมือนเสนาธิการหัวหมาที่ดูจริงใจ ค่อยๆเดินมาที่ข้างๆ เฉิงรุ่ย
ไม่ทันไร อารมณ์สีหน้าของถูหนานก็ดูซับซ้อนขึ้นมา
เขาคิดว่าเฉิงรุ่ยยุ่งกับการทำงาน ใครจะไปรู้ว่าหน้าจอโน๊ตบุ้คปรากฏให้เห็นหน้าต่างแชทของวีแชทที่แชทกับเซี่ยหลิงหลิง แต่แชทว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย เฉิงรุ่ยอดทนรอมาตั้งแต่เช้า ไม่รู้ตัวว่าจ้องโดยไม่ขยับไปไหน อยู่นานเท่าไหร่แล้ว
ถูหนาน: “เอ่อ...บอส พวกคุณทะเลาะกันเหรอครับ”
เฉิงรุ่ยยังคงเงียบอยู่อย่างเดิม
ถูหนาน
หลิงหลิงหลิง: “เหอะๆ งั้นเอางี้ดีมั้ย! ฉันจะส่งข้อความแบบเป็นทางการสั้นๆอีกครั้ง เพื่อประกาศแจ้งให้ชัดเจนว่านายก็ถูกรางวัล พวกคุณก็จะได้ไปเที่ยวด้วยกันเลย ดีมั้ย”
เฉิงรุ่ยไม่พูดอะไร บนหน้าจอโน๊ตบุ้คสะท้อนให้เห็นโครงหน้าของเขาอย่างเลือนราง ดวงตาทั้งสองจ้องเขม็งตรงไปที่เขา ทำให้ถูหนานตกใจจนสะดุ้งเฮือก
ในใจของเขาเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับพายุมรสุมอีกครั้ง เขาก่นด่าว่าตัวเองปากเปราะ พูดเรื่องไม่เข้าท่าเข้าให้แล้ว!
ถูหนานหน้าเบ้ไป และพูดว่า: “ผมไม่รู้ว่าพวกคุณสามีภรรยาทะเลาะกัน ถ้ารู้ผมคงไม่กล้าเข้าไปยุ่ง”
ถ้าเซี่ยหลิงหลิงได้ยินคำที่ถูหนานพูดก็เกรงว่าจะขำจนตาย
ทะเลาะงั้นเหรอ? ใครที่กล้าทะเลาะกับเฉิงรุ่ย ก็ถือว่าคนนั้นแพ้!
*
ในตอนเย็น
เซี่ยหลิงหลิงกำลังยัดอุปกรณ์ที่ซื้อมาเพื่อการลาพักร้อนลงในกระเป๋า ยังมีเวลาที่จะเตรียมข้าวของอีกสามวัน เธอต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อเลี่ยงไม่ให้มีของอะไรตกหล่น
เธอกำลังวุ่นอยู่กับการยัดผ้าขนหนูลงกระเป๋า แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความเย็นที่มาจากด้านหลัง
เซี่ยหลิงหลิง: “?”
เธอเงยหน้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกของตัวเอง แต่กลับเห็นว่าเฉิงรุ่ยยืนมองดูการเคลื่อนไหวของเธออยู่ข้างๆ
บนใบหน้าของเฉิงรุ่ยไร้ซึ่งความรู้สึก เขาถือยาคูลท์หนึ่งแพ็คด้วยมือเดียว แล้วฉีกถุงพลาสติกที่ห่อหุ้มอยู่อย่างเชื่องช้า เขามองไปที่เซี่ยหลิงหลิงด้วยสายตาที่สุขุมเยือกเย็นเป็นอย่างมาก
เซี่ยหลิงหลิง: “...นายว่างเหรอ?”
เฉิงรุ่ย: “อืม”
“พอดีเลย ช่วยฉันเก็บข้าวของจุกจิกพวกนี้หน่อยสิ”
ทันทีที่พูดจบ เซี่ยหลิงหลิงก็นึกขึ้นมาได้ว่าเฉิงรุ่ยยังไม่รู้เรื่องที่เธอจะไปเที่ยว และในระหว่างที่เธอไปเที่ยวสี่ห้าวัน เฉิงรุ่ยก็จำเป็นต้องจัดการปัญหาเรื่องอาหารการกินด้วยตัวเอง
เซี่ยหลิงหลิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที มิน่าล่ะเฉิงรุ่ยถึงแอบมามองดูอย่างเงียบๆ
“จริงสิ ลืมไปเลยว่ามีเรื่องจะคุยด้วย”
“ว่ามาสิ”
เฉิงรุ่ยหันหน้ามาพร้อมกับดื่มยาคูลท์ด้วยท่าทางที่สุขุมและสงบนิ่ง สายตาของเขามองไปยังที่เซี่ยหลิงหลิงอยู่ และสามารถรู้ได้ก่อนล่วงหน้าว่าเซี่ยหลิงหลิงจะพูดอะไร
“ฉันถูกจับได้รางวัล จะต้องออกไปเที่ยวสามสี่วัน ในช่วงสามสี่วันนี้คุณดูแลตัวเองด้วยนะ อย่ากินอาหารขยะล่ะ…”
เฉิงรุ่ย: “......”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกมาตลอด เหมือนว่าเขาดูไม่ค่อยจะดีใจ
การที่อยู่ด้วยกันมานานนั้นได้สร้างความเข้าใจโดยปริยาย เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกเหมือนมีแสงวาบขึ้นมาในหัว และรีบเก็บข้อมูลจากเฉิงรุ่ยทันที เธอลูบๆหน้าอกตัวเองแล้วพูดว่า “คุณวางใจเถอะ เดี๋ยวฉันกลับมาจะทำอาหารให้ชุดใหญ่เลย! นายอยากกินอะไรฉันก็จะทำให้กิน!”
เฉิงรุ่ย: “......”
เซี่ยหลิงหลิงเห็นท่าทีที่นิ่งเฉยไม่ขยับไปไหนอยู่อย่างเดิมของเขา เธอไม่เข้าใจว่าเฉิงรุ่ยยังรออะไรอยู่อีก
เฉิงรุ่ยเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า “ไปคนเดียวเหรอ”
“ใช่สิ คิดว่าจะมีบุคคลที่สองด้วยเหรอ” เซี่ยหลิงหลิงโต้กลับอย่างเป็นธรรมชาติ “ทำไมเหรอ มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“เปล่า”
“งั้นก็รีบมาช่วยฉันเลยเถอะ คืนนี้ยังมีเรื่องอีกเยอะ”
“มือเคล็ด”
เซี่ยหลิงหลิง: “?.”
เขาหมุนตัวเดินไปที่ห้องหนังสือแล้วปิดประตู
ทิ้งเซี่ยหลิงหลิงให้มองประตูที่ปิดสนิทอยู่ตามลำพัง
ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง บัญชีทางการของหรูเมิ่งลิ่งส่งข้อมูลมาให้เซี่ยหลิงหลิงหลายข้อความ ข้อความทั้งหมดล้วนแต่ส่งมาเพื่อรับการยืนยันจากเธอว่าจะไปเที่ยวคนเดียวจริงๆ บอกเธอว่าผู้หญิงตัวคนเดียวไปเที่ยวคงไม่สะดวก และแนะนำว่าทางที่ดีคือควรพาคู่หูไปด้วยอีกคน
ฝ่ายคู่สนทนาเน้นย้ำว่าทริปในครั้งนี้มีอาหารอร่อยและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แนะนำให้พาคนที่รักในการกินและการชมวิวมาเที่ยวด้วยกันเป็นคู่หู
พอพูดถึงอาหารอร่อย เซี่ยหลิงหลิงก็นึกถึงเฉิงรุ่ยเป็นคนแรก
ที่เธอไม่รู้ก็คือ คนที่ส่งข้อความหาเธอคือถูหนานที่ร้องไห้โอดครวญทำโอทีอยู่ในออฟฟิศ เขาจะต้องอ้อนวอนให้เซี่ยหลิงหลิงพาเฉิงรุ่ยไปเที่ยวด้วยกันให้ได้ ถ้าเธอไม่ได้พาเฉิงรุ่ยไปด้วย ก็เกรงว่าในช่วงสองสามวันที่เธอไปเที่ยวจะกลายเป็นนรกของพวกเขา
บอสเป็นพวกบ้าทำโอที จะต้องยื้อให้พวกเขาทำโอทีด้วยกันแน่ๆ!
เขายังต้องการใช้วันหยุดประจำปีของเขาเพื่อการนัดบอร์ด เขาไม่อยากจะอยู่โสดๆ อย่างเจ็บปวดใจไร้คนรักแบบนี้อีกต่อไปแล้ว เขาได้แต่ภาวนาให้พี่สะใภ้ตกลงพาเฉิงรุ่ยไปด้วย!
เซี่ยหลิงหลิงรู้ในภายหลังว่า ที่เฉิงรุ่ยอารมณ์ไม่ดีน่าจะเป็นเพราะเธอไม่ได้เรียกให้เขาไปด้วย
ข้อสรุปนี้ออกมาแล้ว ตัวเซี่ยหลิงหลิงเองก็แทบไม่เชื่อ
แต่ว่าอารมณ์และท่าทางของเฉิงรุ่ยเมื่อครู่ก็ดูผิดไปจากปกติจริงๆ
“......”
เซี่ยเหลิงหลิงเดินไปถึงหน้าประตูห้องหนังสือของเฉิงรุ่ยเงียบๆ แล้วเคาะประตูสองที “เฉิงรุ่ย หลับอยู่รึเปล่า ฉันมีอะไรอยากจะคุยด้วยสักหน่อย”
พอเธอพูดออกมา ประตูก็ถูกเปิดทันที เฉิงรุ่ยสวมชุดนอนลายตารางหมากรุกสีน้ำเงิน สภาพเขาดูเหนือยล้าและขี้เกียจ เขากดตาต่ำมองลงมาที่เซี่ยหลิงหลิง และพูดว่า “ผมจะนอนแล้ว มีอะไรก็รีบพูดมาเลย”
เซี่ยหลิงหลิง: “...” เชื่อก็บ้าแล้ว กางเกงยังไม่ทันได้เปลี่ยนก็จะเข้านอนเลยได้ยังไง
เซี่ยหลิงหลิงยืนกอดอกพิงกำแพงและถามเขาว่า “ทริปนี้ นายมีความเห็นอะไรมั้ย”
เฉิงรุ่ยเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงข้างเดียวอยู่พักหนึ่ง
“อยากชวนผมเหรอ?”
เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถูกเขาล่อให้ติดกับ “...ใช่”
เฉิงรุ่ยถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง “ต้องเก็บของ นั่งเครื่องบินไปบินกลับก็เหนื่อย แถมไม่สบาย อาหารบนเครื่องบินก็ไม่อร่อย…”
เซี่ยหลิงหลิงขมวดคิ้ว และขัดคำพูดของเขา
“แล้ว จะไปด้วยรึเปล่า”
“ไป”
“……”
*
ถูหนานส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจอยู่ในออฟฟิศ เขาตื้นตันจนน้ำตาจะไหลท่วมหน้า “เยี่ยมไปเลย!บอสจะไปพักร้อนแล้ว!ในที่สุดพวกเราก็เที่ยวอย่างมีความสุขได้แล้ว!”
ในตอนที่เขาพูดอยู่ หยางหลิวก็เดินเข้ามาพอดี
สีหน้าของหยางหลิวดูผิดหวังเล็กน้อย เมื่อก่อนในเวลานี้เฉิงรุ่ยจะยังอยู่ออฟฟิศ แต่ช่วงนี้เฉิงรุ่ยกลับบบ้านเร็วบ่อยขึ้นเรื่อยๆ และกลับเร็วขึ้นเรื่อยๆ
พอได้ยินคำพูดของถูหนาน หยางหลิวก็พูดขึ้นมาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน “เขาไปพักร้อนเหรอ?”
อย่างเฉิงรุ่ยพักร้อนด้วยเหรอ?
ถูหนานพูดออกมาอย่างมีความสุข “ใช่ครับ ไปด้วยกันกับพี่สะใภ้น่ะ ทริปพักร้อนนี้ไม่เลวเลยนะ พวกเขาต้องได้เที่ยวเล่นอย่างมีความสุขแน่นอน”
เป็นการกระชับความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยาไปในตัวด้วย
หยางหลิวเบ้ปากยิ้มตายเล็กน้อย แต่ไม่นาน เขาก็กลับมาอารมณ์ปกติอ่อนโยนที่เป็นอย่างทุกวัน “งั้นพอดีเลย ฉันยังไม่ได้ใช้เวลาวันหยุดปีใหม่ ฉันก็อยากไปเที่ยวเหมือนกัน”
ถูหนานรู้สึกมีลางไม่ดี “คุณหมายความว่า…”
“ฉันก็ไป...ที่พักร้อนนั่นเหมือนกัน”
“ไม่ได้ หยางหลิว คุณอย่าพูดจาซี้ซั้วสิ”
“ฉันพูดซี้ซั้วอะไรกัน ปกติทุกคนก็ทำงานด้วยกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ออกไปเที่ยวด้วยกันก็คงไม่มีอะไรหรอก แกก็อย่าคิดมากเกินไป”
ถูหนานลองพูดโน้มน้าวไม่ให้ไป “คุณไปคนเดียวจะสนุกได้ไงล่ะ”
หยางหลิวพูดว่า: “เจียวฝันก็ไปกับฉัน”
ถูหนาน “แม่งเอ้ย!” เขาโกรธหน่อยๆ แต่ก็ไม่กล้าที่จะตำหนิหยางหลิว ถูหนานขมวดคิ้ว แล้วพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “คุณรู้มั้ย ว่าถ้าทำแบบนี้ผลมันจะเป็นยังไง อาจจะต้องเก็บของแล้วไสหัวออกไปเลยนะ”
หยางหลิวพูดว่า: “ฉันมาที่นี่เพื่อเฉิงรุ่ย”
ไม่งั้นเธอจะกลับมาจากแดนไกลทำไมกัน
ตอนนี้เกมใหม่กำลังถูกสร้างคิดค้นขึ้นมาได้ช่วงนึงแล้ว ในฐานะที่หยางหลิวเป็นนักออกแบบหลักที่ออกแบบการ์ตูนส่วนใหญ่ ยังไงก็ไล่เธอออกไม่ได้ เธอคิดว่า เธอจะไม่ทนอีกต่อไป จะออกโรง หรือว่าจะลาออก เธอจะต้องรีบปฏิบัติการ
ถูหนานพูดว่า: “คุณจะต้องโดนพักงานแน่ๆ”
หยางหลิวจ้องเขาอย่างแน่นิ่งและพูดว่า “ฉันไม่เชื่อ”
ถ้าเฉิงรุ่ยไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอแม้แต่น้อยจริงๆ ทำไมทุกครั้งที่เธอแสดงออกบอกเป็นนัยชัดเจนต่อเขา เขาไม่มีทีท่าว่าปฏิเสธ ที่ทำให้เธอตายใจ
หยางหลิวจะรู้ได้ยังไงว่าในใจของเฉิงรุ่ยนั้นไม่ได้หวั่นไหวอะไรเลย เดิมทีนั้นก็ไม่ได้สนใจด้านไหนของชีวิตเธอเลยแม้แต่น้อย
ถูหนาน “คุณ...ไอยา หวังว่าคุณจะมีสติขึ้นมาหน่อยนะครับ” ในสายตาเฉิงรุ่ย ไม่เคยมีหลักการที่ว่าขาดใครไม่ได้ สิ่งที่เขามีคือวิธีพลิกผันสถานการณ์ หยางหลิวทำแบบนี้เกรงว่าต้องได้รับผลที่ทำไว้แน่ๆ แต่ถูหนานก็หวังว่าเธอจะรอบคอบมากกว่านี้
หยางหลิวยิ้มไปชั่วขณะ “ฉันเป็นคนประเภทนั้นเหรอ วางใจเถอะน่า ฉันแค่อยากไปพักผ่อนก็เท่านั้นเอง”
ด้วยเหตุนี้
ในเย็นวันนั้น ถูหนานนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมา คิดไปคิดมา ก็ตัดสินใจไปกับเธอด้วย เวลาที่พักร้อนที่แสนมีค่าขนาดนี้กลับต้องมาเสียไปกับเรื่องแบบนี้ เขาโกรธจนไม่รู้จะพูดอะไร เขารีบคุยกับเจียวฝันไปสองสามประโยค แล้วยืนยันว่าจะเข้าร่วมโครงการไปเที่ยวในวันหยุดปีใหม่
ฝู่จื่อเฉิงผู้ที่รู้เรื่องเป็นสุดท้ายรู้สึกงงมาก เขาร้องอุทานด้วยเสียงที่โศกเศร้าออกมา
“อะไรนะ? พวกเราจะไปเที่ยวในวันหยุดกันเหรอ”
“ฉันไม่อยากไปเห็นคู่รักเค้าสวีทกั๊นนนนน”