ตอนที่ 23
ตนที่ 23
ใบหน้าของเซี่ยหลิงหลิงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ในตอนนั้นลมที่พัดมาก็เริ่มหนาวเย็นแล้ว เธอจึงล้มเลิกหยุดแผนที่จะถ่ายรูปสวยๆ ลงกลางคัน เธอเอาเสื้อคลุมกลับมาสวมทับ แล้วตัดสินใจกลับไปกินข้าวเย็น
เธอเดินไปอย่างโกรธเคือง เฉิงรุ่ยถูกลืมไว้อยู่ข้างหลัง ผ่านไปไม่นาน เฉิงรุ่ยที่อยู่ข้างหลังก็ลองชวนคุยด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น “ฉันถ่ายให้เธอไว้อีกหนึ่งรูปด้วยนะ”
เซี่ยหลิงหลิงหยุดฝีเท้าอย่างยั่งเชื่อยั่งสงสัย “นายแน่ใจว่าจะไม่ได้ถ่ายฉันดูตัวใหญ่รึ”
เฉิงรุ่ยยกมือขึ้น “ไม่ อย่างแน่นอน”
เซี่ยหลิงหลิงรับกล้องถ่ายรูปมา แล้วค่อยๆเปิดรูปดูใกล้ๆ แล้วเธอก็เงียบลงทันที
ที่จริงแล้ว เธอไม่ควรจะไปคาดหวังอะไรกับเฉิงรุ่ย
...อีตาบ้านี่ถ่ายรูปออกมาแล้วทำให้เธอดูตัวสูงแค่ร้อยยี่สิบเซน บ้าจริง
เซี่ยหลิงหลิงในกระจกที่สวมเสื้อคลุมทับอยู่ พอถ่ายมุมล่างเหมือนคนแคระที่สูงร้อยยี่สิบ แถมยังดูตัวใหญ่น่ากลัว สายตาอาฆาต เธอไม่ได้อยากจะด่าตัวเองจริงๆ แต่ตัวเองในวินาทีนี้ช่างเหมือนไก่ป่าที่กำลังโกรธอยู่จริงๆ เหมือนขนจากปีกจะระเบิดฟุ้งออกมายังไงยังงั้น
เซี่ยหลิงหลิง: “...”
เดิมทีในโลกของเฉิงรุ่ย เธอดูเป็นลุคแบบนั้นเหรอ
อยากจะร้องไห้จริงๆ
เฉิงรุ่ยที่ยังดูอารมณ์เธอไม่ออกกลับพูดว่า “หิวจังเลย”
เย็นวันนั้น ภายใต้สายตาที่เงียบขรึมของเซี่ยหลิงหลิง ทำให้เฉิงรุ่ยกินซีฟู้ดเยอะมากอย่างเงียบๆ เซี่ยหลิงหลิงจ้องมองไปที่เขา ใช้มีดสับลงไปตรงเนื้อปลาอย่างโหดเหีเยม เหมือนกับสิ่งที่อยู่บนจานตอนนี้คือเฉิงรุ่ย
เธอรู้สึกเสียดายมาก เธอคิดว่าพาอีตาบ้านี่ไปด้วย คงจะถ่ายรูปสวยๆได้เยอะ ตอนนี้กลับพูดได้แค่ว่า เฉิงรุ่ยเหมือนมาเพื่อตั้งใจที่จะเปิดศึกประลองความสามารถกับเธอ
หลังจากที่กลับห้องล้างหน้าล้างตาแล้ว เซี่ยหลิงหลิงก็ปิดประตูเสียงดัง แล้วไปนอน
เธอนอนเอกขเนกอยู่บนเตียงใหญ่ที่แปลกไปจากทุกวัน ปิดไฟ ในห้องมีเพียงความมืด ผ้าม่านที่ดูแน่นหนาทับกันสนิท หมอนมีกลิ่นหอม ผ้าห่มก็นิ่ม นี่เป็นโรงแรมห้าดาว ทุกจุดบิ้วอินประดับตกแต่งได้ดีมาก แต่เซี่ยหลิงหลิงพลิกตัวกลับไปกลับมา กลับไม่มีอารมณ์ที่อยากจะนอน
เธอเบิกตากว้างมองเพดาน แล้วก็พบว่าเงาบนเพดานเป็นสีดำหม่นๆ ทำให้เธอตกใจจนสติและวิญญาณจะลอยหายไป
เธอกรี๊ดตกใจ รีบเด้งตัวขึ้นมา ครู่ใหญ่ถึงจะมีสติกลับว่า ว่าตัวเองตกใจตัวเองเอง
“.....”
โรงแรมนี้น่าเกลียดจริงๆ ทำไมข้างบนเพดานต้องติดกระจกด้วย ไม่ได้ต้องการถ่ายหนังผีสักหน่อย
มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก แล้วตามมาด้วยเสียงของเฉิงรุ่ย “เป็นอะไรรึเปล่า?”
“เปล่า……”เซี่ยหลิงหลิงเหงื่อออกทั้งตัวไปเปิดไฟหัวเตียง เสียงดูอ่อนแอ “ถูกความสวยของตัวเองทำให้ตกใจ” เรื่องตัวเองตกใจตัวเองน่าขายหน้าแบบนี้ เธอจะไม่พูดออกไปแน่นอน
เฉิงรุ่ย “...”
เซี่ยหลิงหลิงไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านนอก ในใจรู้สึกไม่ค่อยสงบปลอดภัย เธอพลิกตัวไปมานอนไม่หลับ ลืมตาขึ้นเล็กน้อย แล้วถามขึ้นมาด้วยเสียงเบาๆ “เฉิงรุ่ย นายหลับรึยัง”
“เฉิงรุ่ย หลับรึยัง”
ผ่านไปสองสามวินาที ฝ่ายตรงข้ามจึงมีปฏิกิริยาตอบโต้
“ยัง” เขาควรจะอยู่ในห้องรับแขก เสียงนี่มันใกล้มาก
เซี่ยหลิงหลิงถอนหายใจอย่างแปลกๆ รู้สึกวางใจลง
“ฝันดีนะ” เขาพูดออกมาเบาเบาประโยคหนึ่ง เหมือนพูดกับตัวเอง
ในห้องรับแขกมีแต่ความมืด ไฟทุกดวงถูกปิด ผ้าม่านไม่ได้ปิดสนิท ภายใต้บรรยากาศกลางคืนที่เงียบสงัด ชายหาดที่เงียบสงบสามารถมองผ่านช่องเล็กๆได้อย่างลางๆ สวยจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ มีเงาของร่างที่สูงผอมพิงเอนอยู่ข้างผนังข้างประตูห้องนอน เขาอ้าริมฝีปาก แต่ไม่มีเสียงเปล่งออกมา
รูปปากพูดว่า “ฝันดีนะ”
เป็นค่ำคืนที่ฝันดีจริงๆ
วันต่อมา เซี่ยหลิงหลิงแต่งตัวแต่งหน้าอย่างมีชีวิตชีวา เธอเปลี่ยนเป็นกระโปรงยาวสีฟ้าน้ำทะเลที่ดูดี วันนี้จะได้นอนหลับบนเก้าอี้ชาดหาดสักครู่หนึ่ง เมื่อถึงตอนเที่ยง แดดแรงจนแม้แต่ครีมกันแดดANESSAก็เอาไม่อยู่ เซี่ยหลิงหลิงจึงทำได้แค่นั่งเหม่อลอยอยู่บนเก้าอี้ชายหาด
ในที่สุดการที่พักผ่อนแบบนี้ก็เป็นการเห็นพ้องต้องกันของทั้งสองคน
เมื่อเปรียบเทียบกับสองคนนี้ที่ออกมาเที่ยวอย่างสบายๆแล้ว สองสามคนอีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้มีความสุขมากขนาดนั้น ถึงจะพูดว่ามาเที่ยวพักร้อน แต่ก็ยังมีงานที่ต้องทำอยู่ไม่น้อย ทั้งสามคนนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ้ค ทำงานเหมือนไฟลนก้น ดื่มเบียร์ประทังชีวิต และทำงานกันทั้งคืน
ถูหนานนั่งเข้าสู่โหมดครุ่นคิดอยู่บนพรม “ทำไมฉันถึงอยากให้บอสไปแล้วนะ...ก็เพราะฉันอยากมาเที่ยวไง”
แล้วตอนนี้พวกเขากำลังทำอะไรกันแน่เนี่ย!
ฝู้จื่อเฉิงทำหน้าทำตาเหมือนจะร้องไห้ “...ให้ตายเถอะ เรื่องที่จะไปนัดเดทจบกัน เพราะฉันไม่ตรงต่อเวลา ฉันเกลียดพวกนาย”
หยางหลิวเปลี่ยนบีกินี่ที่เตรียมมาล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่คนอื่นเห็นได้ของร่างกายเธอก็เผยให้เห็นทั้งหมด ลุควันนี้ของหยางหลิวช่างแตกต่างจากวันธรรมดาโดยสิ้นเชิง แม้แต่เจียวฝันก็ยังตกใจไปชั่วขณะ เธอขยับริมฝีปากอย่างมีความสุข พูดว่า “พวกเราไปกันเถอะ เวลานี้เหมาะไปว่ายน้ำพอดี”
……
ทั้งสองคนที่หลบแดดอยู่กำลังหรี่ตา พลางกินผลไม้พลางชมวิว ในเวลานี้ที่ชายหาดไม่มีคนเลย ทั้งเงียบสงบและดูสบายผ่อนคลาย เซี่ยหลิงหลิงบิดขี้เกียจอย่างสบายใจ “ดีจัง หวังว่าครั้งหน้าจะมีโอกาสได้มาเที่ยวพักผ่อนอีก”
แสงแดด ชายหาด คลื่นทะเล และยังมี...เสียงเคี้ยวแตงโมดังแจ๊บแจ๊บที่ช่างไม่เข้ากับบรรยากาศในตอนนี้
เซี่ยหลิงหลิงพูดอย่างหน้าดำคร่ำขรึม “มาเที่ยวคนเดียวเหรอ”
ในตอนนั้นก็มีคนสองสามคนเดินมา เซี่ยหลิงหลิงใส่แว่นกันแดดเลยมองเห็นไม่ค่อยชัด เธอค่อยๆหรี่ตา เฉิงรุ่ยที่อยู่ข้างๆเธอเช็ดมืออย่างเงียบๆ เขาใส่กางเกงขาสั้นและเสื้อยืดสบายๆ เผยให้เห็นเส้นเอ็นบนแขนและขาของเขาที่ไม่ได้ดูอ่อนแอ พอเห็นก็สามารถรู้ได้ทันทีเลยว่าผู้ชายคนนี้ออกกำลังกาย
เซี่ยหลิงหลิงสงสัยว่าเฉิงรุ่ยจะต้องแอบเธอไปฟิตเนสทุกวัน แล้วทำไมยังต้องมาทำว่าลุคตัวเองอ่อนแอยังกับสบู่ต่อหน้าเธอด้วยนะ
คนสองสามคนกลุ่มนั้นค่อยๆเดินใกล้เข้ามา เหมือนกับว่าจะมีการทักทายต่อกันหน่อยๆ
เซี่ยหลิงหลิงเห็นพวกเขาเดินมา เห็นใบหน้าของพวกเขาชัดเจน เธอจึงตกใจขึ้นมา น่าแปลก บอสของบริษัทเจียเฉิงก็มาเที่ยวด้วยเหรอเนี่ย มาเจอกันแบบนี้มันบังเอิญเกินไปแล้ว
พวกถูหนานมองเห็นเซี่ยหลิงหลิงนอนเอนอยู่บนเก้าอี้ชายหาดแต่ไกล ผิวขาวเนียนดูเปล่งปลั่งสะดุดตา ขาที่เรียวทั้งสองไขว้กัน เล็บเท้าสีแดง ดีดูสุดๆ
เหมือนแมวที่กำลังนอนหรี่ตา และเหมือนนางเงือกที่ทำให้คนหลงใหล พวกนั้นก็ค่อยๆไอแห้งๆ ไม่กล้าที่จะหันไปมอง
เมื่อนึกได้ว่าท่าตัวเองในตอนนี้ดูไม่แพง เซี่ยหลิงหลิงก็รีบนั่งตัวตรง จัดชายกระโปรงให้ดูสมกับกุลสตรี เอามาปิดขาที่ดูเรียวขาวผุดผ่องของเธอ
เหมือนกับว่าเฉิงรุ่ยจะรู้แต่แรกแล้วว่าพวกเขามา แล้วก็กินผลไม้อย่างช้าๆต่อไป
เซี่ยหลิงหลิงเตือนเขาด้วยเสียงเบาๆ “นี่ ประธานบริษัทเจียเฉิงก็มาด้วย นายทำงานกับบริษัทของเขา ไม่คิดจะทักทายเขาหน่อยเหรอ”
บอสตัวจริงของฝู้เฉิงดูดน้ำมะพร้าวอย่างเงียบๆไปหนึ่งที ตอบกลับอย่างไม่จริงจังไปทีหนึ่ง
ตอนนี้คนที่ควรเครียด ไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน
เมื่อคนสองสามคนเห็นเฉิงรุ่ย คนหนึ่งก็กังวลขึ้นมา เกือบจะหลุดปากเรียกว่าบอสอออกมา แต่ก็กลั้นแล้วก็กลืนลงไป เฉิงรุ่ยกำชับพวกเขาไว้แล้วว่าอย่าเรียกเขาว่าบอสต่อหน้าเซี่ยหลิงหลิง และก็ห้ามเรียกว่าพี่สะใภ้ พวกเขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้ แต่ก็ไม่กล้าถามอีก
“บังเอิญจัง” เซี่ยหลิงหลิงเพียงคนเดียวที่ไม่รู้อะไรทักทายอย่างเป็นมิตร
“บังเอิญมาก บังเอิญมาก”
เซี่ยหลิงหลิงเอ่ยถาม “พวกคุณมาพักร้อนกันเหรอคะ”
“ใช่ ใช่ครับ” สองสามคนนั่นกำลังแบกรับความกดดัน อากาศร้อนแบบนี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนเหงื่อที่ออกมันหนาวเหน็บ
เซี่ยหลิงหลิง “???”
หรือเธอจะเข้าใจผิดไปทำไมถึงรู้สึกได้ว่าพวกเขาเครียดและจริงจังกันมาก
ในขณะที่กำลังครุ่นคิด ก็มีเงาของร่างสาวร่างกายอ่อนช้อยเดินมาอยู่ตรงหน้าอย่างดูสง่า สัดส่วนร่างของเธอดีมาก สมัยก่อนเธอคิดฝึกบัลเล่ต์มาสองสามปี ลักษณะท่าทางบุคลิกดูดี เหมือนหงส์ตัวเล็กๆ เธอเดินมาอยู่ตรงหน้าของเซี่ยหลิงหลิงเองโดยไม่ได้มีใครเชิญ ยิ้มแล้วพูดว่า “สวัสดี ฉันชื่อหยางหลิว เป็นผู้ออกแบบภาพการ์ตูนให้กับบริษัทเจียเฉิง”
จริงๆแล้วหยางหลิวอยากจะสื่อบอกเป็นนัยว่าตนเองจะตั้งตัวเป็นศัตรู เธอยืนอยู่ เซี่ยหลิงหลิงนั่งอยู่ ทำให้ออร่าของเซี่ยหลิงหลิงหายไปครึ่งหนึ่ง ตอนที่อยู่ภายใต้การครอบงำของหยางหลิว เซี่ยหลิงหลิงกำลังวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างเค้ากับเฉิงรุ่ยภายในใจจนสีหน้าเปลี่ยนไป
ใครจะไปรู้ว่าพอเซี่ยหลิงหลิงได้ยินว่าเป็นผู้ออกแบบ ก็รีบไปจับมือทำความรู้จักอย่างเป็นมิตร
เหมือนกับคนที่มีแต่ความลำบากยากแค้นอาศัยในภูเขาเจอกับผู้นำที่เข้ามาช่วยเหลือชนบทที่ยากจน ยิ้มอย่างเปล่งประกาย “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเซี่ยหลิงหลิง โปรดจำชื่อของฉันไว้ด้วยนะคะ!”
คนอื่นๆ “......”
หยางหลิว “....”
เธอรู้สึกตกใจ รีบดึงมือออกจากมือของเซี่ยหลิงหลิง แล้วพูดตอบกลับอย่างงงๆ “รู้แล้ว”
เซี่ยหลิงหลิงคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะมีโอกาสได้เจอนักออกแบบของพวกเขา พอนึกถึงว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานกับหยางหลิว เซี่ยหลิงหลิงก็ดีกับเค้ามากขึ้นไปอีก เธอปัดๆบนเก้าอี้ชายหาดสองสามที เพื่อบอกใบ้ให้สัญญาณว่าหยางหลิวมานั่งคุยกันข้างเธอ
หยางหลิวถอยก้าวหลังไปอย่างตกใจไม่รู้จะทำมือไม้ยังไงดี “ไม่ไม่ไม่!”
ถ้าไม่รู้จักเซี่ยหลิงหลิง เกรงว่าเธอคงคิดว่าเซี่ยหลิงหลิงเป็นเลสเบี้ยน
ถูหนานที่มุงดูอยู่ “....” เดิมทีคิดว่าหยางหลิวจะทำอะไรขึ้นมา แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เหมือนกับว่าพวกเขาคงคิดมากเกินไป
หยางหลิวทำสีหน้าเคร่งขรึม “ฉันจะไปว่ายน้ำ” คิดไปคิดมา เธอก็ยิ้มออกมาอย่างละมุนอบอุ่น “เธอจะไปด้วยกันมั้ย”
เซี่ยหลิงหลิงส่ายหัว เธอกลัวว่าแดดจะทำให้เธอดำ
พอเห็นว่าเธอปฏิเสธ หยางหลิวก็ไม่ได้บังคับต่อ เธอบิดเอวเดินไปที่ทะเลเพื่อเล่นน้ำ เจียวฝันก็ไปร่วมด้วย บนเก้าอี้เอนในอีกมุมหนึ่งที่อยู่ไกลๆเหลือเพียงพวกเขาสองคน เซี่ยหลิงหลิงซุบซิบบอสของบริษัทเจียเฉิงว่าเขาแค่คุยติดต่อกับพนักงานของเขาจริงๆ คนนอกสามารถติดต่อพูดคุยกับเขาได้ยากมาก
เธอไม่ได้ดึงดันบังคับอะไร แต่ถ้าหากเป็นมิตรเกินไปแล้วทำให้ฝั่งเขารู้สึกไม่โอเค แบบนี้ก็ไม่ดีเหมือนกัน
ด้วยเหตุนั้นเอง
เซี่ยหลิงหลิงก็นั่งอยู่บนเก้าอี้เอนต่อไป รอหยางหลิวขึ้นโผล่มาจากน้ำทะเลอย่างเงียบๆ สักแปปก็ว่ายลงไปใหม่ หุ่นของเธอดูสวยงามเหมือนเป็นนางเงือก จุดที่เธอเล่นน้ำอยู่ตรงหน้าของเซี่ยหลิงหลิงกับเฉิงรุ่ยพอดี วิวนี้มันอย่างดูสวยงามยิ่งนัก เธอเดาว่าแม้แต่คนแข็งทื่อแบบเฉิงรุ่ยก็คงจิตใจเตลิดเปิดเปิงไปหมดแล้ว
พอคิดได้แบบนี้ เซี่ยหลิงหลิงก็หันไป
“……”
เฉิงรุ่ยกลับหลับไปแล้ว
เมื่อมองไปยังหยางหลิวที่กำลังเล่นน้ำอย่างมีความสุขสุดชีวิต ก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังใช้เวลาไม่คุ้มค่า
หยางหลิวแข็งแรงไม่น้อย เล่นน้ำนานมาก มีเพียงเธอคนเดียวที่คอยมองท่าหยางหลิวตั้งแต่เริ่มลงไปเล่นน้ำจนเลิก เหลือแค่ปรบมือให้เธอ เซี่ยหลิงหลิงไม่ใช่คนโง่ ผู้หญิงว่ายมาว่ายไปว่ายมาแถวนี้ และยังส่งสายตามาทางนี้บ่อยครั้ง เค้าจะกำลังมองเธอได้ไง
หยางหลิวน่าจะชอบเฉิงรุ่ย
เซี่ยหลิงหลิงไม่ได้กังวลแน่นอน ขอแค่อย่ามาวุ่นวายถึงตัวเธอ ยังไงพวกเค้าก็ยังเป็นพี่สาวน้องสาวได้
เธอกับเฉิงรุ่ยแต่งงานกันเพราะสัญญา จริงๆแล้วก็อยู่ในโหมดยังโสด อยากจะตามหาอะไรก็ตามหา ยังไงเธอก็ไม่ได้ถือสาอยู่แล้ว เซี่ยหลิงหลิงคิดไว้ดีแล้วว่า ถ้าหยางหลิวแต่งงานกับเฉิงรุ่ย ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมงานจะใส่ซองให้กี่บาท
ถ้าหยางหลิวรู้ว่าสภาพจิตใจของเซี่ยหลิงหลิงดีมีเมตตาขนาดนี้ คาดว่าคงหัวร้อนแน่ๆ
ในที่สุด หยางหลิวก็เล่นน้ำจนเหนื่อย
เธอขึ้นจากฝั่ง และโชว์ความสวยของหุ่นตัวเองอย่างมั่นใจ ชุดว่ายน้ำเปียกแนบแน่นกับผิวของเธอ ผมดำที่เปียกน้ำถูกรวบไปไว้ด้านหลัง ดูน่าดึงดูดยิ่งนัก
เซี่ยหลิงหลิงนิ่งไปสักพัก “อ้ะ….”
หยางหลิวคิด ลุคเธอในตอนนี้ เกรงว่าแม้แต่ผู้หญิงก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ามีเสน่ห์
เซี่ยหลิงหลิงพูดต่อไปว่า “วันนี้คุณไม่ได้ทาครีมกันแดดเหรอคะ”
“……”
“……”
หยางหลิวยกแขนของตัวเองขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าจะดำเป็นวง เมื่อเทียบกับผิวขาวที่อยู่ในบิกีนี่นั้น สีแตกต่างกันค่อนข้างมาก เหมือนว่าจะตากแดดมากเกินไป เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าตัวเองในตอนนี้จะถูกแผดเผาจนดำไปเท่าไหร่แล้ว
หลังจากที่อยู่ในโหมดเงียบมานาน
หยางหลิวก็ร้องออกมา
เซี่ยหลิงหลิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ขอโทษ แต่นี่ไม่ใช่ความผิดของเธออย่างแน่นอน!
อัพเดทครั้งหน้า วันที่31 ด.ค. 2019
จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน