ตอนที่495ร่วมมือกันแสดง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่495ร่วมมือกันแสดง
ตอนที่495ร่วมมือกันแสดง ด้านนอกห้องผ่าตัดโรงพยาบาลธัญมนชีวภานั่งอยู่บนม้านั่งข้างทางเดินจ้องมองพยาบาลและหมอเดินเข้าๆออกๆอย่างใจจดใจจ่อเป็นทุกข์เกือบห้าชั่วโมงในที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก คุณหมอติสรณ์เดินพลางปลดหน้ากากอนามัยพลางดูออกว่าการผ่าตัดทำให้เขาเหนื่อยล้าเพียงใด ชีวภารีบเดินไปหาใจร้อนแทบไหม้"หมอคะแม่ฉันเป็นยังไงบ้าง?" "การผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างมากคุณวางใจได้อีกสักพักก็จะย้ายคนไข้ไปห้องพัก"คุณหมอติสรณ์ยกมือขึ้นกดที่หัวคิ้วของเขา"ตอนนี้คุณวางใจได้แล้ว" ชีวภาถอนใจด้วยความโล่งอกรู้สึกว่าหินก้อนขนาดมหึมาหนักพันชั่งที่อยู่บนอกโดนยกออกเธอคำนับหมออย่างรู้สึกขอบคุณอย่างล้นพ้น"ขอบคุณมากๆคะขอบคุณจริงๆ" "ไม่เป็นไรอีกสักพักคุณก็เข้าเยี่ยมคนไข้ได้" อีกยี่สิบนาทีต่อมาธิษณาก็ถูกย้ายไปไว้ที่ห้องพักคนไข้ยาสลบยังไม่หมดฤทธิ์จึงยังไม่ฟื้นพยาบาลบอกถึงเรื่องที่ต้องระวังแล้วก็จากไปในห้องพักคนไข้มีเตียงทั้งหมดหกเตียงแต่ล่ะเตียงก็มีคนไข้นอนอยู่ทุกเตียงจึงไม่ค่อยเงียบสงบสักเท่าไร ชีวภามองไปที่ร่างอ่อนแอของผู้เป็นแม่ที่นอนอยู่บนเตียงเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ช่วงก่อนหน้านี้เธอยังเครียดว่าจะหาเงินที่ไหนมาใช้ในการผ่าตัดแต่ตอนนี้ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอรู้สึกเหมือนยังไม่ค่อยรู้สึกตัวถึงแม้ว่าในอนาคตค่าใช้จ่ายในการรักษาจะสูงมากแค่ไหนแต่คงมีความกดดันน้อยกว่าเงินสี่แสนเพียงแต่... ชีวภานึกถึงชายที่เจอหน้าไม่กี่ครั้งก็ให้เงินเธอหลายแสนพวกเขาเจอหน้าไม่กี่ครั้งมือข้างเดียวก็นับครั้งได้แต่แววตาสีหน้าของเขาเหมือนสลักอยู่ในสมองของเธอยังไงก็ลืมไม่ลง เขาให้เงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้กับเธอหลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกคนๆนี้ต้องการอะไรจากเธอกันแน่? หรือมันเป็นแค่เพียงการเล่นสนุกของคนรวย? หล่อนมองดูว่าแม่หลับสนิทแบบนี้ความเกียจชังชายคนนั้นในใจเธอก็เบาบางลงเธอรู้สึกขอบคุณเขาซะด้วยซ้ำแม้ว่าชายคนนั้นจะให้ความทรงจำที่ไม่ดีสักเท่าไรกับเธอจนขนาดทำให้เธอรู้สึกกลัวแต่ถ้าไม่ได้เงินก้อนนี้ของเขาแม่ของเธออาจจะไม่ได้รับการรักษา ไม่มีใครรู้ว่าหากเวลาผ่านไปเรื่อยๆสภาพร่างกายของธิษณาจะเป็นอย่างไรเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บไม่ใช่ว่าจะหยุดกันได้เพราะมีหรือไม่มีเงินสำหรับธิษณาเวลาก็เท่ากับชีวิต เวลาผ่านไปในแต่ละวันชีวภาวิ่งไปวิ่งมาระหว่างโรงพยาบาลและที่ทำงานอาชีพของเธอเป็นพนักงานขายไม่ว่าจะยากลำบากขนาดไหนเธอก็ไม่เคยหวั่นถ้าสามารถหาเงินได้ทุกอย่างไม่ใช่ปัญหา คืนหนึ่งหลังเลิกงานชีวภาลากร่างกายที่เหนื่อยล้ามาที่โรงพยาบาลเพิ่งจะเดินเข้าประตูโรงพยาบาลผู้จัดการบาร์ก็โทรหาเธอเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหยุดฝีเท้าแล้วรับโทรศัพท์ทันที"ผู้จัดการ?" "ชีวภาเสี่ยที่เธอเคยพูดถึงเขามาอีกแล้วเธอรีบกลับมาหน่อย..." ชีวภากำโทรศัพท์ไว้แน่นต่อมาใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ"ได้คะฉันจะกลับไปทันที" ...... อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาชีวภาลงจากรถแท็กซี่หน้าประตูบาร์เต็มไปด้วยรถยนต์คันหรูเธอไม่มองสักนิดรีบเดินเข้าประตูบาร์ไปพนักงานที่สนิทกันพาเธอไปหาผู้จัดการ ชีวภาหายใจไม่เป็นจังหวะเพราะความรีบเร่งพลางถาม"ผู้จัดการคะเขาอยู่ไหนคะ?" "เธอไม่ต้องรีบตามฉันมาก่อน"ผู้จัดการพาเธอไปที่ห้องทำงานแยกออกมาจากเสียงเพลงอึกทึกข้างนอกมองเธอหัวจรดเท้าอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า"พอฉันเห็นเขาเดินเข้ามาฉันก็โทรหาเธอแล้วรอแต่เธอมาเท่านั้นใครจะไปรู้อยู่ดีๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่ออกมาดูๆไปก็น่าจะอายุประมาณยี่สิบกว่าๆการแต่งตัวดูดีสงสัยว่าครั้งนี้ที่เขามาคงจะมากับคู่ขาของเขาล่ะมั้ง!" ตอนแรกผู้จัดการคิดว่าครั้งนี้ชนุดมมาที่บาร์ถ้าเรียกชีวภากลับมาน่าจะได้ค่าคอมมิดชั่นเยอะแน่ๆใครจะไปรู้อยู่ดีๆก็มีผู้หญิงที่ไหนโผล่เข้ามา ได้ยินดังนั้นชีวภาชะงักไปชั่วครู่แต่ก็ดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว"ไม่เป็นไรค่ะพอดีว่าฉันมีเรื่องที่จะคุยกับเขาพอดีคุณบอกฉันหน่อยว่าเขาอยู่ที่ไหน?" "นี่..."ผู้จัดการไม่คิดว่าเธอจะพูดแบบนี้ปกติเห็นเธอเงียบๆเรียบร้อยๆไม่คิดว่าถึงเวลาเอาจริงจะดูเอาเรื่องขนาดนี้ยังไงสำหรับหล่อนแล้วก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย ผู้จัดการกลอกดวงตาไปมา"เอาอย่างนี้แล้วกันอีกพักหนึ่งฉันให้บาร์เทนเดอร์ทำค็อกเทลให้สองแก้วเธอเดินเอาไปส่งให้ลูกค้าบอกว่าเป็นเครื่องดื่มพิเศษให้ลูกค้ารายใหญ่ของบาร์เรา" ชีวภาขมวดคิ้วเธอไม่อยากทำให้มันซับซ้อนอะไรมากมาย"ไม่ต้องหรอกคะฉันไปคุยกับเขาไม่กี่คำเท่านั้นเรื่องส่งเครื่องดื่ม..." "เฮ้ย!"ผู้จัดการโบกมือขัดจังหวะเธอ"เธอต้องฟังฉันเชื่อฉันสิ" พูดจบไม่ว่าชีวภาจะเต็มใจหรือไม่ก็ตามผลักเธอไปที่บาร์เหล้าทันทีหยิบถาดสวยงามมาถาดหนึ่งส่งให้เธอ"ไปสิ" "......" ชีวภาไม่มีทางเลือกเธอเดินถือถาดค็อกเทลไปที่ชั้นสองถึงประตูทางเข้าเธอใช่มือเคาะประตูไม่ได้เลยต้องใช้ปลายเท้าเคาะประตูแทน "เข้ามา" เสียงเคร่งขรึมของชายหนุ่มดังขึ้นมาน้ำเสียงไม่ค่อยเหมือนครั้งที่แล้วที่เคยได้ยินแต่ไม่เหมือนตรงไหนเธอก็พูดไม่ออกเพียงแต่ว่ารู้สึกว่าเขาค่อนข้างสุภาพขึ้นไม่ค่อยเหมือนเมื่อครั้งก่อน เธอสูดลมหายใจเข้าลึกเดินหันข้างเข้าไปข้างในห้องสายตาไปจับอยู่ที่ชายหนุ่มเขาทั้งคู่ชะงักไปชั่วครู่โดยเฉพาะชนุดมเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาเขาหรี่ตาลงแววตานั้นเต็มไปด้วยความอันตรายเพียงครู่เดียวเขาก็อำพรางแววตาได้อย่างรวดเร็ว ชีวภาถอนสายตาจากเขาก่อนเธอค่อยๆประคองถาดเครื่องดื่มวางไว้ข้างหน้าสังเกตดูผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่โซฟา งดงามงดงามมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาหรือการสวมใส่เสื้อผ้าสองคำนี้พูดถึงเธอชัดๆจริงๆแล้วในห้องแสงสว่างไม่มากเลยแต่ผิวกายของเธอขาวใสราวกับสามารถเรืองแสงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลิกท่าทางความมีเสน่ห์ของผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่ส่วนชีวภาตอนที่เธออยู่โรงเรียนความสวยของเธอเข้าขั้นดาวโรงเรียนแต่พอยืนเทียบกับผู้หญิงคนนี้แล้วเธอดับไปเลย เธอกระแอมทีหนึ่งกำลังจะพูดเรื่องส่งค็อกเทลให้ลูกค้าเป็นพิเศษยังไม่ทันที่เธอจะอ้าปากพูดข้อมือของเธอถูกบีบด้วยแรงมหาศาลทันใดนั้นเพราะแรงบีบทำให้เธอล้มกองไปอยู่ที่โซฟา ก้นของเธอกระแทกไปที่โซฟานุ่มๆถาดค็อกเทลในมือชีวภากระเด็ดหกไปเล็กน้อยเธอหันไปมองชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง"คุณ..." "ฉันบอกแล้วว่าวันนี้คุณจะไม่มาก็ได้"ไม่รอให้เขาเอ่ยปากชนุดมก็ตัดบท ชีวภามองเขาอย่างงวยงงแววตาลึกสีดำคู่นั้นมีสัญญาณเตือนอยู่เป็นนัยๆเธอจับถาดค็อกเทลในมือแน่นขึ้นวินาทีต่อมาเธอก้มหัวเบาๆแล้ววางถานลงบนโต๊ะมองนัชชาที่อยู่ฝั่งตรงข้าม"ฉันคิดถึงคุณมากเลยนะเมื่อกี้ขอค็อกเทลชั้นล่างมาสองแก้วคิดว่ามีเราแค่สองคนไม่รู้ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย..." พูดจบเธอก็มองไปที่นัชชาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม"เธอคือ?" "เธอไม่จำเป็นต้องรู้"เสียงของชนุดมเย็นชาแต่ชีวภารู้สึกได้ในน้ำเสียงนั้นว่ามีความตื่นเต้นอยู่ในนั้น "คุณอย่าทำแบบนั้นสิ"นัชชาพูดอย่างอ่อนโยน"ฉันชื่อนัชชาเป็นเพื่อนของชนุดมมาหลายปีแล้วสวัสดี" ในตอนแรกชีวภาคิดว่าทั้งสองคงมีความสัมพันธ์ที่ไม่สะดวกพูดออกมาได้ดังนั้นเขาถึงส่งสัญณาณให้เธอด้วยสายตาให้เธอช่วยเขาแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า...
已经是最新一章了
加载中