บทที่ 47   1/    
已经是第一章了
บทที่ 47
บ๗ที่ 47 กินเค้กติดคอจนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล คนปกติคงไม่มีใครทำได้แน่นอน แล้วอีกอย่าง เฉิงรุ่ยดูปกติดีทุกอย่าง พูดได้ปกติ จะติดคอได้ยังไง เซี่ยหลิงหลิงสีหน้าไร้อารมณ์ : “นี่นายกำลังหาเรื่องใส่ตัวใช่มั้ย?” “......” สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ มีคนกำลังเข้าสู่โหมดขอไว้ชีวิตอยู่ เฉิงรุ่ยกินเค้กไปครึ่งเดียว แถมยังมีครีมเลอะที่มุมปาก เขาถือเค้กที่เหลือไว้ สายตาเหม่อลอยไปนอกหน้าต่าง ไม่กี่วันหลังจากนั้น ก็พูดขึ้นมานิ่งๆว่า : “ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อยดีกว่านะ” เซี่ยหลิงหลิงชายตามองเขา : “หัวใจหยุดเต้นหรือว่ากำลังจะนิพพานล่ะ? ยินดีด้วยค่ะการงดอาหารของคุณสำเร็จลุล่วงแล้ว!” เฉิงรุ่ย : “.....” ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เฉิงรุ่ย : “เหมือนว่าฉัน......” “หุบปาก” “......” เสียหลิงหลิงรู้สึกเอะใจสงสัยว่าทำไมอยู่ๆเฉิงรุ่ยถึงอยากจะเข้าโรงพยาบาลขนาดนั้นมันเป็นเพราะอะไร เฉิงรุ่ยยังคงเหม่อมองไปยังตึกรามบ้านช่องนอกหน้าต่าง แล้วถามขึ้นมาอีก : “ไปช็อปปิ้งมั้ย เธอชอบช็อปปิ้งไม่ใช่เหรอ?” เซี่ยหลิงหลิง : “นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ ร้านไหนเขาจะมาเปิดขาย เถาเป่าเหรอ?” เฉิงรุ่ยถามอย่างจริงจัง : “หน้าร้านเถาเป่ายังเปิดอยู่มั้ย?” เซี่ยหลิงหลิง : “......นายต้องการจะทำอะไรกันแน่เนี่ย?!” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆได้ยินแบบนั้นแล้วก็ถึงกับก้มหน้าก้มตา มือกำไปที่กล่องใส่เค้กไว้แน่น ผมของเขายังไม่แห้งดีเท่าไหร่ ยังคงเปียกชุ่มอยู่อย่างนั้น ขนตางอนยาวนั้นบดบังความรู้สึกภายในสายตาของเขาเอาไว้ ร่างกายของเขาฉายออร่าความน่าสงสารบางอย่างออกมา มันทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกปวดใจ เขาพูดเสียงทุ้ม : “ไม่อยากกลับบ้าน” อาจถึงตายได้ ในตอนนั้นเซี่ยหลิงหลิงมีเรื่องราวเต็มหัวไปหมด คิดๆดูแล้วเมื่อก่อนเขาคงฉลองวันเกิดกับแม่ตลอดล่ะมั้ง ตอนนี้ต้องกลับบ้านไป พบเจอแต่ความรู้สึกโดดเดี่ยว จิตใจก็คงจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก นึกย้อนไปถึงตอนที่ตัวเองต้องอาศัยใช้ชีวิตตัวคนเดียว เซี่ยหลิงหลิงเข้าใจความรู้สึกแบบนั้นดี เธอตบไหล่เฉิงรุ่ยเบาๆ ปลอบโยนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล : “ในเมื่อไม่อยากกลับบ้าน งั้นเราไปที่อื่นกัน อืม......ไปโรงหนังเป็นไง?” หากอยากจะไปในสถานที่ที่ไม่แออัดในเวลานี้ ก็คงจะมีเพียงโรงหนังเท่านั้นที่พอจะรองรับได้ ส่วนโรงแรมนั้น อย่าแม้แต่จะคิดเลย เวลาแบบนี้คงเต็มไปด้วยคู่รักข้าวใหม่ปลามันส์มากกว่า เฉิงรุ่ยรีบตกลงทันที เมื่อตกลงกันเสร็จ จากที่อีกไม่ไกลก็ถึงบ้านแล้วก็ต้องเลี้ยวรถกลับ คนขับรถพาพวกเขามาส่งที่หน้าโรงหนังแห่งหนึ่ง จ่ายค่าโดยสารเสร็จ เซี่ยหลิงหลิงก็เดินลงรถด้วยอาการหนาวสั่น และก็หันไปเห็นเฉิงรุ่ยกำลังปิดฝาเค้กให้สนิทแล้วถือมันลงมาด้วย เซี่ยหลิงหลิงเห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกตลก : “เหลืออยู่สองสามคำ ไม่อยากกินก็ทิ้งๆไปเถอะน่า” เฉิงรุ่ยตอบกลับ : “กินไม่หมด” เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกพึงพอใจกับการไม่กินทิ้งกินขว้างของเขา ทั้งสองเดินเข้าโรงหนัง ในเวลานี้ไม่มีใครนั่งรออยู่ในห้องรับรองแล้ว จะมีก็เพียงแขกที่นั่งเล่นมือถืออยู่เพียงไม่กี่คน เมื่อพวกเขาทั้งสองมาถึงก็เป็นจุดสนใจของแขกหลายๆคน พนักงานต่างพากันกรูเข้ามาต้อนรับเฉิงรุ่ยและเซี่ยหลิงหลิงอย่างกระตือรือร้น ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตอนที่อยู่ในร้านอาหารไม่มีผิด “เออ......ซื้อตั๋วหนังสองใบค่ะ ขอรอบต่อไปเลยนะคะ” “ได้เลยคร้าบบบบ!” “แพ็กเกจคู่ ป็อปคอร์นเซ็ตใหญ่นะคะ” “ได้เลยครับ ไม่มีปัญหา!” พนักงานตักป็อปคอร์นมาให้จนเต็มถัง เซี่ยหลิงหลิงรับมาถือไว้ด้วยท่าทีเงอะๆงะๆ เกือบจะคว่ำหล่นพื้น โชคดีที่มือเฉิงรุ่ยไว รีบประคองเอาไว้ เซี่ยหลิงหลิงถือโค้กสองแก้ว ทั้งสองเข้าดูหนังรักได้ทันพอดี ไม่นานก็เข้าไปอยู่ด้านในโรง วางอาหารลง ในโรงมีเพียงคู่รักไม่กี่คู่ ต่างพากันนั่งอยู่ท้ายๆโรง มีเพียงเฉิงรุ่ยและเซี่ยหลินๆที่นั่งอยู่กลางโรง เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย : “พวกเขาโง่หรือเปล่า ทำไมถึงแห่กันไปนั่งแถวหลังสุดแบบนั้น เอฟเฟคในการรับชมตรงนั้นมันแย่มากเลยนะ” เฉิงรุ่ยไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาวางป็อปคอร์นไว้ที่ตักของเซี่ยหลิงหลิง พูดขึ้นนิ่งๆว่า : “ฉันออกไปรับโทรศัพท์แปปนึง” “หืม? โอเค” เซี่ยหลิงหลิงมองเฉิงรุ่ยเดินลับหายไป จู่ๆก็ชะงักไป หนังยังไม่ได้เริ่ม แล้วทำไมเฉิงรุ่ยถึงวิ่งออกไปรับโทรศัพท์ล่ะ เฉิงรุ่ยที่เดินออกจากโรงยืนแนบกับกำแพง ก่อนจะส่งแชทเข้าไปในกลุ่ม “แชท” เฉิงรุ่ย : ใครยังไม่นอน มีเรื่องด่วน ในกลุ่มก็มีถูหนานที่รีบตอบกลับมา : ผมอยู่ผมอยู่! ตั้งแต่เฉิงรุ่ยวางสายโทรศัพท์ไป เขาก็เริ่มจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คู่เดตของเขเป็นสาวจบนอกและเธอก็เป็นคนฉลาด เธอรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอสักเท่าไหร่ จึงหาขออ้างเพื่อขอตัวกลับไปก่อนแล้ว ดังนั้นในวันสุดท้ายของปีถูหนานก็ยังคงไม่สามารถสละโสดได้อีกเช่นเคย เขารู้สึกกระสับกระส่ายตลอดทางกลับบ้าน ไม่รู้ว่าสถานกาณ์ตอนนี้ของเฉิงรุ่ยกับพี่สะใภ้จะเป็นยังไงบ้างแล้ว ถูหนานเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าเซี่ยหลิงหลิงจะบินตามไปหาเฉิงรุ่ย พี่สะใภ้ของเขาคนนี้เหมือนจะดูอ่อนแอ แต่จริงๆแล้วกล้าหาญมากเลยนี่นา! กลางคืนนอนไม่หลับ ถูหนานพยายามหาวิธีคลายความวิตกกังวล ทันใดนั้นก็ได้รับข่าวจากเฉิงรุ่ย เขาเริ่มประจบประแจงเหมือนได้รับการอภัยโทษ เฉิงรุ่ยทักแชทส่วนตัวมาหาเขา เฉิงรุ่ย : มาเอากุญแจที่ฉัน กลับบ้านไปช่วยฉันเก็บกวาดบ้านเดี๋ยวนี้ ถูหนาน : ? ? ? เฉิงรุ่ย : เก็บทุกอย่างที่จัดเตรียมไว้ในห้องรับแขกให้สะอาด นี่คือโลเคชั่น ถูหนาน : บอส ถามได้มั้ยว่าเพราะอะไร? เฉิงรุ่ย : ไม่ได้ ถูหนาน : ......จะรีบไปหาเดี๋ยวนี้แหละ! บอสบอกว่าดีก็คือดี บอสไม่ให้ถามก็คือห้ามถาม มันเป็นวิถีของสุนัขขี้ประจบ เขามีพลังเต็มเปี่ยม บอกกับตัวเองว่าต้องคว้าโอกาสเอาไว้ให้ได้ ทำให้เฉิงรุ่ยลืมเรื่องวันนี้ไปให้ได้ 
已经是最新一章了
加载中