บทที่ 48
บ๗ที่ 48
เฉิงรุ่ยเดินกลับเข้าไปในโรงหนังอีกครั้ง
หนังกำลังเริ่มฉาย เขานั่งลงข้างๆเซี่ยหลิงหลิง สายตาเหลียวมองไปทางเซี่ยหลิงหลิงที่กำลังตั้งใจดูโฆษณาบนจอหนังอย่างใจจดใจจ่อ พร้อมกับเคี้ยวป็อปคอร์นเสียงกรุบกรับ เซี่ยหลิงหลิงยื่นป็อปคอร์นให้เฉิงรุ่ย : “กินสิ”
แต่ที่แปลกก็คือ เฉิงรุ่ยกลับปฏิเสธ
เซี่ยหลิงหลิงทำหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องของการกิน เฉิงรุ่ยไม่เคยแม้แต่จะปฏิเสธเลยสักครั้ง
เธอถามไปอย่างระมัดระวัง : “นี่นายไม่สบายจริงๆเหรอ?”
เฉิงรุ่ย : “......”
หนังเริ่มฉาย ภายในโรงหนังนั้นมืดสนิท ได้ยินเสียงแว่วๆดังมาจากทางด้านหลัง เซี่ยหลิงหลิงหันหน้าไปดูอย่างอดใจไม่ได้ ที่ๆสายตาสาดส่องไป คู่รักบางส่วนกำลังคลอเคลียกันอย่างสวีทหวาน บางส่วนก็กำลังกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม
ส่วนเธอกับเฉิงรุ่ยนั่งตัวตรงกันอยู่ที่นั่งกลางโรงหนัง เหมือนติดอยู่บนเกาะและไม่สามารถทำตัวสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมได้
เซี่ยหลิงหลิงหัวเราะทั้งน้ำตา : “ถึงว่าทำไมถึงพากันไปนั่งแถวหลังสุด ทำไมต้องถ่อกันมาพรอดรักกันที่นี่เนี่ย”
ยังไม่ทันพูดจบ หัวของเซี่ยหลิงหลิงก็ถูกมือของเฉิงรุ่ยจับเอาไว้ บิดหน้าเธอกลับมา แล้วพูดกับเธอช้าๆ : “ดูหนัง”
“อื้ม”
ในขณะที่พูด เฉิงรุ่ยก้มมองมือถือแวบนึง
“ฉันออกไปรับโทรศัพท์แปปนึงนะ”
“นายโอเคใช่มั้ย?” เซี่ยหลิงหลิงเริ่มเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไร”
เฉิงรุ่ยเดินออกจากโรงหนังไป ถูหนานยืนรออยู่หน้าประตู เมื่อเห็นเฉิงรุ่ยก็ฉีกยิ้มแหยๆ : “สวัสดีครับบอส”
เฉิงรุ่ยหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เขา
“เก็บเสร็จแล้วก็ถ่ายรูปส่งมาให้ดูด้วย”
“ได้เลยไม่มีปัญหาครับ!” ถูหนานโค้งคำนับเขาเล็กน้อย “รับปากเลยครับ ทุกอย่างจะสำเร็จด้วยดี!”
วินาทีต่อมา ถูหนานก็ได้รับสายตาอันเย็นชาของบอสได้สำเร็จ
เขารู้ตัวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาในวันนี้เป็นความผิดของตัวเอง ก่อนจะรีบโบกมือขอตัวออกมาก่อน แล้วรีบวิ่งกลับไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา
เซี่ยหลิงหลิงกำลังอินกับหนัง เขายกโค้กขึ้นมาดื่ม ก่อนจะเรอออกมา
เฉิงรุ่ยนั่งลงข้างๆเธอ ช่วยเธอถือกล่องป็อปคอร์น เซี่ยหลิงหลิงกระซิบถาม : “เรื่องงานเหรอ?”
เฉิงรุ่ย : “อื้ม”
......
ในเวลาเดียวกัน ถูหนานมาถึงบ้านของเฉิงรุ่ยด้วยเวลาอันรวดเร็ว เขาเปิดไฟขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะถูกทุกอย่างตรงหน้าทำให้เขาถึงกับเซอร์ไพรส์ ผ้าม่านถูกปิดไว้ ทั้งห้องเต็มไปด้วยเทียนหอม บนโต๊ะอาหารถูกปูด้วยผ้าปูโต๊ะอย่างสวยงาม บนโต๊ะมีไวน์แดงและแก้วไวน์ และยังมีสเต็กเนื้อที่เย็นเฉียบแล้ว
นี่บอสจัดเต็มมากเลยนะเนี่ย! ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาถูหนานถึงกับตะลึงจนอ้าปากค้าง
เท่าที่เขารู้จัก เฉิงรุ่ยจะสามารถจัดฉากดินเนอร์ออกมาขนาดนี้ได้ยังไง มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!
ที่แท้แล้วบอสผู้ที่มีจิตใจเย็นชาเวลามีความรักแล้วจะเป็นถึงขนาดนี้ จะว่าไป มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกันนะ
ถูหนานหัวเราะหึหึออกมา ทันใดนั้นก็รู้สึกตัวว่าตัวเองรุ่มร่ามมากเกินไปแล้ว เขากระแอมออกมาเบาๆ ตัดสินใจเริ่มลงมือทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายทันที
แม้จะไม่รู้ว่าเฉิงรุ่ยจะสั่งให้เก็บกวาดของพวกนี้ทำไม แต่เขาก็ไม่อยากจะยุ่งยาก เขาเก็บทุกอย่างลงตะกร้า
เขาลืมเรื่องที่เฉิงรุ่ยขอให้เก็บทุกอย่างเข้าห้องสมุดไป แต่กลับเก็บทุกอย่างไว้ในห้องครัว เขาเก็บเทียน และผ้าปูโต๊ะ ส่วนไวน์และของกินอื่นๆก็ยังคงวางไว้ที่เดิม ในที่สุดก็เก็บกวาดทุกอย่างจนเป็นเหมือนเดิมอย่างยากลำบาก ถูหนานเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เขาคิดว่าตัวเองจะต้องเพิ่มเงินเดือนให้แม่บ้านที่บ้านสักหน่อยแล้ว
ทำงานบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เงินไม่ได้หามาง่ายๆจริงๆด้วย!
หลังจากที่ถูหนานเก็บกวาดทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถ่ายรูปส่งไปรายงานเฉิงรุ่ย เฉิงรุ่ยตรวสอบความเรียบร้อยแล้วก็ตอบกลับไปว่า ok เพื่อให้ถูหนานกลับบ้านได้
เขาเก็บมือถือกลับไป นิ่งสงบทุกการเคลื่อนไหว
ไม่มีเหตุผลอื่นๆ เซี่ยหลิงหลิงไม่ได้นอนดึกมานานแล้ว ในระหว่างที่ดูหนังไปได้เพียงแค่ครึ่งเรื่องก็เริ่มมีอาการสะลึมสะลือ ก่อนจะซบไหล่ของเฉิงรุ่ยแล้วผล็อยหลับไป เธอหลับลึกมาก แก้มนุ่มๆนั่นซบมาที่ไหล่ของเขา หลับตาสนิท ในโรงหนังที่มืดสลัว เธอหลับได้อย่างสงบสุข
แต่เฉิงรุ่ยกลับไม่รู้สึกง่วง
เขานั่งเกร็งไปทั้งตัว เก็บพนักแขนเข้าที่ เพื่อให้เซี่ยหลิงหลิงหลับได้สะดวกสบายขึ้น เซี่ยหลิงหลิงขยับปากเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเผลอพูดอะไรออกมาบ้าง หลับไปหลับไปก็ไหลลงไปอยู่ในอ้อมอกของเฉิงรุ่ย
เขาโอบเธอเอาไว้ด้วยความลืมตัว ในอ้อมอกของเขามีกลิ่นหอมข้าวโพด เหมือนกลุ่มสายไหมที่อ่อนนุ่ม ความรู้สึกนั้นมันโอบอุ้มศีรษะของเธอเอาไว้ ทำให้เขารู้สึกไม่ใช่เรื่องจริง
เขากระซิบเรียกชื่อเธอเบาๆ : “หลิงหลิง หลิงหลิง”
คนที่นอนอยู่ในอ้อมอกหลับอย่างสนิท ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา
เฉิงรุ่ยเกลี่ยผมที่สยาย เซี่ยหลิงหลิงที่กำลังหลับฝันรู้สึกถึงความจั๊กจี้ เธอขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกรำคาญ ก่อนจะคว้ามือของเฉิงรุ่ยเอาไว้ เธอหลับสนิทแล้ว นิ้มมือนุ่มๆนั้นเกี่ยวมือเขาเอาไว้ กำลังจะคลายมือออก แต่กลับถูกชายหนุ่มรีบกำมือของเธอเอาไว้อีกครั้ง
ฝ่ามือของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ก็ไม่ยอมคลายมือออก
เซี่ยหลิงหลิงละเมอพูดออกมาด้วยความไม่สบายตัว : “ร้อน”
เหมือนกำหัวแร้งเอาไว้ในมือ ทั้งร้อนทั้งแข็ง จะสะบัดยังไงก็สะบัดไม่ออก
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาเบาๆที่ข้างหูของเธอ “ไม่ดื้อนะ” เสียงนั้นทั้งแหบทั้งเบา หางเสียงแหบซ่าน ฟังแล้วทำให้รู้สึกขนลุกในใจ
แต่เซี่ยหลิงหลิงก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง
......
รุ่งเช้า ตอนที่เซี่ยหลิงหลิงตื่นขึ้นมา ก็เห็นตัวเองตื่นมาอยู่ในอ้อมกอดของเฉิงรุ่ย เธอขยี้ตา ลองนึกๆดูดีๆก็เหมือนตัวเองอยู่ในซีรีส์เรื่องหนึ่ง
เซี่ยหลิงหลิงจ้องมองใบหน้าที่หล่อเหลาของเฉิงรุ่ย เธอเผยยิ้มหวานออกมา : “อรุณสวัสดิ์”
สายตาของทั้งสองประสานกัน ทุกอย่างเหมือนถูกสะกดเอาไว้
เฉิงรุ่ยถอนหายใจ : “ขาชาไปหมดแล้ว”
เซี่ยหลิงหลิง : “......”
เฉิงรุ่ยถูกทุบตีก่อนจะกลับถึงบ้าน ข้างกายก็มีเซี่ยหลิงหลิงที่ทำหน้าเหมือนเมื่อคืนหลับไม่สบายมาตลอดทาง หน้าไร้อารมณ์ เธอเปลี่ยนรองเท้า แล้วเข้าไปอาบน้ำ
วันแรกของปีใหม่ น่าจะมีมื้อเช้าที่แสนอร่อยถึงจะถูก
หลังจากอาบน้ำเสร็จเซี่ยหลิงหลิงก็ตั้งใจจะเตรียมอาหารเช้า เป็นเดินเข้าห้องครัว เปิดตู้เย็น อยู่ๆก็เจอกับสเต็กและไวน์ที่ทำเสร็จแล้ว ขณะเดียวกันนั้นก็เอื้อมมือไปเปิดตู้ที่อยู่บนเครื่องดูดควัน ในนั้นเต็มไปด้วยเทียนหอม
เซี่ยหลิงหลิง : “? ? ?”
นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
อัพเดทครั้งหน้า วันที่12 ธ.ค. 2019
จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน