บทที่ 52   1/    
已经是第一章了
บทที่ 52
บ๗ที่ 52 เซี่ยหลิงหลิงตะลึง —— ไปเซวียนเซวียนกำลังคิดว่าเธอกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง? หากพูดว่ากลับมาเกิดใหม่ ก็อาจจะไม่ผิด เพียงแต่ว่า เธอกลับมาเกิดใหม่ในร่างของคนอีกคน แถมยังรู้พล็อตเรื่องที่ไป๋เซวียนเซวียนไปรู้อีกด้วย เซี่ยหลิงหลิงส่ายหน้า : “ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไร หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกู้โหยว ขอโทษที ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้แน่นอน และฉันเองก็ไม่มีทางที่จะเปิดโอกาสให้เขาอย่างแน่นอน” เธอจะหย่าก็ได้ และจะไปอยู่กับคนอื่นก็ได้ แต่คนๆนั้นต้องไม่มีวันเป็นกู้โหยวเด็ดขาด “แล้วเธอทำไปเพื่ออะไร ยังมีในสต็อกอีกกี่คน? วางแผนเอาไว้ได้ดีหนิ ข้างนอกควงอีกคน กลับบ้านไปก็ยังมีสามี แล้วทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร น่าขยะแขยงซะจริงๆ” คำพูดของไป๋เซวียนเซวียนฟังดูน่าเกลียดมาก เซี่ยหลิงหลิงไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธอ หากมีเรื่องมีราวกันภายในบริษัท จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ไป๋เซวียนเซวียนคงไม่ส่งผลกระทบอะไรมาก แต่เธอเองต้องทำงานที่นี่ต่อ เธอรู้นิสัยของไป๋เซวียนเซวียนดี ก็ไม่มีอะไรมาก เธอเพียงแค่อยากทำให้เซี่ยหลิงหลิงเสียชื่อก็เท่านั้นเอง เซี่ยหลิงหลิงไม่ตกหลุมพราง เพียงแค่เธอมองไป๋เซวียนเซวียนเป็นเพียงแค่ชิ้นมันฝรั่งที่มีพิษ เธอก็สบายใจขึ้น “เธอกลับไปเถอะ” น้ำเสียงของไป๋เซวียนเซวียนใจเย็นมาก “อีกสักแปปพนักงานรักษาความปลอดภัยก็จะต้องเดินมาสำรวจตรวจตราความปลอดภัย ในบริษัทยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้กลับ ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ ถ้าเธอมาอาละวาดที่นี่จนเรื่องราวใหญ่โต และมันก็จะเป็นการทำให้กู้โหยวเกลียดเธอมากขึ้นไปอีกเท่านั้น” เมื่อพูดถึงกู้โหยว ไป๋เซวียนเซวียนเผยยิ้มออกมาด้วยความประหม่า ในดวงตาเริ่มมีน้ำตา “เขาไม่ได้ชอบฉัน ฉันยังต้องกลัวอะไรอีกเหรอ?” เซี่ยหลิงหลิงชะงักไป เธอคิดว่ากู้โหยวเพียงแค่ทะเลาะกับไป๋เซวียนเซวียนเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้คาดคิดว่าระหว่างพวกเขาทั้งคู่จะแตกหักกันไปแล้ว มองเห็นไป๋เซวียนเซวียนพูดถึงกู้โหยวด้วยสีหน้าที่หมดหวังแบบนั้น เซี่ยหลิงหลิงก็รับรู้ได้ว่า บางที ความสัมพันธ์ของทั้งคู่อาจจะเปลี่ยนไปอย่างมาก ในขณะที่เซี่ยหลิงหลิงกำลังตกอยู่ในภวังค์ ไป๋เซวียนก็พูดขึ้นมาอย่างหยิ่งผยองว่า : “ฉันใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ได้ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไร?” ทั้งแสงสว่างของเขา ทั้งเพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่วัยเด็ก ทำไมถึงได้ไปวนเวียนอยู่แต่กับยัยนี่? เธอไม่พอใจ! ไป๋เซวียนเซวียนอยากจะทำให้เรื่องนี้มันแดงขึ้นมา เธอต้องการให้ชื่อเสียงของเซี่ยหลิงหลิงอื้อฉาวเหมือนเธอ จมอยู่ในโคลนตมจนลุกขึ้นยืนไม่ได้เหมือนเธอ แบบนั้นถึงจะทำให้ไป๋เซวียนเซวียนพอใจได้ เซี่ยหลิงหลิงไม่สามารถทนรอให้คนอื่นๆในบริษัทขึ้นมาเห็น เธอมองเห็นสายตาของไป๋เซวียนเซวียนเริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ เธอแอบรู้สึกถึงความหายนะ สายตาเธอมองไปยังประตูทางออกฉุกเฉิน ดูท่าทางแล้ว เธอคงทำได้แค่หนีเท่านั้น และในขณะเดียวกันนั้น สายตาของไป๋เซวียนเซวียนเย็นเฉียบ พุ่งตัวเข้าผลักเซี่ยหลิงหลิงอย่างแรง! ไป๋เซวียนเซวียนตั้งใจจะให้เซี่ยหลิงหลิงสู้กลับ แล้วเธอจะกรีดร้องเพื่อให้รปภ.และพนักงานคนอื่นๆขึ้นมาเห็น และเธอจะโวยวายจนให้เป็นข่าวหน้าหนึ่ง ประกาศให้พวกเขาได้รู้ว่าศิลปินที่ชื่อเซี่ยหลิงหลิงในความจริงแล้วแย่แค่ไหน ส่วนเซี่ยหลิงหลิงเองต้องการเพียงแค่หลบหนีไปจากตรงนี้ แค่ทำงานมาทั้งวันก็เหนื่อยจนสายตัวแทบขาดอยู่แล้ว ร่างกายของเธอบิดอย่างแรง แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างกายของเธอเร็วกว่าประสาทสัมผัสของเธอ เธอหงายหลังล้มลง ท้ายทอยตั้งฉากกับมุมโต๊ะพอดิบพอดี! ครั้งนี้ไม่แน่อาจถึงตายได้เลย! จบกันจบกันจบกัน! เซี่ยหลิงหลิงคิดอย่างเศร้า การล้มครั้งนี้กะจะคร่าชีวิตเธอไปเลยใช่มั้ยเนี่ย? ไป๋เซวียนเซวียนกรีดร้องออกมาเสียงดัง มีบางคนเคลื่อนไหวเร็วกว่า รีบพุ่งตัวเข้ามาแล้วคว้าเซี่ยหลิงหลิงเอาไว้ได้ทัน เห็นเพียงโลกทั้งใบกำลังหมุน เซี่ยหลิงหลิงตาลาย แขนของเธอถูกคว้าเอาไว้แน่น ก่อนจะหมุนตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคนๆนั้น อีกฝ่ายล้มลงสู่พื้นตามแรงพุ่งชนของเธอ ก่อนจะมีเสียงบ่นพึมพำดังตามมา เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า สมองว่างเปล่า เธอเหวอไปหลายวิ ก่อนจะเรียกชื่อเฉิงรุ่ย “เฉิงรุ่ย! เฉิงรุ่ย! นายเป็นอะไรมากมั้ย!” เฉิงรุ่ยกระแทกลงพื้นอย่างแรง นอนแน่นิ่งไม่ขยับเขยื้อน แม้แต่คิ้วยังไม่ขมวด เขากระพริบตามองเซี่ยหลิงหลิงตาปริบๆ สายตาเผยให้เห็นถึงความรู้สึกหวาดกลัว มันเป็นอารมณ์ที่เซี่ยหลิงหลิงไม่เคยเห็นมันจากเฉิงรุ่ยมาก่อน แต่ว่าตอนนี้เธอไม่มีเวลามาสงสัยเรื่องนี้มากมายนัก เซี่ยหลิงหลิงกลัวว่าตัวเองจะนอนทับเฉิงรุ่ยจนร่างพัง เธอยังไม่ทันจะได้ลุกนั่ง ก็ถูกรัดช่วงเอวเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้เธอลุกขึ้นจนเธอแทบหายใจไม่ออก เธอได้ยินเสียหัวใจเต้นรัวของเฉิงรุ่ยอย่างรู้สึกประหลาดใจ กล้ามเนื้อของเขาตึงแน่น เกร็งแข็งจนเหมือนก้อนหิน เพียงแต่ฝ่ามือที่กอดเธอไว้นั้นกลับมีอาการสั่นเทา สั่นเทาซะจนเห็นได้ชัด เซี่ยหลิงหลิงนอนทับอยู่บนร่างของเฉิงรุ่ย แทบไม่กล้าจะหายใจแรง เธอเห็นเลือดไหลออกมาผ่านไหล่ของเขาต่อหน้าต่อตา เสื้อฮู้ดสีเทาถูกย้อมไปด้วยเลือดที่แดงสด ดูน่าสยดสยอง เซี่ยหลิงหลิงช็อกซะจนน้ำตาไหลดวงตาเลิ่กลั่ก : “นายเลือดไหล! เรารีบไปโรงพยาบาลกันเถอะ!” “อย่าขยับ อย่าขยับ......” เฉิงรุ่ยพูดเสียงแหบ แต่ก็ยังไม่คลายมือออก : “ให้ฉันกอดต่ออีกหน่อย......” เหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ แม้จะเจ็บปวดซะจนแทบทนไม่ได้ แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากฉัน ไป๋เซวียนเซวียนที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับตกใจจนเหวอไป กำลังจะเตรียมหันหลังวิ่งหนีไป แต่ก็ถูกรปภ.จำนวนนึงที่เดินขึ้นมาพร้อมกับถูหนานมายืนกันทางไว้ก่อน รปภ.เดินเข้าไปล็อคตัวไป๋เซวียนเซวียนไว้ใน ไม่ปล่อยให้เธอมีโอกาสหนี ถูหนานรีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความกังวล ในช่วงเวลานั้นเขาลืมไปเลยว่ารอบข้างยังมีคนอื่นๆอยู่ด้วย เขาถามอาการของทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับกดโทรไปที่สายด่วน 120 “บอสไม่เป็นไรใช่มั้ย! พี่สะใภ้เป็นยังไงบ้าง?” ไป๋เซวียนเซวียนยืนตะลึงอยู่กับที่ ......บอส? พี่สะใภ้? เดี๋ยวนะ ถูหนานที่อยู่ตรงหน้าคือเจ้าของบริษัทเจียเฉิงไม่ใช่เหรอ! ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาภายในใจ ข่าวลือที่ว่าบริษัทเจียเฉิงมีบอสใหญ่ที่ไม่เคยปรากฏตัวออกมาให้ใครเห็น มีความลึกลับซับซ้อน หรือว่า เฉิงรุ่ยเป็น......! ไป๋เซวียนเซวียนสีหน้าซีดเผือด ก่อนจะเป็นลมไปในทันที 
已经是最新一章了
加载中