บทที่ 54
บ๗ที่ 54
ถูหนานหันไปพูดกับตำรวจที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าเรียบเฉย : “ให้คุณหมอมาตรวจสภาพจิตอีกครั้งเถอะครับ ผมสงสัยว่าเธออาจจะเป็นโรคคลั้งไคล้เกินเหตุและมีอาการหวาดระแวง บางทีเธออาจจะเหมาะกับการอยู่รักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชมากกว่า รักษาจนเป็นปรกติแล้วค่อยออกมา”
“ได้ครับ พรุ่งนี้จะติดต่อคุณหมอให้”
......
อีกด้านนึง เซี่ยหลิงหลิงกำลังปอกส้มให้เฉิงรุ่ย
เฉิงรุ่ยนั่งสงบเสงี่ยมอยู่บนเตียงผู้ป่วย รอให้เซี่ยหลิงหลิงป้อนส้มให้กิน เขานั่งจ้องเซี่ยหลิงหลิงที่ก้มหน้าก้มตาปอกส้มให้เขาด้วยท่าทีจริงจังแบบนั้นอย่างไม่ละสายตา เซี่ยหลิงหลิงถูกจ้องซะจนทำตัวไม่ถูก เธอมองไปที่เฉิงรุ่ยด้วยสายตาฉุนๆ
“มองอะไรของนาย!”
เฉิงรุ่ย : “กลัวว่าเธอจะกินส้มเข้าไปน่ะสิ”
เซี่ยหลิงหลิง : “......”
เฉิงรุ่ย : “ดึงเส้นใยสีขาวๆพวกนั้นออกให้สะอาดด้วยนะ”
เซี่ยหลิงหลิง : “......ฉันวรณ์ให้นายใจดีกว่านี้ ขอบคุณ”
เห็นแก่ที่เฉิงรุ่ยต้องบาดเจ็บก็เพราะเซี่ยหลิงหลิง เธอจึงไม่ค่อยกล้าทำอะไรเฉิงรุ่ยมาก หากทำตามนิสัยปกติแล้ว เซี่ยหลิงหลิงก็คงจะปล่อยหมัดให้เขาตายคามือเธอไปเลย คงไม่ปล่อยให้เขานั่งระรื่นอยู่แบบนี้หรอก
เธอปอกส้มด้วยท่าทางดุดัน แล้วยื่นไปให้เฉิงรุ่ย
เฉิงรุ่ยพูดขึ้นด้วยความไร้เดียงสา : “มือข้างเดียวปอกไม่ไหวหรอก”
เซี่ยหลิงหลิงเริ่มทนไม่ได้ กำลังจะหัวร้อน เฉิงรุ่ยรีบทำสีหน้าเหยเก คราวโอดโอยออกมาเสียงเบา : “เจ็บไหล่จัง เหมือนมันจะบาดถึงเข้ากระดูกเลย”
“......” โอเค เธออดทนไว้ก็ได้
เซี่ยหลิงหลิงค่อยๆแกะส้มออกเป็นซีกๆอย่างใจเย็น วางไว้บนมือของเขา ทีนี้เฉิงรุ่ยถึงจะกินส้มอย่างสบายใจ
“ตอนนั้นทำไมนายถึงกอดฉันไว้ไม่ยอมปล่อยล่ะ? นายสมองเสื่อมหรือยังไง?”
เซี่ยหลิงหลิงนึกขึ้นได้หลังเกิดเหตุ ท่าทางของเฉิงรุ่ยดูแปลกๆตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เขาเหมือนปลาที่ขาดน้ำ กอดรัดเอวเธอไว้จนแน่น จนเอเกือบจะหายใจไม่ออก จนเซี่ยหลิงหลิงเกือบเชื่อแล้วว่าเขาแอบคิดอะไรกับเธอแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะกอดเธอแน่นขนาดนั้นทำไม?
เฉิงรุ่ยเงียบไปสักพัก ก่อนพูด : “สมองไม่ได้เสื่อม”
“นายคงไม่ได้รู้สึกดีกับฉันหรอกใช่มั้ย?” เซี่ยหลิงหลิงพูดหยอกเขาขำๆ
“อื้ม”
เซี่ยหลิงหลิง : “ฉันรู้อยู่แล้วว่านายคงไม่.....อื้ม อื้มงั้นเหรอ???”
เธออึ้งไปชั่วขณะ ไม่คิดเลยว่าเฉิงรุ่ยจะไม่ได้ตอบปฏิเสธแต่กลับตอบว่า อื้ม ในความคิดของเซี่ยหลิงหลิง ในโลกของเฉิงรุ่ยไม่มีคำว่า “ความรัก” สองคำนี้เลย ในเรื่องนี้ทั้งเธอและเจียวฝันมีความสงสัยที่สอดคล้องกัน ทั้งสองต่างก็คิดว่าเขาเป็นพวกไม่มีอารมณ์ทางเพศ ตัวเองมีลูกได้แล้วไม่ให้ สายเลือดขาดสาย
เพราะแบบนั้น เธอจึงตัดความเป็นไปได้ที่เฉิงรุ่ยจะชอบเธอออกก่อนเป็นอันดับแรก
เซี่ยหลิงหลิง : “ทำไมต้องทำเป็นจริงจังขนาดนั้นล่ะ อย่าทำให้ฉันรู้สึกว่านายชอบฉันจริงๆแบบนั้นสิ!”
เฉิงรุ่ยกำส้มไว้ในฝ่ามือ กลีบส้มที่อ่อนนิ่มติดแน่นไปกับผิวที่ชุ่มชื้น เขากำลังจะพูดความในใจออกมา แต่วินาทีต่อมา เซี่ยหลิงหลิงก็เลิกคิ้วขึ้น พูด : “แบบนั้นก็แย่แล้วน่ะสิ”
สายตาของเขานิ่งไป
ยังไม่ทันที่เฉิงรุ่ยจะได้ถามว่า “เพราะอะไร” ถูหนานก็ผลักประตูเข้ามา กล่าว : “ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้ดูเหมือนคนบ้าแบบนั้นล่ะ แถมยังจะเรียกกู้โหยวมาที่นี่อีก หากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกู้โหยวจริงๆ ผมคงไม่ปล่อยเขาไว้แน่”
“ไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลย เธอแค่อยากมาหาฉันเพื่อระบายความโกรธ”
“ไม่ว่าจะยังไง หล่อนก็ต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น อยากจะทำร้ายใครก็ได้ตายอำเภอใจแบบนี้ที่ไหนกัน”
“แต่ว่า” ถูหนานหันไปหาเฉิงรุ่ยอย่างใจจดใจจ่อ “ บอสครับ ผมเผลอปากพูดออกไป เราจะทำยังไงกันดีล่ะครับ?”
เฉิงรุ่ยดึงสติกลับมา
เขาแสดงท่าทีเรียบเฉย น้ำเสียงเนิบๆ : “เปิดเผยแล้วก็คือเปิดเผยแล้ว ตามนั้น”
อัพเดทครั้งหน้า วันที่16 ธ.ค. 2019
จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน