ตอนที่56 การที่ไม่รับรู้อะไรเลยก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่56 การที่ไม่รับรู้อะไรเลยก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง
ต๭นที่56 การที่ไม่รับรู้อะไรเลยก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง จู่ๆบรรยากาศก็เริ่มแปลกไป แต่ละคนมองหน้ากัน คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น “เธอมาได้ยังไง” หานจวิ้นซือถามด้วยความสงสัย แววตาไม่ค่อยพอใจ “ก็ฉันคิดถึงคุณไง ทำไม ไม่พอใจหรอ” ตอนพูดเชี่ยหยาวจงใจหันไปมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ “ฉันนึกว่าคุณมากับผู้ช่วยกู้กันแค่สองคน ไม่นึกว่าคุณหยางจะมาด้วย” หยางเมิ่งฉียิ้มแห้ง ไม่ได้พูดหรืออธิบายอะไร “ก่อนมา ทำไมไม่โทรบอกฉันก่อนล่ะ” “ถ้าฉันโทรแล้วคุณจะยอมให้ฉันมาหรอ” เธอถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ กู้เฟิงเหยนออกมาทำลายบรรยากาศอึดอัดนี้ “ไปกินข้าวกันก่อนเถอะครับ ที่ผมจองไว้เรียบร้อยแล้ว” “พวกคุณไปกินกันก่อนเลย ฉันขอตัวกลับบ้านไปเก็บของก่อน” เธอพูดจบก็หันหลังกลับ แต่ถูกหานจวิ้นซือคว้าแขนเอาไว้ “ให้กกู้เฟิงเหยนไปส่ง” แขนชา เธอเห็นสายตาไม่พอใจของเชี่ยหยาว เธอรีบสะบัดแขนออก “ไม่เป็นไร ฉันต่อรถกลับเองก็ง่ายมาก” แต่หานจวิ้นซือไม่ยอม “เขาขับไปส่งเธอง่ายกว่า” บรรยากาศกลับมาอึดอัดอีกครั้ง กู้เฟิงเหยนถอนหายใจ แล้วเดินมาพูด “ให้ผมไปส่งดีกว่า ดูอากาศไม่ค่อยจะดี” ภูเขาหนึ่งไม่สามารถมีแม่เสือได้ถึงสองตัว หยางเมิ่งฉีอยากออกไปจากที่นี่เร็วๆเลยตอบตกลงไป ห้องอาหารที่มีบรรยากาศสวยงาม แต่หน้าเชี่ยหยาวไม่ได้แลดูมีความสุขใดๆ ตอนแรกเธอมีเรื่องมากมายจะพูดกับเขา แต่ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรทั้งนั้น หานจวิ้นซือทำดีกับเธอเหมือนเดิม สั่งอาหารของว่างที่เธอชอบตามเดิม โดยไม่มีท่าทีว่าจะรู้สึกผิดต่อเธอ “คุณไม่คิดที่จะอธิบายอะไรให้ฉันฟังหน่อยหรอ” เธอทนเงียบต่อไปไม่ไหว เลยถามขึ้น “อธิบายเรื่องอะไร” “ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่กับคุณ ที่คุณไม่ยอมให้ฉันมาด้วย เพราะมีคนมาแทนที่ฉันแล้วใช่มั้ย” “ไม่มีใครมาแทนที่เธอได้ คำนี้ฉันพูดซ้ำกับเธอไปหลายรอบแล้ว” เชี่ยหยาวหัวเราะ “หลายปีที่ผ่านมา คุณพูดแบบนี้กับฉันมาตลอด คุณไม่เคยคิดเลยใช่มั้ยว่าฉันไม่เคยอยากได้ตำแหน่งบ้าๆนี้ที่คุณให้ฉัน ถ้าเลือกได้ ฉันอยากเป็นผู้หญิงที่อยู่ข้างกายคุณ ถูกคุณจูบ ถูกคุณกอด ถึงแม้สุดท้ายฉันจะโดนทิ้ง ฉันก็ยอม” หานจวิ้นซือเงยหน้า แล้วถามเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เธอแน่ใจหรอว่าต้องการแบบนั้น” ใบหน้าเขาจริงจัง เหมือนกับว่าถ้าเธอพยักหน้าตอบตกลง เขาก็จะทำตามที่เธอต้องการทันที หลังจากนั้นก็ทิ้งเธอ “ฉันหิวแล้ว” เธอเปลี่ยนเรื่อง เธอไม่มีความกล้ามากมายขนาดนั้น ท้องฟ้ามืดครึม ฝนค่อยๆโปรยลงมา หยางเมิ่งฉีมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความผิดหวัง “ถ้าเกิดว่าคุณเชี่ยไม่มา คุณหานต้องมาส่งคุณด้วยตัวเองแน่นอนครับ” กู้เฟิงเหยนดูออกว่าเธออารมณ์ไม่ค่อยดี เลยพูดปลอบขึ้น “อ่อ ไม่เป็นไรหนิ ใครส่งก็เหมือนกันนะแหละ” เธอหยักไหล่ พยายามทำเหมือนไม่เป็นอะไร “เป็นความผิดของผมเอง เมื่อคืนเธอส่งข้อความมาถามผมว่าเราพักอยู่โรงแรมไหน ตอนนั้นผมไม่นึกว่าเธอจะกล้าตามมา ผมเลยบอกเธอไป ถ้ารู้....” “จะเป็นความผิดคุณได้ไง เชี่ยหยาวกับหานจวิ้นซือเขาเป็นคู่หมั้นกัน การที่เธอมาหาเขามันเป็นเรื่องปกติ คุณจะโทษตัวเองไปทำไม” “ถ้าตามหลักแล้วก็คงใช่ แต่..........” เขาถอนหายใจ “จะพูดยังไงดี เรื่องบางเรื่องคุณไม่มีทางเข้าใจ” “เช่นอะไรล่ะ” “เช่น การที่จะแต่งงานกัน ไม่ได้แปลว่าคนสองคนนั้นจะรักกัน” หยางเมิ่งฉียิ้มแห้ง คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ แต่เธอจะไม่เข้าใจได้ยังไง...... ถึงจะเข้าใจแล้วไงละ เธอยอมแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจดีกว่า เพราะการที่เราไม่รับรู้มันก็ถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ถ้าอากาศไม่ดี บนท้องถนนจะเต็มไปด้วยรถมากมาย ไปๆหยุดๆ เหมือนไม่มีจุดหมายปลายทาง “จะติดไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย” หยางเมิ่งฉีอดบ่นไม่ได้ “ใจเย็นๆ คงจะใกล้แล้ว” “ฉันไม่ได้รีบ แต่คุณนี่ดิ มาส่งฉัน ข้าวเย็นก็ยังไม่ทันได้กิน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ไม่เป็นไร ผมไม่หิว” กู้เฟิงเหยนเป็นคนมีความอดทนสูง เธอหันหน้ากลับมา “เชอะ เอางี้มั้ย เดี๋ยวฉันเชิญคุณไปกินเกี๊ยวบ้านฉัน” “จริงหรอ” “จริงสิ” “แล้วถ้าพ่อแม่คุณถามว่าผมเป็นใครขึ้นมา คุณจะตอบพวกท่านว่าไง” “มันไม่ใช่ปัญหา ก็แค่บอกว่าเป็นคนขับรถของเจ้านายไง” เขายิ้ม “งั้นตกลง” กว่าจะถึงที่หมาย หยางเมิ่งฉีกระโดดลงรถ เธอชี้ไปที่ป้ายร้านเกี๊ยว “นั่นไงบ้านฉัน ไปกันเถอะ” กูเฟิงเหยนเดินตามเธอเข้ามาในร้าน ถึงร้านจะเล็ก แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น “พ่อ แม่ หนูกลับมาแล้ว” หยางอี้เทียนเงยหน้ามอง เห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างลูกสาวเธอ เขาเอ่ยถามขึ้น “คุณคนนี้คือ......” “อ๋อ เป็นคนขับรถของเจ้านายหนูเอง เขามาส่งหนูเอากระเป๋าสัมภาระ” หยางเมิ่งฉีฉีก็ยิ้ม “ต้มเกี๊ยวให้พวกหนูสักถ้วยสิ หิวมากเลย” พ่อหยางก้มหน้าก้มตาต้มเกี๊ยวให้พวกเธอ เฉียวอวี้เจาสีหน้าไม่ค่อยดี ถามด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ “พรุ่งนี้ก็จะกลับกันแล้วหรอ” “ใช่ค่ะ” เหมือนเธอจะรู้ว่าแม่เป็นห่วง เธอพูดขึ้น “แม่หนูรู้ว่าแม่เป็นห่วง แต่หนูสัญญาว่าจะรีบเรียนให้จบ แล้วกลับมาอยู่กับแม่ แล้วจะไม่ไปไหนอีก” “ก็ได้” แม่เธอยกยิ้ม เธอเชื่อใจลูกสาวของตัวเอง ต้มเกี๊ยวเสร็จ หยางเมิ่งฉีเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามกับกู้เฟิงเหยน “คุณลองชิดู ฉันรับประกันรสชาติความอร่อย” เขาพยักหน้า ก่อนชิมเขาพูดขึ้น “ถ้าคุณหานรู้ว่าผมได้มากินเกี๊ยวที่ร้านคุณเขาต้องอิจฉามากแน่ๆเลย” “ทำไมหรอ” “ครั้งก่อนที่ส่งคุณกลับมา เขาพูดกับผมว่า เขาอยากเห็นที่ที่คุณโต” เธอก้มหน้าลง “มีอะไรหน้าดู” “คุณรู้ดี แต่คุณแค่ไม่ยอมรับความจริง” ทั้งสองเงียบไป นี่เป็นหัวข้อพูดคุยที่ค่อนข้างอ่อนไหว กู้เฟิงเยนเอ่ยถามขึ้น “ใช่ เมื่อกลางวันคุณได้ทำตามที่ผมบอกมั้ย” “เนื้อผัดถั่วลิสงอ่ะนะ” หยางเมิ่งฉีถามกลับ “ใช่” “ฉันทำแล้ว แต่ดูเหมือนเขาไม่ค่อยชอบกิน” “เขาไม่ได้ไม่ชอบกิน แต่เป็นเพราะไม่กล้ากิน” “ฉันไม่ได้ใส่พิษสักหน่อย” กู้เฟิงเหยนถอนหายใจ หยุดชะงักไปสักพักแล้วพูดขึ้น “ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ทุกคนล้วนมีความทรงจำที่เจ็บปวด สำหรับคุณหานแล้ว ความทรงจำที่ยากที่จะลืมของเขาคือ เนื้อผัดถั่วลิสง” “หมายความว่ายังไง” “ก็ตั้งแต่ที่พ่อกับแม่เสีย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เขาตัดสินใจด้วยตัวเองทั้งหมด ถึงใบหน้าจะไม่แสดงออกอะไรเลย แต่ในใจลึกๆเขารู้สึกเหนื่อย เขาต้องแสดงให้คนนอกและศัตรูต่างๆเกรงกลัว เนื้อผัดถั่วลิสงคืออาหารที่แม่เขาชอบทำให้เขากินก่อนตาย เพราะไม่มีใครเคยเอาเนื้อมาผัดกับถั่วลิสง นี่เป็นความรักที่ไม่เหมือนใคร เป็นรักที่แม่ต้องการมอบให้เขาเพียงคนเดียว” 
已经是最新一章了
加载中