ตอนที่69 พฤติกรรมน่าอาย
1/
ตอนที่69 พฤติกรรมน่าอาย
Thief เธอขโมยหัวใจผมไป
(
)
已经是第一章了
ตอนที่69 พฤติกรรมน่าอาย
ตนที่69 พฤติกรรมน่าอาย หยางเมิ่งฉีแอบซาบซึ้ง เธอพูดปลอบเขา “ไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น สิ่งที่คนอื่นมีแต่นายไม่มี ในทางเดียวกันสิ่งที่นายมีคนอื่นก็ไม่มีเหมือนกัน ก็เหมือนนายถึงแม้จะไม่รวยเหมือนเขา แต่นายมีแม่ที่รักนายมาก และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่มี สิ่งสำคัญที่สุดในโลกนี้คือ ความสัมพันธ์ไม่ใช่หรอ เงินเป็นของนอกกาย เราสามารถสร้างได้” “ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่ถ้าฉันเป็นผู้หญิง ฉันก็คงเลือกผู้ชายแบบเขา” “ผิดแล้ว ความรักที่แท้จริง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฐานะ ผู้หญิงคนหนึ่งจะรักผู้ชายคนหนึ่งได้ จะต้องเป็นเพราะเขาเป็นคนดี ไม่ได้เป็นเพราะเขารวย” ฉวีจื่อเย่ายื่นมือไปจับมือเธอ “แล้วเธอล่ะ ถ้าเกิดเป็นเธอ เธอจะเลือกยังไง” เธอดึงมือกลับ “ไม่มีคำว่าถ้า ฉันเป็นฉัน ฉันแตกต่างกับคนอื่น” สี่โมงครึ่ง เธอได้รับสายจากกู้เฟิงเหยน “ฮัลโหลคุณหยาง ร้านอาหารผมจองไว้เรียบร้อยแล้วนะครับ จะให้ผมแวะไปรับมั้ย” “อ่อ ไม่เป็นไร คุณอยู่ร้านไหน” “Leo neck” “โอเค..........” เธอพูดกระซิบ “คือ เจ้านายนายอยู่มั้ย” “อยู่ คุณจะคุยกับเขาหรอ” “อืม” หานจวิ้นซือเอ่ยทัก “ฮัลโหล” “ฉันเอง” เขายกยิ้ม “ฉันรู้” “คุณชวนแฟนฉันกินข้าวฉันไม่ว่า แต่ขออะไรคุณอย่างหนึ่งได้มั้ย” “ได้ซิ เรื่องอะไรล่ะ” “อย่าบอกเขาเรื่องที่คุณกับฉันเจอกันเมื่อสองปีก่อนได้มั้ย” เขาเงียบไปสักพัก “อืม ได้” “ขอบคุณนะ” เธอโล่งใจ ห้าโมงตรง ฉวีจื่อเย่ากับเธอมาอยู่ตรงหน้าโรงแรมสุดหรู เขาเอ่ยพูดขึ้น “ดูหรูจังเลย คืนหนึ่งไม่รู้ต้องเสียค่าห้องมากมายขนาดไหน” หยางเมิ่งฉัจำเป็นต้องพูดเตือนเขา เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “จื่อเย่า นายช่วยทำตัวดีหน่อยๆ อย่าให้เขาดูถูกเราได้เข้าใจมั้ย” “อืม ได้ๆ” เขารับปากยังง่ายดาย เดินเข้ามาด้วยความระมัดระวัง หานจวิ้นซือกับกู้เฟิงเหยนรออยู่ในห้องอาหารก่อนแล้ว ทั้งสี่คนเจอกัน ฉวีจื่อเย่าเอ่ยพูดขึ้น “ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำให้คุณต้องมาเลี้ยงข้าวเราในที่แพงๆแบบนี้” “ไม่ต้องเกรงใจ” หลังจากนั่งเข้าที่แล้ว พนักก็ยกอาหารขึ้นมาเสิร์ฟ เขาจ้องมองดูอาการแต่ะจานอย่างวางตา สองสามวันมานี้เขาไม่ได้กินอะไรดีๆเพราะต้องประหยัด กินแค่วันละสองมือ บางมือก็กินแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผอมลงไปมาก “คุณฉวีไม่ต้องเกรงใจนะครับ” หานจวิ้นซือพูดเสร็จ เขาไม่มีท่าทีเกรงใจ หยิบตะเกียบขึ้นมากินเหมือนคนอดอยาก ลืมสิ่งที่เธอพูดเตือนเขาตอนก่อนเข้ามา เขาลืมทุกอย่าง.......... หยางเมิ่งฉัอายจนอยากเอาหน้าหมุดดินหนี พฤติกรรมของเขาทำให้เธอขายหน้า เธอคิดว่าเขาคงหัวเราะเยาะเธออยู่ในใจ หยางเมิ่งฉี เธอไม่ยอมคบกับฉัน ผู้ชายแบบนี้หรอที่เธอต้องการอยากจะแต่งงานด้วย และนี่ยังไม่ใช่เรื่องน่าอายที่สุด ยังมีเรื่องน่าอายมากกว่านี้อยู่ข้างหลัง ฉวีจื่อเย่าตั้งหน้าตั้งตากิน โดยที่ไม่สนใจว่าแฟนที่อยู่ข้างจะกินลงมั้ย แต่เป็นหานจวิ้นซือที่คอยคีบกับข้าวให้เธอ นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขา ข้างซ้ายมือเป็นหานจวิ้นซือ ทางขวามือเป็นฉวีจื่อเย่า หานจวิ้นซือยกดื่มเป็นครั้งเป็นคราว และแทบจะไม่กินอาหารเลย “ฉีฉี ทำไมเธอไม่กินล่ะ” หยางเมิ่งฉีส่ายหน้า “ฉันไม่หิว” ในใจบอกต่อ หมดอารมณ์ กินไม่ลงเพราะนายนั่นแหละ หลังจากกินอิ่ม พูดคุยกันสักพัก หานจวิ้นซือส่งสายตาให้กู้เฟิงเหยน “คุณฉวีครับ นี่เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากคุณหาน คุณช่วยรับไว้ด้วยนะครับ” ฉวีจ่อเย่าตาโตกับตัวเลขตรงหน้า “รับไว้ไม่ได้ครับ แค่คุณเลี้ยงข้าวก็เกรงใจจะแย่แล้ว จะให้รับเงินไว้ได้ยังไง” หยางเมิ่งฉีดล่งใจที่เขายังเหลือศักดิ์ศรีความเป็นคนอยู่บ้าง ไม่งั้นเธอคงผิดหวังในตัวเขามาก “ไม่เป็นไร รับไว้เถอะครับ ถึงที่นี่จะไม่ได้เป็นเมืองที่ใหญ่โต แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงพอสมควร” หานจวิ้นซือยกยิ้ม “แต่ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่ควรรับเงินจากพวกคุณ” “ถ้าต้องการเหตุผลจริงๆ เพื่อน ใช้เป็นเหตุผลได้มั้ยครับ” ฉวีจื่อเย่าใจสั่น มือไม้เริ่มสั่น หยางเมิ่งฉีกลัวเขาจะรับเงิน เธอเหยียบตีนเขาเพื่อเตือนสติ “ก็คงต้องถามความเห็นแฟนผมก่อน” ปากบอกห้ามความเห็นจากเธอ แต่ตาไม่ละจากเช็คใบนั้น “ขอบคุณนะคะ แต่เงินเรารับไว้ไม่ได้จริงๆคะ” ฉวีจื่อเย่ารู้ว่าเธอต้องพูดแบบนี้ “งั้นคุณหานเปลี่ยนเป็นหาโรงแรมให้เราดีมั้ยครับ เราจะได้ประหยัดค่าโรงแรม” หานจวิ้นซือชงักไปสักพัก แล้วพยักหน้า “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา แต่เงินนี่ก็รับไว้ ถือว่าให้เป็นของขวัญแต่งงาน” มันเป็นเหตุผลที่ไม่ควรปฏิเสธ อย่างน้อยมันเป็นสิ่งที่ฉวีจื่อเย่าคิด เขายกยิ้มด้วยใบหน้าดีอกดีใจ “งั้นก็ได้ครับ เราสองคต้องขอบคุณมาก” เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป หยางเมิ่งฉีตบโต๊ะแล้วพูดขึ้น “ฉวีจื่อเย่าถ้านายกล้ารับเงินนี้ไว้ ฉันกับนายจะจบกันทันที” พูดจบ เธอก็วิ่งออกจากร้านไป ฉวีจื่อเย่าวิ่งตามเธอออกมา แล้วดึงแขนเธอไว้ “ฉันไม่รับแล้วนี่ไง วิ่งออกมาทำไม” “นายต้องให้ฉันพูดตรงๆใช่มั้ย คิดเองไม่เป็นหรอ รักสักดิ์ศรตัวเองหน่อยนายจะตายหรอ” “ศักดิ์ศรีมันมีค่ากี่บาท เงินมากมายขนาดนั้นไม่เอา ฉันว่าเธอคงเรียนหนังสือมากเกินไปจนโง่ไปแล้ว” เขาไม่รู้สึกอายเลย หยางเมิ่งฉีตาแดง “ใช่ ฉันเรียนจนโง่ งั้นคุณก็กลับไปรับเช็คนั้นซิ ไม่ต้องสนใจคนโง่ๆแบบฉัน” เธอวิ่งหนีอีกครั้ง ฉวีจื่อเย่าไม่ได้ทิ้งเธอเพราะเช็คนั้น เขาวิ่งไล่ตามเธอ “ฉีฉี เราต้องมีชีวิตอยู่ในโลกของความเป็นจริง ไม่มีเงินก็เท่ากับว่าไม่มีอะไรเลย เมื่อกี้เธอเห็นตัวเลขในเช็คนั้นมั้ย หกหลัก มันตั้งเลขหกหลังนะ เราต้องทำงานหนักกี่ปีกว่าเราจะได้เงินจำนวนนั้น” ตอนที่70 เราเลิกกันเถอะ หยางเมิ่งฉีหยุดชะงักเท้า ยิ้มเยาะ “หรอ เราต้องมีชีวิตอยู่ในโลกของความเป็นจริง งั้นก็ดี เดี๋ยวฉันจะเข้าหาเขา เพราะเขารวยกว่านาย ฉันไม่ต้องทำงานหนัก เกาะเขากินไปวันๆก็พอ” ฉวีจื่อเย่าไม่นึกว่าเธอจะพูดแบบนี้กับตัวเอง เขาหน้าเสีย “ก็ได้ เธอไปเลย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าพวกเธอสองคนเป็นอะไรกัน ฉันแค่ไม่อยากพูดเฉยๆ” “เราสองคนเป็นอะไรกันหรอ เราเป็นอะไรกันล่ะ” ถึงแม้ทั้งสองคนทะเลาะกันไม่บ่อนหนัก แต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่ทะเลาะกันรุนแรงขนาดนี้ “เป็นอะไรกันยังต้องให้ฉันบอกหรอ ถ้าไม่ได้เป็นอะไรกัน เขาจะเอามากมายขนาดนั้นให้ทำไม เพื่อนห่าไร มีคนจีนมากมายเต็มท้องถนนทำไมเขาไม่ให้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอกับเขาเป็นอะไรกัน ที่ฉันไม่พูดไม่ได้หมายความว่าฉันโง่ดูไม่ออก” หยางเมิ่งฉีเริ่มหมดหวัง ตอนแรกที่เธอไม่มั่นใจ ยอมแต่งๆไปงั้นๆ พอถึงตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด “นายกำลังดูถูกฉันอยู่นะ” “ถ้าไม่ได้ทำจริงจะกลัวทำไม” เพี๊ยะ......เธอยกมือตบหน้าเขา “งั้นก็ได้ เราเลิกกันเถอะ” เธอไม่ได้ขู่เขา แต่ทนไม่ไหวแล้ว ว่ากันว่าก่อนแต่งกับหลังแต่งผู้ชายจะเปลี่ยนไป นี่ยังไม่ทันได้แต่งเลย เขาก็เป็นขนาดนี้แล้ว ถ้าแต่งจะขนาดไหน “เธอพูดจริงหรอ” “ฉันคงไม่พูดเล่นหรอก” “ฉันไม่เลิก” ฉวีจื่อเย่ากำมือเธอแน่น “จะเลิกง่ายๆแบบนี้หรอ ฉันไม่ยอม” “การคบกันต้องให้ทั้งสองคนยินยอม แต่ถ้าเลิกกัน เป็นการตัดสินใจของคนคนเดียว” เธอพยายามดึงมือออก เธอไม่แม้แต่จะหันหลังมอง เขาตะโกนตามหลัง “เมิ่งฉีหยุด ฉันบอกให้หยุด” ไม่รู้เธอวิ่งมานานแค่ไหน เธอหยุดลง ยกมือเช็ดน้ำตา แต่เหมือนยิ่งเช็ดน้ำตาก็ยิ่งไหล ถึงแม้จะไม่ได้รัก แต่ในใจเธอก็แอบรู้สึกน้อยใจ อธิบายไม่ถูก ข้างหน้าเป็นโรงหนัง มีคู่รักมากมายต่อแถวซื้อตั๋ว เธอเข้าไปต่อแถวด้วย เธออยากแสดงให้เห็นว่าดูหนังไม่จำเป็นต้องมีคู่สามารถดูคนเดียวได้ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าดังไม่ขาดสาย เธอหยิบมันขึ้นมาดู เธอนึกว่าเป็นฉวีจื่อเย่า แต่เป็นสายจากหานจวิ้นซือ “ฮัลโหล” “เธอเป็นไงบ้าง” เขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เห็นเธอวิ่งออกมาจากร้านคงคิดว่าอาการเธอไม่ค่อยดี “ไม่ได้เป็นอะไร” “อยู่ไหน” “อยู่โรงหนัง” “อยู่กันสองคนหรอ” “ฉันอยู่คนเดียว” ตูตูๆ อยู่ๆสายก็ตัดไป เธอไม่ได้สนใจ เก็บมือถือลงในกระเป๋าตามเดิม พอถึงคิวเธอพนักงานเอ่ยถาม “Would you like some ticket?(ต้องการซื้อตั๋วกี่ใบคะ)” “A piece of, thank you (ใบเดี่ยว ขอบคุณค่ะ)” เธอกำลังจะจ่ายเงิน อยู่ๆก็มีคนพูดขึ้นข้างๆ “Plus one (เพิ่มอีกใบครับ)” เธอหันหลังกลับไปมอง หานจวิ้ซือจ่ายเงินไปแล้ว ในมือถือตั๋วไว้สองใบ เธอยืนชะงักค้างอยู่ที่เดิม “ยืนเหม่อลอยอยู่ได้ หนังจะเริ่มฉายแล้วเนี่ย” เขาจูงมือเธอให้เดินตามเขา สักพัก เขาก็ปล่อยมือออกจากเธอ “รอฉันแปปหนึ่ง อย่าไปไหนนะ ยืนรออยู่ตรงนี้” ผ่านปสักพัก เขาเดินกลับมาพร้อมกับถือถังป็อบคร์อน “คุณรู้ได้ไงว่าฉันชอบกินตอนดูหนัง” เธอถามด้วยน้ำเสียงสะอื้น “ผู้หญิงทุกคนชอบ” เธอเหล่ตามองเขา “ถึงฉันจะอารมณ์ไม่ดี แต่คุณอย่าคิดจะฉวยโอกาส ของกินแค่นี้ซื้อใจฉันไม่ได้หรอกนะจะบอกให้” เขายกยิ้ม “ไม่เอา ฉันเอาให้คนอื่นก็ได้” เธอก็แย้งมา กอดไว้แน่น เธอสูดจมูก หนังเริ่มฉาย ไปถูกปิดลง หน้าจอมีทั้งอังกฤษและจีนสลับกัน ในโรงใหญ่มาก สามารถจุคนได้หลายร้อย ในโรงเงียบสงบ ไม่นานก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นเรื่อยๆ หยางเมิ่งฉีตาเริ่มแดง เธอหยิบป็อบคร์อนเข้าปากไม่หยุด น้ำตาก็ไหลไม่หยุดเหมือนกัน ถึงจะมืดมาก มีเพียงแสงที่ฉายออกมาจากจอ มันก็สว่างพอที่จะทำให้เขาเห็นน้ำตาที่ไหลรินของเธอ หานจวิ้นซือดึงเธอมาสบลงบ่าของเขา “มันเป็นหนังตลก ทำไมต้องร้องไห้ด้วย” เธอไม่สนใจเขา ร้องไห้ต่อไปเรื่อยๆ ร้องตั้งแต่เริ่มจนหนังฉายจบ ทำไมถึงร้อง อาจเป็นเพราะเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนตัวตลกในเรื่อง น่าสมเพ็จ รอบข้างมองเธอด้วยสายตางงๆ แล้วพูดกระซิบ หานจวิ้นซือเอ่ยพูด “หยุดร้องได้มั้ย พวกเขาคิดว่าฉันรังแกเธอแล้วเนี่ย” “ฉันหยุดไม่ได้ ฉันบังคับตัวเองให้หยุดไม่ได้................” ไม่รอให้หนังจบ เธอถูกเขาพาออกมาจากโรงหนัง ยืนอยู่ริมถนน หานจวิ้นซือมองดูดวงตาที่บวมแดงของเธอ “ไหนว่ามา เป็นอะไรกันแน่” “คุณรู้ดีแล้วยังจะมาถามอีก คุณทำแบบนั้นทำไม” “ฉันทำอะไร แค่ให้เงินแฟนเธอ การที่ฉันช่วยเหลือคนที่ฉันรักผิดด้วยหรอ” เธอร้องไห้หนักกว่าเดิม “คนที่คุณรักคือฉวีจื่อเย่าหรอ” “คนที่ฉันรักคือเธอต่างหาก” เขากดไหล่เธอไว้ “อย่ามาเปลี่ยนความหมายของฉัน” “แต่คนที่คุณช่วยเหลือคือเขา ฉันไม่ได้ต้องการเงินของคุณ” หานจวิ้นซือถอนหายใจ “ฉันช่วยเหลือคนรักของคนที่ฉันรัก” “ไม่ได้ เป็นเพราะคุณให้เช็คเขา ทำให้เขาเข้าใจฉันกับคุณผิด ถ้าเขาโทรไปฟ้องที่บ้าน พ่อแม่ฉันก็คงจะโกรธฉันแน่ๆ” “งั้นก็ดี เธอเลิกกับมันไปได้ยิ่งดี” เธออึ้งไปเล็กน้อย “งั้นแสดงว่าคุณตั้งใจใช่มั้ย” อัพเดทครั้งหน้า วันที่15 พ.ย. 2019 จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่69 พฤติกรรมน่าอาย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A