บทที่74 หัวใจที่ไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้   1/    
已经是第一章了
บทที่74 หัวใจที่ไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้
บ๗ที่74 หัวใจที่ไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้ เมื่อถึงตอนค่ำ รถคันหนึ่งมาจอดอยู่ที่ประตูบ้านหาน เซี่ยหยาวเดินลงจากรถมาเคาะประตู แม่บ้านเปิดประตูให้หล่อนท่าทีที่เป็นมิตรมาก “คุณนายเซี่ยมาแล้ว” “อื้อ” “คุณผู้ชายอาบน้ำอยู่ข้างบนค่ะ” “ดี” เธอมาที่นี่ติดต่อกันสองสามวัน แต่หานจวิ้นซือจงใจหลบหน้าเธอ เธอตามไปหาเขาที่บริษัท เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ไม่ยอมให้เธอเข้าไป นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ว่าป้าจางแอบโทรไปรายงานเธอ เธอรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนและผลักประตูห้องนอนของเขาออก เธอได้ยินเสียงน้ำไหลดังมาจากในห้องน้ำ เธอนั่งลงบนขอบเตียงรอให้เขาออกมา สายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นกระเป๋าสตางค์ของเขาวางอยู่บนโต๊ะ เธอถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมาดู มีภาพถ่ายใบหนึ่งที่สะดุดตา เธอเอื้อมมือออกไปกุมหน้าอกอย่างหงุดหงิด และคุกเข่าลงบนเตียง หานจวิ้นซืออาบน้ำเสร็จและออกมา และเห็นว่าบนเตียงมีคนนอนอยู่ จึงถามด้วยความประหลาดใจ “คุณมาได้อย่างไร” เซี่ยวหยาวหันหลังให้เขา เขามองไม่เห็นสีหน้าของเธอ เธอนิ่งเงียบ เขาจึงเดินไปข้างหน้าสองก้าว “การตัดสินใจของผมจะไม่เปลี่ยนแปลง คุณหยุดดื้อดึงไม่ยอมรับเสียทีได้ไหม” เธอยังคงเงียบงัน หานจวิ้นซือรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงมองข้างไหล่ของเธอไป ใบหน้าของเธอขาวซีด มีเหงื่อเย็นปรากฏอยู่ เขาขมวดคิ้ว และรีบนำกล่องยาออกจากลิ้นชักอย่างรวดเร็วและเทสองสามเม็ดเข้าไปในปากของเธออย่างว่องไว จากนั้นเขาก็นวดไปที่บริเวณอกของเธอและถอนหายใจอย่างโล่งอก โรคของเธอนั้นอาการเกิดขึ้นเฉียบพลันได้ทุกที่ทุกเวลา ดังนั้นแม้แต่บ้านของเขา ก็จะเตรียมยาของเธอเผื่อเอาไว้ หลังจากทานยาเข้าไปแล้วเซี่ยหยาวก็ค่อยๆผ่อนคลายขึ้น เธอมองชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างอ่อนแอและร่ำไห้ “ที่ยกเลิกการแต่งงานก็เพราะเธอใช่ไหมคะ” เธอยื่นรูปถ่ายในมือขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ หานจวิ้นซือมองอย่างใจเย็น “รูปภาพรูปเดียวไม่ได้บอกอะไรเลย” “กลัวว่าฉันจะสร้างปัญหาให้คุณหรือคะ ถึงไม่กล้ายอมรับ” “ยอมรับแล้ว คุณจะพอใจใช่ไหม” เธอหัวเราะด้วยความสิ้นหวัง “คุณกำลังบังคับให้ฉันไปตายคุณรู้ตัวไหม” “เหยาเหยา คุณอย่าทรมานอีกเลยได้ไหม” สายตาของหานจวิ้นซือเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย ไม่มีวิธีที่สวยงามอีกแล้ว สิ่งที่เขาไม่ต้องการมากที่สุดก็คือการทำร้ายเธอ “คุณคิดว่าฉันอยากทรมานอย่างนั้นรึ คุณเป็นผู้ชาย คุณไม่มีทางเข้าใจอารมณ์ของผู้หญิง ฉันเฝ้าอดทนรอมาหลายปี แต่ในที่สุดก็ไม่ได้สวมชุดแต่งงาน และยังต้องถูกยกเลิกการแต่งงาน การตายทั้งเป็นแบบนั้นคุณเข้าใจไหม” เธอหลับตา น้ำตาสองสายไหนรินลง “คุณไม่เข้าใจ หลายปีมานี้ ฉันเฝ้าถามตัวเองหลายต่อหลายครั้ง แม้ว่าฉันจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้วก็ตาม แต่ฉันก็ปฏิเสธที่จะยอมรับมัน ฉันคิดว่า ไม่เป็นไรหรอก ไม่รักก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่ได้อยู่ด้วยกัน จะเป็นอย่างไรก็ดีทั้งนั้น” “ถึงแม้ว่าผมจะแต่งงานกับคุณ การแต่งงานนี้ก็จะอยู่ได้ไม่นาน ความเจ็บปวดจะยิ่งยาวนานกว่าความเจ็บปวดอันสั้นนี้ ผมหวังว่าคุณจะยอมปล่อยมือผมไปตอนนี้” เซี่ยหยาวผลักเขาโดยความโมโห “คุณคิดว่ามันจะเป็นความเจ็บปวดสั้นๆอย่างนั้นรึ เมื่อสิบปีก่อน ตอนที่คุณจับมือฉันและพูดว่าชีวิตนี้คุณจะดูแลฉัน มันหวนกลับไปไม่ได้แล้ว!” “การดูแลมีหลายวิธี การแต่งงานไม่ได้เป็นเพียงวิธีเดียว” “แต่นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ!” สิบปีก่อน สิบปีก่อนสำหรับคนอื่นมันอาจเป็นเพียงวันเวลาที่ผ่านไป แต่สำหรับหานจวิ้นซือมันเป็นหัวใจที่ไม่อาจก้าวข้ามผ่านไปได้ เขาอารมณ์เสียมาก หลังจากที่เซี่ยหยาวออกไป เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์ไปกดหมายเลขและพูดเพียงประโยคเดียว “มาที่บ้านของฉัน” เมื่อเห็นหยางเมิ่งฉีกลับถึงหอพัก หลินวานวานเอ่ยขึ้น “เมื่อสักครู่โทรศัพท์ของเธอดัง ฉันช่วยรับให้” “ใครล่ะ” “หานจวิ้นซือ” เธอนิ่งอึ้งไป “มีเรื่องอะไร” “ให้เธอไปที่บ้านเขา!” “ทำไมล่ะ” “ฉันจะรู้ได้อย่างไร!” หลินวานวานกรอกตา “พูดประโยคเดียวก็วางสายแล้ว ช่างโอหังเสียจริง” หยางเมิ่งฉีก็ไม่ได้คิดมาก เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบออกไป เธอรีบเร่งไปที่บ้านหาน เมื่อแม่บ้านเห็นเธอหน้าของหล่อนก็เสียทันที สีหน้านั้นทำเป็นร้องห่มร้องไห้ แต่ในใจกลับยิ้มเยาะ แน่นอนว่าต้องเป็นคนใหม่ที่ได้หัวเราะและคนเก่าก็ต้องร้องไห้ไป “คุณหยางคุณมาทำไมคะ” “ฉันมาหาหานจวิ้นซือ” “มาหาคนอื่นก็ต้องรู้เวลา ตอนนี้กี่โมงแล้วรู้ไหมคะ” แม่บ้านไม่เคยทำสีหน้าดีต่อเธอ จากที่เธอไม่ชินจนตอนนี้ชินแล้ว เธอใช้เวลาไม่นานในการปรับตัว “ที่จริงแล้วเจ้านายของป้าขอให้ฉันมาน่ะ” เธอตอบด้วยความแน่วแน่ “ถ้าไม่เชื่อป้าก็ลองขึ้นไปถามดูค่ะ” “เขาไม่อยู่” “เป็นไปไม่ได้ เขาเป็นคนบอกให้ฉันมาเอง!” หยางเมิ่งฉีกำลังจะะขึ้นไปที่ชั้นบนแต่กลับโดนเธอหยุดเอาไว้ “ป้าว่าคุณเป็นสาวเป็นนางควรจะมียางอายสักหน่อยไหมคะ คนเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว คุณอย่าไปยั่วยวนเขาดีกว่า” เธอขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงด้วย ได้แต่เหยียดคอขึ้นและตะโกน “หานจวิ้นซือ หานจวิ้นซือ---” “จะตะโกนทำไม ที่นี่เป็นที่ที่คุณจะมาตะโกนได้หรือยังไง” แม่บ้านห้ามด้วยเสียงเข้ม หานจวิ้นซือได้ยินเสียงดังมาจากที่นอกห้อง เขาจึงพูดขึ้นอย่างรวบรัด “ป้าจางครับ อย่าไร้เหตุผลกับคุณหยาง ผมขอให้เธอมาเองครับ” เธอได้แต่กลืนน้ำลาย หยางเมิ่งฉีเดินตามราวบันไดขึ้นไปที่ชั้นบน “คุณเรียกฉันมาทำไมคะ” “เข้ามาในห้องก่อนค่อยพูด” เขาพาเธอเข้าไปในห้อง ปิดประตู และดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน “ผมหดหู่ อยากหาคนคุยด้วย” เสียงของเขาฟังดูเหงาหงอย เธอจึงใจอ่อนพูดอย่างนุ่มนวล “ถ้าอย่างนั้นฉันจะเป็นถังขยะของคุณ สิ่งใดที่คุณไม่พึงประสงค์ ก็ทิ้งมาที่ฉัน” “ไม่ต้อง” หานจวิ้นซือจับใบหน้าเธอไว้ “ผมจะไม่โยนปัญหาให้คุณ ขอแค่คุณอยู่กับผมสักครู่ก็พอ” หยางเมิ่งฉีพยักหน้า เธอไม่ถามว่าทำไมเขาถึงไม่มีความสุข ไม่ใช่ไม่ใส่ใจ แต่เธอไม่ได้อยากที่จะเข้าไปในโลกของเขา ทั้งสองยืนอยู่ที่หน้าต่างชมพระจันทร์ด้วยกัน เพื่อสร้างบรรยากาศเธอจึงพูดติดตลก “ถ้ามีดาวตกสักสองสามดวงก็น่าจะดีนะคะ” “ทําไม” “โรแมนติคไง” เขาอมยิ้ม “คุณกำลังจะบอกว่าผมโรแมนติคไม่พอใช่ไหม” “เปล่า เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น” “มาเล่าเรื่องตลกกันเถอะ” “เรื่องตลกอะไรคะ” “เรื่องตลกที่ทำให้ผมรู้สึกดี” “อ๋อ ได้ค่ะ” เธอกำลังครุ่นคิด เป็นอื่นไปไม่ได้ เธอเล่าเรื่องตลกเป็นอาหารว่างจานหนึ่ง “นักบวชคนหนึ่งกำลังเล่นกอล์ฟ แม่ชีกำลังมองดูอยู่ นัดแรกผ่านไป นักบวชตะโกนว่า “แม่งเอ้ย กูพลาดแล้ว!” แม่ชีจึงบอกว่า “คุณเป็นนักบวช พูดคำหยาบพระเจ้าจะลงโทษ” เมื่อพูดจบ ฟ้าก็ผ่าแม่ชีจนถึงแก่ความตาย นักบวชรู้สึกประหลาดใจ ทำไมคนที่ด่าคืออาตมา แต่คนที่โดนฟ้าผ่ากลับเป็นแม่ชีล่ะ เมื่อนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากพระเจ้าบนฟากฟ้า “แม่งเอ้ย กูก็พลาดเหมือนกัน!” ฮ่าฮ่าฮ่า...หานจวิ้นซืออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลา หยางเมิ่งฉีรู้สึกตกตะลึง ช่วงเวลานี้ เธอรู้สึกถึงแววตาเขาได้ชัดเจนมาก ดูเหมือนแววตาของเขาส่องให้เห็นภาพอันล้ำลึก ในค่ำคืนอันมืดมิด มันกระจ่างใสมาก 
已经是最新一章了
加载中