บทที่75 สาปแช่งประจำเดือน   1/    
已经是第一章了
บทที่75 สาปแช่งประจำเดือน
บ๗ที่75 สาปแช่งประจำเดือน หานจวิ้นซือยื่นมือออกแตะหน้าผากอันเนียนเรียบของเธอ ปลายนิ้วนั้นบอบบางและอ่อนโยน ในที่สุดหยางเมิ่งฉีก็ได้สติกลับมา ไม่ได้แสดงท่าทางงกๆเงิ่นๆอีกต่อไป “อารมณ์ดีหรือยังคะ” เขาพยักหน้า “ดีขึ้นมากแล้ว” “ถ้าอย่างนั้นวันหลังถ้าคุณอารมณ์ไม่ดี ฉันจะเล่าเรื่องตลกให้คุณฟังดีไหมคะ” “ดี” นี่มันดีจริงๆ เพราะว่า พวกเขายังมีวันหลัง เขาโน้มตัวลงและจูบลงบนริมฝีปากที่เหมือนเชอรี่ของเธอโดยไม่ลังเล จูบนั้นหนักแน่นจนทำให้เธออ่อนระทวย เธอเงยหน้าขึ้นมองและตอบสนองเขาอย่างกระตือรือร้น ริมฝีปากอันอบอุ่นของทั้งสองพัวพันกัน มันจุดประกายความปรารถนาเดิมของเขา “คืนนี้ค้างได้ไหม” เสียงเขาแหบแห้งเต็มไปด้วยความคาดหวัง เป็นความคาดหวังเฉกเช่นเดียวกับจื่อเย่าในคืนนั้น “อยู่ต่อได้ แต่ว่าไม่…” หานจวิ้นซือยืดตัวขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “ทำไมไม่ได้ล่ะ ถึงตอนนี้คุณยังจะปฏิเสธผมอยู่อีกรึ” “เปล่าค่ะ ฉันมีประจำเดือนแล้ว…” “ผมไปอาบน้ำก่อน” เขาไม่ได้เป็นวัยรุ่น ผ่านผู้หญิงมาไม่น้อย แต่ความปรารถนานั้นเปล่งออกมามาก เห็นๆอยู่ว่าผู้ริเริ่มนั่งอยู่ข้างๆเขา แต่เขากลับแตะต้องตัวเธอไม่ได้ ความทรมานนี้เหมือนกับถูกมดกัดนับไม่ถ้วน เมื่อเข้าไปในห้องน้ำ เขาเปิดฝักบัว ปล่อยให้น้ำไหลลงตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า จนกว่าไฟแห่งความปรารถนาของเขาจะดับไป หยางเมิ่งฉีจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเอง หน้าของเธอร้อนระอุ เธอรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างที่จะอยู่ต่อแต่ก็ยังจะบ่ายเบี่ยงอย่างนั้นรึ เมื่อกำลังคิดสับสน หานจวิ้นซือก็ออกมา “อีกนิดเดียวก็จะถูกคุณฆ่าตายแล้ว” เขาเดินไปด้านหน้าเธอ ลูกคลำจมูกเธอเบาๆ “ฉันอยากจะบอกคุณตั้งแต่แรก แต่คุณไม่ให้โอกาสฉันพูด” คำอธิบายอันไร้เดียงสาของเธอ “ตั้งแต่แรกรึ” หานจวิ้นซือเล่นมุกอย่างสุภาพ “ถ้าอย่างนั้น คุณก็คิด….ตั้งแต่แรก” “เปล่าซะหน่อย” หน้าเธอแดง ลิ้นเหมือนถูกผูกปมไว้ พูดอะไรต่อไม่ถูก ได้แต่โบกมือโบกไม้ “ฉันกลับโรงเรียนแล้ว” ยังไม่ทันได้หันตัวกลับ ก็โดนเขาโอบรัดไว้ เธออยู่ในอ้อมอกของเขา ใบหน้าแนบชิดกับหน้าอกอันแข็งแกร่งของเขา จังหวะการเต้นของหัวใจนั้นน่าอัศจรรย์ ตึกตึกตึก… “จะค้างไม่ใช่หรือ” “แต่ว่าฉันไม่สะดวกนี่” หือ เขาอดยิ้มไม่ได้ “คนสองคนอยู่ด้วยกัน นอกจะเรื่องอย่างว่า ยังมีอีกตั้งหลายอย่างที่ทำด้วยกันได้” “...” หานจวิ้นซือนั่งลงที่ขอบเตียงและเกี่ยวมือเธอไว้ “มานี่สิ” เธอตามไปแต่โดยดีและนั่งลง คืนนี้เรานอนกอดกัน เป็นการนอนหลับอันแสนหวาน ตอนเช้าเมื่อตื่นขึ้นมา ใจของหยางเมิ่งฉีก็รู้สึกว้าวุ่น เธอนอนค้างที่บ้านของผู้ชายเป็นครั้งแรกอยู่บนเตียงของผู้ชายอยู่คืนหนึ่ง สิ่งนี้บ่งบอกว่าเธอเป็นของเขา? เธอเห็นหานจวิ้นซือยังไม่ตื่น เธอจึงแอบออกจากห้องของเขาไปอย่างเงียบๆ เมื่อลงไปด้านล่าง เธอปะทะกับสายตาของแม่บ้านที่ดูถูกและซับซ้อน เธอได้แต่ถอนหายใจ ต่อให้แก้ตัวไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้ “อรุณสวัสดิ์” อย่างไรก็ตาม เธอยังคงกล่าวทักทายตามมารยาท “ยินดีด้วย ในที่สุดคุณก็ทำสำเร็จแล้ว” “สำเร็จอะไร” เธอเลิกคิ้ว “ฉันไม่เข้าใจความหมายของป้า” “คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ค้างในห้องนอนของคุณผู้ชาย คุณพอใจแล้วสินะ” อย่างนี้นี่เอง...อย่างนี้นี่เอง… เธอยิ้มอย่างเนิบๆ “ป้าแก่แล้ว คนสองคนอยู่ด้วยกัน นอกจากเรื่องอย่างว่า ยังมีเรื่องอื่นที่ทำด้วยกันได้” เอาล่ะ เธอยอมรับ เธอเอาคำพูดของหานจวิ้นซือมาใช้อย่างกล้าหาญ “ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด!” เธอเห็นเป็นเรื่องน่าขันและพึมพำออกมาเสียงดัง “เหล่าจัง ส่งแขก!” ไล่เธอรึ เธอเป็นอะไรกับบ้านหาน พี่สาวคนโตที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น หรือมนุษย์ป้าที่แก่กะโหลกกะลา ทำตัวอย่างกับเป็นแม่ของหานจวิ้นซือ! หยางเมิ่งฉีถอนหายใจยาว และเดินไปโดยไม่หันกลับไปมอง ในตอนเย็นเธอได้รับสายจากจื่อเย่า “คุณออกมาหน่อย ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ” น้ำเสียงเขาเยือกเย็น ทำให้เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี เมื่อเธอออกไปหน้าโรงเรียนก็เห็นจื่อเย่ายืนอยู่ไม่ไกล เธอวิ่งอย่างเหนื่อยหอบออกมา “มีเรื่องอะไรรึ” “หาที่คุยกัน” ผิดปกติแน่ๆ น้ำเสียงเขาเย็นชา สีหน้ายังเหมือนกับถ่ายไม่ออก เดินมาเป็นเวลายี่สิบนาที จนถึงมุมหนึ่งในสวนสาธารณะ ระหว่างทาง ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันเลยแม้สักคำ “หยางเมิ่งฉี คุณรู้จักกับหานจวิ้นซือได้อย่างไร” จื่อเย่าหันหน้ามา มองเธอด้วยสายตาที่คมชัด “อยู่ดีๆถามเรื่องนี้ทำไม” “ผมสงสัย” “ฉันบอกไปแล้วนี่ เขาเป็นเจ้านายที่ฉันทำงานนอกเวลา” เธอพยายามระงับความวิตกกังวลเอาไว้ ตอนนี้เธอตระหนักแล้วว่า จื่อเย่าจะต้องรู้อะไรมาแน่ๆ “ถ้าอย่างนั้นเมื่อคืนนี้คุณอยู่ที่ไหน” เธอนิ่งอึ้งไป หัวใจเต้นรัว ดูเหมือนจะไม่คาดคิดว่าเขาจะถามเธอเช่นนี้ “อยู่ที่โรงเรียน ทำไม” เพราะละอายใจ เธอยังหน้าด้านไม่พอ “ถึงตอนนี้คุณยังโกหกผมอีกรึ คุณกับหานจวิ้นซือต้องการทำให้ผมเป็นไอ้งั่งใช่หรือไม่!” ทันใดนั้นเขาก็คำรามออกมาจนหยางเมิ่งฉีตกใจ “คุณอยากจะพูดอะไร” “ผมรู้ทุกอย่าง เมื่อสองปีก่อน เพื่อช่วยเขาหลบหนีการตามฆ่า แม้แต่พรหมจรรย์ของคุณเขาก็ไม่ต้องการอย่างนั้นรึ เขาไม่ใช่เจ้านายของคุณ แต่พวกคุณสองคนแอบคบกัน เมื่อคืน เมื่อคืนนี้คุณค้างกับเขาใช่ไหม ที่จริงแล้วคุณไม่เคยคิดจะกลับไปประเทศจีนกับผม คุณแค่ต้องการยื้อเวลา รอให้ใบสมัครปริญญาโทได้รับการอนุมัติ พ่อก็จะได้บังคับคุณไม่ได้ คุณค่อยเขี่ยผมทิ้งใช่หรือไม่!” จื่อเย่ายิ่งพูดก็ยิ่งกระสับกระส่าย ดวงตาสีแดงเลือดของเขาพร้อมที่จะฆ่าคน หยางเมิ่งฉีซึ่งยืนอยู่ตรงนั้น เธอไม่เข้าใจว่าเขารู้เรื่องทุกอย่างนี้ได้อย่างไร แม้แต่เรื่องเมื่อคืน เขาก็รู้ได้อย่างรวดเร็ว… “ใครบอกคุณเรื่องพวกนี้” “ถ้าไม่อยากให้ใครรู้ ก็อย่าทำมันสิ ทำไม คุณยอมรับแล้วว่าที่ผมพูดเป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่” เมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้ เธอก็ไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดอีกต่อไป เธอได้แต่พยักหน้าเบาๆ “ในเมื่อคุณรู้แล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก” จื่อเย่าไม่คาดคิดว่าเธอจะไม่อธิบายแม้สักคำ ทันใดนั้นเขาก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ “คุณยังมีความละอายใจอยู่บ้างหรือเปล่า ผมทนไม่ได้ที่จะแตะต้องตัวคุณแม้แต่ปลายนิ้ว คุณไปนอนกับคนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า น่าหัวเราะ ช่างน่าหัวเราะเสียจริง คุณมันคนที่ยอมทิ้งความรักทิ้งทุกอย่างเพื่อเงิน คุณมันไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาจริงๆ เป็นผู้หญิงที่น่าขันที่สุดในโลก เจ้าเล่ห์ เห็นแก่ตัว สิบแปดมงกุฎ!” “ไม่ใช่อย่างนั้น!” หยางเมิ่งฉีตะโกนร้อง ใบหน้าเธอซีดขาว…. สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือไม่อยากให้มีใครพูดว่า เธอเป็นผู้หญิงที่หิวเงิน สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือไม่อยากให้มีใครพูดว่า เพื่อเงิน เธอจึงทิ้งเก่าแล้วมีใหม่ และสิ่งที่น่ากลัว น่ากลัวที่สุด คือไม่อยากให้มีใครพูดว่า เพื่อจับคนรวย เธอยินดีที่จะพลีกายให้ ไม่มีใครรู้ว่าการที่เธอเลือกที่จะอยู่กับหานจวิ้นซือ เธอต้องใช้ความกล้าหาญขนาดไหน ไม่มีใครรู้ เพื่อที่จะซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเอง เธอกังวลมากเพียงใด ทั้งกดดันและอึดอัดเท่าไหนกัน ไม่เคยเลย เธอเท่านั้นที่รู้ว่า ความรัก ไม่ใช่จะอยู่ด้วยกันได้ง่ายๆ “คุณมีคำอธิบายที่ดีหรือไม่ คุณยอมรับแล้วใช่ไหม ผมตาบอดเอง คุณให้ผมรอ ผมจะโทรหาพ่อคุณแล้วและบอกให้ท่านทราบ ว่าลูกสาวคนดีของท่านทำเรื่องที่น่าอายแค่ไหน!” “โทรไม่ได้---” น้ำตาที่กลั้นไว้ไม่อยู่ก็เอ่อล้นออกมา เธอคว้าโทรศัพท์มือถือของเขาเอาไว้ “ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม เมื่อสองปีก่อน ฉันแค่ช่วยเขา ไม่ได้เท่าอะไรนอกเหนือจากนั้น” “คุณคิดว่าตอนนี้ผมจะยังเชื่อที่คุณพูดอยู่อีกหรือเปล่า!” “ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณเชื่อ ฉันแค่อยากให้คุณรู้ว่า ฉันหยางเมิ่งฉีไม่ใช่คนอย่างที่คุณพูด ใช่ ฉันตกหลุมรักหานจวิ้นซือ นั่นเป็นความจริง แต่ว่าฉันรักเขา เพราะว่าฉันรักในตัวเขา ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นใคร!” “ไม่ต้องพูดมากแล้ว ผมจื่อเย่า ถ้าหากยังเชื่อคุณอีกแม้เพียงครึ่งคำ ผมก็เป็นไอ้หมาข้างถนนแล้ว!” หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังและทิ้งความโกรธเอาไว้ เขาเดินไปไม่กี่ก้าวก็หันกลับมาพูดด้วยความเกลียดชัง “คอยดู ผมจะรอดู ว่าต่อหน้าพ่อแม่ของคุณ คุณจะอธิบายทั้งหมดนี้กับพวกท่านว่าอย่างไร!” ร่างของจื่อเย่าค่อยๆหายลับไป หยางเมิ่งฉีได้แต่ยืนนิ่งเธอล้มตัวลงบนพื้นและสะอึกสะอื้น ไม่รู้ว่าเธอร้องไห้อยู่นานแค่ไหน ในหัวเธอคิดถึงคำพูดที่หานจวิ้นซือเคยพูดไว้ ต้องทำให้จื่อเย่าตายใจก่อน เธอเช็ดน้ำตาจนแห้ง อย่างไม่ต้องสงสัย เรื่องนี้ทั้งหมดเป็นเขาที่บอกกับจื่อเย่า สองปีก่อนเรื่องที่เกิดขึ้นบนเรือ นอกจากกู้เฟิงเหยนก็ไม่มีคนที่สี่ที่รู้เรื่องนี้ และเมื่อคืนที่เธอค้างที่บ้านของเขา ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นจะรู้เรื่องอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้น ดูเหมือนจะเป็นไปได้มากที่สุดว่าเป็นเขา! ด้วยความโกรธเหมือนถูกคลื่นทะเลซัด เธอนั่งแท็กซี่ไปที่บริษัทของเขา เธอพุ่งตรงไปที่ห้องทำงานของเขาด้วยความโมโห และผลักประตูเข้าไป กู้เฟิงเหยนดูเหมือนกำลังรายงานกับหานจวิ้นซืออยู่ เมื่อได้ยินเสียงดังอย่างกะทันหัน ทั้งคู่ก็พร้อมในกันหันไปตามทิศทางของประตู จนกระทั่งวันนี้ ไม่มีใครกล้าที่จะบุกเข้าประตูห้องท่านประธานโดยไม่เคาะ หลังจากที่เห็นคนที่มาแล้ว ทั้งคู่ก็รู้สึกประหลาดใจยิ่งขึ้น หานจวิ้นซือกระโจนลุกขึ้น “ฉีฉี” เสียงของเขาช่างอ่อนโยน ใบหน้าอันสวยงามของเธอจ้องไปที่ชายที่อยู่ตรงหน้าราวกับเขาเป็นอาชญากร กู้เฟิงเหยนเห็นว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง เขาจึงรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว “คุณพูดกับจื่อเย่าเรื่องอะไรใช่หรือไม่” เธอถามไปสะอื้นไป เดิมทีเธอตั้งใจจะอาละวาดโดยไม่สนใจอะไร แต่เมื่อเห็นเขา เธอกลับอดใจไม่ไหว อัพเดทครั้งหน้า วันที่25 พ.ย. 2019 จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน
已经是最新一章了
加载中