บทที่94 ค่ำคืนอันแสนโรแมนติค   1/    
已经是第一章了
บทที่94 ค่ำคืนอันแสนโรแมนติค
บ๗ที่94 ค่ำคืนอันแสนโรแมนติค เซี่ยหยาวมองอยู่ทางด้านข้างด้วยสายตาอันเย็นชา เพราะเธอรู้ดีว่าหานจวิ้นซือเกลียดการที่คนอื่นมาถามเขาเรื่องส่วนตัว ถ้าหากว่าเขาปฏิเสธที่จะตอบคำถามเพราะว่าเบื่อหน่าย มันก็เท่ากับว่าทำให้สิ่งที่เธอพูดกลายเป็นความจริง ด้วยวิธีนี้ หากหยางเมิ่งฉีต้องการอยู่กับเขาก็จะต้องอดทนกับความกดดันจากเสียงประชาชน แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือ เขากลับเผชิญหน้าและตอบคำถามอันจาบจ้วงของนักข่าว “หล่อนไม่ได้มาแทรกแซงความรู้สึกของผม หล่อนเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมตกหลุมรัก และจะเป็นคนสุดท้าย” หานจวิ้นซือเดินถึงเบื้องหน้าของหยางเมิ่งฉี เขาจับมือเธอเอาไว้แน่น ต่อหน้าทุกคน เขาไม่ลังเลที่จะจูบเธออย่างดูดดื่ม เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง หยางเมิ่งฉีรู้สึกว่ายืนอย่างไม่มั่นคง ความสุขหลั่งไหลมาอย่างรวดเร็ว รวดเร็วเกินไป รวดเร็วจนเธอรับมือไม่ทัน “คุณหนูเซี่ย สำหรับสถานการณ์เช่นนี้คุณคิดเห็นว่าอย่างไรครับ” เซี่ยหยาวสิ้นหวัง เธอหมดหวังโดยสิ้นเชิง หานจวิ้นซือบอกว่าหยางเมิ่งฉีเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาตกหลุมรัก นั่นเท่ากับเป็นการประกาศให้ทุกคนรู้ว่า แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยรักเธอเลย วันต่อมา หนังสือพิมพ์และนิตยสารทั้งหมดลงข่าวเรื่องรักๆใคร่ๆของหานจวิ้นซือและหยางเมิ่งฉี การสารภาพรักและจูบที่ดูดดื่ม ทำให้หยางเมิ่งฉีมีชื่อเสียงขึ้นมาภายในข้ามคืน เธอกลายเป็นซินเดอเรลล่าที่คนอิจฉากันทั้งซูริค กลายเป็นปากกาของแอนเดอร์สันและเป็นนางเอกที่สวยที่สุด เมื่อจะถึงเวลาเข้าเรียน มีขั้นตอนบางอย่างที่จะต้องทำก่อนเริ่มเข้าเรียน หยางเมิ่งฉีไม่สามารถที่จะอยู่แต่บนภูเขาได้ตลอดเวลาได้ บางครั้งเธอก็ติดรถของหานจวิ้นซือไปที่โรงเรียน เมื่อหลินวานวานเห็นเธอก็รีบทักขึ้นในทันที “มาตรการความปลอดภัยเป็นอย่างไรบ้าง” เธอพูดไม่ออกและตอบอย่างอารมณ์เสีย “ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ…” ทั้งคู่จับมือกันเพื่อไปดำเนินขั้นตอนลงทะเบียน มีผู้คนยืนรอต่อแถวมากมาย แถวยาวท่ามกลางแดดร้อน “โอ้ย ต้องต่อถึงเมื่อไหร่กันเนี่ย” หลินวานวานพึมพำอย่างหดหู่ เธอยกมือข้างหนึ่งขึ้นบังที่หน้าผาก แต่มือเดียวจะบังแดดมิดได้อย่างไร ครึ่งหนึ่งของใบหน้าก็ยังคงถูกแสงแดดส่องจนหน้าแดงฉาน “ไม่อย่างนั้นเธอก็กลับไปที่หอพักก่อน เธออยู่ที่โรงเรียนอยู่แล้ว มาทำตอนไหนก็ได้” แต่เธอไม่เหมือนกัน ขึ้นเขาง่ายแต่ขาลงเขายากนัก “ไม่เอาน่า ถ้าฉันกลับไป วันหลังเธอก็จะมาด่าฉันน่ะสิ” “จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ฉันไม่ด่าเธอหรอก ไปเถอะ” “ไม่ไป…” “ไปเถอะ…” “ก็บอกไม่ไป…” ทั้งสองฉุดดึงกันจนผู้อำนวยการโรงเรียนเดินเข้ามา “นักเรียนหยางเมิ่งฉี คุณมากับผมสักครู่” เธอประหลาดใจ คิดว่าตัวเองทำอะไรผิดจึงถามขึ้น “มีอะไรหรอคะ ผู้อำนวยการ…” “มากับผมเดี๋ยวก็รู้” ผู้อำนวยการหันหลังกลับและเดินไปโดยไม่หันกลับมามอง “เขาให้ฉันไปทำไมอะ” หลินวานวานส่ายหัว “ใครจะไปรู้ รีบไปเถอะ!” หยางเมิ่งฉีตามไปอย่างกล้าๆกลัวๆ ระหว่างทางเธออธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขออย่าให้พี่สาวใหญ่หานหาเรื่องอะไรเธออีกเลย เมื่อเข้าไปสู่ห้องทำงาน ผู้อำนวยการแสดงออกถึงท่าทีของผู้ปกครองอันมีเมตตา เขาปรากฏรอยยิ้มขึ้นและเอ่ยว่า “นักเรียนหยาง ระเบียบการของคุณจัดการที่ห้องผมเถอะ อากาศมันร้อน ไม่ต้องไปเข้าแถวหรอก” เธอนิ่งไปและรีบโบกไม้โบกมือ “อย่างนี้ก็ได้หรอคะ คนอื่นก็กำลังเข้าแถว ฉันไม่ควรได้รับอภิสิทธิ์” “ผมบอกว่าได้ก็ได้ มาเถอะ เริ่มกันเลย” ผู้อำนวยการยืนกรานกับเธอพร้อมถอนหายใจ เธอยื่นเอกสารให้กับเขา เมื่อเดินถึงประตูหลัง ระเบียบการลงทะเบียนประสบความสำเร็จด้วยดี แต่ก่อนที่เธอจะออกไปเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา “ผู้อำนวยการคะ ทำไมต้องดูแลฉันเป็นพิเศษด้วย” “คนพิเศษ แน่นอนว่าต้องดูแลเป็นพิเศษ” ผู้อำนวยการตบไหล่ของเธอ “เอาล่ะ ตั้งใจเรียน พัฒนาขึ้นทุกวัน!” เธอออกจากห้องผู้อำนวยการอย่างงกๆเงิ่นๆ เมื่อตอนเดินผ่านคิวยาวเหยียด หลินวานวานก็หยุดเธอเอาไว้ “เกิดอะไรขึ้น” เธอเงียบขรึมและลดเสียงลง “เดินไป ไปคุยกันที่อื่น” ทั้งสองหาที่ร่มๆ หยางเมิ่งฉียกซองเอกสารในมือขึ้น “ไม่ได้มีเรื่องอะไร เขาจัดการลงทะเบียนให้ฉันเรียบร้อยแล้ว” “ทำไมล่ะ” หญิงสาวกล่าวด้วยความโมโห “ทำไมฉันต้องทนต่อแถวท่ามกลางแสงแดด แต่เธอกลับได้ไปทางลัดอย่างนั้นรึ” “ฉันก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะว่า...หานจวิ้นซือมั๊ง” เธอคิดอย่างนั้น เพราะว่านอกจากนั้นแล้ว เธอก็ไม่สามารถหาคำอธิบายที่ดีกว่านี้ได้ หลินวานวานถึงบางอ้อ “อ๋อ มีแฟนรวยก็ดีอย่างนี้นี่เอง ไปไหนก็ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ” “ฉันก็ไม่ได้คาดว่าหวังว่ามันจะเป็นอย่างนี้นะ มันทำให้ฉันอึดอัด” “อย่าไม่เห็นค่าของดีในมือสิ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ลงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับนายหาน ฉันว่า อีกหน่อยจะทำให้เธอยิ่งปวดหัว” “ปวดหัวอะไรไม่ปวดหัว ปวดหัวเรื่องทางสังคม น่าเบื่อ…” หยางเมิ่งฉีหัวเราะและตีเธอ ระหว่างนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าเธอก็ดังขึ้น เป็นเสียงเรียกเข้าพิเศษ จะดังเมื่อหานจวิ้นซือโทรมา “ฮัลโหล” “ลงทะเบียนเสร็จรึยัง” เขาถามเบาๆ “เสร็จแล้ว” “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็ว่างแล้วสิ เดี๋ยวผมไปรับคุณ” “ยังหัววันอยู่เลยจะให้ฉันรีบกลับแล้วหรอ…” เธอพึมพำอย่างไม่เต็มใจ “ฉันยังอยากอยู่เพลิดเพลินอีกสักหน่อย” “ไม่ได้ส่งคุณขึ้นเขา มีเรื่องอื่นที่ต้องให้คุณไปทำ” “เรื่องอะไรคะ” “เจอแล้วค่อยว่ากันนะ..” สิบนาทีต่อมารถของหานจวิ้นซือก็ถึงที่ประตูโรงเรียน หยางเมิ่งฉีบอกลาหลินวานวานและตรงไปขึ้นรถ “ให้ฉันทำอะไรคะ” “ช่วยผมปลอบคนคนหนึ่ง” “ใคร” “พี่สาวคนที่สอง” เธอยักคิ้วประหลาดใจ “พี่สาวที่สองของคุณเป็นอะไรไปคะ” “ทะเลาะกับแฟนน่ะ” “สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรคะ” “ทั้งร้องไห้ทั้งโวยวายบอกจะฆ่าตัวตาย” “โอ้ ร้ายแรงขนาดนั้น” หยางเมิ่งฉีปวดหัว เรื่องร้ายแรงเช่นนี้ให้เธอไป เธอจะช่วยอะไรได้ไหม “ถ้าไม่ร้ายแรงผมก็ไม่ให้คุณไปหรอก” “ฉันไปแล้วจะมีประโยชน์หรอคะ ฉันไม่สนิทสนมกับพี่สาวที่สองของคุณ เธอไม่น่าจะฟังฉันหรอกค่ะ” “ผมเชื่อคุณ” รถหยุดที่หน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง หานจวิ้นซือชี้นิ้ว “หล่อนอยู่ข้างใน คุณเข้าไปข้างในเถอะ ผมจะกลับไปที่บริษัทก่อน แล้วจะกลับมารับคุณ” หยางเมิ่งฉีพยักหน้า “ได้ค่ะ” เธอก้าวทีละก้าวเข้าไปในร้านกาแฟ และมองไปรอบๆ แวบเดียวเธอก็เห็นร่างที่คุ้นตาได้อย่างรวดเร็ว เธอจึงรีบเดินไป แต่เมื่อเธอกำลังเข้าใกล้หล่อนอยู่นั้น เธอก็ต้องหยุดเท้าลง หานจวิ้นซือบอกว่าพี่สาวที่สองของเขาทะเลาะกับแฟนและกำลังเศร้าโศกเป็นอย่างมาก แต่ทำไมเธอกลับรู้สึกว่า เธอดูไม่หดหู่เลยสักนิด เธอยังคงหัวเราะพูดคุยกับเพื่อนอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ดี เธอสับสนอยู่นานจนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดเบอร์หานจวิ้นซือเพื่อจะสอบถาม “หานจวิ้นซือ คุณแน่ใจหรอว่าพี่สาวคุณอารมณ์ไม่ดี” “ใช่ ทำไมหรอ” “จะเป็นไปได้อย่างไร ฉันเห็นเธอกำลังคุยอยู่กับเพื่อน คุยอย่างสนุกสนาน คุณต้องโกหกฉันแน่ๆ!” “ผมไม่ได้หลอกคุณ ผมจะไปโกหกคุณได้อย่างไร” “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไม่เชื่อที่ฉันพูดใช่หรือไม่ คุณรอก่อน ฉันจะให้เธอโทรหาคุณ” หยางเมิ่งฉีเดินตรงไปที่เบื้องหน้าหานหนานหรง เธอยิ้มและพูดขึ้นว่า “พี่สาวคนรอง” “พี่สาวคนรองรึ” หญิงสาวซึ่งกำลังดื่มกาแฟรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ใครเป็นพี่สาวคนรองของเธอ” “อ้อ คุณรู้จักฉันแล้วไม่ใช่หรอคะ ฉันหยางเมิ่งฉีไง” “หยางเมิ่งฉี… อ้อ ฉันรู้แล้ว เธอเป็นคนที่ทำให้น้องสี่ยืนกรานที่จะยกเลิกงานแต่งงานกับเซี่ยหยาว และยังประกาศตัวเป็นศัตรูกับคนในครอบครัว เพื่อที่จะยืนหยัดรักนักเรียนนอกคนนี้ใช่หรือไม่” เธอพยักหน้าอย่างอายๆ “ใช่ค่ะ” “ฮ่าฮ่า” ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะ “เธอจำผิดคนแล้ว ฉันไม่ใช่พี่รอง ฉันเป็นพี่สาม” “พี่สาวคนที่สาม…” คราวนี้กลายเป็นหยางเมิ่งฉีที่ประหลาดใจ นี่เป็นใบหน้าของหานหนานหรงชัดๆ ทำไมถึงกลายเป็นพี่สามได้ล่ะ “แปลกใจใช่ไหมล่ะ ที่จริงเวลาคนเจอพวกเราสองคนครั้งแรกก็มักจะสับสน เพราะพวกเราเป็นพี่น้องฝาแฝดกันน่ะ” ในระยะเวลาอันสั้น ความสับสนของหยางเมิ่งฉีก็หายไป หานจวิ้นซือสมควรตาย เขาไม่เคยบอกเธอเลย ว่าพี่สาวคนที่สองและพี่สาวคนที่สามของเขาเป็นฝาแฝดกัน เหมือนกันอย่างกับแกะ! “เธอมาหาพี่รองหรอ” “ใช่ค่ะ” “น้องสี่ให้เธอมารึ” “อื้อ” “น้องสี่นี่ลำเอียงจริงๆ เวลาฉันอารมณ์ไม่ดี ไม่เห็นเขาต้องลงทุนลงแรงขนาดนี้” “ถ้าอย่างนั้นเธออยู่ที่ไหนคะ” “กลับบ้านแล้ว อยากไปไหม ฉันจะไปส่งให้” “ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ” เธอตามหานซินหยูออกจากร้านกาแฟขึ้นรถของเธอและไปยังที่พักอาศัยของหานหนานหรง
已经是最新一章了
加载中