บทที่95 ค่ำคืนอันโรแมนติค   1/    
已经是第一章了
บทที่95 ค่ำคืนอันโรแมนติค
บ๗ที่95 ค่ำคืนอันโรแมนติค “คุณมาจากเซี่ยงไฮ้หรอคะ” “ค่ะ” “ที่บ้านมีพี่น้องไหมคะ” “ไม่มีค่ะ ฉันเป็นลูกสาวคนเดียว” “ผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวในต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย คิดถึงบ้านมั๊ยคะ” “อื้อ คิดค่ะ” “มาซูริคกี่ปีแล้วคะ” “สามปีค่ะ” คุยไปคุยมาก็มาถึงที่หมาย รถจอดที่หน้าวิลล่าของหานหนานหรง หยางเมิ่งฉีลงจากรถ หานซินหยูโบกมือ “มีเวลาไว้เจอกันใหม่นะคะ ฉันไปก่อนล่ะ” “เฮ้ คุณไม่เข้าไปหรอ” อย่างไรก็เป็นพี่น้องกัน มาถึงประตูหน้าบ้านแล้วน่าจะเข้าไปปลอบเสียหน่อย “ไม่ล่ะ เรื่องความรู้สึกของคนในครอบครัวฉันขี้เกียจเข้าไปยุ่ง” พอพูดจบหานซินหยูก็สตาร์ทเครื่องยนต์และออกรถไป เมื่อหยางเมิ่งฉีนึกถึงว่าระหว่างทางหล่อนไม่ได้ถามเรื่องระหว่างเธอกับหานจวิ้นซือเธอก็รู้สึกโล่งใจ เธอเดินไปที่ประตูวิลล่าและกดกริ่ง ประตูเปิดแล้ว ผู้หญิงที่ยืนอยู่ทางด้านในยังคงดูสวยงาม ถึงแม้ว่าจะดูโทรมไปบ้าง “เมิ่งฉี…” หานหนานหรงพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ “เธอมาได้อย่างไร” “น้องสี่ของคุณให้ฉันมาดูคุณน่ะค่ะ” เธอเดินเข้าไปและมองเห็นห้องรับแขกที่รกเลอะเทอะไปหมด บนพื้นมีเหล้าอยู่ขวดหนึ่ง ส่งกลิ่นคลุ้งทั้งบ้าน เธอพับแขนเสื้อขึ้นและจัดแจงเก็บขยะบนพื้นขึ้นมา เปิดหน้าต่าง อย่างคล่องแคล่วว่องไว เธอเก็บกวาดห้องพักจนดูสะอาดตาขึ้นมา หานหนานหรงนั่งอยู่บนโซฟา เธอยังคงจัดโน่นจัดนี่อย่างไม่ยอมหยุดหย่อน รอจนกระทั่งเธอจัดจนเสร็จเรียบร้อยหล่อนจึงยิ้มขึ้นมาอย่างขมขื่น “เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่น้องสี่ของฉันถึงได้หลงใหลคุณ” หยางเมิ่งฉีนั่งลงข้างๆเธอ เธอโค้งศีรษะลงอย่างเอียงอายและถามขึ้นเบาๆ “พี่รองคะ พี่เป็นอย่างไรบ้าง” “เธอน่าจะเป็นคนของน้องสี่ฉันแล้วจริงๆ กล้าเรียกฉันพี่รองแล้ว” เธอยิ่งรู้สึกอายและโค้งศีรษะลงต่ำกว่าเดิม “ฉันไม่ได้เป็นอะไร แค่ใจไม่มีความสุข” หานหนานหรงสูดหายใจลึกรอบตาเป็นสีแดง “อกหักหรอคะ” โลกอันบริสุทธิ์ของหยางเมิ่งฉี ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงมีแค่เพียงสมหวังในรักและอกหักรักคุดเท่านั้นไม่มีปัจจัยซับซ้อนด้านอื่นๆ “ไม่ใช่ แค่ทะเลาะกับแฟนน่ะ” เธอค่อยรู้สึกโล่งใจ แค่ทะเลาะกันเท่านั้น คู่รักคู่ไหนบ้างที่ไม่เคยทะเลาะกัน “ฉันรักเขามาก รักโดยไม่ต้องการที่จะครอบครอง แต่เขากลับเดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิกกับฉัน…” “เขาไม่ได้รักคุณหรอคะ” หานหนานหรงสะอื้นและส่ายหัว “เปล่าค่ะ เขารักฉัน” “ถ้าเขารักคุณ ทำไมถึงได้เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิกล่ะคะ” “เพราะว่าเขาละอายใจ เขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ครอบครัวไม่ได้ยิ่งใหญ่ เขารู้สึกกดดันเมื่อคบกับฉัน” หยางเมิ่งฉีรู้สึกโกรธเคือง “นี่มันเรื่องอะไรกัน ความรักที่แท้จริงสามารถเอาชนะเรื่องทางโลกได้ ถ้าหากว่าเขากังวลเรื่องความเหมาะสมทางสังคม นั่นแสดงว่าเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับความรักของคุณเลย” “เธอไม่เข้าใจ ฉันคบกับเขามาเกือบสิบปีแล้ว สิบปีนะ คบๆเลิกๆนับครั้งไม่ถ้วน มีเพียงครั้งนี้เท่านั้น ที่ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ” “ทำไมล่ะ” “หลายปีก่อน ตอนที่ฉันรักเขาฉันพูดเรื่องแต่งงานขึ้นมา เขาบอกว่าให้รอก่อน คุณยังเด็ก รออีกสองสามปีเมื่อคุณโตแล้วเราค่อยมาคิดกันเรื่องแต่งงานอีกครั้ง ฉันเห็นด้วย จากนั้นฉันก็รอแล้วรออีก รอจนถึงตอนนี้อายุฉันก็ไม่น้อยแล้ว ฉันจึงพูดเรื่องแต่งงานขึ้นมาอีกครั้ง เขากลับพูดว่า คนสองคนอยู่ด้วยกันไม่จำเป็นต้องแต่งงาน เหมือนกับตอนนี้ที่เป็นอยู่ ก็ไม่ได้มีอะไรไม่ดี” “ฉันคิดว่าเขายังคงคิดเรื่องความเหมาะสมทางสังคม ฐานะเราช่างแตกต่าง ฉันสัญญากับเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าจะไม่ให้ใครหน้าไหนในครอบครัวมาดูถูกเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ต้องการแต่งงานกับฉัน เมื่อคืนก่อนเขาเมา ฉันจึงได้ยินคำตอบที่แท้จริงจากปากเขา ว่าที่เขาไม่ต้องการแต่งงานกับฉัน เป็นเพราะว่าไม่ต้องการถูกผูกมัดโดยการแต่งงาน…” “เกินไปแล้ว!” หยางเมิ่งฉีทนไม่ได้ “ผู้ชายคนนั้นเป็นคนโกหกหลอกลวง! เขาหลอกคุณ!” “ไม่ เขาไม่ได้เป็นคนโกหกหลอกลวง เขารักฉันจริงๆ เขาก็เป็นเหมือนมนุษย์ทั่วไป เขาไม่ต้องการถูกผูกมัดโดยการแต่งงาน” หานหนาหรงร้องไห้ ร้องอย่างช่วยอะไรไม่ได้ “พี่รอง อย่าเศร้าไป ผู้ชายที่ไม่รู้จักดูแลทะนุถนอมเรา เราก็ไม่ต้องการเขาหรอก พี่สวยขนาดนี้ ต้องหาผู้ชายที่อยากแต่งงานกับพี่ได้อย่างแน่นอน” “โอ้ ฉันรักมาตั้งนานหลายปี เธอคิดว่าฉันจะยังเหลือแรงเหลือพลังไปเริ่มความรักครั้งใหม่อีกอย่างนั้นรึ เป็นไปไม่ได้ ทั้งโลกอีกาทั่วไปเป็นสีดำฉันใด เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของผู้ชายก็ไม่ต้องการถูกผูกมัดโดยการแต่งงานฉันนั้น” หากเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของผู้ชายไม่ต้องการถูกผูกมัดโดยการแต่งงาน หนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่ยังหลงเหลืออยู่คงเป็นหานจวิ้นซือของเธอ หยางเมิ่งฉีคิดเรื่องนี้อย่างแน่วแน่ หานหนานหรงเปิดไวน์ขวดหนึ่ง เธอไม่สนใจว่าหยางเมิ่งฉีจะห้ามอย่างไร เธอดื่มลงไปจนเมาหัวราน้ำ “เมิ่งฉี… น้องชายฉันรักเธอ ใช่หรือไม่” “ใช่ค่ะ” “แต่ฉันคิดว่า...เขาก็คงจะไม่แต่งงานกับเธอ..” “ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ!” “เชื่อพี่รองสิ พี่รองผ่านมาแล้ว… พี่รองพบเจอผู้ชายมามากกว่าเกลือที่เธอทานอีก ผู้ชายไม่ชอบผูกมัดชีวิตของเขาไว้กับผู้หญิง เขามีความทะเยอทะยาน เขามีความฝันมากมาย หัวใจของเขาสูงส่งกว่าท้องฟ้า เขาจะไม่แต่งงานกับเธอจนกว่าทุกอย่างจะสำเร็จบรรลุผล ถ้าหากเธอพูดขึ้นมาก่อน เขาก็จะให้เธอรอ หลังจากนั้น...เธอก็จะเป็นเหมือนฉัน รอปีแล้วปีเล่า จนกระทั่งกลายเป็นผู้หญิงที่ไร้หัวใจ รอจนกระทั่งกลายเป็นหญิงชราที่สิ้นหวัง สุดท้าย เธอก็พบว่า เธอได้สูญเสียปีที่สวยงามเหล่านั้นของเธอไป แต่สิ่งที่เธอได้รับน่ะรึ ทุกอย่างสูญเปล่า…” หยางเมิ่งฉีนิ่งอึ้งไป เธอปฏิเสธสุดหัวใจ เป็นไปไม่ได้ หานจวิ้นซือไม่ใช่ผู้ชายอย่างนั้น แต่ปากเธอก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ “ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามเขาดูสิ… ฮ่าฮ่า… ฮ่าฮ่า…” หานหนานหรงทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้จนหลับไป หยางเมิ่งฉีมองหน้าเธอตอนหลับอย่างสงบนิ่ง หัวใจไม่มีความรู้สึกใดทั้งสิ้น เมื่อตอนที่พบผู้หญิงคนนี้ครั้งแรก เธอรู้สึกว่าหล่อนสวยมาก สวยและมีเสน่ห์ โดยเฉพาะดวงตาที่ดึงดูดคน ทำให้คนหลงใหลอย่างโงหัวไม่ขึ้น เมื่อเร็วๆนี้เธอถึงได้ค้นพบว่า ดวงตาที่น่าหลงใหลนี้ ยังมีริ้วรอยตื้นๆอยู่ ความรักสามารถรอได้ เวลากลับรอไม่ได้ เวลาช่างโหดเหี้ยม มันทิ้งร่องรอยที่มันเดินผ่านเอาไว้ หานจวิ้นซือโทรเข้ามา “ฉีฉี เป็นอย่างไรบ้าง” “พี่รองคุณหลับไปแล้ว มารับฉันได้แล้วค่ะ” เสียงของเธอสงบนิ่งมาก แต่อารมณ์กลับไม่ได้สงบนิ่ง เห็นได้ชัดว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของหานจวิ้นซือที่ให้เธอมาที่นี่ เพราะไม่เพียงแต่เธอไม่ได้ช่วยให้สติกับหานหนานหรงเท่านั้น แต่มันยังได้ส่งผลกระทบกับเธอ ตอนนี้อารมณ์เธอไม่ดีแล้ว ในที่สุดเขาก็มารับเธอ ไม่ใช่หานจวิ้นซือแต่เป็นกู้เฟิงเหยน เมื่อขึ้นรถ เธอดูไม่มีความสุข กู้เฟิงเหยนพยายามอธิบายอย่างระมัดระวัง “ความจริงประธานหานเตรียมตัวที่จะมารับคุณ แต่อยู่ๆก็มีลูกค้าสำคัญสองสามคนเข้ามาเยี่ยมชม จึงต้องเปลี่ยนเป็นผมแทนครับ” “อื้อ ไม่เป็นไร” เธอตอบอย่างใจลอย ลอยไปไกล เมื่อกลับถึงสวนWisteria ก็เป็นยามเย็นแล้ว แสงของดวงอาทิตย์ยามสายัณห์เปล่งสีแดงครึ่งท้องฟ้า ช่างน่าสวยงาม หยางเมิ่งฉีนั่งอยู่บนเตียง ใจเธอลอยไปคิดถึงคำพูดของหานหนานหรง มีความคิดบางอย่างที่น่ารังเกียจแวบเข้ามาในหัว มันทำให้เธออารมณ์เสีย นั่นคือน้องชายเธอนะ น้องชายแท้ๆของเธอนะ ทำไมถึงพูดว่าน้องชายของตัวเองอย่างนั้นได้ล่ะ เกินไปแล้ว เกินไปจริงๆ… ความคิดต่อต้านอยู่ในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า เธอไม่ชอบให้ใครหน้าไหนมาว่าหานจวิ้นซือ แม้ว่าคนนั้นจะเป็นพี่สาวแท้ๆของเขาเองก็ตาม ก็ไม่สามารถทำได้ หานจวิ้นซือโทรมา และเอ่ยปากเรียกเธออย่างอบอุ่น “ฉีฉี” “อื้อ ว่าไง” “ถ้าหากผมบอกว่าเย็นนี้ผมกลับไปทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนคุณไม่ได้แล้วคุณจะโมโหผมไหม” เธอนิ่งไปและตอบอย่างไม่ตรงกับใจ “ไม่” “จริงหรอ” “อือ...” “ถ้าคุณไม่พอใจก็บอกผมนะ ถึงจะเป็นลูกค้ารายสำคัญ แต่เมื่อเทียบกับคุณแล้ว เทียบกันไม่ได้เลย” เหมือนบอกเป็นนัยว่าเธอคือคนสำคัญที่สุด “ฉันไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ จริงๆ” หานจวิ้นซือหยุดนิ่งชั่วขณะ “อย่างนั้นก็ดี ผมจะพยายามกลับไปให้เร็วที่สุด” เมื่อวางสาย เธอก็ดึงผ้าห่มคลุมเหนือศีรษะ แทนที่จะคิดถึงเรื่องนี้ นอนหลับไปเลยยังจะดีเสียกว่า! 
已经是最新一章了
加载中