บทที่98 ค่ำคืนอันแสนโรแมนติค   1/    
已经是第一章了
บทที่98 ค่ำคืนอันแสนโรแมนติค
บ๗ที่98 ค่ำคืนอันแสนโรแมนติค “ผมอยู่เขตซีเฉิง แล้วคุณล่ะ” “ฉันอยู่เฟิงไถ ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างไกลกันนะ” “คุณหนูหยางล่ะ” หลินชวนหันไปมองทางด้านซ้ายของเขา “อ้อ ฉันเป็นคนเซี่ยงไฮ้ ไกลจากพวกเธอมาก” “ถ้าอย่างนั้นเธอสองคนยังไม่จบหรอ” หลินวานวานรีบตอบ “ปริญญาตรีจบแล้ว กำลังจะต่อปริญญาโท” หลินชวนหัวเราะ “ไม่เลว มีความทะเยอทะยานมาก” “มีความทะเยอทะยานอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะว่า…” คิดแล้ว เธอก็กลืนคำพูดนั้นลงไป “เพราะอะไร” “ไม่มีอะไร” หลินชวนก็ไม่ถามต่อ เขาชี้ไปที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าและถามว่า “คุณต้องการดื่มอะไรไหม” “นอกจากเหล้า ฉันดื่มได้หมด” หยางเมิ่งฉีรีบออกตัว “คุณจังล่ะ” “โอ้ว อย่าเรียกคุณจัง คุณหนูหยางเลยค่ะ มันฟังดูแปลกๆ ได้พบกันนับว่ามีวาสนาต่อกัน เรียกชื่อพวกเราก็พอ” หลินวานวานมีนิสัยร่าเริงสดใส เธอไม่ชอบให้คนเรียนคุณผู้หญิงคุณผู้ชาย “ได้” บริกรเริ่มเสิร์ฟอาหาร หลินชวนพูดขึ้น “เพิ่มเบียร์และเครื่องดื่มให้พวกเราอีกสักสองสามขวดนะครับ” “ผมต้องดื่มเบียร์แน่นอน สุภาพสตรีที่ไม่ดื่มเหล้าทั้งสองท่านนี้ปีนี้ยังแต่งงานไม่ได้” หยางเมิ่งฉีกระพริบตา “พูดไร้สาระอะไร ผู้หญิงที่ชอบดื่มเหล้าถึงจะแต่งงานได้อย่างนั้นรึ ใครจะอยากแต่งงานกับผีขี้เมา” “ดื่มเหล้าก็ไม่จำเป็นต้องเมา ดื่มเพื่อเอาอรรถรส ใช่ไหม หลินชวน” หลินวานวานยักคิ้ว หลินชวนได้แต่ยิ้มไม่พูด “ฉันอยากแก่เฒ่าไปกับคุณ รักทะนุถนอมกันทุกวินาที จนถึงวันที่คุณและฉันแก่เฒ่า ดวงดาวจะยังคงส่องแสงลงบนผมสีดอกเลา…” โทรศัพท์ของหยางเมิ่งฉีดังขึ้น เธอรีบลุกขึ้น และกระซิบประโยคหนึ่ง “ฉันไปรับโทรศัพท์นะ” หลินวานวานหันมองหลังเธอและยิ้มอย่างน่าอึดอัดใจ “ผู้ชายโทรมา ทำเป็นเขิน” “ผู้ชายไหน” “ก็แฟนเธอไง” หลินชวนรู้สึกประหลาดใจ “เธอมีแฟนแล้วรึ” “ใช่สิ ทำไม คุณคิดอะไรกับเธอหรือไง” เธอยิ้มอย่างชั่วร้ายและสวนกลับไป “อย่าหาว่าฉันไม่เตือน แฟนเธอน่ะสุดยอดมาก” “ไม่ใช่ ผมแค่ถามเฉยๆ” ท่าทางของหลินชวนดูสงบนิ่ง แววตามีประกายอันซับซ้อนเล็กน้อย หยางเมิ่งฉีกำลังหาจุดที่เงียบสงบเพื่อที่จะรับสาย “ฮัลโหล” “ฉีฉี อีกครู่หนึ่งผมจะไปรับคุณทานอาหารกลางวันด้วยกันนะ” “ทานกลางวันหรอคะ” เธออายเล็กน้อย “แต่ว่าฉันกำลังทานอยู่ค่ะ” “เร็วจัง” “อื้อ ฉันกับวานวานบังเอิญเจอกับรุ่นพี่ เขาเลี้ยงข้าว จะไม่มาก็ดูไม่ดี” “รุ่นพี่อะไร” หยางเมิ่งฉีไม่คิดจะปิดบังเขา “รู้จักกันตอนนัดบอดคราวก่อนน่ะค่ะ” ช่วงเวลานั้นเงียบลงในทันที หลังจากนั้นไม่นาน หานจวิ้นซือพูดยาวและหนักแน่น “คุณลืมคำพูดของผมไปหมดแล้วใช่ไหม” “คำพูดอะไร” “...” ลืมไปแล้วจริงๆ “ครั้งก่อนพี่สาวคนโตของผมบังคับผมไปนัดบอด หลังจากนั้นผมบอกกับคุณว่าอย่างไร” หยางเมิ่งฉีพยายามคิดอย่างหนัก คิดอย่างหนัก จนในที่สุด “ฉันคิดออกแล้ว” “ลองพูดมาสิ” “อย่าปฏิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อ้างว่าเป็นศิษย์เก่าหรือมาจากบ้านเกิดเดียวกัน” “แล้วยังไงอีก” “ใบหน้าของคนเลวจะไม่มีตัวหนังสือเขียนอยู่ว่าคนเลว” “แล้วยังไงอีก” “อย่าไว้ใจใครง่ายๆ” “ดีมาก” หานจวิ้นซือรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก “คุณจำคำพวกนี้เอาไว้ให้ดี ผมไม่ได้ห้ามมิตรภาพที่คุณมีกับเพื่อนของคุณ แต่อย่างไรก็ตาม เป็นการดีกว่าที่จะเห็นธาตุแท้ของพวกเขา” “เอาล่ะ ทราบแล้ว” เมื่อวางสาย หยางเมิ่งฉีก็กลับไปที่นั่งในร้านอาหาร เธอกลับพบว่าหลินวานวานกำลังโมโหพนักงานเสิร์ฟ “เราบอกให้คุณเอาเหล้าและเครื่องดื่มมา ทำไมให้พวกเรารอตั้งนาน พวกคุณให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพรึเปล่า” “ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ เมื่อสักครู่ฉันยุ่งจนลืมไป” บริกรก้มหน้าขอโทษ “ลืมเรอะ เรียกผู้จัดการของคุณมา ลืมที่ลูกค้าสั่งอย่างนั้นรึ ใครจะกล้ามาร้านอาหารแห่งนี้อีก!” “เอาน่า อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย” หลินชวนแสดงท่าทีของสุภาพบุรุษออกมา “ใช่แล้ว รีบไปเอามาก็พอ” หยางเมิ่งฉีรีบสมทบ “เฮ้เฮ้เฮ้ พวกคุณสองคนหมายความว่าอย่างไร นิ่งๆยอมๆไป ไม่มีมือมีเท้ากันหรือยังไงพวกเธอ” “เธอนั่นล่ะที่เว่อร์เกินไป ดูสาวน้อยคนนั้นสิ โดนเธอดุจนเกือบจะร้องไห้อยู่แล้ว” หลินวานวานยังยุยงส่งเสริม “พวกเราคนปักกิ่งโกรธแรงโมโหแรง เธอบังเอิญมาเจอฉันนับว่าเป็นโชคร้ายของเธอ” “เชอะ คนปักกิ่งโมโหแรง ดูสิหลินชวนยังไม่เห็นจะโมโหเลย” หลินชวนหัวเราะ “เหล่ยลี่น่าจะหมายถึง ผู้หญิงปักกิ่งโมโหแรง ส่วนผู้ชายปักกิ่งไม่โมโห” ทั้งสามคนหัวเราะ อาหารมื้อนั้นสนุกสนานมาก บ่ายสองโมง เมื่อหานจวิ้นซือเริ่มประชุม เขาเห็นสายเรียกเข้าจากเซี่ยหยาว เขาได้แต่เหลือบตามองและกดตัดสายโดยไม่ลังเล แต่เธอยังไม่ยอมแพ้ เขาไม่รับสาย เธอก็เลยส่งข้อความมา เนื้อหาของข้อความเป็นเพียงตัวเลข แต่นั่นทำให้หานจวิ้นซือถึงกับต้องครุ่นคิด ในที่สุดเขาก็โดยสารรถไปที่บ้านตระกูลเซี่ย เซี่ยหยาวความจริงรออยู่นานแล้ว เมื่อเห็นเขา เธอก็ไม่ได้รู้สึกตกใจหรือประหลาดใจ “เชิญนั่ง” เธอไปชงกาแฟหอมกรุ่นมาให้เขาถ้วยหนึ่งและถามขึ้นอย่างละอายใจ “รู้ไหมว่าคุณไม่ได้มาบ้านฉันนานแล้วนะคะ” หานจวิ้นซือขยับขนตาเล็กน้อยและตอบอย่างจืดชืด “เรายกเลิกการแต่งงานกันแล้ว ผมมาที่นี่อีก ก็ไม่ค่อยสะดวกนัก” “อ้อ ตอนนี้ยังไม่ได้ยกเลิกงานแต่ง คุณก็มาที่นี่เพียงไม่กี่ครั้ง” เขาไม่ต้องการถกกับเธอเรื่องนี้จึงพยายามเปลี่ยนเรื่อง “คุณบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกผม มันคืออะไร” “เกี่ยวกับสาเหตุการตายของพ่อแม่คุณ” หานจวิ้นซือขมวดคิ้ว “สาเหตุการตายของพ่อแม่ผม คุณจะรู้ได้อย่างไร” “วันก่อนฉันไปหาแม่ฉันมา ตอนกลางคืนเธอฝันร้าย ตะโกนด้วยความหวาดกลัวและหมดสติไป เธอพูดชื่อของฆาตกรออกมา” บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด “เป็นไปไม่ได้” “คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ อย่างไรเสียฉันเป็นเพียงผู้หญิงที่อ่อนแอ ไม่เคยคิดถึงการแก้แค้นแทนพ่อแม่ ถ้าคุณไม่อยากรู้ ฉันจะฝังความลับนี้เอาไว้ในใจ จะไม่บอกใครหน้าไหนทั้งนั้น” “ฆาตกรเป็นใคร” เซี่ยหยาวยิ้มมุมปาก “ฉันคิดว่าคุณไม่อยากรู้เสียอีก” เธอยืนขึ้นและเดินไปด้านหน้าเขา “ถ้าอยากรู้คุณก็แต่งงานกับฉัน” “ต่อรองกับผมรึ” “ไม่ได้หรือไง” หานจวิ้นซือตะคอกและพูดอย่างตรงไปตรงมา “ผมยังไม่แน่ใจว่าที่คุณพูดเป็นเรื่องจริงแค่ไหน ต่อให้จริงร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณก็อย่าคาดหวังจะเรียกร้องโน่นนี่” “เพราะว่าหยางเมิ่งฉี เลยไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาสินะ” “ใช่” เขายอมรับโดยไม่เสแสร้ง เซี่ยหยาวส่ายศีรษะอย่างสิ้นหวัง “ถ้าวิญญาณของคุณน้าทั้งสองยังอยู่ใต้ดิน และรู้ว่าตอนนี้เพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียวแล้ว คุณกลับไม่ต้องการที่จะรู้สาเหตุการตายของพวกท่าน พวกท่านคงนอนตายตาไม่หลับ ไม่รู้จะเหน็บหนาวใจแค่ไหน…” “นี่เป็นเรื่องของบ้านหานซื่อ” “ถ้าอย่างนั้นคุณเชื่อฉันรึเปล่าล่ะ” “ทำไมผมถึงต้องเชื่อคุณ คุณลองบอกเหตุผลที่ผมควรจะเชื่อคุณมาดูสิ” “เป็นเพราะคุณไม่เคยไว้ใจให้ใครสืบหา คุณอาจจะไม่เชื่อฉันก็ได้ แต่คุณก็อย่ามาเสียใจทีหลัง เพราะโอกาสมีเพียงครั้งเดียว” เมื่อเซี่ยหยาวพูดจบเธอก็ชี้ไปที่ชั้นสอง “ฉันจะไปอาบน้ำ คุณลองคิดดู คิดให้ดี แล้วค่อยตอบฉัน” ความจริงแล้วหานจวิ้นซือไม่ต้องคิดถึงมันเลย ไม่ใช่เพราะเขาไม่สนใจสาเหตุการตายของพ่อแม่ แต่เพราะถ้าเขาอยากรู้ สามารถรู้ผ่านทางวิธีอื่นได้ โดยไม่ต้องทำให้หยางเมิ่งฉีเสียใจ ในขณะที่เขากำลังจะเดินออกไป จู่ๆสมองของเขาก็มึนงง ล้มตึงลงกับพื้น ร่างกายของเขาเริ่มร้อนขึ้น หายใจถี่ ความปรารถนาไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด และความปรารถนานี้ก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แข็งแกร่งพอที่จะทำให้เขาตายได้ สายตาเขาเหลือบไปเห็นกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะ ทันใดนั้น เขาก็เข้าใจทุกอย่าง “คุณ…” “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” เซี่ยหยาวยื่นมือออกมาปิดปากเขา “ฉันรู้ว่าคุณต้องการพูดอะไร” 
已经是最新一章了
加载中