บทที่100 ท่ามกลางสายฝนอันบ้าคลั่ง
1/
บทที่100 ท่ามกลางสายฝนอันบ้าคลั่ง
Thief เธอขโมยหัวใจผมไป
(
)
已经是第一章了
บทที่100 ท่ามกลางสายฝนอันบ้าคลั่ง
บ๗ที่100 ท่ามกลางสายฝนอันบ้าคลั่ง “คุณนั่งลงก่อน ผมจะค่อยๆเล่าให้ฟัง” เขาพรรณารายละเอียดเรื่องที่เซี่ยหยาวแกล้งทำเป็นป่วยให้เธอฟัง เมื่อหยางเมิ่งฉีฟังแล้ว คิ้วเธอแทบจะผูกกัน “อาการป่วยเธอหายดีแล้ว การตายของพ่อแม่เธอความจริงแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ คุณไม่จำเป็นจะต้องรู้สึกติดค้างอะไรเธออีกแล้วใช่ไหมคะ” หานจวิ้นซือพยักหน้า “คุณวางใจ ผมรู้ว่าคุณกลัวอะไร ผมสัญญากับคุณ ผมจะไม่ปล่อยให้เซี่ยหยาวกลายเป็นปัญหาของคุณ” “จริงรึ” “จริงสิ!” “ดี เป็นแบบนี้ก็ดี ไม่อย่างนั้นคุณตายแน่!” หานจวิ้นซือเห็นเธอยิ้ม อารมณ์เขาก็ค่อยสดชื่นขึ้น “ถ้าอย่างนั้นเราออกไปทานอาหารค่ำกัน ผมหิวนิดหน่อย” “ดึกขนาดนี้ยังจะลงเขาอีกรึคะ” “ไม่อย่างนั้นจะทานอะไร ป้าโอมหลับแล้ว” หยางเมิ่งฉีตบไหล่เขา “ป้าโอมหลับก็ยังมีฉันไง อย่าลืมสิ บ้านฉันเป็นร้านอาหารว่างนะ” “หมายความว่าคุณจะเข้าครัวทำอาหารให้ผมทานรึ” “แน่นอน” “คุณจะทำอะไรให้ผมทาน” “คุณอยากทานอะไรล่ะ” เขาคิดและพูดขึ้น “เกี๊ยวน้ำแล้วกัน” “เกี๊ยวน้ำหรอ..” “มีปัญหาอะไรรึ” “ไม่มีปัญหาหรอก แต่ว่ามันวุ่นวายหน่อย ต้องทำไส้ ไหนจะห่อและพับด้วยมือ กว่าจะทำเสร็จ ฟ้าก็คงสว่างพอดี คุณอาจจะหิวตายไปก่อน” “ไม่เป็นไร ผมรอได้” “อยากทานเกี๊ยวน้ำขนาดนั้นเลยรึ” “อื้อ..” หยางเมิ่งฉีกลอกตา “...ถ้าอย่างนั้นก็ได้” ใครให้เธอหาเรื่องใส่ตัว ออกไปทานข้างนอกง่ายกว่าเยอะ เมื่อเข้าไปในห้องครัวเธอก็ใส่ผ้ากันเปื้อน เธอเทแป้งลงในกะละมังและเริ่มนวดแป้งอย่างเชี่ยวชาญ “ให้ผมช่วยไหม” หานจวิ้นซือเดินเข้าไป ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข “ไม่ต้องหรอก คุณรับผิดชอบทานก็พอ” “คุณจะทำไส้อะไรให้ผมทาน” “คื่นฉ่ายเนื้อมนุษย์" หืม เขาจ้องมองด้วยความสยดสยองแต่ยังถามด้วยเสียงอันอ่อนละมุน “ใช้เนื้อของคุณใช่หรือไม่ ถ้าเป็นเนื้อของคุณผมถึงจะกิน เพราะที่จริงผมก็อยากจะกินคุณอยู่แล้ว” พูดไป เขาก็เริ่มขยับมือขยับเท้า กัดหู กัดคอของเธอ จนเธอหัวเราะคิกคัก “เอาล่ะ อย่าก่อกวน ถ้ากวนฉันจะไม่ทำให้คุณทานแล้ว” “ถ้าอย่างนั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ” “ไปเถอะไปเถอะ” ทำเกี๊ยวไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะคล่องแคล่วอยู่แล้ว นวดแป้งได้เนียน ทำไส้ได้ดี แต่ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมาก หานจวิ้นซืออาบน้ำเสร็จก็ลงไปชั้นล่าง และยืนอย่างสดชื่นอยู่ตรงหน้าเธอ “ยังไม่เสร็จอีกหรอ” “ฟ้ายังไม่สว่างเลย รีบทำไม” เขาขมวดคิ้ว “คุณจะทำจนถึงฟ้าสางจริงๆหรอ” “คุณว่าไงล่ะ ลองมาทำดูไหมล่ะ” เขาถอนหายใจ “เอาล่ะ ผมรอทานอย่างเดียวดีกว่า” เขานั่งอยู่ด้านข้าง มองดูนิ้วของเธอขยับไปมาอย่างกระฉับกระเฉงสองสามครั้งก็สามารถห่อเกี๊ยวที่รูปร่างสวยงามออกมาได้ เขาถามขึ้นด้วยความสนใจ “ฝีมือคุณไม่เลว พ่อคุณสอนรึ” “เปล่า พ่อฉันไม่ได้สอน เขาทำเกี๊ยวด้วยตัวเองตลอดชีวิต เขาไม่ได้คาดหวังต้องการให้ฉันสืบทอดอะไร เขาประหยัดอดออมให้ฉันได้เรียนมหาวิทยาลัย จนฉันได้เรียนต่อต่างประเทศ เขาหวังว่าฉันจะมีอนาคตที่สดใสกว่าเขา” “ถ้าอย่างนั้นคุณแอบฝึกเองรึ” หยางเมิ่งฉีเหลือบมองเขาอย่างหงุดหงิด “ฉันก็เพิ่งบอกไป พ่อฉันทำเกี๊ยวมาตลอดทั้งชีวิต หากคุณเติบโตมาในครอบครัวที่ทำเกี๊ยว อย่างนั้นไม่ต้องให้ใครมาสอน ไม่ต้องแอบฝึก แค่มองดูคุณก็สามารถเรียนรู้ได้เองโดยไม่ต้องมีใครมาสอน” หานจวิ้นซือเพิ่งจะกระจ่าง “อ้อ ที่แท้เป็นอย่างนี้” เขาจับคางตัวเองด้วยมือหนึ่งและใช้ความคิด “ถ้าอย่างนั้นถ้าเมื่อครู่ผมไม่ได้บอกว่าอยากทานเกี๊ยว คุณจะทำอะไรให้ผมทานล่ะ” “บะหมี่ขลุกขลิกน่ะสิ” “บะหมี่ขลุกขลิกรึ บะหมี่ขลุกขลิกมันเป็นอย่างไร” “ก็คือบะหมี่ที่ใส่น้ำเพียงเล็กน้อย ผสมกับเครื่องปรุงและลวกในหม้อ แค่นั้นก็ทานได้แล้ว” “ง่ายอย่างนั้นเลยรึ” “ใช่สิ ง่ายกว่าห่อเกี๊ยวตั้งเยอะ” “รสชาตเป็นอย่างไร” “ไม่มีรสชาต มันเป็นแป้ง จะมีรสชาตได้อย่างไร” “กินแป้ง…” หานจวิ้นซือตกตะลึง อยากตายจริงๆ มองดูดวงดวง ชมพระจันทร์ ในที่สุดหวังว่าเกี๊ยวจะออกจากหม้อ กลิ่นมาเตะจมูก หานจวิ้นซือรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีวิสัยทัศน์ ดีที่เขายืนยันจะทานเกี๊ยว ไม่อย่างนั้นคงต้องจบลงที่การกินแป้ง “อร่อยมั๊ยคะ” หยางเมิ่งฉีถามอย่างตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้าครัวทำอาหารให้ผู้ชายทานอย่างสุดหัวใจ “อร่อย” หานจวิ้นซือผงกหัว ท่าทางชัดเจน “ผมไม่ได้ทานของอร่อยๆอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว” “อร่อยก็ทานเยอะๆค่ะ” “อื้อ!” เขาทานเกี๊ยวไปแล้วครึ่งหนึ่งจึงพูดขึ้นว่า “ใช่แล้ว มะรืนนี้ผมจะไปออกทริป” “ไปไหนคะ” “รัสเซีย” “มะรืนหรอคะ” เธอเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “ต้องไปมะรืนนี้หรอคะ” “อื้อ ทำไมรึ” เธอส่ายหัวทันที “ไม่มีอะไรค่ะ ไปนานแค่ไหนคะ” “ประมาณหนึ่งอาทิตย์นะ” “นานจังเลย…” เธอรู้สึกผิดหวัง เพราะวันมะรืนเป็นวันเกิดของเธอ แต่ว่าถ้าเขาวันสำคัญอย่างเช่นวันเกิดเธอไม่ได้ เธอก็จะไม่เริ่มเอ่ยกับเขาก่อน เมื่อก่อนตอนที่เป็นแฟนกับจื่อเย่า เขาก็จำวันเกิดไม่ได้เช่นนี้ ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับเรื่องนี้ดี “คราวนี้ไปหารือกันในหัวข้อสำคัญ ถ้าหากเป็นไปได้ ผมจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด” “อื้อ ไม่เป็นไร คุณไปเถอะ” เธอยิ้มอย่างขมขื่น วันเกิดปีที่ยี่สิบห้าดูเหมือนว่าเธอจะต้องอยู่คนเดียว เมื่อเรียนเสร็จในตอนบ่ายวันรุ่งขึ้น เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนรอคนขับรถมารับ มีรถคันหนึ่งจอดลงด้านหน้าเธอ ในรถมีคนแปลกหน้าโผล่ออกมา “คุณคือคุณหยางเมิ่งฉีใช่ไหมคะ” เธอนิ่งไปและพยักหน้า “ใช่ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ” “เจ้านายของฉันต้องการเชิญคุณไปที่บ้าน ไม่ทราบว่าคุณสะดวกหรือเปล่าคะ” “เจ้านายของคุณเป็นใครคะ” “ลุงคนที่สองของคุณหาน คุณหานเจิ้นสุงค่ะ” หยางเมิ่งฉีตกใจและถามอย่างมีลางสังหรณ์ “คุณหานต้องการพบฉันเรื่องอะไรคะ” “เรื่องนี้ฉันก็ไม่ทราบ คุณไปก็จะรู้เองค่ะ” เธอลังเลเล็กน้อยแต่ก็ขึ้นรถไป จะหมู่หรือจ่า จะหนีหรือสู้ดี รถขับไปได้สิบกว่านาที ก็จอดที่ตรงหน้าวิลล่าสุดหรู มียามยืนรักษาการทั้งสองฝั่งของประตู บรรยากาศค่อนข้างโอ่อ่า “คุณหยาง เชิญเข้ามา” คนขับรถพาเธอเดินเข้าไปในห้องรับแขกอันงดงาม บนโซฟาในห้องรับแขกนั้น มีชายชราอายุราวห้าสิบปีนั่งอยู่ สายตาของเขาเต็มไปด้วยพลังงาน นิ้วหนีบซิการ์อย่างประณีต ขาทั้งสองไขว้กัน เขาวางท่าทางราวกับราชา น่าแปลก ครั้งก่อนคนทั้งตระกูลหานไปที่บ้านสวนWisteriaไม่ใช่รึ ทำไมเธอไม่คุ้นหน้าบุคคลนี้เลย หยางเมิ่งฉีรู้สึกสงสัย “สาวน้อย เชิญนั่ง” หานเจิ้นสุงลุกขึ้นและชี้ไปที่โซฟา เธอรู้สึกถึงความประจบสอพลอในทันที บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเคยเห็นความร้ายกาจของลุงใหญ่ของหานจวิ้นซือมาก่อน เธอก็เลยจัดประเภทลุงคนที่สองของเขาไว้ในประเภทเดียวกัน แต่เมื่อได้ยินเขาเรียกเธออย่างสนิทสนมว่าสาวน้อย เธอจึงรู้สึกค่อนข้างสับสน… “คุณหาน ไม่ทราบว่าคุณต้องการพบฉันเรื่องอะไรคะ” “อย่าเรียกฉันคุณหานเลยเรียกว่าลุงสองก็พอแล้ว” เขายิ้มขณะที่จ้องมองเธอ “แม่สาวน้อยมองดูแล้วก็ไม่เลวนะ ไม่น่าแปลกใจเลยทำไมพ่อหลานชายถึงได้กล้าขัดใจพวกเรา” หยางเมิ่งฉีสะดุ้งขึ้นในทันที เธอคิดว่าลุงสองดูมีเหตุผลมากกว่าลุงใหญ่มาก ดูไปแล้ว เขาก็ยังมีความเป็นกลาง เพียงแค่ต้องการขัดขวางหรือว่าต่อต้านการคบกันของเธอและหานจวิ้นซือก็ถือว่าเป็นคนไม่ดีทั้งนั้น “ถ้าหากว่าคุณต้องการพูดจากระทบกระเทียบฉัน เรื่องนั้นไม่จำเป็น ฉันไม่จำเป็นต้องทนอยู่ที่นี่เพื่อฟังความอัปยศ” “ฮ่าฮ่าฮ่า” หานเจิ้นสุงหัวเราะดัง เขาดับซิการ์และพูดว่า “สาวน้อยเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้เชิญเธอมาเพื่อที่จะทำให้ขายหน้า ฉันเพิ่งจะรู้ว่าก่อนหน้านี้พี่ชายของฉันไปพบเธอมา ฉันได้ยินลูกสาวของฉันเล่า วันนั้นฉันไม่ได้อยู่ในซูริค ดังนั้นจึงได้แต่ฟังเรื่องราวจากปากคำของพวกเธอ ได้ยินว่าพี่ชายของฉันโมโหจนควันออกหู ในขณะที่ผมชื่นชมคุณผมก็รู้สึกแปลกใจ คุณรู้ไหม ว่าทั้งตระกูลเรา นอกจากจวิ้นซือแล้วก็ไม่มีใครเลยที่กล้าต่อต้านเขา” หยางเมิ่งฉีปรับอารมณ์ให้สงบนิ่ง “หนูไม่ได้ต่อต้านเขา หนูแค่คิดว่าคนเราเท่าเทียมกัน เขาไม่เคารพหนู หนูก็ไม่จำเป็นต้องเคารพเขาเช่นกัน”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่100 ท่ามกลางสายฝนอันบ้าคลั่ง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A