ตอนที่512ฝันร้ายสีแดงสด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่512ฝันร้ายสีแดงสด
ตอนที่512ฝันร้ายสีแดงสด หลังจากการหายตัวไปของนัชชาความคืบหน้าของคดีก็ล่าช้าออกไปแม้ว่าจะมีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่ายังมีปัญหาในการลงหลักปักฐานแต่มันยังไม่ถึงเวลาพิจารณากันในศาล ถึงแม้ว่าเตชิตจะยังไม่ได้ป่าวประกาศเรื่องนี้ออกไปแต่ธนัทก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติจะต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นถึงทำให้เขาไม่สามารถดูแลจัดการงานที่สำคัญเช่นนี้ได้ แต่ไม่ว่าเขาจะถามซ้ำแล้วอีกกี่รอบเตชิตก็ไม่ยอมเปิดปาก ช่วงนี้ธีมนต์อาศัยอยู่กับณัชชนม์และเมทนีตลอดเมื่อเห็นว่าอายุเริ่มโตขึ้นแล้วคนขับรถที่บ้านก็จะมาคอยรับส่งทุกวัน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีข่าวคราวของทั้งสองคนธีมนต์เริ่มที่จะถามณัชชม์และเมทนี“ตาครับยายครับแม่ของผมจะกลับมาเมื่อไหร่ครับ” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามของตุ๊กตาน้อยผู้เฒ่าทั้งสองท่านก็ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรรู้แค่เพียงว่าพวกเขาเดินทางไปดำเนินธุรกิจคนไม่ได้ติดต่อมาก็เริ่มร้อนใจจินต์แวะมาเพื่อที่จะเอาใจเธอบอกว่าเตชิตติดคดีอยู่คดีหนึ่งเลยไม่สะดวกที่จะติดต่อกับโลกภายนอก แม้ว่าผู้เฒ่าทั้งสองจะรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผลแต่พวกท่านก็เห็นว่าไม่มีทางอื่นก็ได้แต่ปลอบใจเด็กน้อย“พ่อกับแม่อยู่ที่ต่างประเทศรอพวกท่านเสร็จธุระในไม่กี่วันก็จะรีบกลับมาหาเธอนะตอนนั้นพวกเขาต้องเอาของขวัญมาให้เธอเยอะแยะแน่นอน” ในสองสามวันแรกเมื่อธีมนต์ได้ยินว่าของขวัญก็มีความสุขดีแต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มที่จะงอแง“ผมไม่เอาของขวัญแล้วผมอยากให้พ่อกับแม่มาอยู่ด้วย” “ธีธีคนดีมีคุณตาคุณยายอยู่เล่นเป็นเพื่อนนี่แล้วไงครับ” ธีมนต์ยิ้มเจื่อนๆกลัวว่าถ้าพูดอย่างอื่นแล้วจะทำให้ณัชชนม์เสียใจจึงแอบเข้าไปนั่งซึมอยู่ในห้องคนเดียว เมทนีถอนหายใจ“สองคนนั้นทำงานบ้าบออะไรทิ้งลูกไว้ที่นี่แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน!” “พวกเขาสองคนทำงานยุ่งเตชิตเพิ่งจะกลับไปที่สำนักงานกฏหมายก็ย่อมไม่สามารถปลีกตัวได้”ถึงแม้ณัชชนม์จะไม่เห็นด้วยกับวิธีการเช่นนี้“เมื่อพวกเขากลับมาคุณก็ค่อยๆลองพูดกันดีๆ” ธีมนต์เข้าไปในห้องเขามองดูของเล่นและรูปภาพที่วางอยู่บนโต๊ะใจของเขาหดหู่เด็กที่รักความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจไม่แม้แต่จะถอดเสื้อคลุมออกขณะนั่งลงบนเตียงก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าพ่อและแม่จะไม่ว่างบางครั้งไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนเขาได้แต่ว่าอาหารเช้าอาหารเย็นและตอนเข้านอนทุกวันก็จะเห็นหน้าพวกท่านอยู่เสมอตอนนี้ไม่ได้เห็นหน้าพวกท่านเป็นเวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์พวกท่านลืมเขาแล้วรึเปล่า ระหว่างวันธีมนต์ไม่กล้าแสดงอาการเสียใจมากนักเขากลัวว่าจะทำให้ตายายเป็นห่วงตอนนี้อยู่คนเดียวก็อดไม่ได้ที่จะน้อยใจขึ้นมาดวงตาขนาดใหญ่ก้มลงและน้ำตาไหลนองเป็นสองสาย อารมณ์ของเด็กนั้นช่างไวและเปราะบางถูกความคิดถึงทำให้แตกสลายเขากลิ้งตัวไปมาบนหมอนและร้องไห้อยู่เงียบๆ ….. ครั้งนี้Hawkเลือกพานัชชาย้ายมาซ่อนตัวในที่ตั้งที่มิดชิดทำเลของที่พักนั้นค่อนข้างห่างไกลทางทิศตะวันออกไปนั้นเต็มไปด้วยพื้นที่ป่าซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดต้นไม้สูงใหญ่เหล่านี้ได้สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติเอาไว้ให้สถานที่เช่นนี้ยังเป็นที่โปรดปรานของอาชญากรทุกประเภทเมื่ออยู่ในพื้นที่เช่นนี้เป็นการยากที่ใครจะหาพบ ถึงแม้ว่าในประเทศได้มีการออกคำสั่งลงมาหวังว่าจะหาตัวประกันให้พบในระยะเวลาสั้นที่สุดและช่วยชีวิตคนไว้ให้ได้อย่างปลอดภัย สุดท้ายแล้วตำรวจของรัฐYก็ต้องทำการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงแม้กระทั่งส่งโดรนทหารไปช่วยเหลือเพื่อสำรวจสถานการณ์ในป่าลึก ไม่มีข่าวคราวใดๆอยู่สองวันเตชิตแทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนเมื่อปิดตาลงก็เห็นแต่ภาพนัชชาถูกทารุณกรรมเขาได้แต่เอาคลิปวีดีโอขึ้นมาดูอีกรอบยิ่งดูก็เหมือนยิ่งเป็นการทรมานตนเอง ใครจะสามารถทนดูผู้หญิงที่ตัวเองรักถูกทรมานได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชายที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง เขาบังคับใจตัวเองให้สงบลงเปลี่ยนความเกลียดชังHawkให้เป็นความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือนัชชาไม่มีเวลาที่จะมาท้อใจเขาต้องลุกขึ้นยืนให้ได้ แพทย์ประจำทีมติดตามดูว่าร่างกายเขาผ่ายผอมลงพวกเขาอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลมื้อค่ำเขาทานอาหารเพียงไม่กี่คำแพทย์แนะนำว่า“คุณเตชิตผมจะให้สารอาหารทางสายน้ำเกลือแก่คุณถ้าไม่อย่างนั้นร่างกายอาจทนไม่ไหวอีกต่อไป” เขาเห็นมันครั้งสุดท้ายมือที่ใช้ทุบกำแพงในตอนนั้นยังเจ็บไม่หายบาดแผลหนึ่งหรือสองที่ไม่สามารถรักษาได้ หลายวันมานี้เขาอาบน้ำเย็นเพื่อสงบสติอารมณ์และความเหนื่อยล้าในร่างกาย เตชิตมองไปที่ภาพถ่ายทางดาวเทียมที่ถูกยิงกลับมาไม่แม้แต่จะเงยหน้าและปฏิเสธอย่างเยือกเย็น“ไม่ต้อง” “คุณให้ซะหน่อยเถอะหากเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกสักสองวันคุณจะป่วยเอาถ้าเป็นเช่นนั้นคุณจะมีส่วนร่วมในคดีนี้ได้อย่างไร!”หมอประจำทีมเกลี้ยกล่อมถ้าไม่ใช่ทางเลือกสุดท้ายเขาก็ไม่ได้อยากจะบีบบังคับคน เมื่อเตชิตฟังประโยคนี้แล้วเขาก็ไม่กล้าเถียงทีมแพทย์รีบเข้าไปข้างหน้าเพื่อที่จะเจาะเข็มน้ำเกลือให้แก่เขาหลังจากแขวนชุดน้ำเกลือแล้วก็พ่นลมออกด้วยความโล่งอก“คุณพักผ่อนสักหน่อยเถอะถ้ามีอะไรก็เรียกผม” ทีมแพทย์ออกจากห้องไปเหลือเตชิตเพียงคนเดียวในห้องเขามองดูเข็มที่อยู่บนมืออดไม่ได้ที่จะคิดถึงนัชชาไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บของเธอจะสาหัสแค่ไหนถ้าหากไม่มีใครช่วยรักษาอาการเธอล่ะ ชายคนนั้นหลับตาลงยกมือขึ้นวางที่หน้าอกซ้ายสิ่งต่างๆในตอนนี้ถึงแม้ว่าแค่คิดถึงเธอใจเขาก็เจ็บปวดขึ้นมาทันทีเหมือนกับโดนไฟเผาเจ็บปวดเหลือเกิน ….. “นัชนัชคุณชอบดอกไม้ช่อนี้ไหม” ในฝันใบหน้าอันหล่อเหลาที่คุ้นเคยปรากฎอยู่ตรงหน้าชายคนนั้นสวมสูทและถือพวงกุหลาบสีเหลืองในมือของเขาดอกไม้นั้นสดมากแม้กระทั่งกลีบดอกไม้ยังมีน้ำค้างปกคลุม เธอเอื้อมมือออกไปหยิบมันบุคคลนี้พูดขึ้น“นี่คือช่อดอกไม้ในงานแต่งงานของเรามันสวยมั๊ย” เตชิตคว้ามือของเธอมากุมไว้จูงเธอเข้าไปในโบสถ์ด้านในมีแขกวีไอพีอยู่เต็มไปหมดเธอเห็นณัชชนม์เมทนีนอกจากนี้ยังมีผู้อาวุโสอีกสองท่านจินต์และเพื่อนพี่น้องของเตชิต พวกเขายิ้มแย้มแจ่มใสปากเอ่ยแต่คำแสดงความยินดี “พวกเรา...อยู่ที่ไหนกัน”ทุกสิ่งทุกอย่างเบื้องหน้าทำให้เธอได้สติกลับคืนมา มือใหญ่ของชายคนนั้นลูบไปบนศีรษะของเธออย่างอ่อนโยน“คนโง่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเรานะ!” แต่งงานรึ เธอก้มหัวลงและพบว่าบนร่างของเธอสวมใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวสุดหรูมันเป็นสิ่งที่เตชิตปรับแต่งให้เป็นพิเศษ “ไปสิผมจะพาคุณไปพบใครบางคน” เธอเดินตามเตชิตไปยังประตูห้องที่แยกส่วนออกมาเตชิตให้เธอเดินไปข้างหน้าเขายืดแขนออกไปด้านหน้าเพื่อเปิดประตูให้เธอธีมนต์ยืนอยู่กลางห้องสวมชุดทักซิโด้สีดำช่างเป็นสุภาพบุรุษที่น่ารัก “ธีธีรึ”หัวใจของเธอช่างมีความสุขเธอพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็วและโอบลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนแต่เมื่อปลายนิ้วของเธอแตะไปที่ต้นแขนของเขาแขนนั้นก็ระเบิดออกกลายเป็นสีแดงสด “อ๊ะ”นัชชาตะโกนร้องและต้องการที่จะปิดส่วนที่เลือดออกนั้นเอาไว้แต่เมื่อเธอยิ่งพยายามปิดแผลก็ยิ่งเปิดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมทุกสิ่งที่เธอสัมผัสล้วนกลายเป็นเลือด จนในที่สุดธีมนต์ก็ร้องและเรียกแม่ของเขาเสียงเหมือนมีดกรีดลงที่หัวใจของนัชชาไม่ถึงห้านาทีเด็กทั้งคนก็กลายเป็นสีแดงสด ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดูเหมือนจะกลายเป็นสีแดงเธอมองกลับไปที่ชายที่อยู่ด้านหลังซึ่งไม่พูดจาอะไรใบหน้านั้นกลับกลายเป็นHawk เขายิ้มและเดินเข้าไปหาเธอ“เป็นความผิดของคุณทั้งหมดเป็นความผิดของคุณ!”
已经是最新一章了
加载中