ตอนที่ 33 ห้องรกๆ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 33 ห้องรกๆ
ต๭นที่ 33 ห้องรกๆ “ครับ!” หลิวโอเฉินถอนหายใจ ท่านประธานน่าจะตื่นแล้ว เฉียวอีฟานที่กำลังสวมเสื้อเชิ้ตก็ปรายตามองคนตัวเล็กที่อยู่บนเตียงเป็นครั้งคราว ยัยเด็กนี่คงจะตกใจจริงๆ นอนขดตัวเป็นลูกบอลมาสักพักและเอาผ้าห่มปิดตา หึ ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวก็เห็นแล้ว ไม่ช้าก็เร็วก็ต้อง... ในขณะที่เฉียวอีฟานกำลังติดกระดุม บางอย่างก็เริ่มนูนขึ้น ดูเหมือนว่าเสื้อผ้าทำให้เขาขุ่นเคือง “เธออย่าใส่เสื้อผ้าคอลึกเกินไปล่ะ จะเห็นรอยจูบเอาได้” เฉียวอีฟานพูดและเดินออกไป ปัง! ประตูในห้องปิดลง เซี่ยวลั่วหยาวพลิกตัวลุกขึ้นมา และกลิ้งตัวปีนขึ้นมา “ไอ้คนลามก! คนสารเลว!” รอจนเฉียวอีฟานเดินออกไป เธอถึงจะกล้าด่าเขาออกมา ค่อยยังชั่ว เซี่ยวลั่วหยาววิ่งไปอาบน้ำและส่องกระจก ให้ตายเถอะ! ทำไมมันเยอะแบบนี้ ผู้ชายคนนั้นทำรอยไว้เต็มไปหมด “นายเป็นหมาหรือไงกัน อยากกัดก็กัด ไม่คิดว่ามันสกปรกหรือไง!” เซี่ยวลั่วหยาวใช้ผ้าขนหนูเปียกเช็ด แต่รอยจูบนั้นกลับเช็ดไม่ออก ได้แต่หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ ทั้งรัดทั้งติดดูเหมือนฤดูหนาวไม่มีผิด “ไม่ได้ ไม่มีวิธีไหนช่วยได้เลย นี่เพิ่งจะวันแรกฉันถูกเขาฉวยโอกาสไปตั้งกี่ครั้ง” เซี่ยวลั่วหยาวได้แต่ถอนหายใจและส่ายหัวกับตัวเองในกระจก แต่ว่า...พอคิดอีกที.... “แต่ถึงอย่างไรเรากับเขาก็เคยมีอะไรกันมาแล้วนี่นา? โดนหาเศษหาเลยคงไม่เป็นอะไรหรอก?” ยังมีอีกเสียงลอยเข้ามาในหัว “ไม่ๆ เราจะยกผลประโยชน์ให้เขาไปฟรีๆได้ยังไง? ใช่สิ! ให้เขาทำเกินขอบเขตไปบ้างแล้วหนี้ให้ฉันสองหมื่นหยวน!” สองหมื่นหยวน...คำนวณดูแล้วเจ้าสารเลวต้องไม่ยอมแน่ๆ เขาขี้เหนียวจะตายไป คงช่วยไม่ได้ เขาต้องไม่ยอมแน่ๆถ้าเป็นสองหมื่นหยวน งั้นเปลี่ยนเป็นสองพันหยวน? ยัยบ้า! แล้วเมื่อไหร่ถึงจะครบสิบล้าน! เซี่ยวลั่วหยาวคิดอยู่แบบนี้สักพัก พอคิดไปคิดมาก็รู้สึกเศร้าใจ และกลิ้งอยู่บนเตียงเฉียวอีฟาน กลิ้งพลิกไปมา รอจนเธอออกไปจากที่นี่ได้ ภายในห้องของเฉียวอีฟานก็ถูกเธอทำลายจนเละเทะ ในห้องน้ำ ทั้งหวี ผ้าเช็ดตัว สเปรย์ต่างก็ถูกโยนทิ้ง เตียงยับยูยี่ หมอนก็ตกลงบนพรม เหมือนถูกโจรขึ้น หลังจากเฉียวอีฟานออกไปประชุม เธอที่เป็นผู้ช่วยในตอนนี้ทำตัวเหมือนหนู ในขณะที่เธอเล่นเกมส์ก็ยังคงด่าเจ้าสารเลวเฉียวไปด้วย จนเหนื่อยและนอนงีบอยู่บนโต๊ะ หลังจากรู้สึกหลับแล้วไม่สบายตัว ก็เดินโงนเงนไปเปิดห้องทำงานของเฉียวอีฟาน หาที่หลับอยู่ตรงโซฟา เลขาของเขาเข้ามาเอาเอกสารข้างในก็พบ คนคนหนึ่งคล้ายลูกหมูตัวเล็กๆวางสะโพกบนโซฟาแล้วเอนตัวนอน เลขาคนนั้นยิ้มและบอกกับตัวเองว่าไม่เห็นอะไรเลย จากนั้นเงาก็หายไป และเฉียวอีฟานเดินออกมาจากห้องของเขาด้วยความโกรธแค้นไม่พอใจ พร้อมกับมองออกไป หลิวโอเฉินก้มหน้าลง เห็นแววตาของเฉียวอีฟานราวกับอยากฆ่าใครสักคน ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย เขาทำอะไรผิดต่อเจ้านาย? จำไม่ได้ วันนี้ก็ตั้งใจทำงาน แล้วทำไมเจ้านายถึงมีสีหน้าแบบนั้น? “ท่านประธานครับ...” หลิวโอเฉินรู้ดีว่าเฉียวอีฟานเป็นคนชอบพยาบาทจึงรีบทำตัวลีบและก้มหน้าลง “แกทำได้ดีมากโอเฉิน” เฉียวอีฟานกัดฟันพูดมาทีละคำท่ามกลางแสงสลัว “เอ่อ? ท่านประธานหมายถึง?” เฉียวอีฟานหัวเราะออกมาคำเดียว และดึงเน็กไทของหลิวโอเฉินขึ้นมา “ฉันอยากจะชวนแกไปเล่นยูโดหลังเลิกงานสักหน่อย” “เอ่อ?” หลิวโอเฉินตัวสั่นอีกครั้ง สนามยูโด? ให้เขาไปเป็นคู่ต่อสู้? ไม่ใช่มั้ง? เขายังไม่อยากตาย รูปร่างของเฉียวอีฟานนั้น กังฟูนั้น...พวกเขาล้านเเล้วแต่ประจักษ์แจ้ง คู่ต่อสู้เขาสิบคนถูกเขาเล่นงานแพ้ย่อยยับ “ไม่อย่างงั้นก็เรียกจินซวุนกับเซียวเค่อมาเล่นด้วยกัน” เฮ้อ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตายจะต้องเรียกคนอื่นมารับด้วย จินซวุน? ใช่สิ ยังมีเจ้านั่นอีกคน เฉียวอีฟานกระพริบตา “น่าจะดีไม่น้อย” การประชุมกลุ่มผู้นำย่อยในครั้งนี้เต็มไปด้วยความครุกรุ่น เฉียวอีฟานได้โยนระเบิดไปทุกภาคส่วน ใครที่เป็นผู้ต้องสงสัยก็จะถูกเขาเล่นงานเจียนตาย หากใครไม่สารภาพเขาก็จะถลกหนังออกมาจนหมด เหล่าผู้นำต่างกลัวกันจนเหงื่อโชก ได้แต่ก้มหน้าเช็ดเหงื่อ วันท่านประธานเป็นอะไร? ทำไมถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้? หลิวโอเฉินก็ยิ่งกระสับกระส่าย มองใบหน้าที่กำลังโมโหเหมือนไฟลุกของเฉียวอีฟานแล้ว อารมณ์โกรธยังคงร้อนระอุ เสร็จแล้วเสร็จแล้ว วันนี้จะต้องถูกเขาตีจนต้องไปพบพระเจ้า หลิวโอเฉินช่างคิดอยู่ในใจ และเริ่มไตร่ตรองทีละนิด เขาทำอะไรพลาดไปหรือเปล่า? คิดแล้วคิดอีกจนสมองแทบระเบิด อยู่ๆก็จุดประกายได้ ห้องนั้น! ท่านประธานเพิ่งออกมาจากข้างในไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรในห้องนั้น พอคิดอีกที...ใช่แล้ว ตอนเขาเดินเข้าไปก็ไม่เห็นคนคนนั้นอยู่ตรงประตู ...ผู้ช่วยเซี่ยว... หลิวโอเฉินพยายามคิดประติดประต่อเรื่องทั้งหมด ก็เข้าใจแล้ว แต่กลับรู้สึกเศร้ากว่าเดิม จบแล้ว ครั้งนี้ได้จบเห่แน่ๆ ไปรบกวนช่วงเวลาสำคัญของท่านประธาน ต้องตายแน่ๆ ไม่กี่ชั่วโมงการประชุมก็สิ้นสุดลง ทุกคนในห้องต่างถอนหายใจ และรีบออกมา เฉียวอีฟานรีบกลับไปที่ห้องทำงานของเขาด้วยใบหน้ามืดมน ระหว่างนั้นเลขาทั้งหมดก็ยืนขึ้นเพื่อโค้งคำนับเขา เขาไม่แม้แต่จะสนใจ ตามปกติเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ ไม่ว่าเขาจะหยิ่งหรือจองหองขนาดไหนแต่ก็ยังรักษามารยาท พรึบ! เฉียวอีฟานเปิดประตูเข้าไป นำเอกสารวางไว้บนโต๊ะ ขยับเน็กไทลงมาแรง ทันทีที่เขาหันกลับมาอารมณ์ครุกรุ่นที่เป็นอยู่ก็หยุดลงทันที หืม? ร่างสีชมพูที่นอนคว่ำอยู่ตรงนั้นไม่ใช่ เซี่ยวลั่วหยาวหรอกหรอ? เธอหลับสบายจังเลยนะ เหมือนแมวที่นอนในอุ้งมือและยกก้นขึ้นหน่อยๆ ริมฝีปากราวกับผลเชอร์รี่น้อยที่ผล็อยหลับไป หมูน้อย...แมวน้อย... ช่างน่าดู เธอเหมือนกับสัตว์น้อยตัวเล็กๆน่ารักๆ “หึหึหึ...” อยู่ๆเฉียวอีฟานก็หัวเราะออกมา ภายในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยๆ หลังจากกลับมาจากที่ประชุม ก็ได้เห็นเด็กน้อยนอนหลับอยู่ในนี้ ความรู้สึกเหมือนเวลามีภรรยาคอยตอนกลับบ้าน ช่างดูอบอุ่นและน่าพอใจ เฉียวอีฟานเดินไปนั่งบนโซฟา ใช้มือใหญ่ลูบ ลูบไปบนหัวของเธออย่างเบาๆ ทั้งนุ่มทั้งลื่น ไล้ลงข้างหลัง ลงไปจนถึงเนื้อก้นนุ่มๆ ดีเหลือเกิน ลำคอของเฉียวอีฟานขยับ ดวงตาเข้มลึก “อือ...กี่โมงแล้ว?” เซี่ยวลั่วหยาวขยับตัวพลางถามด้วยเสียงเหมือนกระซิบ เธอมักติดเป็นนิสัย เวลาตื่นจะถามน้องสาวเธอเป็นอันดับเเรกว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว ตราบใดที่ยังไม่สายเธอจะคุยอยู่สักพัก “ห้าโมงครึ่งแล้ว เลิกงานแล้ว” เฉียวอีฟานตอบเธอด้วยเสียงอ่อนโยน “อ้อ...” เธอตอบรับอย่างคลุมเรือ เดิมเธอก็รู้สึกไม่อยากลืมตาเลย แต่หลับต่ออีกยี่สิบวินาที อยู่ๆก็ลืมตาขึ้นทันที “ห้าโมงครึ่ง? เลิกงาน?” น้ำที่ซึมออกจากตาโตๆเต็มด้วยความสับสน เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ใบหน้าไร้เดียงสาที่กำลังสับสนอยู่นั้น เฉียวอีฟานอดไม่ได้ก้มลงจูบบนริมฝีปากเธอเบาๆ “ตื่นแล้วหรอ?” “เอ๋อ?”(⊙_⊙) เซี่ยวลั่วหยาวกระพริบตาลง มองไปรอบๆห้องก็มองเฉียวอีฟานและกลับมามองตัวเองอีกครั้ง “อ๊ะ ขอโทษค่ะ ทำไมฉันถึงมานอนที่ห้องคุณ” เธอรีบกระโดดลงจากโซฟาพลางเกาหัวโดยไม่ดูทิศทาง โป้ก! “อู้ยย เจ็บ” เธอสะดุดไปชนประตู ความเจ็บกระจายไปทั่วใบหน้าเล็ก เฉียวอีฟานยืนเอนหลังและพูดอย่างมีความสุข “เจอหน้าฉันทำอย่างกับเจอผี?” หรือไม่ใช่ เห็นหน้าเขาก็เหมือนเห็นผี! เซี่ยวลั่วหยาวไม่ตอบไม่เถียง เปิดประตูแล้ววิ่งออกไป เธอไม่อยากสัมผัสประสบการณ์อันน่ากลัวเหมือนตอนถูกทับอยู่บนเตียง เลิกงานแล้ว เซี่ยวลั่วหยาวรีบเก็บของ จริงๆแล้วบนโต๊ะทำงานของเธอก็ไม่มีอะไรให้ต้องเก็บ เธอปิดคอมพิวเตอร์ ถือกระเป๋าวิ่ง เมื่อพบกับหลิวโอเฉินที่กำลังรอด้วยใบหน้าอันขมขื่น เซี่ยวลั่วหยาวพูดอย่างสุภาพ “รองประธานหลิวยังไม่กลับหรือคะ? คุณตั้งใจทำงานดีจริงๆ” หลิวโอเฉินมองเซี่ยวลั่วหยาว พูดอย่างกลัดกลุ้ม “รอท่านประธานน่ะ...” ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงดูมีชีวิตชีวา แต่เขากลับต้องรอรับโทษด้วยนะ? ผ่านไปไม่นาน เฉียวอีฟานก็เปลี่ยนเป็นชุดสบายๆเดินออกมา กางเกงขายาวสีเบจ เสื้อยืดสีเขียวเข้มอย่างดูดี เขามีรูปร่างสูง หุ่นดี ใบหน้าที่สวยงามที่สร้างความสับสนให้กับผู้คน แม้แต่หลิวโอเฉินก็ยังรู้สึกว่าพระเจ้าลำเอียงรักเฉียวอีฟานมากกว่า “ไปเถอะ” “อืม เซี่ยวลั่วหยาวล่ะ?” เฉียวอีฟานมองซ้ายมองขวา “อ๋อ? เธอ? เธอรีบออกไปแล้ว เพิ่งออกไป” “ให้ตายเถอะ เธอซ่อนตัวได้เหมือนกระต่ายทุกครั้ง” เฉียวอีฟานพ่นคำด่าออกมา เดินเข้าไปในลิฟต์อย่างรวดเร็ว หลิวโอเฉินยืนอยู่ข้าง พูดอย่างกลัวๆ “อีฟาน ครั้งต่อไป ถ้านายเตรียมจะทำอะไร “นายก็บอกใบ้ฉันหน่อย ฉันจะได้ไม่ไปรบกวนนาย” “หุบปาก! ยิ่งพูดออกมาอีกฉันยิ่งโมโห!” เฉียวอีฟานจ้องหลิวโอเฉิน แล้วใช้กำปั้นชกไปที่แขนของหลิวโอเฉิน “นายควรไปช้าชักสิบนาทีก็ดีนะ...” สิบนาที ...โดยทั่วไปเขาใช้เวลาแค่สิบนาทีเอง ไม่น่าโอ้อวด “อ๊ะ? สิบนาที? อีฟานนายใช้เวลาสั้นแค่นั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
已经是最新一章了
加载中