ตอนที่ 36 อย่าฝันไปหน่อยเลย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 36 อย่าฝันไปหน่อยเลย
ต๭นที่ 36 อย่าฝันไปหน่อยเลย “นั่น ฉัน ฉัน...ตอนนั้นฉันเมานี่ ไม่ต้องพูดแล้ว คุณทำฉันแปดเปื้อน ถ้าฉันไม่ต้องคืนเงินคุณสิบล้าน ถ้าฉันรู้ว่าผลมันจะเป็นแบบนี้ ตีให้ตายยังไงฉันคงไม่เฉียดใกล้คุณหรอก!” ใบหน้าของเฉียวอีฟานขรึมลง คนที่นั่งอยู่เริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆ คนคนนี้เป็นบารอมิเตอร์หรือยังไง? ทำไมอารมณ์แปรปรวนขนาดนี้? เปลี่ยนสีหน้าเป็นว่าเล่น เอาใจยากเสียจริงๆ “เอาบัตรนี่ไปใช้ ฉันไม่คิดเงินกับเธอสักส่วนเดียว ถ้าเธอไม่เอาฉันจะคิดเงินเงินเธอเพิ่มร้อยละ20 ทำให้เธอคืนไม่ได้” “ห๊ะ?” ดอกเบี้ยร้อยละ20? โหดร้ายเกินไปแล้ว! “ได้ๆ ฉันจะเอาบัตรนี่ไป ไม่ต้องเพิ่มดอกเบี้ยล่ะ” เฉียวอีฟานเม้มปากและแอบยิ้มอย่างเงียบๆ เซี่ยวลั่วหยาวนั่งรถหรู อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น ดูนั่นบ้างจับนี่บ้าง เฉียวอีฟานเป็นคนมีระเบียบมาก เขาเกลียดมากหากใครมาจับของของเขา แต่เซี่ยวลั่วหยาวคอยจับนั่นนี่บนรถเขา กลับทำให้เขาอารมณ์ดี สักพัก เซี่ยวลั่วหยาวกดบางอย่างทำให้มีเสียงออกมา มีสถานีวิทยุไหนบ้าง สักพัก เธอก็เปิดเพลง เธอเปิดเอากระเป๋าแผ่นซีดีและดูทีละแผ่น ในสุดเธอก็พบแผ่นที่เธอชอบแล้วใส่เข้าไป ทันใดนั้นภายในรถก็มีเสียงเพลงเกาหลีเพราะๆ เฉียวอีฟานขมวดคิ้ว ใครเป็นคนเอาแผ่นนี้มาไว้ในรถ? เพลงเกาหลี? เขาเกลียดเพลงเกาหลีที่สุด แต่ก็ทำเป็นเฉย ไม่ได้แสดงอะไรออกมา เซี่ยวลั่วหยาวพูดว่า “รถคุณไม่มีเพลงเพราะๆเลยแผ่นนี้พอฟังได้” แม้แต่เพลงของติงตังยังไม่มี “ติงตังคืออะไร” เซี่ยวลั่วหยาวพูดพลางเช็ดเหงื่อ “นี่คุณไม่รู้จักแม้กระทั่งติงตัง? คุณนี่ OUT จริงๆเลย!” ระหว่างทางคำพูดทั้งหมดเซี่ยวลั่วหยาวเหมือนกำลังสั่งสอนเขาอยู่ เธอชอบดาราหนัง เธอชอบนักร้อง เธอชอบดูหนัง เธอยังใช้โทรศัพท์เปิดเพลงให้เฉียวอีฟานฟังอยู่สองเพลง เฉียวอีฟานก็ไม่ได้แสดงความเห็นอะไร แต่สิ่งเธอพูดมา เขาจดจำอยู่เงียบๆ มองเห็นโทรศัพท์ล้าสมัยเครื่องเล็กๆของเธอเครื่องนั้นราคาน่าจะซักพันหยวน เขาอยากจะให้โทรศัพท์ที่แพงที่สุดกับเธอสักเครื่อง ความคิดที่เอาแต่คิดถึงเธอตลอดเวลาทำให้เฉียวอีฟานตกใจกับตัวเอง เหมือนมีเสียงกระดิ่งปลุก... ถัดไป สีหน้าของเฉียวอีฟานยังคงเย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็ง พาเซี่ยวลั่วหยาวลงที่ถนนหนานไห่ เขาไม่แม้แต่จะบอกลา ได้เพียงแต่ขับรถออกไป “นี่เขายังเป็นคนจริงๆหรือนี่ ไม่คิดจะร่ำลากันหน่อยหรือ? ไม่มีมารยาท!” เซี่ยวลั่วหยาวพูดกับควันที่ปล่อยมาจากท่อไอเสีย และไม่สนใจเขาอีก จากนั้นก็รีบเดินไปร้านบะหมี่ พอมาถึงร้านบะหมี่ หลานซีเวยก็มาถึงก่อนแล้ว ครอบครองที่นั่งริมหน้าต่างซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของร้านแห่งนี้ พอเห็นเซี่ยวลั่วหยาว หลานซีเวยก็โบกมือเรียก “อยู่นี่! ลั่วหยาว ฉันอยู่นี่!” “อืม เห็นแล้ว!” เซี่ยวลั่วหยาวยิ้มแล้ววิ่งเหยาะๆเข้าไปหา “หืม ลั่วหยาวฉันว่าหน้าอกของเธอดูใหญ่ขึ้นนะ ช่วงนี้เธอกินมะละกอเยอะไปหรือเปล่า?” หลานซีเวยเหลือบมองที่หน้าอกของเซี่ยวลั่วหยาวแล้วซุบซิบ “หา? มะละกอ? ฉันมีเงินกินของดีดีซะที่ไหนล่ะ? ไม่หรอก! ใหญ่หรอ? ฉันไม่ได้สังเกต แต่อย่าใหญ่เลยมันเป็นภาระตอนฉันวิ่ง” เซี่ยวลั่วหยาวจิบน้ำบ้วยไปสองอึก อืมม สดชื่นจัง “อย่าบอกนะว่าเป็นผลมาจากโดนผู้ชายจับ...” “บ้า!” เซี่ยวลั่วหยาวสำลักน้ำ ทำตาโตจ้องหน้าหลานซีเวย “เธอมันไร้สาระ! จะมีผู้ชายที่ไหนมาจับ?” พอพูดเสร็จหน้าเธอก็เริ่มแดง เหมือนจะเป็น...เฉียวอีฟาน...จับตรงนั้นของเธอ ดูเหมือนจะหนักมือจริงๆ ทั้งจูบทั้งเคล้น เหงื่อแตกแล้ว... “นี่ ลั่วหยาว แก้มเธอแดงไปหมดแล้ว เธอมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกฉันหรือเปล่า?” “ไม่ ไม่มีจริงๆ!” “หืม? ไม่บอกใช่ไหม? ถ้าไม่บอก...งั้นมื้อนี้เธอเลี้ยงนะ...” “เอาล่ะๆ ที่ฉันจะพูดก็คือ... ” ถ้าจะให้พูดง่ายๆก็คือวันนี้ตอนเธอเข้างานที่บริษัท เธอเกือบถูกเฉียวอีฟานวางยาแล้วเกือบสองครั้ง “อ๊ะ! หรือว่าจะใช่? เฉียวอีฟานอยู่ๆก็ทำแบบนั้นกับเธอ...หรือว่าจะหิวขึ้นมา?” เเววตาหลานซีเวยก็แปลกไป “อะไรคือหิว เธอใช้คำที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง? ยัยบ้า!” “มันเป็นแบบตอนแรก เขาเข้ามาจูบเธอ หลอกล่อเธอ อยากจะได้เธอ พูดง่ายๆก็คือเขาสนใจเธออยู่! ลั่วหยาวฉันกำลังเห็นภาพเธอกำลังเดินเข้าสู่ประตูคฤหาสต์ที่หรูหรา เธอต้องสู้นะ ถ้าต่อไปเฉียวอีฟานไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอแล้ว เธอคงต้องสวมเสื้อบางๆแล้วถอดมันออกและพยายามหลอกล่อเขาให้เข้าหา ดีที่สุดคือเธอต้องท้องกับเขา แบบนี้ถึงจะสามารถนั่งบนสวรรค์ได้ เฮ้ออ ช่างเป็นภาพที่งดงามจริงๆ ในอนาคตฉันอาจจะเรียกเธอว่าคุณนายเฉียวก็ได้ และอาจจะได้เป็นแขกในคฤหาสต์ของเธอ ได้กินของดีดี” เซี่ยวลั่วหยาวเหงื่อตกพลางตบโต๊ะ “นี่นี่ ตื่นได้เเล้ว อย่าฝันไปหน่อยเลยน่า! ใครจะทำอะไรกับใคร นี่เธอเชื่อมต่อเกินจริงไปหน่อยแล้ว ฉันกับไอ้คนเลวเฉียวคนนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้! เขาเป็นปีศาจร้ายแปลงกายมา คนแบบนั้นกินคนไม่ให้เหลือกระดูก เธอยังไม่ได้รู้จักเขาดี ถ้าได้รู้จักเขาแล้ว เธอจะหนียังไงก็ไม่พ้น” “อย่างนั้นหรอ...”หลานซีเวยลดท่าทีลง ยกคิ้วแล้วถอนหายใจ “เฮ้อ ฉันอยากจะบอกว่าเธอนี่ไม่มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามเอาซะเลย” “เอาล่ะๆ อย่าพูดเรื่องของฉันเลย มาคุยเรื่องเธอกับหัวหน้าทีมดีกว่า” ด้วยการจุดประเด็นของเซี่ยวลั่วหยาว ทำให้หลานซีเวยเริ่มติดเครื่องเเละเริ่มพูดคุยเรื่องเธอกับหัวหน้า และเล่าออกมาอย่างละเอียด ** เล๋ยเซียวเค่อกับจินซวุนเปลี่ยนเป็นชุดยูโดและยืนอยู่ด้วยกัน พอหลิวโอเฉินมาถึงก็เห็นแขกผู้มีเกียรติในสนามยูโด ชายหล่อเหลาทั้งสองกำลังสูบบุหรี่กันอยู่ ชายรูปงามท่ามกลางควันบุหรี่... “โอ้โห พวกนายสองคนทำไมดูสบายใจกันแบบนี้ ไม่เหมือนฉัน วันนี้ฉันซวยเกือบตาย เหมือนขุดหลุมฝังตัวเองแล้วกระโดดเข้าไป วันนี้ฉันทำความผิดใหญ่หลวงไว้กับอีฟาน เย็นนี้เขาต้องคิดบัญชีกับฉันแน่ๆ” เล๋ยเซียวเค่อยิ้มเยาะ “ฮ่าฮ่าฮา นายจะกลัวอะไร อีฟานคงไม่ถึงกับระเบิดดอกเบญจมาศนายหรอก ไม่รู้ว่าอีฟานมีงานอดิเรกแบบนี้” หลิวโอเฉินกรอกตา “--ไม่มีใครเลวในหมู่นักล่า-- ฉันกำลังจะตายอยู่แล้ว พวกนายยังหัวเราะออกมาได้อีก ฉันบอกพวกนายแล้วใช่ไหม ตอนเที่ยงอีฟานอยู่ในห้องกับผู้หญิงแล้วถูกฉันเรียก เขาโมโหทั้งวัน โกรธเหมือนอยากจะฆ่าใครสักคน ฉันคิดว่านัดมาที่สนามครั้งนี้เพื่อจะลงโทษ” “อ๊ะ!” จินซวุนตกใจเป็นคนแรก แล้วกระโดดหนี “งั้น งั้นฉันไปก่อนนะ ฉันไม่เล่นแล้ว อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว” เล๋ยเซียวเค่อรีบคว้าตัวจินซวุน “เฮ้ เจ้าบ้า แกเป็นคนเรียกฉันมาที่นี่ ทำไมคิดจะหนีไปเองซะล่ะ? ไม่ได้” จินซวุนเช็ดเหงื่อ “นี่พี่ชายพวกนายไม่รู้อะไร เมื่อตอนเช้าฉันไปหาคนคนนั้น ไม่ทันได้ระวังก็เห็นพวกเขากำลังทำไรกันอยู่ เขาจะต้องรอจัดการฉันแน่ๆ ฉันจึงไม่อยากไปอีก ถ้าขืนไปอาจจะโดนเขาฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ? พอคิดเรื่องฝีมือการต่อสู้ของเขาทำเอาขาฉันสั่นไปหมดแล้ว ฉันไปก่อนล่ะ!” หลิวโอเฉินนิ่งไปสักพัก จากนั้นก็กระโจนเข้าไปเหมือนเสือ และโยนจินซวุนลงไปบนเสื่อและพูดด้วยรอยยิ้มอันมืดมน “ไม่ง่ายเลยที่จะมีเพื่อนที่อยู่ด้วยกันยามลำบาก ฉันจะให้แกไปได้ยังไง?” “หลิวโอเฉิน! นายเพิ่งบอกเองไม่ใช่หรอว่าไม่มีคนเลวในหมู่นักล่า! ปล่อยฉัน!” เล๋ยเซียวเค่อมองเพื่อนรักกำลังกลิ้งอยู่บนเสื่อ ก็หัวเราะออกมา “ฉันขอบอกไว้ก่อนนะ พวกนายสองคนควรเก็บพลังงานไว้เผื่อช่วยตัวเองบ้าง เกรงว่าถ้าเล่นคู่กับอีฟานแล้วพรุ่งนี้มะรืนนี้พวกนายอาจจะไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยก็ได้” หลิวโอเฉินกับจินซวุนชะงักสักพักก็สบตากัน แล้วหันไปจ้องเล๋ยเซียวเค่อที่กำลังเบิกบานใจ จินซวุนพูด “โอเฉิน พวกเราเจออีฟานก่อนเเล้วค่อยคุยกัน เซียวเค่อพวกเราสองคนต้องทำลายความดีความชอบของมัน ถ้าเป็นแบบนี้ อีฟานต้องเน้นแก้แค้นเซียวเค่อแน่นอน” หลิวโอเฉินเริ่มเข้าใจความหมาย แล้วยิ้มพร้อมพยักหน้า “ดี เเล้วจะทำไงดีล่ะ” ในตอนนี้คงเป็นตาของเล๋ยเซียวเค่อแล้ว เขายกเท้าด่าด้วยความตระหนก “ไหนว่าพวกแกสองเป็นนักล่าไง!” ทั้งสามคนกำลังต่อสู้กันด้วยคำพูด เฉียวอีฟานก็เปลี่ยนชุดเดินออกมา ด้วยใบหน้าที่งดงาม เดินเข้ามาอย่าซึมๆ เฮือก! ในขณะนั้นทั้งสามคนก็รู้สึกตัวรีบกอดกันกลม ทั้งยิ้มให้เฉียวอีฟาน “เฮ้ อีฟาน มาแล้วหรอ” “เริ่มเลย พวกแกสามคนกับฉัน” เฉียวอีฟานขยับกระดูกข้อมือ ทั้งสามคนเริ่มสั่น “จินซวุนเริ่มขาสั่น “อีฟาน วันนี้ค่อนข้างร้อน เราน่าจะออกไปเที่ยวที่อื่นดีกว่า ฉันรู้จักร้านปลาเพิ่งเปิดใหม่อยู่ร้านหนึ่ง ไม่เลวเลยนะ... ” เขาพูดไม่ทันจบ เฉียวอีฟานเคลื่อนตัวคว้าแขนจินซวุนแล้วทิ้งเขาลงบนเสื่อ “เอ่อ ...อีฟาน...นายมันโหดร้ายเกินไปแล้ว” จินซวุนนอนเกลือกและร้องครางอยู่บนเสื่อ เฉียวอีฟานหัวเราะเย็นชา หันไปรอบๆแล้วจับหลิวโอเฉินยกขึ้นบนฟ้าแล้วจับทุ่มลงไปบนเสื่ออย่างหนักหน่วง “อาาา….”หลิวโอเฉินร้องด้วยความเจ็บปวดบนเสื่อ และขยับไม่ได้อยู่สักพัก เล๋ยเซียวเค่อที่ยืนอยู่อีกด้านใบหน้าเริ่มเปลี่ยนสี แต่ทักษะยูโดของเขาเพิ่งพัฒนาขึ้นมานิดๆ แต่สุดท้ายก็โดนอีฟานจับทุ่มลงพื้นเสื่อ ในสภาพตอนนี้ ทั้งสามคนถูกอีฟานผลัดจับขึ้นเเละทุ่มลงอยู่หลายครั้ง สุดท้ายจินซวุนก็ยกมือและพูดอย่างยอมแพ้ “พอแล้ว ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันจะฉี่ใส่กางเกงอยู่แล้ว ขอฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน...” เฉียวอีฟานยกเท้าไปเตะจินซวุนราวกับสุนัข
已经是最新一章了
加载中