ตอนที่ 49 ไป๋เวยเวยคือศัตรู
1/
ตอนที่ 49 ไป๋เวยเวยคือศัตรู
วิวาห์ร้าย แต่งกับผี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 49 ไป๋เวยเวยคือศัตรู
ตอนที่ 49 ไป๋เวยเวยคือศัตรู ที่ฉันเห็นคือ เทียนปู้หยาแค่มองไป๋เวยเวยเพียงแวบเดียวแล้วหันมาทางฉันด้วยท่าทางสงสัยอย่างชัดเจนว่า “นี่ใครอะ” ฉันเห็นใบหน้าของเทียนปู้หยู่ที่ดูเย่อหยิ่งนั้น แต่กลับรู้สึกแปลกใจที่ฉันไม่ได้รู้สึกไม่ดีแต่อย่างใด กลับอารมณ์ดีที่แนะนำไป๋เวยเวยให้รู้จักกับเขา ฉันพึ่งพูดจบ เทียนปู้หยู่ก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วเดินมาหาฉัน พร้อมทั้งดึงมือฉันไปนั่งที่ม้านั่งด้วย ฉันมองไปรอบๆก็พบว่าในห้องมีเพียงเก้าอี้หนึ่งตัวและม้านั่งสองตัว แล้วเก้าอี้ตัวนั้นซูหลินก็นั่งอยู่ ฉันรู้ว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไร แต่ในใจก็ห้ามไม่ได้ที่จะรู้สึกดี กษัตริย์ที่ยโสโอหังจะสละที่นั่งให้ฉันงั้นเหรอ แต่ทว่าตอนนี้ในใจฉันกลับรู้สึกแปลกๆต่อไป๋เวยเวย ฉันจึงยกม้านั่งให้ห่างจากไป๋เวยเวยออกมา เทียนปู้หยู่ยืนอยู่ด้านหลังฉัน แล้วสองมือของเขาก็จับไว้ที่ไหล่ของฉัน แต่สถานการณ์นี้ดูพิลึกยังไงชอบกล กษัตริย์กลับไม่มีที่นั่ง และอีกสามคนที่เป็นชาวบ้านธรรมดากลับมีที่นั่งแทน ทำให้ฉันรู้สึกว่ากษัตริย์กำลังยืนมองอยู่เฉยๆโดยที่มีชาวบ้านผู้โง่เขลานั่งบนบัลลังก์ จนทำให้ฉันตัดสินใจพูดออกมาว่า “ไม่เป็นไร นายนั่งเถอะ” เทียนปู้หยู่ส่ายหน้าให้ฉัน สีหน้าไม่มีเปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย แต่ไป๋เวยเวยกลับหน้าแดงสะอย่างนั้น เหมือนกำลังเขินอยู่อย่างไรไม่รู้ ทุกคนต่างนั่งกันหมด จะยืนก็รู้สึกแปลกๆ ไม่มีใครพูดใครจากันเลย ขณะที่ฉันกำลังจะเรียกไป๋เวยเวยเพื่อถาม แต่ทว่าเทียนปู้หยู่กลับชิงถามก่อนว่า “จ้าวซิ้วตายที่ไหนเหรอ” เมื่อพูดจบ ไป๋เวยเวยก็คล้ายว่าวิญญาณหลุดออกจากร่างไปสะแล้ว ไม่ได้ยินในสิ่งที่เทียนปู้หยู่ถาม แต่ทว่าสักครู่นึงเหมือนได้สติขึ้นเลยตอบมาว่า “อะไรนะ” หลังจากไป๋เวยเวยมองหน้าเทียนปู้หยู่ก็หน้าแดงขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเพราะกำลังกระวนกระวายใจหรือเพราะอย่างอื่นกันแน่ เทียนปู้หยู่ผู้ซึ่งไม่ชอบทั้งการรอคอยและไร้ซึ่งความอดทน หากเขาพูดอะไรไปแล้วเขาจะไม่ยอมพูดเป็นครั้งที่สองอีกเด็ดขาด ข้อนี้ฉันรู้นานแล้วละ แต่ทว่าคนตรงหน้าที่เอาแต่เขินอายฉันจึงต้องตอบแทนเขา ฉันหัวเราะแห้งๆไปพร้อมทั้งทวนคำถามว่า “เขาถามเธอหน่ะว่า จ้าวซิ้วตายที่ไหน” ไป๋เวยเวยชำเลืองมองมาที่ฉันแวบนึง ชัดเจนเลยว่าเธอไม่พอใจฉัน ไม่เช่นนั้นเธอก็คงไม่ทำแบบนั้น หลังจากที่ไป๋เวยเวยมีสติ และใจเย็นลงแล้วนั้น ตอบกลับฉันมาด้วยความไร้อารมร์ว่า “ที่บ้านเกิดฉันในชนบทหน่ะ ฉันรู้จักที่นั้น” ฉันสัมผัสได้ถึงแรงบีบที่มากขึ้นที่ไหล่ของฉัน อ๋า ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีแล้วละ คิดอีกอย่างนึงก็คือ เขาเป็นกษัตริย์ไปที่ไหนก็มีแค่คนยำเกรงและมีแต่ใบหน้าเย็นชามอบให้ผู้อื่นเสมอ ฉันเพียงแต่ลูบที่มือเขาเบาๆเพื่อบอกเขาให้เย็นลง แต่ทว่าการกระทำของฉันกลับทำให้ไป๋เวยเวยไม่พอใจมากยิ่งขึ้น “นี่พวกเธอสองคนหน่ะ ให้ฉันมาช่วยหรือว่าให้ฉันมาดูพวกเธอพลอดรักกันหน่ะหะ !” ไป๋เวยเวยที่จู่ๆก็ตะโกนลั่นใส่ฉัน ซูหลินที่นั่งเงียบมาตั้งนานเห็นแล้วว่าสถานการณ์ชักจะบานปลายเลยคว้าไหล่ไป๋เวยเวยเอาไว้ เป็นสัญญาณให้เธอใจเย็นลง แต่ทั้งห้องมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าคนที่ควรจะใจเย็นลงคือเทียนปู้หยู่ต่างหากถึงจะถูก เทียนปู้หยู่ที่อยู่ด้านหลังฉันไม่แม่แต่จะขยับตัวสักนิด แต่ทว่าไป๋เวยเสนกลับทำท่าเหมือนเห็นอะไรที่น่ากลัวบางอย่าง แล้วพยายามที่จะเอามือของซูหลินออก พร้อมทั้งเอามือจับไว้ที่คอของตัวเองแล้วอ้าปากกว้างคล้ายกับพยายามจะหายใจให้ได้ ฉันยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ยังไม่ทันได้คิดว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ทว่าสัญชาตญาณของความเป็นหมอก็ทำให้ฉันรีบลุกขึ้นอย่างไวแล้วรีบเดินไปหาไป๋เวยเวย พร้อมทั้งพยายามจะเอามือของไป๋เวยเวยออกเพราะถ้าหากฉันปล่อยเอาไว้ ไป๋เวยเวยอาจจะเผลอฆ่าตัวตายก็เป็นได้ แต่ทว่าฉันยังไม่ทันจะได้ลุก เทียนปู้หยู่ที่อยู่ด้านหลังฉันก็กดไหล่ฉันเอาไว้ให้ฉันเหมือนเดิมพร้อมทั้งบอกว่า “ห้ามลุก เป็นเพราะเธอทำอะไรเอาไว้ก็ต้องได้รับผลของสิ่งนั้น” ฉันถึงรู้ได้ว่า เป็นฝีมือของเทียนปู้หยู่นั้นเอง “เทียนปู้หยู่ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ นายรู้นี่ ว่าสถานะของนายฆ่าคนไม่ได้นะ” ซูหลินรีบดึงมือไป๋เวยเวยออกพร้อมทั้งตะโกนไปที่เทียนปู้หยู่ แต่ทว่าเทียนปู้หยู่เป็นใครก็คงรู้กันดี จะมาสนใจคนธรรมดาสองคนนี้ทำไมกัน เขายังคงยืนอย่างใจเย็นอยู่พร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “คนที่กล้ารังแกกับคนของกษัตริย์ จะให้กษัตริย์ยืนมองอยู่เฉยๆงั้นเหรอ” ไม่รู้ทำไมเหมือนกันที่ฉันไม่แม้แต่จะเห็นใจไป๋เวยเวยเลยสักนิด กลับกันในใจฉันกลับรู้สึกพอใจยังไงก็ไม่รู้ ที่เมื่อกี้โดนไป๋เวยเวยตะโกนใส่ ฉันยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่เลยนะเนี่ย ถึงแม้ดูเหมือนว่าเราขอความช่วยเหลือจากเธอแต่ไม่ใช่เพราะว่าเรากำลังช่วยเธออยู่ไม่ใช่เหรอ เทียนปู้หยู่จึงพยายามกดบ่าฉันให้นั่งลง ฉันก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรแถมยังนั่งมองภาพตรงหน้าด้วยความเย็นชา เพราะฉันรู้ว่าเทียนปู้หยู่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร คงไม่ฆ่าไป๋เวยเวยไปหรอก นี่เป็นแค่บทลงโทษของคนที่จองหองพองขนก็ถูกแล้วนี่ หลินเห็นดังนั้นจึงโมโหมากขึ้นกว่าเก่า เมื่อเห็นว่าสีหน้าของไป๋เวยเวยเริ่มมีสีแดงขึ้นมาบ้างหลังจากที่หน้าซีดมาสักพักหนึ่ง เทียนปู้หยู่จึงลูบหัวฉันเบาๆพร้อมทั้งถามว่า “พอใจไหม” ถึงแม้เขาจะถามด้วยเสียงที่เย็นชา และทำท่าทีเหมือนว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย เหมือนเขาเป็นเพียงผู้ที่ยืนดูอยู่เฉยๆแค่นั้นเอง ฉันค่อยๆพยักหน้าอย่างใจเย็น มือของไป๋เวยเวยได้คลายออกและทิ้งลงข้างตัว ในตามีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ไม่รู้ว่าเพราะตกใจกลัวหรือว่าขาดอากาศหายใจอยู่นาน เธอไออย่างรุนแรงจนกระทั่งลงไปคุกเข่าลงกับพื้น จนใบหน้าที่ม่วงนั้นเริ่มกลับมาเป็นสีแดงดั่งเดิม แล้วค่อยๆปีนขึ้นมานั่งด้วยความสั่นเทา ดูเหมือนว่าเธอยังคงไม่สนใจว่าโดนอะไรไปเมื่อกี้ กลับแสดงท่าทีออกมาคือมือหนึ่งจับคอตัวเองไว้ อีกมือนึงชี้มาที่ฉันพร้อมทั้งว่าฉันอีกต่างหาก “เฉินน่อ แก แกรักกับผี หน้าไม่อายแล้วยังมาวางอำนาจบาตรใหญ่อีกเหรอ ..” เธอยังไม่ทันจะพูดจบ มองไปยังเทียนปู้หยู่อย่างหวาดกลัว พร้อมทั้งร่างกายที่สั่นเทาแล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ฉันได้แต่ถอนหายใจ ไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้เลยจริงๆ หลินยังคงแปลกใจที่ฉันไม่แม้แต่จะช่วยเหลือไป๋เวยเวย เอาแต่มองฉันไรซึ่งคำพูดใดๆ เทียนปู้หยู่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ยังคงยืนอยู่ด้านหลังฉันเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าที่นั่งของไป๋เวยเวยจะว่างแล้วเขาก็ไม่ไปนั่ง ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ “ไม่เป็นไร แค่พวกเรารู้ก็พอว่าบ้านเกิดของไป๋เวยเวยอยู่ที่ไหนแค่นั้นก็พอ ฉันเคยเห็นมันมาก่อน” ฉันพูดจบแล้ว แต่ทว่าภายในห้องกลับไร้ซึ่งการตอบรับใดๆ ไม่รู้ว่าซูหลินโมโหฉันหรือเปล่านะ เวลานั้น ซูหลินที่ล้วงกระเป๋าเพื่อจะหยิบบุหรี่ออกมาอีกมวนก็พบว่าบุหรี่หมดแล้ว เขาดูเบื่อหน่ายเล็กน้อยแล้วก็เอาแต่ถูมือไปมา พร้อมทั้งหัวเราะเบาๆแล้วบอกฉันว่า “เมื่อกี้หน่ะ ไป๋เวยเวยเองก็ผิดอยู่ อย่าถือสาเลย” ฉันหน่ะหายตั้งนานแล้ว ถ้าฉันมัวเอาแต่โมโหคนประเภทนี้หน่ะ ฉันคงตายไวขึ้นเพราะความเคียดแค้นกระมัง “เพียงแต่” ยังไม่ทันที่ซูหลินจะพูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นไปพูดกับเทียนปู้หยู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังฉันว่า “คุณหน่ะ เป็นถึงกษัตริย์แข็งแรงกว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งเยอะ เธอจะตายเอาได้นะ จ้าวซิ้วคงไม่ต้องลงมือเองแล้วมั้ง” ซูหลินยังไม่ทันพูดจบ ฉันได้แต่หายใจอย่างเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าเทียนปู้หยู่จะทำยังไงกับการกระทำนี้ แต่ฉันรู้ว่ามันคงไม่ดีนักแน่ๆ เหมือนที่ฉันคาดเอาไว้ เทียนปู้หยู่ฟังซูหลินอยู่ไม่แม่แต่จะขยับตัวและก็ไม่แม้แต่จะพูดอะไรออกมา มีเพียงแค่ใบหน้าที่เย็นชาเท่านั้นเหมือนกับรูปปั้น แต่ซูหลินกลับสั่นหัวแล้วมองไปรอบๆจนทั่ว จนอดไม่ได้ที่จะถามฉันว่า “เทียนปู้หยู่ไปไหนสะแล้วละ” หะ? เทียนปู้หยู่ก็ยืนอยู่หลังฉันนี่นา จากนั้นฉันจึงเข้าใจได้ว่า เทียนปู้หยู่คงจะไม่ให้ซูหลินเห็นกระมั้ง มีเพียงแค่ฉันที่เห็นเขา ฉันรู้ว่าเทียนปู้หยู่ทำอย่างนี้เพราะว่าอะไร คงไม่อยากจะให้ฉันเข้ามารับรู้กับเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถึงเลือกที่จะทำแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ซูหลินฟังอย่างไรดี ขณะที่กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่นั้น ด้านนอกก็มีเสียงแหลมร้องขึ้นมา ไป๋เวยเวยนี่ ! ถึงแม้จะมีความขุ่นข้องหม่องใจอยู่นั้น แต่ทว่าเมื่อได้ยินเสียงร้องของเธอ ฉันก็ไม่ลังเลที่จะวิ่งออกไปพร้อมกับซูหลินเลย ไป๋เวยเวยยืนอยู่ตรงลานบ้าน จ้าวซิ้วนั้นลอยอยู่เหนือด้านบนเธอ ชุดสีแดงนั้นพริ้วไหวไปตามลม แขนเสื้อของจ้าวซิ้วนั้นจับไว้ที่แขนสองข้างของไป๋เวยเวย เหมือนกำลังตรึงเอาไว้กลางอากาศ เหมือนรอบๆของไป๋เวยเวยมีกรอบที่ไร้รูปร่างอยู่ เหมือนกับกำลังจำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่ภายในนั้น เมื่อมองไปตามแขนเสื้อของไป๋เวยเวย มีของเหลวสีแดงไหลเข้าไปในรอบๆตัวของไป๋เวยเวยพวกเราจนปัญญาจนจะจัดการกับเรื่องนี้เลยทีเดียว ของเหลวนั้นสูงประมาณเอวของไป๋เวยเวยแล้ว จ้าวซิ้วดูเหมือนว่าไม่สนใจการมีอยู่ของเราเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองมาที่เราเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่สายตาสีแดงที่มีความอาฆาตนั้นก็ทำให้ไป๋เวยเวยร้องออกมาจนเสียสติได้แล้ว “ฮ่าฮ่าฮ่า ความรู้สึกกำลังจะจมน้ำตายเป็นไงบ้าง สบายดีใช่ไหมละ โดนแช่อยู่ในน้ำเย็นหน่ะ เหมือนฉันเลยใช่ไหม !” พูดจบ มวลของเหลวขนาดมหาศาลก็ไหลท่วมทะลักเข้ามา จนร่างของไป๋เวยเวยโดนเคลือบไปด้วยสีเลือดแดงนั่นแล้ว หลินที่คงจะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ก็ตะลึงไปพักนึงจนค่อยๆกลับมามีสติก็เตรียมจะเอาเครื่องรางออกมา แต่ทว่าเสื้อที่สวมอยาก็คือเสื้อยืดธรรมดาๆ ในกางเกงก็มีแค่ซองบุหรี่ที่หมดแล้ว ทำให้ไม่มีอะไรจะมาต่อกรกับจ้าวซิ้วได้ จ้าวซิ้วเห็นดังนั้น ก็มีท่าทีกำเริบออกมาอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด จนกระทั่งฉันทนไม่ได้จนตะโกนออกไปว่า “จ้าวซิ้ว เทียนปู้หยู่ก็อยู่ที่นี่ ถึงเธอจะไม่เกรงกลัวฉันแล้วเธอก็ยังคงไม่เกรงกลัวเทียนปู้หยู่ด้วยงั้นหรือ!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 49 ไป๋เวยเวยคือศัตรู
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A