ตอนที่ 3 ฉันกับเขาจบกันไปแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 3 ฉันกับเขาจบกันไปแล้ว
ต๭นที่ 3 ฉันกับเขาจบกันไปแล้ว “สัญญาล่ะ” เธอนั่งลงตรงฝั่งตรงข้ามของคู่สนทนา แล้วถอดแว่นกันแดดออกจากนั้นเริ่มเข้าสู่หัวข้ออย่างตรงไปตรงมา ผู้ช่วยจรณ์ทำงานกับปิยะวัฒน์มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เขาจึงนับว่าเป็นอีกคนที่เข้าใจแพรวาได้เป็นอย่างดีเขาเปิดกระเป๋าแล้วเอาเอกสารแผ่นหนึ่งออกมาวางไว้ตรงหน้าของแพรวา “คุณแพรวาอ่านดูก่อนน่ะครับ ต้องการเพิ่มเติมอะไรบอกผมได้ครับ ท่านประธานต้องการสนองความต้องการของคุณทุกอย่าง ผู้ที่ร่ำรวยและมีอำนาจ เป็นคนที่มีเงินมีอำนาจ เป็นCEOของบริษัทเอส.อา เป็นชายหนุ่มมีพรสวรรค์ที่โดนเด่นจากเมืองตะวัน ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเป็นหลานชายของหัวหน้าตระกูลกปิตถาอีกด้วย นับได้ว่าเป็นทั้งหลานชายของผู้มีอำนาจ เป็นลูกชายของคนมีเงินมีทั้งเงินมีทั้งอำนาจที่แข็งแกร่ง ใครจะไปนึกถึง เธอนักแสดงตัวน้อยคนนี้คนที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร มีความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งกับผู้ชายที่ทรงอำนาจมาเป็นเวลาสามปีคิดๆดูแล้วมันช่างเป็นการเติบโตที่ไม่ดีเอาเสียเลย ดวงตาของเธอเศร้าแต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังยิ้มเล็กๆที่มุมปาก หลังจากที่ดึงเอกสารมาอ่านอย่างตั้งใจ ตาของเธอได้จับจ้องที่ค่าตัวของเธอที่เขาเสนอมาให้ สามสิบล้านมันเป็นตัวเลขที่มีค่ามากกว่าที่จิตราประเมินไว้มาก สำหรับเธอแล้วนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวของศิลปะ นับว่าเป็นราคาที่ไม่เลวเลยทีเดียว เธอไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็จับปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อลงในสัญญาแผ่นนั้นแล้วผลักกระดาษแผ่นนั้นส่งคืน “ฉันกับเขานับว่าจบกันแล้วสิน่ะ?นี่ก็นับว่าเป็นการชดเชยในส่วนของการเลิกกันใช่ไหม?” ผู้ช่วยจรณ์ใช้มือขึ้นมาจับแว่นตาแล้วยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า “คุณแพรวา ช่างเป็นผู้หญิงที่ฉลาดจริงๆ เป็นที่รู้กันดีว่าท่านประธานปิยะวัฒน์ไม่ชอบคนที่ฝ่าฝืนกฎ” แพรวาเหลือบตามองคู่สนทนาแล้วถามขึ้นว่า “เงินจะเข้าบัญชีเมื่อไหร่?” “หลังจากนี้อีกครึ่งชั่วโมงทางเราจะจ่ายเงินให้ครึ่งหนึ่งและเงินอีกครึ่งหนึ่งจะจ่ายเมื่อถ่ายโฆษณาเสร็จ” “โอเค” แพรวาลุกขึ้นแล้วสวมแว่นกันแดดก่อนที่จะเดินออกไป “ฝากไปบอกท่านประธานปิยะวัฒน์ด้วยว่า หวังว่าเราคงไม่ต้องเจอเจอกันอีก” หลังจากที่ส่งแพรวากลับไปแล้ว ผู้ช่วยจรณ์ได้หยิงเอกสารบนโต๊ะขึ้นมา จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรรายงานสถานการณ์ บริษัทเอส.อา “เธอเซ็นสัญญาแล้วใช่ไหม?” ห้องประชุมเงียบมาก ทุกสายตาจับจ้องไปที่ผู้ชายที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่บนโต๊ะประชุม มือของเขาจับโทรศัพท์ในท่าที่ดูสง่า และพูดด้วยน้ำเสียที่แข็งทื่อ ทุกคนในบริษัทต่างก็รู้ดีว่าปิยะวัฒน์เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นในการทำงานมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว การคุยโทรศัพท์ในระหว่างการประชุมนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำ ทำให้ทุกคนในห้องประชุมอดที่จะสงสัยไม่ได้ “แล้วเธอได้พูดอะไรไหม” “คุณแพรวา เธอถามว่าค่าตัวจะจ่ายเมื่อไหร่” สีหน้าของปิยะวัฒน์ดูสลดลง ทำให้อุณหภูมิภายในห้องประชุมลดลงตามไปด้วย “แล้วหลังจากนั้นหล่ะ เธอพูดอะไรต่ออีกไหม?” “เธอฝากผมมาบอกท่านประธานว่าหลังจากนี้หวังว่าคงจะไม่เจอกันอีก” “ฮ่ะ!.......” สีหน้าของเขาตอนนี้ดูไม่ดีเลยเขาหันหน้ากลับมาแล้ววางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ คนทั้งห้องประชุมแถบอยากกลั้นหายใจเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เวลาผ่านไปพักใหญ่ น้ำเสียงของเขากลับคืนสู้สภาวะปกติแล้วพูดขึ้นว่า “ประชุมกันต่อครับ” “ติ๊ง……..” ในระหว่างที่รอไฟแดงอยู่นั้น โทรศัพท์มีแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นมา แพรวาจับโทรศัพท์ขึ้นมาดู ขณะที่เธอเหลือบไปเห็นเกือบจะโยนโทรศัพท์ทิ้งหนึ่งแสน??15ล้าน! เธอขยี้ตาแล้วมองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอเพิ่งจะรู้สึกหดหู่ใจไปเมื่อคู่ ทันใดที่เธอเห็นข้อความความหดหู่นั้นกลับหายไปเป็นปลิดทิ้ง “เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ต่อสายไปยังผู้จัดการสาวของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข “จิตรา เธอรีบไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้เลยน่ะอีกสักพักฉันจะออกไปรับ แล้วก็อย่าลืมชวนนิรมลด้วยหล่ะ วันนี้พวกเราจะไปฉลองกัน” ไฮดริ๊งก์ สถานที่ละลายทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองตะวัน ที่นี้ไม่ต้องทำตัวแสร้งให้คนอื่นเห็น จะทำอะไรก็ได้ตามที่ใจอยากจะทำ แพรวาสวมเสื้อสายเดี่ยวสีขาวตัวจิ๋วกับกางเกงยีนส์สีดำ มือหนึ่งเท้าคางอีกมือถือแก้วเบียร์ สายตาจับจ้องมองไปบนเวทีที่มีหนุ่มหล่อสาวสวยที่กำลังเต้นด้วยท่าเต้นท่าร้อนแรงแล้วหันหน้าไปถามบาร์เทนเดอร์ “ผู้ชายที่กำลังเต้นอยูข้างบน หนึ่งคืนคิดเท่าไหร่หรอ?” จิตราแทบสำลัก ดึงแขนของแพรวาแล้วกัดฟันพูดว่า “เธอระวังเรื่องภาพลักษณ์ฉันอยากรู้ว่าเธอมาในสถานที่แบบนี้ ทำไมฉันจะมากับเธอไม่ได้! ดื่มหมดแก้วนี้เราก็ต้องกลับ!” แพรวาทำเสียง จุๆๆ แล้วพูดว่า “แค่ถามคงไม่เป็นไรหรอกน่า” “คุณผู้หญิงครับ” บาร์เทนเดอร์วางบลัดดีแมรีแก้วหนึ่งไว้หน้านิรมล แล้วชี้ไปยังอีกโต๊ะหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล แล้วกระซิบว่า “ท่านผู้ชายคนนั้นเขาเชิญคุณให้ไปร่วมโต๊ะด้วยครับ” นิรมลมองไปตามทิศทางที่บาร์เทนเดอร์บอก เห็นชายในร่างผอมสูง สบตากับเธอ แล้วยิ้มจากนั้นเขายกแก้วขึ้นเพื่อเชื้อเชิญเธอ นิรมลรู้สึกอึดอัด กำลังจะปฏิเสธ แพรวาเดินเข้ามาแล้วยิ้มจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ฉันจะช่วยเธอตัดสินใจเอง” จิตราโดยพื้นฐานแล้วเธอจะไม่ใส่ใจกับเรื่องที่จะมีคนเข้ามาคอยแสวงหาผลประโยชน์เธอเพียงแค่บอกว่า “อย่าให้ใครรู้ว่าเราเป็นใคร” แพรวากระพริบตาปริบๆ เธอโบกมือโยกย้ายไปตามเสียงเพลงแล้วค่อยๆเคลื่อนตัวไปใกล้กับผู้ชายคนนั้น มีสายตาคู่หนึ่งที่อยู่ภายใต้ความมืดกำลังจับจ้องมองมาที่เธออย่างไม่ละสายตา “คุณผู้ชายคะ”แพรวายืนอยู่ข้างหน้าของผู้ชายคนนั้นจากนั้นเธอก็นั่งลงแล้วยิ้มพร้อมทั้งพูดว่า “เพื่อนของฉันเขาดื่มเหล้าไม่ได้ ฉันขอดื่มแทนเขาได้ไหม?” ผู้ชายคนนั้นยกมือขึ้นมาขยับแว่นตาดูท่าเจ้าเล่ห์ พลางมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของแพรวา เมื่อเทียบกับนิรมลที่สวมกางเกงขายาวแล้ว แพรวาเธอไม่ได้ปกปิดร่างกายที่ดูดีของเขาเลย ทั้งสะโพก หน้าออก ต้นขา ล้วนแล้วแต่เป็นจุดดึงดูดความสนใจขอผู้ชาย มันจึงทำให้เธอดูโดดเด่นกว่าใครๆ มีสิ่งเดียวที่ดูไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่คือการแต่งหน้าที่เยอะเกินไปของเธอ มันเกือบจะดูไม่ออกเลยว่าเค้าโครงหน้าเดิมของเธอเป็นยังไง ที่จริงมันก็ไม่ใช่แค่แพรวาหรอกที่เป็นแบบนี้ ผู้หญิงที่มาที่นี้ส่วนมากก็แต่หน้าจัดจ้านกันทั้งนั้น เมื่อเทียบกับการแต่งตัวของนิรมลแล้ว นิรมลจะดูแปลกไปเลยสำหรับที่นี้ไปแล้ว แม้ว่าจะมองเห็นเค้าโครงหน้าเดิมจริงไม่ชัดก็เหอะ แต่รูปร่างที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ก็สามารถทำให้ใครหลายคนหวั่นไหวได้เป็นอย่างดี ผู้ชายคนนั้นจ้องมองเธอด้วยความสนใจ แล้วยกแก้วขึ้นชนกับเธอแล้วพูดว่า “ได้สิครับ” แพรวายิ้มอย่างพออกพอใจ แล้วยกแก้วขึ้นดืมปล่อยให้ของเหลวเย็นไหลลงผ่านลำคอ นำมาซึ้งความร้อนที่แผดจ้าลงไปทั่วท้องของเธอ เธอยกแก้วหันกลับไป ยิ้มพร้อมพูดว่า “ขอบคุณนะคะสำหรับเหล้าแก้วนี้” ในขณะที่เธอพูดจบแล้วกำลังจะกลับไปที่โต๊ะของเธอ ทันใดนั้นผู้ชายก็ดึงมือรั้งไม่ให้เธอไป พูดด้วยน้ำเสียงที่เจ้าเล่ห์ว่า “ขอบคุณเฉยๆมันไม่ง่ายไปหน่อยหรอสาวสวย?” แพรวาสลัดมือของเขาออกอย่างไร้ร่องรอย แล้วพูกกับเขาว่า “แล้วคุณจะเอายังไง?” “นั่งคุยกันสักพัก” แพรวายิ้มอ่อนๆ “ คุณค่ะ คุณอาจจะไม่รู้ว่าฉันคนนี้เนี่ย สามารถทำอะไรได้เยอะแยะ แต่ไม่สามารถนั่งสนทนากับใครได้” ดวงตาของเขากำลังจับจ้องมองไปที่เธอแล้วกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมทั้งพูดว่า “คุณแน่ใจหรอ” “แน่….” เริ่มมีอาการมึนหัว ทันใดนั้นภาพที่อยู่ตรงหน้าเธอก็เริ่มเบลอแพรวาเริ่มกระวนกระวายใจแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย ชายคนนั้นลุกขึ้นและคว้าเอวของเธอจากนั้นเอาหน้าเข้าไปใกล้ข้างๆหูของเธอแล้วใช้น้ำเสียงที่เจ้าเล่ห์เหมือนงูพิษกระซิบข้างหูเธอเบาๆว่า “เธอคิดว่าเหล้าแก้วนั้นมันทดแทนกันได้ง่ายขนาดนั้นหรอ?” “ปล่อยเดี๋ยวนี้น่ะ….” เธอพยายามใช้มือที่ไร้เรี่ยวแรงของเธอผลักผู้ชายคนนั้นออกจากเธอ ผู้ชายคนนั้นกระตุกยิ้มที่มุมปาก จับเธอไว้แล้วพาเดินออกไปข้างนอก “ท่านประธานกำลังมองอะไรอยู่หรอครับ?”
已经是最新一章了
加载中