ตอนที่ 7ขี้เหร่แล้วจะปลอดภัย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 7ขี้เหร่แล้วจะปลอดภัย
ต๭นที่ 7ขี้เหร่แล้วจะปลอดภัย เรสสิริคอนโด ปิยะวัฒน์เพิ่งจะออกมาหลังจากที่ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าสองชั่วโมง จรณ์เพิ่งให้คนทำความสะอาดบ้าน จนตอนนี้บ้านไม่มีกลิ่นแล้วแต่เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายตัวอยู่ดี เขาขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งแล้วกลับเข้าไปในห้องนอนหาชุดนอนเปลี่ยน เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เขารู้สึกว่าแพรวาไม่ใช่คนเดิมอย่างที่เขาเคยรู้จัก ผู้หญิงคนนี้เมื่อก่อนเธอเป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นทำให้เขารู้จักผู้หญิงคนนี้ในทุกๆด้านของเธอ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าหลังจากที่เลิกกับเขา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่า สามปีกับการที่โดนคนล้อเล่นกับความรู้สึกความรู้สึกนี้มันทำให้คนอึดอัดจริงๆ ไม่น่าแปลกใจ ในวันที่สอง เรื่องของเมื่อวานตอนเย็นก็ถูกนำไปพาดหัวข่าว ในตอนเช้าตรู่ปิยะวัฒน์ได้รับโทรศัพท์เรียกตัวให้กลับไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลกปิตถา เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาเจอหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งยื่นมาตรงหน้า จากนั้นกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบ ทันใดนั้นเองหนังสือพิมพ์ก็ร่วงลงพื้นกระจัดกระจายลงทั่วพื้น ทัตเทพนั่งลงที่โซฟาด้วยในหน้าที่เย็นชา ข้างๆมีชาวางอยู่นอกจากนั้นยังมีหนังสือพิมพ์ที่เขาเพิ่งทิ้งลงไปเมื่อสักครู่ ปิยะวัฒน์ก้มลงไปเก็บหนังสือพิมพ์ขึ้นมาแล้วเดินตรงไปด้านหน้าของทัตเทพจากนั้นปิยะวัฒน์ก็วางหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นลงบนโต๊ะ “รีบให้เรียกให้ผมกลับมา คงไม่ได้แค่ต้องการที่จะให้ดูหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เฉยๆหรอกใช่ไหม?” ปิยะวัฒน์ไม่ได้มีท่าทีที่จะกลัว ทำให้ทัตเทพโกรธ เขาวางแก้วชาลงบนโต๊ะ แล้วพูดขึ้นว่า “แกพูดกับพ่อแกแบบนี้หรอ? หรือว่าแกคิดว่าแกเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลกปิตถา แล้วแกจะทำอะไรก็ได้ตามใจงั้นหรอ?” “ผมจะกล้าคิดแบบนั้นได้อย่างไรกัน” ปิยะวัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังซักเท่าไหร่ “ผมแค่โชคดีที่เป็นลูกที่เกิดจากภรรยาแรกของพ่อ” “แก…….” ทัตเทพจงกำลังจะอาละวาดทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นชมนาดกี่เพ้าสีเขียวกำลังเดินลงมาจากบนตึกอย่างช้าๆ เธอเป็นแม่แท้ๆของปิยะวัฒน์ ปีนี้เธออายุย่างเข้าห้าสิบปีแล้ว การแต่งหน้าของเธอช่างประณีตและท่าทางที่สง่างาม เพราะว่าเธอดูแลตัวเองดีมาก ทำให้มองไม่ออกเลยว่าเธออายุจะห้าสิบแล้ว ดูจากภายนอนแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่ดูสง่างามสูงส่งแต่เธอไม่มีสัญชาตญาณความเป็นแม่เอาเสียเลย เธอมักจะเข้มงวดกับเขาเสมอ ตลอดเวลาเธอไม่เคยมีรอยยิ้ม เธอแต่งงานกับทัตเทพเพียงเพราะเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น หากต้องใช้คำมาอธิบายก็คือ เพื่อนที่แสนจะธรรมดาคนนึง “แม่” เขาเรียกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและท่าทีที่เคารพ ชมนาดพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “นั่งสิวันนี้ที่เรียกให้กลับมาก็ไม่ใช่เพราะข่าวบนหนังสือพิมพ์หรอกแต่เป็นเพราะว่าตอนนี้มันถึงเวลาที่แกจะต้องแต่งงานแล้วเมื่อไม่นานมานี้ฉันกับพ่อของแกได้ช่วยหาผู้หญิงไว้ให้แกแล้ว ฉันไม่ได้เร่งให้แกแต่งงาน แต่ตอนนี้แกควรมีแฟนเป็นตัวเป็นตนได้แล้ว ชมนาดพูดพลางเอารูปออกมาวางไว้บนโต๊ะ “แกเลือกดูสิ ว่าชอบแบบไหน” ทัตเทพพูดต่อไปอีกว่า “ที่แม่แกพูดมันก็คือความคิดของฉันด้วย ฉันไม่ได้ต้องการให้แกดูแล้วชอบเลยแต่ทางที่ดีแกเลือกมาสักคนแล้วหลังจากนั้นก็นัดทำความรู้จักกัน ผู้หญิงที่ฉันกับแม่แกเลือกมานั้นล้วนแล้วแต่สวยๆทั้งนั้นแถมบ้านรวยอีกด้วย” ปิยะวัฒน์มองแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ผู้หญิงที่ทัตเทพจงเลือกมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นลูกสาวของหุ้นส่วนธุรกิจของเขา จุดประสงค์จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการแต่งงานเพื่อสร้างความมั่นคงทางผลประโยชน์แต่เขาไม่ต้องอยากแต่งงานตามความต้องการของพวกเขา เขาจับรูปพลิกไปมาแล้วหยิบรูปขึ้นมาหนึ่งแผ่นหลังจากนั้นก็วางมันลงบนโต๊ะแล้วพูดว่า “งั้นอันนี้แล้วกัน” ทัตเทพเหลือบไปมองท่าทางขึงขัง “แกตั้งใจอยากลองดีกับฉันใช่ไหม?” “ผมไม่อาจทำแบบนั้นหรอก”ปิยะวัฒน์กระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย “พ่อคิดมากไปเอง” “โอเค โอเคลูกสาวของเศรษฐีใหม่ ไหนแกลองพูดให้ฉันฟังสิว่าแก่ชอบเธอตรงไหน?” ปิยะวัฒน์ยิ้มแล้วตอบออกไปอย่างช้าๆว่า “ขี้เหร่ดูปลอดภัยดี” ทัตเทพตกใจกับคำพูดของปิยะวัฒน์ สีหน้าของเขาดูเอือมระอา ชมนาดไม่ได้คัดค้านอะไรแล้วพูดออกไปว่า “พรุ่งนี้วันศุกร์พอดี ตอนบ่ายเลิกงานก่อนเวลาสักชั่วโมงหนึ่ง ฉันจะหาทางติดต่อแม่สาวคนนี้ให้ พากันไปกินข้าวดูหนัง ดูดูกันไปทำความรู้จักกันสักหน่อย” ปิยะวัฒน์ตอบรับคำสั่งจากนั้นลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับบริษัทก่อนน่ะครับ” ปิยะวัฒน์เดินจากไป ทัตเทพหันหน้าเพื่อที่จะคุยกับชมนาดสักหน่อยแต่เธอกลับถือรูปเดินขึ้นไปบนตึกเสียแล้ว เธอไม่เหลือให้โอกาสเขาได้สนทนากับเธอเลย แพรวานอนถึงเที่ยงเพิ่งจะตื่นขึ้นมา เรื่องที่เธอเมาเมื่อคืนแล้วทำอะไรลงไปบ้าง ตื่นขึ้นมาตอนเช้าเธอจำอะไรไม่ได้เลย เธอเข้าไปอาบน้ำโดยที่ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องเมื่อคืน เพราะว่าวันนี้จิตรามีธุระจึงเขียนโน้ตแปะไว้แล้วก็ออกไป แพรวาอาบน้ำเสร็จเธออกมานุ้งผ้าเช็ดตัวแล้วมานั่งที่โซฟาเลื่อนดูweibo จากนั้นเธอก็ได้เจอพาดหัวข่าวของปิยะวัฒน์ที่ถูกจับด้วยคดีค้าประเวณี เธอกดเข้าไปดูจากนั้นสีหน้าเธอก็ดูแปลกใจ ผู้หญิงใส่กางเกงขาสั้นที่อยู่ในอ้อมกอดของปิยะวัฒน์ไม่ใช่เธอหรอ? เธอใช้มือนวดไปที่ขมับทั้งสองข้างของเธอเพื่อทบทวนความจำ เมื่อจำภาพได้อย่างเลือนๆเธอก็ยิ้มขึ้นมา ปล่อยให้เขาลอยนวลมาแล้วสามปี ตอนนี้เลิกกัน เธอเป็นผู้ชนะแล้ว ยิ้มไปซักพักเธอก็เลื่อนดูฟีดข่าวต่อจากนั้นก็พบว่าตัวเองก็ติดอันดับในการค้นหาเหมือนกัน 《ดาราสาวตัวย่อพ เดิมทีเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ใสใส เมาเละเทะที่ไนต์คลับเมื่อคืน》แนบมาพร้อมภาพกริด 9 ภาพ เป็นภาพที่เธออยู่ที่ไฮดริ๊งก์กำลังดื่มเหล้าอยู่กับลู่เฟิง เป็นภาพที่ไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่ อีกทั้งตอนนั้นเธอแต่งหน้าหนามาก ดังนั้นในเนื้อหาของข่าวจึงใช้คำว่า “มีความเป็นไปได้” นำมาพาดหัวข่าวในweiboเพื่อดึงดูดความสนใจ แพรวาไม่เปิดอ่านต่อวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆแล้วลุกเดินออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอกำลังเดาว่าตอนนี้จิตราทำอะไรอยู่ที่ไหน เวลาบ่ายสามโมง แพรวาสวมเสื้อคลุมสีดำไปที่ห้องโถงของบริษัทเอฟ ซี Weiboพาดหัวข่าวไปแล้วถึง6ชั่วโมงแต่บริษัทไม่ออกมาทำอะไรเลย และก็ไม่ติดต่อให้ออกมาแถลงข่าวเลย ครั้งที่แล้วตอนถ่ายทำละครเรื่อง 《รักเก่า》มีคนบังเอิญถ่ายภาพนิ่งหลุดออกไป ซึ่งในนั้นมีเธอกับญาณวุฒิมีฉากจูบระหว่างถ่ายทำหลุดออกไป เรื่องนี้ถูกพูดถึงบนweiboอย่างแพร่หลาย แต่บริษัทก็ยังเพิกเฉยปล่อยให้นักข่าวเขียนและเดากันไปต่างๆนานา ทั้งสองเหตุการณ์นี้ทำให้เธอไม่พอใจกับทัศนคติของบริษัท ก่อนหน้าที่จะถ่ายทำละครเรื่อง《รักเก่า》สัญญาของเธอใกล้จะหมดอายุ บริษัทได้เสนอให้เธอต่อสัญญา แต่ตอนนั้นเธอยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจบกับทางบริษัท เพียงแค่พูดว่าขอคิดดูก่อน คงจะเป็นคาดการณ์จากเบื้องบนที่คิดว่าเธอจะไม่ต่อสัญญาจึงใช้สองเหตุการณ์นี้กดดันเธอ เธอขึ้นลิฟท์ตรงไปที่ออฟฟิทของผู้จัดการพนิต ตอนที่เปิดประตูเข้าไป เจอจิตราเพิ่งจะคุยกับเขาเสร็จและกำลังจะออกไป เมื่อเห็นแพรวา สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป ส่งสายตาไปที่แพรวาถามประมาณว่าเธอมาที่ได้ยังไงกัน แพรวาไม่ได้ตอบกลับ เพียงแค่พูดว่า “เธอลงไปรอฉันข้างล่างน่ะ ฉันมีธุระกับผู้จักการพนิต” จิตราลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไป ผู้จัดการดูไม่ได้แปลกใจกับการมาของแพรวา เขาหันไปรินชาแก้วหนึ่งแล้วยื่นให้แพรวาจากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “หลังจากที่ไปคิดพิจารณาแล้วเป็นอย่างไงบ้าง 
已经是最新一章了
加载中