ตอนที่17คุณแพรวาคุณปิยะวัฒน์รออยู่ในรถ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่17คุณแพรวาคุณปิยะวัฒน์รออยู่ในรถ
ต๭นที่17คุณแพรวาคุณปิยะวัฒน์รออยู่ในรถ แพรวาเงยมองไปที่พรรษิษฐ์ดึงปากยิ้มพูดเสียงต่ำๆ“พ่อคะแค่ถามพ่อก็ไม่ถามพ่อมั่นใจแล้วว่าหนูอ่อยคุณปิยะวัฒน์หรอคะ” พรรษิษฐ์มองไปที่แววตาใสซื่อของแพรวาจู่ๆก็รู้สึกลำบากใจพรรษิษฐ์เริ่มร้อนรนน้ำเสียงเริ่มดุ “ก่อนหน้านี้ลูกบอกว่าไม่รู้จักปิยะวัฒน์แต่ทำไมเรื่องพรีเซนเตอร์ไม่เคยเห็นพูดขึ้นมาเลยลูกจะให้พ่อคิดยังไง” “งานของหนูก่อนหน้านี่พ่อเคยสนใจด้วยหรอถ้าพ่อแค่ถามสักคำมีหรอที่หนูจะไม่บอก” แพรวายิ้มเยาะออกมาลูกสาวพ่อเหมือนกันพอคุณปิยะวัฒน์สนใจแพรใจพ่อก็ยิ้มเหมือนดอกไม้บานแต่กลับกันเป็นหนูก็ถูกหาว่าเป็นนางจิ้งจอกคอยยั่วยวนเพียงแค่เพราะคุณปิยะวัฒน์เคยนัดดูตัวแพรใจและกลับบ้านมาเจอพ่อแม่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันหนูก็ไม่มีทางเลือกคุณปิยะวัฒน์เพราะอะไรทำไมแค่ความเชื่อใจแค่นี้พ่อก็ไม่เคยมีให้หนูหนูเป็นลูกพ่อจริงๆหรือเปล่า พรรษิษฐ์หลบสายตาของแพรวาไม่รู้จะทำอย่างไรขยับปากจะพูดแต่ก็พูดไม่ออกสักประโยค “พ่อของแกก็แค่พูดแค่ไม่กี่ประโยคแกก็มาขู่เข็ญพ่อแบบนี้หรอถ้าแกไม่ใช่ลูกพ่อแล้วเขาจะเลี้ยงแกโตมาขนาดนี้หรอ”ญาญินีขมวดคิ้วที่ตกแต่งมาอย่างดีน้ำเสียงเรียบเย็นพูดว่า “ถ้าตัวเองบริสุทธิ์ใจจริงจะต้องมาทุกข์อะไรเวลาที่คนสงสัยเรื่องวันนี้พอแค่นี้หลังจากนี้ไปก็ให้ระวังสถานะของตัวเองเรื่องอะไรควรทำเรื่องอะไรไม่ควรทำในใจทุกคนก็รู้ตัวดีอยู่แล้วนิ” ญาญินียืนพูดแล้วลากแพรใจขึ้นไปข้างบน พรรษิษฐ์อ้าปากกำลังจะพูดอะไรสักอย่างแต่แพรวาก็หันกลับเดินไปที่ห้องแล้ว เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องมาอธิบายการตอบสนองครั้งแรกมักจะแสดงออกมาตรงๆอยู่แล้วและความตรงๆก็ทำร้ายคนที่สุด แพรวามองที่กระจกค่อยๆเปิดดูแผลที่หน้าผากตรงที่ถูกกระแทกบวมเป่งมีรอยเขียวดูไปแล้วก็หนักเอาการงานโฆษณาพรุ่งนี้ไม่รู้จะถ่ายได้หรือเปล่า “ก็อกๆ” ได้ยินเสียงเคาะประตูแพรวาก็ปล่อยมืออกเดินไปเปิดประตู “น้าแก้วมาได้ยังไง” น้าแก้วเป็นแม่บ้านของที่บ้านทำงานอยู่ที่นี่เป็นเวลาสิบกว่าปีมาแล้วเป็นคนแก่ที่อ่อนโยนอัธยาศัยดีคนใช้ที่บ้านเปลี่ยนมาหลายรุ่นก็มีแต่น้าแก้วที่อยู่ได้นานที่สุด “คุณหนูใหญ่แผลบนใบหน้าดีขึ้นไหมดิฉันเอายากับน้ำแข็งมาให้จะต้องดูแลดีๆเป็นผู้หญิงมีรอยแผลที่บนใบหน้ามันไม่ดี” น้าแก้วกำลังยิ้มแต่ใจของแพรวารู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมา พ่อของแพรวายังสู้ความใส่ใจของคนใช้ที่มีต่อแพรวาไม่ได้มันน่าขันสิ้นดี แพรวารับมาแล้วพูดขอบคุณ น้าแก้วมองไปที่แผลบนใบหน้าของแพรวาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา“คุณท่านก็จริงๆเลยมันเป็นเรื่องของเด็กๆทำไมถึงลำเอียงได้ถึงขนาดนี้ถ้าเป็นคุณ...ก็คงจะดี” “พูดว่าอะไรนะคะ” เสียงในประโยคสุดท้ายอยู่ในลำคอแพรวาฟังไม่ค่อยรู้เรื่องพอรู้สึกตัวก็เลยถามดูอีก น้าแก้วกำลังจะอ้าปากพูดเสียงจากญาญินีก็ดังขึ้นมาจากด้ายหลัง“น้าแก้วดึกขนาดนี้มากระซิบกระซาบอะไรที่ห้องคุณหนูใหญ่พรุ่งนี้ไม่มีการมีงานทำหรือไง” สีหน้าของน้าแก้วซีดรีบเดินออกมาก้มหน้าตอบรับออกมาคุณผู้หญิงแล้วรีบร้อนเดินหนีไป ญาญินีกวาดตามองแพรวาน้ำเสียงเรียบๆพูดว่า“เธอก็รีบพักผ่อนได้แล้ว” แพรวาดูญาญินีขึ้นไปข้างบนแล้วถึงปิดประตูห้อง แพรวายังคงรู้สึกว่าเมือสักครู่น้าแก้วดูแปลกๆแปลกตรงไหนก็ตอบไม่ได้ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน ถึงแม้ว่าจะทั้งประคบน้ำแข็งทั้งทายาในวันที่สองแผลบนใบหน้าก็ยังไม่หายบวมกำหนดการที่จะถ่ายโฆษณาก็ถ่ายไม่ได้แล้ว จิตราไปเอาบทละครอยู่แพรวาจึงต้องไปลากับพนิตที่บริษัทด้วยตัวเอง พอถึงบริษัทแพรวาก็บุกตรงไปที่ห้องทำงานของพนิตแต่ถึงแค่หน้าประตูก็ถูกเลขาของเขาขวางไว้ “คุณแพรวาตอนนี้ประธานพนิตมีแขกคุณต้องรอสักครู่” “ใช้เวลานานแค่ไหน”แพรวาถามออกไป เลขาของพนิตส่ายหน้า“เรื่องนี้ผมก็ตอบไม่ได้” “ฉันรู้แล้วคุณไปทำงานเถอะฉันจะรออยู่ที่ด้านนอก”แพรวาสยายผมออกนำแว่นกันแดดมาสวมไม่มีใครมองเห็นแผลของแพรวาเลขาก็เลยไม่ได้ถามอะไรมากก็ตามแล้วแต่ที่แพรวาพูด แพรวายืนอยู่ที่ระเบียงรู้สึกเบื่อไม่น่ามารอเลยแผลที่บนหน้าผากก็รู้สึกเจ็บค่อยๆย่นคิ้วก็รู้สึกเจ็บจนจะไม่ไหว ทันใดนั้นญาณวุฒิก็เดินออกมาเห็นแพรวากำลังถือโทรศัพท์ดูแผลที่หน้าผากเท้าของเขาหยุดเดินแล้วเดินกลับมาถาม“แผลที่หน้าผากไปโดนอะไรมา” แพรวาเก็บโทรศัพท์สวมแว่นตากันแดดยิ้มดึงมุมปาก“ไม่ระวังเอาหัวไปชนมาแพรวาตอบง่ายโดยข้ามไปถามญาณวุฒิว่าคุณไม่มีงานหรอทำไมอยู่ที่บริษัท” “กลับมาเอาของ”ญาณวุฒิตอบ เห็นแพรว่าไม่ค่อยอยากจะบอกก็เลยไม่ได้ถามอะไรมากเขามองแพรวานิดนึงจู่ๆก็โน้มเอียงลงมาข้างหน้าแพรวารู้สึกตัวกำลังจะถอยออกแต่ญาณวุฒิกดน้ำหนักลงที่ไหล่“พูดเสียงต่ำว่าอยู่นิ่งๆอย่าขยับ” หลังจากนั้นเขาก็ใช้นิ้วหยิบใบไม้ที่เหี่ยวเฉาออกจากจากเส้นผมดกดำของแพรวา แพรวาพ่นลมหายใจโล่งอกกำลังจะพูดขอบคุณถึงเห็นว่าประตูห้องทำงานของพนิตที่ไม่รู้เปิดออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ค่อยๆแง้มออกแล้วปิยะวัฒน์ก็ยืนอยู่ที่ตรงนั้นมองนิ่งๆมาที่พวกเขาด้วยสายตานิ่งลึก แพรวาแน่ใจว่าไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อยแปลกประหลาดทำให้รู้สึกว่าเหมือนมีลมเย็นพัดมาที่ข้างหลัง “คุณปิยะวัฒน์เชิญทางนี้” เสียงของพนิตแทรกเข้ามาในช่วงเวลาที่หยุดไปไม่กี่วินาทีปิยะวัฒน์ถอนสายตาออกมาแล้วไม่ได้มองมาที่แพรวาอีกแต่มุ่งตรงเดินออกไป แพรว่าเป่าปากเมื่อความรู้สึกที่กดดันได้ออกไปไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกว่าเหมือนกับปิยะวัฒน์จะกระโจนเข้ามาใส่หลังจากที่กลับมามีสติถึงรู้สึกว่าน่าตลกนั่นมันไม่ใช่นิสัยของปิยะวัฒน์สักหน่อยยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาตอนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกัน “คุณกับคุณปิยะวัฒน์สนิทกันหรอ”จู่ๆญาณวุฒิก็ถามออกมา แพรวาส่ายหัวยิ้ม“ผู้บริหารของโป๋ลุ่ยอย่างเขาฉันจะไปรู้จักได้ยังไง” ญาณวุฒิไม่ได้ซักไซ้ถามต่อแค่พูดว่า“ฐานะอย่างพวกเขาก็แค่เล่นๆเพื่อความสนุกถ้าเมื่อไหร่เกิดจริงจังคนที่เจ็บก็คือตัวเราเอง”ญาณวุฒิพูดเรียบๆแล้วก็เดินไป แพรวายืนนิ่งอยู่ที่เดิมแล้วก็ค่อยๆยิ้มออกมาคนมากมายต่างก็รู้ความเป็นจริงดีก็มีแค่ฉันนี่แหละแพรวาที่เคยตกเข้าไปในกับดักมาแล้วสามปี หลังจากลาเรียบร้อยแล้วแพรวาก็ออกมาจากบริษัทเพิ่งจะพ้นออกมาจากประตูก็ถูกจรณ์ขวางทางไว้ “คุณแพรวาครับคุณปิยะวัฒน์รออยู่ในรถ” แพรวากวดตามองออกไปไกลเห็นแค่รถคาดิลเล็คคันนั้นจอดอยู่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนที่มีทั้งรถทั้งคนสัญจรไปมาทำให้มองไม่เห็นคนข้างในแต่กลับสามารถรับรู้ถึงสายตาเยียบเย็นพุ่งออกมา แพรวาสูดหายใจเข้าลึกๆถามเสียงต่ำ“ฉันไม่ไปได้ไหม” จรณ์ยิ้ม“คุณแพรวาอย่าทำให้ผมลำบากใจเลยครับ”
已经是最新一章了
加载中