ตอนที่ 32 Memorial arch ซุ้มประตูอนุสรณ์   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 32 Memorial arch ซุ้มประตูอนุสรณ์
ต๭นที่ 32 Memorial arch ซุ้มประตูอนุสรณ์ คนที่โทรหาเธอคือปีวรา น้ำเสียงเหยียดๆแบบนั้น ถึงแพรวาจะไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็เดาได้อยู่ดี แพรวาบีบนวดบริเวณหัวคิ้ว “คุณปีวรามีธระอะไรคะ?” “ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?” “ ขอโทษด้วยนะคะ ฉันคิดว่าตอนนี้ระหว่างเราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว คุณปีวรามีเวลาก็ควรเอาไปคิดว่าจะทำยังไงให้ท่านประธานปิยะวัฒน์พอใจดีกว่าค่ะ อย่ามาเปลืองเวลากับคนไม่สำคัญอย่างฉันเลย” เธอพูดจบก็จะกดวางสาย แต่ปรีวรากรีดร้องออกมาก่อน “เธอยัยผู้หญิงหน้าไม่อาย เธอคิดว่าเรื่องวันนั้นที่เธออยู่ในห้องของประธานปิยะวัฒน์ จะไม่มีคนรู้เลยเหรอ? ฉันไม่เคยเจอคนหน้าไม่อายอย่างเธอมาก่อนเลย ประธานปิยะวัฒน์เขาไม่เอาเธอแล้ว เธอยังจะกุลีกุจอแก้ผ้าไปหาเขาถึงบริษัท นอกจากเทคนิคบนเตียงเธอยังจะมีอะไรดีอีกกัน” “ถึงจะมีดีแค่เทคนิคบนเตียง แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ประธานปิยะวัฒน์เขาชอบนะคะ” รอยยิ้มมุมปากของแพรวาแฝงแววเย้ยหยัน ปีวราเกรี้ยวกราด “มันน่าภูมิใจตรงไหน เธอมันก็ไม่ต่างกับคนขายตัว ก็แค่ระดับสูงกว่าโสเภณีข้างนอกนิดหน่อยเท่านั้นแหละ โสเภณียังมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ งั้นมือที่สามอย่างเธอจะนับเป็นอะไรได้?” จิตใจของแพรวาจมดิ่งลงไปลึกกว่าเดิม สายตาก็เริ่มมืดมนขึ้น เธอกำโทรศัพท์มือถือแน่น น้ำเสียงเยือกเย็นขึ้น “เดิมทีวงการบันเทิงก็เป็นสถานที่ซึ่งซ่อนเรื่องสกปรกเอาไว้มากมายอยู่แล้ว ก็เหมือนกับที่คุณปิยวราพูดออกมาเองนั่นแหละค่ะ ไม่มีใครที่เบื้องหลังใส่สะอาดไปกว่ากันหรอก ฉันขายตัว ไม่ใช่ว่าคุณปีวราเองก็รู้ดีอยู่แล้วหรอหรือคะ?” “เธอ...” “แน่นอน เราสองคนก็ยังมีข้อแตกต่างกันอยู่นะคะ ฉันทำก็คือฉันทำ จะไม่หาเหตุผลอะไรให้ตัวเอง จะไปเหมือนดอกบัวที่แสนบริสุทธิ์และบอบบางอย่างคุณปีวราได้ยังไงกัน ที่เป็นโสเภณีไปแล้วยังต้องทำเป็นบริสุทธิ์รักษาพรหมจรรย์ไว้เหมือนซุ้มประตูอนุสรณ์ ผู้หญิงของคุณปิยะวัฒน์มาๆไปๆ ก็ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว เขาอยากหาฉัน ฉันก็ต้องปฏิเสธอย่างนั้นเหรอ ในเมื่อคุณปีวราจะคิดว่าตัวคุณเองมีเสน่ห์มากขนาดนี้ คุณไปพูดกับคุณปิยวัฒน์เองไม่ดีกว่าเหรอคะ บอกเขาว่าอย่ามาหาฉัน แบบนั้นฉันคุณรู้สึกขอบคุณแทบแย่เลยจริงๆ” “เธอ เธอหุบปากไปเลยนะ!” ปีวราถูกแพรวาทำให้โกรธจนหน้าแดงไปหมด มือกำโทรศัพท์แน่นจนสั่น ตัวแข็งทื่อจนด่าไม่ออกสักคำ แพรวายกมุมปากขึ้น แล้วก็วางสายโทรศัพท์ไปเลย คุณระดับปีวรา เดิมทีก็ไม่นับเป็นคู่มืออะไรได้ ที่เพิ่งพูดไปเมื่อครู่ ถึงจะพูดว่าปีวรา แต่ที่จริงกำลังด่าทอตัวเองในปีนั้นที่โง่พอๆกันเลย ไม่มีใครเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายเลย แม้กระทั่งปิยะวุฒน์ ไปตายซะไป! “ฮัดชิ่ว…” ประธานใหญ่ปิยะวัฒน์ซึ่งยังทำงานล่วงเวลาที่บริษัทอยู่ๆก็จามทันที จรณ์ที่กำลังจัดการบัญชีการเงินไตรมาสแรกของปีอยู่ในห้องทำงานกับเขาเงยหน้าขึ้นมา พูดขึ้นอย่างกังวล “ท่านประธานครับ คุณกลับไปก่อนดีไหม ผมจะจัดการส่วนนี้ให้เสร็จ ส่วนที่เหลือพรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ” สภาพร่างกายของปิยะวัฒน์แข็งแรงดีมาก ปกติแทบจะไม่ป่วยเลย แต่ก็มักจะเป็นร่างกายประเภทนี้เนี่ยแหละ พอป่วยขึ้นมาสักทีก็เป็นนานไม่ยอมหาย ไข้หวัดเล็กๆนี้มันเป็นๆหายๆมาสัปดาห์กว่าแล้ว ไม่มีท่าทีว่าจะหายเร็วๆสักที” เขาวางเอกสารลง เอนตัวพิงลงบนเก้าอี้ นิ้วมือใช้แรงกดลงไปที่จุดไท่หยาง (จุดฝังเข็มของแพทย์แผนจีน) สองที ถึงพูดขึ้น “ก่อนหน้านี้เวลาฉันป่วย ยาที่แพรวาให้ฉันกินคือยาอะไร?” จรณ์นิ่งไป คิดอยู่หลายวินาทีถึงพูดขึ้น “ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะครับ ก็เป็นยาแก้หวัดทั่วไป เป็นยาตัวเดียวกันกับที่ท่านประธานกินตอนนี้เลยครับ” “งั้นเหรอ?” ปิยะวัฒน์บีบนวดที่บริเวณคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่ “นอกจากยา คุณแพรวาต้องมีวิธีทำของเธอเองแน่ครับ เวลาท่านประธานป่วย ก็เป็นคุณแพรวาดูแลด้วยตัวเองมาตลอด คุณไม่ความประทับใจบ้างเลยเหรอครับ?” ปิยะวัฒน์เม้มริมฝีปากแน่น ความประทับใจ…ก็เหมือนจะมี ตอนที่เขาป่วยหนักที่สุด ถูกผู้หญิงคนนั้นดึงขึ้นมาจากเตียงเติมซุปขิงให้ ดึกดื่นค่อนคืนไปแล้วก็ถูกเธอดึงออกมานวดให้ จนทั่วร่างของเขามีเหงื่อออกเป็นไปหมด… จรณ์เห็นเขาเงียบไปนาน เลยลองหยั่งเชิงถามด้วยเสียงต่ำ “ให้ผมโทรไปถามคุณแพรวาดีไหมครับ” “ไม่ต้องหรอก” ปิยะวัฒน์ได้สติกลับมา พูดเสียงเรียบ “รีบหน่อย จัดการส่วนที่เหลืออยู่นี้ให้เสร็จ จะได้เลิกงานเร็วหน่อย” “ครับ” หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง โทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น ปิยะวัฒน์เซ็นชื่อลงบนรายงานที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วไปด้วย กดรับสายโทรศัพท์ไปด้วย “ฮัลโหล ใครครับ” “ฉันเอง” ทัตเทพหน้านิ่วคิ้วขมวด น้ำเสียงแบบพ่อพูดกับลูกชายด้วยความโดดเดี่ยว “แกยังอยู่ที่บริษัทหรือเปล่า?” ปิยะวัฒน์ไม่ได้ตอบ เพียงแค่ถาม “มีอะไรหรือเปล่าครับ?” “ ไม่มีธุระอะไรฉันก็โทรหาลูกชายของฉันไม่ได้เลยหรือไง” ทัตเทพโกรธขึ้นมาเล็กน้อย น้ำเสียงจืดชืดของปิยวัฒน์ เหมือนกันกับแม่ของเขาชมนาดไม่มีผิด นี่ต่างหากคือสาเหตุแท้จริงที่ทำให้เขาโกรธ ปิยวัฒน์ไม่ได้ตอบรับคำ ความโกรธของทัตเทพลดลงบ้างแล้ว ผ่านไปหลายวินาทีถึงพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงคนนั้นที่ฉันพูดกับแกหรอกครั้งที่แล้ว ก็คือลูกสาวของประธานนภัสถ์ของบริษัทธงชัยแวววัย กลับจากต่างประเทศมาเมื่อ 2 วันก่อน คุณแวววัยเป็นคนมีความสามารถ รูปลักษณ์ดี ฐานะทางสังคมก็เท่าเทียมกันกับตระกูลของเรา” นิ้วมือของเขาหยุดนิ่ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วลุกยืนขึ้น “นี่คือคุณพ่อจะเตือนผมใช่ไหมครับ?” “ใช่ ฉันก็จะเตือนแกนี่แหละ!” ทัตเทพเสียงเข้มขึ้น “ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ เรื่องแต่งงานของแก ก็จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่แกตัดสินใจ!” เขาพูดจบก็กระแทกวางสายโทรศัพท์ ปิยวัฒน์เม้มริมฝีปาก กำโทรศัพท์แน่น ใบหน้าไร้อารมณ์ ---- “คุณครับ คุณครับ” ได้ยินเสียง แพรวาก็ลืมตาขึ้น “ถึงเขตพญายมแล้วครับ” คนขับรถปลุกเรียกอีกประโยค แพรวากล่าวขอบคุณออกไป จ่ายเงิน แล้วถือเสื้อโค้ทลงจากรถ ถึงช่วงปลายเดือนตุลาคมแล้ว ฝนตกปรอยๆมาจะหนึ่งสัปดาห์แล้ว สภาพอากาศกลายมาเป็นหนาวเย็นอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว ลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงกำลังพัดซู่ซ่า นำใบไม้ที่ร่วงลงมาจากยอดมา ต้นลอนดอนเพลนสองข้างทาง ใบร่วงลงมากว่าครึ่งต้นแล้ว ใบไม้ที่ร่วงบนพื้น แทบจะปกคลุมไปทั่วตรอกถนนทั้งสาย… ในความทรงจำของเธอก็เหมือนจะมีถนนที่เต็มไปด้วยต้นลอนดอนเพลนสายนี้อยู่ บางครั้งในฝัน ยังเห็นเด็กผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวคนหนึ่ง พาเธอขี่จักรยานผ่านใต้ต้นลอนดอนเพลนในตอนนั้น เด็กชายคนนั้นมีเสียงที่ไพเราะ ฮัมเพลงด้วยเสียงทุ้มต่ำ ส่วนตัวเธอก็หัวเราะอยู่ข้างหลัง กระโปรงสีขาวพัดปลิวไปตามสายลม หัวเราะอยู่ดีๆเธอก็ร้องไห้ หลังจากนั้นก็ตื่นขึ้น หลังจากตื่นขึ้นมา ก็ถือปากกา พยายามอย่างมากที่จะวาดรูปลักษณ์ของเด็กชายคนนั้นออกมา รอบที่ 1 รอบที่ 2……1 แผ่น……2 แผ่น…… หลายปีมานี้ แม้กระทั่งตัวเธอเองก็จำไม่ค่อยได้ว่าวาดไปกี่แผ่นแล้ว แต่นอกจากด้านหลังที่ผอมบาง ไม่ว่าจะยังไงเธอก็จำหน้าตาของเขาไม่ได้เลย เธอคิดว่าตัวเองได้ทำของชิ้นหนึ่งที่แสนล้ำค่าหล่นหาย ของชิ้นนั้น ทำให้ชีวิตที่แต่เดิมมีสีสันของเธอ กลายเป็นสีขาวที่มืดมัวเหมือนสีเทาหม่น จนกระทั่ง เธอได้พบกับปิยะวัฒน์ แต่สุดท้ายแล้วปิยวัฒน์ก็ไม่ใช่เด็กชายในฝันของเธอ เขาไม่สามารถมอบความรักทั้งหมดให้กับเธอได้ แล้วก็ไม่สามารถเติมเต็มความฝันที่แสนเศร้าของเธอได้ พอถึงบ้าน น้าแก้วเป็นคนเปิดประตูให้เธอ น้าแก้วรับของจากในมือของเธอมา ล็อคประตูไปด้วยก็พูดไปด้วย “คุณหนูคะ เดี๋ยวพอเข้าบ้านแล้ว อย่าไปพูดโต้เถียงคุณท่านนะคะ ท่านพูดอะไร คุณก็ควรยอม คุณหนูสองพูดอะไร คุณหนูก็ทำเป็นไม่ได้ยินนะคะ” แพรวาชะงักฝีเท้า หันกลับไปถาม น้าแก้ว เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?” 
已经是最新一章了
加载中