ตอนที่ 33 ลูกควรเอาแพรวาเป็นแบบอย่างจริงๆ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 33 ลูกควรเอาแพรวาเป็นแบบอย่างจริงๆ
ต๭นที่ 33 ลูกควรเอาแพรวาเป็นแบบอย่างจริงๆ น้าแก้วส่ายหัว “ฉันก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่คุณท่านแกโกรธมาก เหมือนจะเป็นเพราะคุณหนู…” แพรวาหลุบเปลือกตาลง ชั่วครู่ถึงพูดขึ้น “ขอบคุณนะคะ ฉันทราบแล้วค่ะ” น้าแก้วก้าวยาวๆ เร่งฝีเท้าไปข้างหน้า ยังไม่ทันถึงหน้าประตูก็ตะโกนบอก “คุณท่านคะ คุณหนูใหญ่มาแล้วค่ะ” แพรวาจัดการผมที่ถูกลมพัดจนยุ่งเหยิงชั่วครู่ ถึงย่างก้าวเข้าไป พรรษิษฐ์กลับไม่อยู่ในห้องนั่งเล่น แต่กลับเป็นพวกแพรใจแม่ลูกสองคนที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แพรใจสวมชุดนอนผ้าไหมสีเบจ บนไหล่คลุมผ้าผลุมไว้ผืนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าหำลังจะนอนแล้ว อากาศหนาวขนาดนี้ดันใส่เสื้อผ้าบาง บางทีอาจจะแค่รอเธอกลับมาเห็นละครฉากนี้ก็ได้ ลำบากแย่เลย “โอ๊ะ คุณหนูใหญ่แพรวาทำไมวันนี้กลับเร็วจังล่ะคะ ชีวิตกลางคืนข้างนอกเพิ่งจะเริ่มเอง นี่มันไม่สมเป็นพี่เลยนะคะ” แพรวาเหลือบตามองทีหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร เปรียบเทียบความกระตือรือร้นของแพรใจแล้ว ญาณินีกลับแสดงออกค่อนข้างเงียบขรึม เห็นแพรวาเดินเข้ามา เธอวางแก้วลง ชี้ขึ้นไปชั้นบน “พ่อเธอรอเธออยู่ในห้องหนังสือ” แพรวาเงยหน้าขึ้นมองทีหนึ่ง ก้มหัวเล็กน้อย กล่าวขอบคุณอย่างมีมารยาท ฝีเท้าเดินอย่างมั่นคงขึ้นไปที่ชั้นบน แพรใจเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง บ่นเสียงเบา “คุณแม่ ทำไมถึงยอมให้เธอไปคุยกับคุณพ่อคนเดียวล่ะค่ะ คุณแม่ก็รู้นิสัยของคุณพ่อดีนี่ อาจจะใจอ่อนอีกก็ได้” ญาณินียกแก้วขึ้นมา คนใบชาในแก้ว พูดออกมาอย่างสุขุม “ลูกแพรใจ ไม่ใช่แม่บอกลูกไว้เหรอ ว่าบ้างครั้งลูกก็ควรเอาแพรวาเป็นแบบอย่างจริงๆ” “หนูควรเอาแพรวาเป็นแบบอย่าง?” แพรใจเบิกตากว้าง “แม่ล้อเล่นใช่ไหมคะ ให้เอาอะไรจากเธอมาเป็นแบบอย่าง ให้เรียนรู้ว่าจะให้ท่าผู้ชาย ล่อลวงผู้ชายของคนอื่นยังไงน่ะเหรอคะ?” ญาณินีขมวดคิ้ว “อย่างน้อยต่อหน้าผู้คน บุคลิกการวางตัวของแพรวาก็สมควรที่ทุกคนจะเรียกได้ว่าผู้ดีมีสกุล” แม้ว่าเธอจะรักลูกสาวของเธอมาก แต่ก็มองเห็นนิสัยแก่นแท้ได้อย่างชัดเจน ได้รับการอบรมฝึกฝนมารยาทที่หลากหลายตั้งแต่อายุเด็กเหมือนกัน กระทั่งแพรใจยังได้รับการอบรมที่เข้มงวดกว่าแพรวาด้วยซ้ำ แต่เรื่องของบุคลิกรัศมีก็ยังคงด้วยกว่าเขาเกินครึ่ง “เอาล่ะ หลังจากนี้เวลาพูดจาลูกต้องสำรวมมากกว่านี้ ลูกดูสิว่ามีผู้ดีคนไหนเขาพูดจาไม่ยั้งคิดอย่างลูกบ้าง ถึงลูกจะไม่ชอบแพรวายังไง ในสายตาคนอื่น เธอก็เป็นพี่สาวของลูกอยู่ ลูกแสดงออกมากเกินไป คนอื่นเขาไม่ได้จะหัวเราะเยาะแพรวา ที่เขาจะหัวเราะเยาะคงมีแต่น้องสาวที่ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างลูกเท่านั้นล่ะ” “คุณแม่ ทำไมวันนี้แม่ถึงได้เอาแต่พูดถึงแพรวากันคะ แพรใจเม้มปากไม่ค่อยพอใจ “แม่จะพูดถึงลูกนั่นล่ะ” ญาณินีขมวดคิ้ว “แพรใจ ที่เมืองตะวันตระกูลกปิตถาระดับไหน ไม่ต้องให้แม่บอก ลูกเองก็รู้ดี ปิยะวัฒน์เลือกภรรยา ไม่พูดถึงเรื่องที่ฐานะสังคมต้องเท่าเทียมกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือบุคคลิก สิ่งที่ลูกดูถูกมันเป็นสิ่งที่ผู้ชายมักจะชอบที่สุด อย่างเช่นใจดี ใจกว้างบ้าง สำหรับลูกแล้ว กูไม่ใช่เรื่องแย่ จุดนี้แพรวาเขาทำได้ดีมาก อย่างน้อยเธอก็ไม่เคยทำให้ลูกอายต่อหน้าคนอื่น” แพรใจกัดฟัน “เธอก็แค่แกล้งทำให้คนอื่นเห็น ในใจอาจจะว่าหนูอยู่ก็ได้” “ถึงจะแค่แกล้งทำให้คนอื่นเห็น อย่างน้อยเธอก็ทำสำเร็จ แล้วลูกล่ะ กระทั่งทำให้คนอื่นเห็นยังไม่ทำเลย ไม่มีใครมีอารมณ์จะไปเชื่อในสิ่งที่ลูกอธิบาย ทุกคนเต็มใจที่จะเห็นสิ่งที่พวกเขาเห็นด้วยตาของตนเองมากกว่า ลูกเรียนรู้บ้างเถอะ” ญาณินีพูดไปก็ลุกขึ้นยืน “อากาศหนาวแล้ว ลูกก็ไปพักผ่อนเร็วๆเถอะ แม่ขึ้นไปข้างบนก่อนนะ” เธอว่าตัวเองก็ฉลาดนะ แต่ไม่เข้าใจ ทำไมถึงให้กำเนิดลูกสาวที่มีความคิดเรียบง่ายแบบนี้อย่างแพรใจออกมาได้ ถ้าแพรใจฉลาดได้สักครึ่งของแพรวา ไม่รู้ตอนนี้เธอจะสบายขึ้นขนาดไหน แพรใจใบหน้ามืดมนกัดฟันแน่นอยู่ชั้นล่าง แพรวามีอะไรดีนักกัน กระทั่งแม่ของเธอยังเริ่มพูดด้วย ก็แค่ดาราขายตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ไม่มีศีลธรรม ห้องหนังสือชั้นบน แพรวาเดินไปถึงประตู เคาะเบาๆสองที ข้างในเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออก พรรษิษฐ์มองเธอทีหนึ่งแล้วพูดเรียบๆ “เข้ามาคุย” แพรวาปิดประตู จากนั้นก็เดินเข้าไป ห้องหนังสือของพรรษิษฐ์ แต่กลับได้รับการตกแต่งอย่างสะดวกสบาย เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วนำของกองหนึ่งมา วางลงบนโต๊ะกาแฟ หันหลังกลับมองมาที่แพรวา “บ่ายวันนี้ มีคนพวกนี้ในกล่องจดหมายที่บ้าน ฉันอยากจะถามแก พวกนี้ใช่แกถ่ายหรือเปล่า?” พอแพรวาหลุบตามอง รูม่านตาหดเล็กน้อย มันคือรูปที่เหมือนกันกับที่ทำงานกับปิยะวัฒน์ ทั้งหมดคือภาพโฆษณาชุดชั้นในชุดนั้น แต่ของแบบนี้มันมาอยู่ที่บ้านของเธอได้ยังไง ก็เหมือนกับครั้งที่แล้วที่ไปโผล่อยู่หน้าปิยะวัฒน์อย่างไม่สามารถเข้าใจได้ สรุปครั้งนี้ใครเป็นคนทำ ใครกันที่ไม่อยากให้เธอมีชีวิตอย่างสงบ? “ใช่หรือไม่ใช่?” น้ำเสียงพรรษิษฐ์เข้มขึ้นมาหลายส่วน แพรวากดมุมปาก พูดช้าๆออกมาว่า “ใช่ค่ะ” พรรษิษฐ์เงียบ แต่แพรวารู้สึกถึงกลิ่นอายความเย็นได้จากร่างของอีกฝ่าย “ตระกูลเราเลี้ยงดูแกไม่ดีไม่ให้ข้าวกินให้เสื้อผ้าใส่หรือไง แกถึงได้ไปถ่ายภาพแบบนี้ ถ้าภาพถ่ายพวกนี้หลุดออกไป คนอื่นจะมองแกยังไง? แกเป็นลูกผู้ดีคนหนึ่ง อย่าคิดว่าการเป็นนักแสดงไม่กี่ปี ตัวเองก็จะกลายเป็นของไร้ค่าขึ้นมาจริงๆ แพรวา ลูกทำให้พ่อผิดหวังมาก!” “ยกเลิกสัญญากับบริษัทหนังของแกเดี๋ยวนี้ ฉันจะจ่ายค่าปรับเอง หลังจากนี้ไม่อนุญาตให้แกไปแสดงหนังอีก กลับมาทำงานให้ฉันว่าง่ายๆซะ!” พรรษิษฐ์โกรธมาก เป็นครั้งแรกแพรวาที่เห็นเขาพูดยาวขนาดนี้ บางทีอาจจะเป็นห่วงลูกสาวอย่างเธอบ้างนิดหน่อย ไม่อย่างนั้นคงจะไม่โกรธขนาดนี้แน่… “พ่อคะ โฆษณานั้นจะไม่เผยออกไปหรอก หนูได้ยกเลิกสัญญาร่วมงานกับเขาแล้ว ส่วนทางบริษัท ยังเหลือครึ่งเดือนก่อนที่สัญญาจะสิ้นสุด หนูสัญญากับพ่อได้ว่าจะไม่ถ่ายรูปแนวนี้แล้ว แต่หนูจะไม่ออกจากวงการบันเทิง” “แกจะต่อต้านพ่อให้ได้เลยใช่ไหม?” พรรษิษฐ์ใบหน้าแย่ลง แพรวาส่ายหัว “พ่อคะ หนูห่างจากแวดวงสังคมมานานเกินแล้ว ตอนนี้นอกจากแสดงหนูก็ทำอะไรไม่เป็นแล้ว พ่อให้หนูกลับไปทำงานที่บริษัท หนูจะไปทำอะไรได้? แล้วยังมีนิสัยที่ตรงกันข้ามของหนูกับแพรใจอีก สองคนอยู่บริษัทเดียวกัน คงทะเลาะกันทั้งเช้าเย็น พอคนในบริษัทมาเห็นเข้าจะไม่เอาไปหัวเราะเยาะเหรอคะ? หนูไม่สนใจสิ่งที่สังคมชั้นสูงของคุณพ่อพูดหรือเขาจะมองหนูยังไง ตราบใดที่พ่อเข้าใจหนูหนูก็โอเคแล้ว” เธอหยุดชั่วครูแล้วถามเสียงเบา “หรือว่าแม้แต่คุณพ่อก็ไม่เข้าใจหนู?” พรรษิษฐ์เม้มริมฝีปาก เงียบไปนาน สักพักถึงเปิดปากพูดขึ้น “พ่อยอมรับเงื่อนไขของแกก็ได้ แต่แกก็ต้องยอมรับคำขอของพ่อหนึ่งอย่าง” “อะไรคะ?” พรรษิษฐ์ยื่นรูปถ่ายใบหนึ่งไปให้ มีเบอร์โทรศัพท์อยู่ด้านหลังรูป “นี่คือเทพภพลูกชายของรองประธานธนาคาร ออมทรัพ แก่กว่าลูกไม่กี่ปี รูปลักษณ์ภูมิฐาน พ่อเคยเจอครั้งหนึ่งก็ประทับใจดี สถานที่นัดเจอ พ่อจองไว้ให้พวกแกสองคนเรียบบร้อยแล้ว ตราบใดที่แกไม่ผิดนัด ไปเจอเขา ฉันก็ยอมรับคำขอของแกได้” แพรวาใจหายวูบแล้วก็ตกใจ บทเรียนเป็นเรื่องโกหก การบังคับให้เธอไปดูตัวต่างหากที่เป็นเรื่องจริง ความจริงสังเกตดีๆก็รู้แต่แรกแล้ว ตามธรรมเนียมของเมืองตะวันแล้วลูกสาวคนโตอย่างเธอยังไม่ได้แต่งงาน แพรใจก็แต่งก่อนไม่ได้ ปีนขึ้นไปยอดสูงของตระกูลกปิตถามาแล้ว จะยอมปล่อยไปอย่างไร กดดันให้เขาต้องมาช่วยเธอแสดงละครฉากพ่อที่เข้มงวดสั่งสอนลูกสาว น่าขำจริงๆ แพรวาคว้ารูปมา มุมปากยกรอยยิ้มขึ้นมา พูดเสียงต่ำ “ได้ค่ะ หนูจะไป”
已经是最新一章了
加载中