ตอนที่ 36 เธอคิดว่าเขาจะยกโทษให้ที่เธอล่วงเกินของสูงซะขนาดนี้ไหม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 36 เธอคิดว่าเขาจะยกโทษให้ที่เธอล่วงเกินของสูงซะขนาดนี้ไหม
ต๭นที่ 36 เธอคิดว่าเขาจะยกโทษให้ที่เธอล่วงเกินของสูงซะขนาดนี้ไหม เธอกดมุมปากแน่น พูดเสียงแผ่วเบา “นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการทำให้ประธานปิยะวัฒน์เห็น ไม่งั้นฉันจะอยู่ข้างกายคุณนานขนาดนี้ได้ยังไง แล้วมันยังไม่ทำให้คุณเบื่อด้วยใช่ไหมล่ะคะ?” แววตาของปิยะวัฒน์ขรึมลง แพรวาเผยรอยยิ้มออกมามากขึ้น “ประธานปิยะวัฒน์ ฉันเป็นนักแสดงคนหนึ่งนะ การแสดงละครเรื่องพวกนี้น่ะ เป็นสิ่งที่ฉันถนัดที่สุดแล้ว คุณคงไม่คิดว่าฉันจะทำขนาดนั้นเพราะชอบคุณหรอกนะ?” ปิยะวัฒน์กำหมัดแน่น เส้นเลือดที่มุมหน้าผากปูดขึ้นมา เป็นเวลานาน ริมฝีปากบางทำปากขยับพ่นคำหนึ่งออกมาอย่างเย็นชา “ไปให้พ้น!” หัวใจแพรวาสั่นไหว เธอผลักประตูออกไปอย่างเงียบๆ เมื่อเธอออกมาจากห้องน้ำ เธอหยิบป้าย“กำลังทำความสะอาด”จากด้านข้างมาวางกั้นหน้าประตูห้องน้ำ หลังจากนั้นปัดฝุ่นบนตัวออก หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อจะโทรหาจรณ์ “ประธานปิยะวัฒน์ของพวกคุณอยู่ที่ห้องน้ำของร้านอาหาร XX คุณควรรีบมาเร็วๆหน่อยจะดีกว่านะ” ไม่รอให้จรณ์ได้ถาม แพรวาก็ได้วางสายไปแล้ว เธอหันกลับไปมองที่ห้องน้ำครู่หนึ่ง ในมือกำโทรศัพท์มือถือแน่น พร้อมกับเดินก้าวใหญ่จากไป --- “อะไรนะ” จิตราพูดด้วยเสียงสูงระดับแปด “เธอจับปิยะวัฒน์มัดไว้ที่ห้องน้ำหรอ?” “ผู้จัดการจิตรา ถึงคุณจะอยากแสดงความบูชาของคุณ ก็ไม่เห็นต้องเสียงดังขนาดนี้เลย” แพรวาเหล่มองเธอ พร้อมกับนั่งกอดขาอยู่บนโซฟา “บูชาบ้าบออะไรกันล่ะ อยู่ดีๆทำไมเธอถึงไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก” “ฉันแค่คิดจะไปดูตัวสักหน่อย ใครจะไปรู้ว่าจะดันไปเจอเขาได้ เขาเอาฉันไปติดอยู่ในห้องน้ำอยากจะได้ฉัน ฉันก็ต้องไม่ยอมอยู่แล้ว เพราะงั้นก็เลย......” แพรวาหันไปมองจิตราที่อ้าปากค้างด้วยความตื่นตกใจ ทันใดนั้นก็ได้ตบไปที่หน้าผากของเธอ “ฉันมาหาเธอเพื่อให้เธอช่วยฉันคิดหาวิธี ไม่ใช่ให้เธอมาฟังเรื่องนินทานะ” จิตราชี้ไปที่เธอ พร้อมกับมือที่สั่นอยู่นาน ถึงพูดขึ้นมาว่า “ ถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ เธอทำมันไว้ได้อย่างสวยงาม แต่เตรียมเรื่องลาออกจากวงการบันเทิงไว้ให้เรียบร้อยได้เลย จากนิสัยของไอ้เลวปิยะวัฒน์นั่น คาดว่าคงไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆแน่” แพรวาซึมลง “แล้วจะต้องทำยังไง ให้ฉันไปขอโทษหรอ?” จิตราเหล่มองเธอ “เธอคิดว่าเขาจะยกโทษให้ที่เธอล่วงเกินของสูงซะขนาดนี้ไหมล่ะ?” แพรวา ...... “โธ่ ที่จริงก็ไม่มีอะไรใหญ่ไปหรอก ถึงยังไงตระกูลของเธอก็ไม่ได้ขาดแคลนอะไร เธอกลับบ้านไปเฉยๆก็ยังได้” “ฉันจะไม่ออกจากวงการบันเทิง” ตอนที่แพรวาพูดถึงประโยคนี้ สีหน้าของเธอก็จริงจังขึ้นมาทันที การที่เธอที่กำลังยืนกรานต่อความคิดของตัวเอง ก็เป็นจุดที่จิตราไม่เข้าใจ ไม่ได้ขาดแคลนอาหาร ไม่ได้ขาดแคลนเสื้อผ้า เข้ามาในวงการบันเทิงก็ไม่คิดที่จะโด่งดังมีชื่อเสียง แต่กลับดื้อดึงไม่ยอมที่จะถอยออกไป เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าข้างในใจของแพรวาคิดอย่างไรกันแน่ “แหม ที่จริงแล้วก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดที่เธอคิดไว้หรอก เธอก็เห็นว่าเรื่องนี้มันผ่านมาจนบ่ายแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องเกิดขึ้นแต่เนิ่นๆแล้ว ในเมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ไม่แน่ประธานใหญ่ปิยะวัฒน์อาจจะใจดีขึ้นมาก็ได้” แพรวาอุทานออกมาอย่างรวดเร็ว “ฉันรู้สึกผิดต่อความหุนหันพลันแล่นของตัวเองขึ้นมาหน่อยแล้ว” “ยังไม่แน่สักหน่อยว่าเรื่องมันจะเป็นยังไง อย่าเพิ่งทำเป็นคนที่มัวแต่กังวลอยู่กับเรื่องที่แก้ไขไม่ได้เลย จริงด้วย ฉันจะบอกข่าวดีเธออย่างหนึ่ง นักแสดงโดยรวมของโชคชะตาได้รับการยืนยันแล้วนะ ธนชัยส่งแฟกซ์มาให้ฉันเมื่อเช้า นอกจากบทละครบางส่วนที่ถูกแก้ไข ยังมีอีกเรื่องก็คือรายชื่อของนักแสดง เธอลองทายดูสิว่าเขาให้เธอแสดงคู่กับใคร?” “ใคร?” "จักรพรรดิแห่งวงการภาพยนตร์ชญตว์ไง ฉันได้ยินมาว่าผู้กำกับธนชัยลงทุนไปเยอะมากกว่าจะดึงเขามาได้ ทีแรกคิดว่าเป็นบริษัทเล็กๆ คิดไม่ถึงว่าว่าจะมีเงินทุนที่หนาขนาดนั้น ต้องเป็นคนรวยที่โง่ประเภทนั้นด้วย แค่ค่าตัวชญตว์คนเดียวก็ตั้ง30ล้าน หนังเรื่องนี้ถ้าไม่มีเงินร้อยสองร้อยล้านก็ถ่ายออกมาไม่ได้นะเนี่ย ดังระเบิดแน่ ผู้กำกับธนชัยทุ่มสุดตัวมาแล้ว ถ้าไม่ดังก็แย่แล้ว” แพรวายิ้มพร้อมพูดว่า “ธนชัยมีความสามารถนี้ ความเก่งกาจช่วง2-3ปีมานี้ทำให้สายตาของเขาแม่นยำขึ้น จะดังไหมก็เป็นแค่เรื่องเร็วๆนี้ล่ะ” “มีความเป็นไปได้ แต่น่าเสียดายที่มีคนมองข้ามไป” จิตราเหลือบมองเขา จงใจทำท่าถอนหายใจ แพรวาแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “เวลาก็สายมากแล้ว ฉันกลับไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้” “ไปเถอะ ออกไปด้วยกัน เดี๋ยวฉันก็ต้องกลับบ้านกับชนัตไปพบแม่ของเขา” จิตราพูด พร้อมกับกระโดดลงมาจากบนโซฟา แล้วเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมรองเท้า ต่างคนต่างแยกย้ายกันที่ใต้ตึก แพรวาเรียกแท็กซี่กลับไปยังเขตพญายม เมื่อเดินเข้ามายังประตูก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติภายในห้อง พรรษิษฐ์ที่นั่งอยู่ในห้องรับประทานอาหารด้วยใบหน้าที่เย็นชา นอกจากเขาแล้ว ในห้องรับประทานอาหารก็ไม่มีคนอื่นอีก แพรวาเปลี่ยนรองเท้า แล้วเดินเข้ามาพร้อมกับโทนเสียงที่ต่ำลง “พ่อคะ” พรรษิษฐ์ยกเปลือกตาขึ้นมองเธอ เม้มปากแน่น แล้วพูดด้วยเสียงเข้ม “ วันนี้ที่ไปเจอกับคุณชายเทพภพมาแกพูดอะไรกับเขา? ทำไมคุณชายเทพภพถึงบอกว่าลูกมีแฟน” “คุณชายเทพภพเข้าใจผิดแล้ว วันนี้ที่เจอกัน ได้เจอกับเพื่อนพอดี เลยพูดล้อเล่นไปสองประโยค ไม่คิดว่าคุณเทพภพจะคิดเป็นจริงเป็นจัง” พรรษิษฐ์ไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด “แต่คุณชายเทพภพบอกว่า แกไม่ได้อธิบายอะไรให้เขาฟังสักคำ?” “คุณเทพภพไม่ให้เวลาหนูอธิบายเลย แล้วหนูจะอธิบายให้ใครฟังได้ล่ะ ?” พรรษิษฐ์จ้องมองเธอไม่กี่วินาที แล้วจึงพูดว่า “แพรวา พ่อรู้ว่าลูกฉลาด แต่ถ้าลูกไม่ชอบคุณชายเทพภพ ก็กลับมาพูดกับพ่อได้ ไม่จำเป็นเลยที่จะไปเล่นกับจิตใจของคน” แพรวารู้สึกผิดหวัง “ พ่อคะ พ่อมีมุมมองความคิดที่กำหนดมาอย่างชัดเจนแล้วว่าหนูตั้งใจที่จะทำให้คุณเทพภพเสียหน้า ทำไมยังจะต้องมาถามอะไรกันมากมายด้วย?” “แก......” “ถ้าที่เธอพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ทำไมต้องกลัวที่พ่อเธอจะถามด้วย ?” ญาณินีที่ยืนอยู่ตรงบันได เสียงสูงแทรกคำพูดของพรรษิษฐ์เข้ามา เธอจึงค่อยๆก้าวลงจากบันไดลงมา “พ่อของเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรองประธานเทวเทพ ทั้งสองครอบครัวสนับสนุนในเรื่องการแต่งงานนี้อย่างบริสุทธิ์ใจ คุณชายเทพภพเป็นคนใจกว้าง ถ้าเธอไม่ทำอะไรที่มากเกินไป เขาคงไม่โทรศัพท์มาหา ว่าครอบครัวของเราไม่มีความจริงใจ” ใจกว้าง? ในใจของแพรวายิ้มอย่างดูแคลน เทพภพมองดูรูปลักษณ์ของเธอ ลูกตาแทบจะหล่นออกมาแล้ว ความใจกว้างสักนิด คุณเห็นมันออกมาจากตรงไหนกัน” เธอเม้มริมฝีปาก ไม่กล่าวอะไรออกมา พรรษิษฐ์กระแอม แล้วพูดว่า “พรุ่งนี้พ่อจะเตรียมของขวัญไว้ แกก็ไปเจอกับคุณชายเทพภพอีกครั้ง แล้วขอโทษต่อหน้าเขา พูดแก้ไขเรื่องเข้าใจผิดเข้าเรียบร้อยซะ” ในที่สุดแพรวาก็เปิดเปลือกตาขึ้น “หนูไปเจอกับคุณเทพภพตามคำขอของพ่อเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับอย่างอื่น หนูไม่ได้รับปากคุณพ่อนะคะ” เมื่อเธอพูดจบ ก็ไม่สนว่าปฏิกิริยาของพรรษิษฐ์และภรรยาจะเป็นอย่างไร ก้าวเท้าเดินตรงไปที่ห้อง เพื่อที่จะให้แพรใจได้แต่งงานกับปิยะวัฒน์เร็วขึ้น กระทั่งนิสัยใจคอของคนพวกเขายังไม่เลือกด้วยซ้ำว่า แค่คัดๆมาสักคนเพื่อให้เธอแต่งงานด้วย ความลำเอียงให้คนๆเดียว ทำไมถึงทำเรื่องที่ทำให้คนโกรธจนผมชี้ขนาดนี้ได้กัน ฉันไม่ใช่ลูกของคุณหรือยังไงกัน... อาการง่วงซึมทำให้นอนหลับไปทั้งคืน เพิ่งตื่นมาตอน 8 โมงในวันต่อมา เธอเอื้อมมือแตะที่หน้าผาก พร้อมกับถอนหายใจในใจ มิน่าล่ะเมื่อคืนถึงได้เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ที่แท้ก็เป็นไข้นี่เอง เธอหายาลดไข้จากในลิ้นชัก แล้วก็กลืนมันไปพร้อมกับน้ำ เมื่อเธอวางแผนจะนอนเล่นบนเตียง ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น “แพรวา วันนี้ตอนเช้าฉันได้รับโทรศัพท์จากพวกบริษัทที่ร่วมทำสัญญากัน บอกว่าจะขอยกเลิกสัญญากับพวกเรา......”
已经是最新一章了
加载中