ตอนที่60 เป็นฝ่ายเริ่มจูบ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่60 เป็นฝ่ายเริ่มจูบ
ต๭นที่60 เป็นฝ่ายเริ่มจูบ เห็นได้ว่าแค่เวลาในการคิดก็คงไม่ได้ใช้อย่างละเอียดถี่ถ้วนมี แพรวารีบสลัดรองเท้าออก ถอดเสื้อคลุม แล้วปีนข้ามราวเหล็ก กระโดดลงไปในทะเลที่ดูน่ากลัวนั้น ถึงตอนนี้บริวัตรเริ่มมีสติ มือของเข้าสั่นเทา ถอดชุดสูทและกระโดดตามลงไปอีกคน เสียงความเคลื่อนไหวอึกทึกครึกโครมดังลั่นที่ตรงนี้ ดึงดูดความสนใจจากผู้คนอย่างรวดเร็ว มีคนร้องเสียงดัง “มีคนตกน้ำ” เดิมทีบนดาดฟ้าก็เสียงดังอยู่แล้วชั่วพริบตาก็เกิดความวุ่นวายขึ้น มีคนจำนวนมากไปเกาะที่ราวเหล็กเพื่อจะก้มลงมองที่ด้านล่าง แต่ว่าแสงยามค่ำคืนมืดมิดโดยสิ้นเชิงไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ชัดเจน พนักงานรักษาความปลอดภัยบนเรือสำราญก็ออกมาปฏิบัติหน้าที่ ด้านหนึ่งก็ดูแลรักษาความปลอดภัยของคนที่อยู่บนเรือ อีกด้านก็ปล่อยเรือช่วยชีพฉุกเฉินลงไปช่วยคนที่ตกน้ำ “เหมือนกับคุณนัยนิตจะตกลงไปในน้ำ คุณบริวัตรก็กระโดดตามลงไปช่วย เมื่อสักครู่ฉันเห็นพวกเขายืนคุยกันอยู่ตรงนั้น อาจจะเป็นเพราะตอนที่เรือโคลงไม่ทันระวังจึงตกลงไปในน้ำแน่ๆ” “ใช่หรือ แต่ว่าฉันได้ยินเสียงสามคนนะ เหมือนกับว่ามีคนกระโดดตามลงไปอีกหนึ่งคน” “เธอเห็นชัดไหมว่าเป็นใคร” “ไม่ชัด ได้ยินแค่เสียง” “อากาศเย็นขนาดนี้ น้ำก็เย็น อย่าให้มีเรื่องอะไรเลย” เดิมทีปิยะวัฒน์กำลังพูดคุยกับคนจำนวนหนึ่งที่ร่วมมือกันทางธุรกิจ ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวของคนบนเรือแปลกๆ จึงเดินเข้ามาเช่นกัน ด้านข้างมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ เขาแค่ทำหน้าเฉยๆบนใบหน้าไม่ปรากฏท่าทีอะไร ดูที่นาฬิกาข้อมือ แพรวาไปเข้าห้องน้ำเป็นเวลาสิบกว่านาทีแล้วดูนานเกินไปแล้ว ปิยะวัฒน์ขมวดคิ้ว เดินถอยออกมาจากกลุ่มคนถือโทรศัพทืโทรไปหาแพรวา รอสายไม่นานโทรศัพท์ก็มีคนรับสายเขาเดินไปด้วยพูดไปด้วย “ทำไมไปตั้งนานแล้วยังไม่กลับมาอีก” เสียงที่ดังมาจากทางนั้นไม่ใช่เสียงของแพรวาแต่กลับเป็นเสียงของผู้ชายที่ไม่รู้จัก “ขอโทษครับคุณ โทรศัพท์เครื่องนี้ผมเก็บได้ที่ดาดฟ้า” ปิยะวัฒน์คิ้วขมวด มุมปากบิดเป็นเส้นตรง “เจ้าของโทรศัพท์อยู่ไหน” “ผมไม่เห็นเจ้าของโทรศัพท์ครับ แต่ว่าข้างๆโทรศัพท์มีเสื้อสูท กับรองเท้าส้นสูงสีขาวอมเทาถอดไว้ข้างๆหนึ่งคู่” การเคลื่อนไหวของปิยะวัฒน์ชะงักงัน คิดเรื่องที่คนกลุ่มนั้นพูดคุยกันขึ้นมาทันใด เขาสบทออกมาหนึ่งประโยคแล้ววางสายโทรศัพท์ รีบเดินหันกลับไปเบียดเข้าไปในกลุ่มคน เขากระโดดตามลงไปบนเรือกู้ภัยพร้อมกับกลุ่มช่วยเหลือ น้ำในทะเลเย็นมาก อยู่ในน้ำเลือดเหมือนจะไม่ไหลเวียน ทั้งแขนและขาเย็นไปหมด หลังจากแพรวากระโดดลงมาจึงรู้สึกเสียใจทีหลัง ตัวเองจะมาแสดงเป็นวีรสตรีไปทำไม ภรรยาของบริวัตร เขาเองยังไม่ร้อนใจเลยแล้วเธอจะมาร้อนใจทำไมกัน ในใจแม้จะคิดตัดพ้อขนาดนี้ แต่มือนั้นก็ไม่ยอมแพ้สักนิด พอกระโจนถึงทะเลเธอก็รีบว่ายน้ำไปทางนัยนิต แพรวาอยู่ใกล้ตำแหน่งที่นัยนิตอยู่มากกว่าบริวัตรที่จะว่ายเข้าไปด้านข้าง อาจจะเป็นเพราะน้ำเย็นเกินไป อีกทั้งรู้สึกตกใจ สภาพของนัยนิตดูไม่ดีมากๆ หลังจากแพรวาเข้าถึงตัวนัยนิต อีกฝ่ายก็จับแขนแพรวาแน่น แรงของนัยนิตเยอะมาก ชั่วขณะหนึ่งแพรวาดิ้นไม่หลุด แพรวาใช่มือเดียวล็อกนัยนิตไว้ อีกมือทุ่มเทไปกับการว่ายเข้าหาเรือ อากาศในปอดน้อยลงไปทุกที น้ำหนักของนัยนิตที่เกาะอยู่ด้วยบนตัวค่อยๆทำให้แพรวาใช้แรงเพิ่มมากขึ้น กำลังของร่างกายเริ่มจะไม่ไหว โชคดีที่เวลานี้เอง บริวัตรว่ายเข้ามาถึงทั้งคู่ แพรวาส่งนัยนิตไปให้เขา หายใจหอบพูดรวดเร็ว “รีบพาเธอขึ้นไปข้างบน” เรือช่วยชีวิตอยู่ในน้ำห่างจากพวกเขาประมาณสิบเมตร ท่าทางบริวัตรดูเหนื่อยอ่อน เดิมทีผมที่ถูกจัดแต่งทรงอย่างดีถูกน้ำซัดเสียทรง ใบหน้าเปียก บริวัตรรับนัยนิตจากแพรวา หันกลับไปมองที่เธอพูดเสียงขรึมขึ้นมา “คุณยังไหวหรือเปล่า” แพรวาผงกหัว แม้กระทั่งพูดยังไม่มีแรงจะพูด บริวัตรเข้ามารับตัวนัยนิตค่อยๆว่ายไปที่เรือช่วยชีพลำนั้น แพรวาว่ายตามหลังบริวัตร ว่ายอยู่ช้าๆแต่ว่าการเคลื่อนไหวเห็นได้ชัดว่าไม่เร็วเท่าเมื่อสักครู่ บริวัตรยังได้ยินเสียงว่ายน้ำตามมาจากข้างหลังจึงไม่ได้หันกลับไปดูเวลาประมาณครึ่งนาทีในที่สุดจึงช่วยนัยนิตขึ้นไปบนฝั่งได้ บริวัตรหายใจหอบ ออกแรงกดที่หน้าอกของนัยนิตจนกระทั่งเธอสำลักน้ำออกมาถึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ไม่รอให้บริวัตรพูดอะไรออกมา จู่ๆคอเสื้อถูกคนดึงขึ้นมา ปิยะวัฒน์หน้าเคร่งเครียดพูด “แพรวาล่ะ” “ไม่ได้อยู่ข้างหลังหรือ” พูดอยู่ด้วยแล้วหันกลับมามอง เห็นน้ำที่เรียบนิ่งไม่มีแม้เงาของแพรวา ทรวงอกของปิยะวัฒน์บีบรัดอย่างรุนแรง ปล่อยบริวัตรออกแล้วกระโจนลงไปในน้ำ แพรวารู้สึกว่าปีนี้โชคชะตาไม่ค่อยดี ทั้งๆที่ช่วยคนจนขึ้นไปถึงฝั่งแล้ว คาดไม่ถึงขาของตัวเองนั้นจะไม่ได้เรื่องถึงขนาดเป็นตะคริว เดิมทีแพรวามีแรงพอเหลือนิดหน่อย ดิ้นรนอยู่สักพักแม้กระทั่งเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือยังตะโกนไม่ออก ตัวเธอเองเริ่มจะไม่ไหว 。 อากาศในช่องทรวงอกน้อยลงเรื่อยๆตรงหน้าแพรวาเริ่มเลือนราง ชั่วขณะหนึ่งแพรวาคิดว่าตัวเองจะตายแล้ว ว่ากันว่าช่วงสุดท้ายชีวิตของคนล้วนจะคิดถึงคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตตัวเอง ความทรงจำมากมายที่อยู่ในหัวเริ่มทยอยไหลออกมา สุดท้ายหยุดที่วัยรุ่นผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ถนนเส้นเล็กๆปกคลุมไปด้วยร่มไม้ ผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ทสีขาวปั่นจักรยานอยู่ข้างหลังมีหญิงสาวชุดสีขาวนั่งซ้อนท้ายผ่านมาตรงนี้ ร้องเพลงเสียงไพเราะเสนาะหู สิ่งที่ไม่เหมือนก็คือครั้งนี้ เธอยืนอยู่ใต้ร่มไม้วิ่งไล่ตามรถไป เธอวิ่งอย่างรวดเร็วแต่ว่ารถก็ยิ่งขับเร็วขึ้น แรงของเธอกำลังจะหมด ตามองที่รถค่อยๆห่างไกลออกไปเรื่อยๆ น้ำตาจึงไหลออกมา ทันใดนั้น ที่จริงแล้วรถจักรยานนั้นจอดแล้ว ผู้ชายคนนั้นก้าวขาข้างหนึ่งเหยียบที่พื้น จู่ๆหันกลับมามองเธอ หัวใจแพรวาบีบรัดแม้กระทั่งการก้าวเท้าก็ไม่สามารถทำได้ เธอมองเขาลงจากรถทีละก้าวทีละก้าวมาทางเธอ หน้าตาของเขายังคงเลือนราง แต่ว่าใจของเธอกลับเต้นเร็วขึ้น เร็วขึ้นจนกระทั่งเขาเดินมาถึงด้านหน้าของเธอ จับคางเธอดึงขึ้น ก้มลงมาจูบ เสี้ยวเวลานั้น แพรวารู้สึกว่าการเต้นของหัวใจหยุดลง ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้านั้นชัดขึ้นมาเรื่อยๆ นำมาประกอบกันกับเงาทีละนิดๆ รอจนกระทั่งตอนที่รวมเป็นรูปร่างสมบูรณ์ ในที่สุดแพรวาจึงเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน คนนั้นคือปิยะวัฒน์ “ห้ามหลับ” เสียงพูดของปิยะวัฒน์ที่ตัวยังแช่อยู่ในน้ำทะเลดังทุ้มต่ำขึ้นมาที่ข้างหู แพรวาลืมตาขึ้นมาเบลอๆ มองเห็นหูของปิยะวัฒน์อย่างเลือนลาง มืออีกข้างของปิยะวัฒน์กอดแพรวาส่วนอีกข้างแหวกว่ายน้ำทะเล เส้นเลือดที่หน้าผากของปิยะวัฒน์ปรากฏขึ้นมาเหมือนใช้กำลังมหาศาลอยู่ตลอดเวลา หัวใจของแพรวาสั่นไหวเล็กน้อย ยื่นมือไปจัดผมที่อยู่บนหน้าของปิยะวัฒน์ไปไว้ข้างหลัง ปิยะวัฒน์มองแพรวาอย่างประหลาดใจ สายตาของแพรวายังดูสับสน เหมือนสติยังไม่กลับมาแต่ยังตั้งใจดู ปิยะวัฒน์กำลังจะพูดอะไรกับแพรวาอยู่พอดี ทันใดนั้นแพรวาก็เข้ามาจูบที่ปากของปิยะวัฒน์ ประมาณว่าคาดไม่ถึงว่าแพรวาจะเล่นไม้นี้ การเคลื่อนไหวของปิยะวัฒน์ดูเงอะงะ ทั้งสองคนจึงสำลักน้ำพร้อมกัน แค่กๆ ลอยโผล่พ้นน้ำขึ้นมา แพรวาก็ไออย่างรุนแรง สีหน้าของปิยะวัฒน์ดูไม่ได้ โอบเอวแพรวา พูดกัดฟัน “ถ้ายังไม่อยู่เฉยๆผมจะโยนคุณทิ้ง”
已经是最新一章了
加载中