ตอนที่70
ตนที่70
จ่ายเงินแล้ว
“ถิรค่อนข้างแปลกใจ“ใครกันที่แอบมาจ่ายก่อน”
“ตอนกินข้าวไม่มีใครลงมาเลยไม่น่าจะมีคนแอบลงมาจ่ายก่อนได้”น้ำเสียงถิรชะงักไปเงยหน้าพูด“แพรวาแน่ๆแพรวากลับไปก่อน”
แพรวามาจ่ายเงินทั้งสภาพอย่างนั้นคงถูกคนจับได้แน่ๆว่าเป็นดารา”
“พูดอะไรเยอะแยะดูสิดูว่าใครเซ็นชื่อก็รู้แล้ว”
ทุกคนพูดกันอยู่แล้วก็ขอให้พนักงานเอารายการที่ถูกเซ็นชื่อเมื่อสักครู่ออกมา
บนใบรายการมีตัวหนังสืออยู่มุมขวาลอยขึ้นมาเขียนว่าแพรวา
ทุกคนต่างก็คิดว่าตัวเองกำลังเป็นหน่วยFBIกันดูยังไงก็ชัดเจนว่าแพรวาจ่าย
พอรู้ที่มาที่ไปแล้วทุกคนก็เลิกสนใจเริ่มเก็บของกันทยอยๆออกมา
มีแค่อาจารย์ตุนท์กับแก้วที่จ้องบนชื่อนั้นอย่างลืมตัว
เพราะว่าแก้วนั้นรู้ว่าแพรวาเมาหนักไม่รู้เรื่องยังไงก็ไม่สามารถที่จะเซ็นจ่ายเงินได้แน่นอนนอกจากผู้ชายคนนั้นที่มารับแพรวาเป็นคนจัดการดูแล้วน่าจะไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ธรรมดาช่วยจ่ายเงินงานเลี้ยงรุ่นให้เพื่อนเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ
อาจารย์ตุนท์กลับมามีสติจากการใจลอยเพราะว่าชื่อที่เซ็นอยู่บนนั้นมันไม่ใช่ลายมือของแพรวา
ถ้าพวกเขาจ่ายเงินที่ชั้นล่างอยู่เมื่อกี้อาจารย์ตุนท์ไม่น่าคลาดกันกับพวกเขานอกซะจากว่าตอนที่เขาลงมาข้างล่างที่ลานจอดรถพวกขั้งคู่ยังอยู่ที่ชั้นบน
อาจารย์ตุนท์กำมือแน่นก็แค่เมื่อกี้ที่สวนกันแค่นิดเดียวเท่านั้น
แพรวาหลับครั้งนี้หลับลึกมากตอนตื่นนอนฟ้ากำลังจะสว่างแสงภายในห้องยังคงมืดอยู่แพรวามองเห็นใบหน้าของปิยะวัฒน์สลัวๆ
ริมฝีปากคลี่ออกใช้มือจับไปที่จมูกปิยะวัฒน์แกล้งหยอกเล่นอยู่สักพักถึงกระโดลงจากเตียงไปอาบน้ำ
เมื่ออาบน้ำเสร็จออกมาก็เห็นปิยะวัฒน์ตื่นแล้ว
ปิยะวัฒน์ใส่แค่กางเกงนอนลายแถบขาวน้ำเงินนั่งเอาขาไขว้กันอยู่บนโซฟาผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงปิดหน้าดูห่อเหี่ยวแต่กลับเซ็กซี่มากมาย
แพรวาเช็ดผมไปด้วยเพ่งมองลวนลามปิยะวัฒน์ด้วยสายตาเงียบๆไปด้วย
รอเมื่อแพรวาเป่าผมแห้งแล้วปิยะวัฒน์ก็กวักมือเรียกพูดว่า“มานี่ผมมีเรื่องจะปรึกษากับคุณ”
“เรื่องอะไรหรอ”
“แพรวาถามไปด้วยแล้วก็เดินอย่างว่าง่ายเข้าไปหาปิยะวัฒน์ด้วย”
ปิยะวัฒน์ดึงแพรวาเข้ามากอดเธอไว้ก้มหัวต่ำสูดดมกลิ่นหอมจากผมของแพรวาพูดน้ำเสียงเบาๆ“ย้ายของเข้ามา”
แพรวาชะงักไปรู้สึกไม่แน่ใจกับสิ่งที่ได้ยินจึงถาม“คุณจะให้ฉันมาอยู่ที่นี่หรอคะ”
“อืมครับ”
ปิยะวัฒน์ดึงสางๆผมแพรวา“คุณมาอยู่ที่นี่ผมค่อนข้างสบายใจมากกว่า”
ตาของแพรวาวูบไหวผ่านไปสักพักจึงยิ้มแล้วพูดว่า“ไม่น่าจะสะดวกนะคะถ้าหากว่านักข่าวตามมาเจอที่นี่ก็จะทำให้รู้เรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคนนะคะ”
“อยากรู้ก็รู้ไปสิ”
สมเป็นคำตอบของปิยะวัฒน์เอาแต่ใจมาก
——แพรวาเงียบไปเล็กน้อยสักพักถึงพูดขึ้นมาว่า“เรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วกันจิตราหาห้องให้ฉันได้แล้วอีกไม่กี่วันก็จะย้ายออกมาถึงเวลานั้นถ้าคุณอยากไปหาฉันก็ไปได้ตลอดเวลา”
จู่ๆปิยะวัฒน์ก็หยิกเข้าที่เอวของแพรวาแพรวาร้องเสียงเจ็บออกมา
“จะให้ผมช่วยย้ายของไหม”
น้ำเสียงราบเรียบแสดงชัดว่าข่มขู่
แพรวากดมุมปากสักพักถึงพูด“ให้ฉันย้ายเมื่อไหร่”
“วันนี้”
ปิยะวัฒน์พูดอยู่พร้อมทั้งใช้มือคลึงๆตรงที่ตัวเองหยิกแพรวาจูบที่คางของแพรวาพูดเสียงต่ำว่า“เชื่อผมนะเด็กดีของผม”
ปิยะวัฒน์พูดคำไหนคำนั้นวันนั้นที่พูดเสร็จก็ให้คนไปช่วยแพรวาเก็บของ
เพราะว่ากะทันหันแพรวากลับจากกองถ่ายก็เลยตรงกลับบ้านตระกูลเกาไปเก็บของ
ซึ่งตรงกับวันเสาร์อาทิตย์พอดีพรรษิษฐ์แพรใจและญาญินีอยู่บ้านกันหมด
แพรวาเข้าไปในบ้านก็เจอหน้าพรรษิษฐ์
ประมาณว่านึกไม่ถึงว่าจู่ๆแพรวาจะกลับมาสีหน้าของพรรษิษฐ์ค่อนข้างอิหลักอิเหลื่อตั้งแต่มีเรื่องเทพภพคราวนั้นพ่อกับลูกก็ยังไม่เคยได้นั่งคุยกันดีๆเลย
แพรวาเหลือบตามองพูดเรียบๆ“สวัสดีค่ะพ่อสวัสดีค่ะคุณอาญาญินี”
พรรษิษฐ์ตอบรับคำกระแอมไอถามว่า“วันนี้ทำไมเลิกงานเร็ว”
“ค่ะ”
แพรวาตอบรับคำเย็นชา“พ่อคะหนูหาห้องได้แล้ววันนี้กลับมาเก็บของพ่อมีธุระก็ทำเถอะค่ะหนูเก็บของเสร็จก็จะไป”
“ลูกจะย้ายออกหรอ”
พรรษิษฐ์คิ้วขมวดขึ้น“ทำไมกะทันหันขนาดนี้ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นลูกพูดถึง”
“ความจริงก็ว่าจะพูดอยู่ค่ะแต่สถานการณ์ไม่ค่อยอำนวย”แพรวาปัดๆผมพูด“หนูพาพนักงานมาช่วยขนของสองคนเดี๋ยวจะเข้าไปเก็บของในห้องแล้วก็จะไปทันทีไม่น่าจะรบกวนทุกคนมากค่ะ”
“ก่อนหน้านี้แกเองก็เห็นด้วยว่าจะกลับมาอยู่บ้านไม่ใช่หรอแล้วทำไมอยู่ดีๆก็จะออกไปอยู่ข้างนอกอีก”
แพรวากระตุกมุมปาก“หนูกลับมาเดือนหนึ่งแล้วแต่พ่อก็ยังไม่ให้คนมาจัดห้องของหนูให้สักทีแบบนี้ก็แสดงว่าไม่อยากให้หนูมาอยู่”
พรรษิษฐ์มีสีหน้าละอายใจ“แพรวาลูกห้องลูกของค่อนข้างเยอะต้องใช้เวลาในการเก็บหน่อย”
“หนูรู้ค่ะดังนั้นจึงไม่อยากหน้าด้านอยู่ให้คนอื่นเค้าวุ่นวาย”
“จะพูดอะไรก็พูดให้ดีนะๆแกพูดอ้อมไปอ้อมมาแบบนี้จะว่าใครหรอ”
แพรใจทำหน้าบึ้งมองเหมือนกับแพรวากำลังแย่งห้องไป
แพรวาเหลือบมองไปที่แพรใจอย่างเย็นชาพูดเรียบๆว่า“ที่ฉันพูดเมื่อกี้ใครรับไปก็คนนั้นแหละ”
“แก”แพรใจพูด
“ปัง”
แพรวาปิดประตูทันทีตัดขาดจากเสียงที่อยู่ข้างนอก
ของของแพรวาไม่เยอะมากตอนนั้นก็คิดว่าไม่ได้จะอยู่นานของส่วนหนึ่งจึงยังอยู่ในกระเป๋าเดินทางจัดเก็บของพวกนี้ก็คงจะใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่
หลังจากที่จัดเรียบร้อยแล้วก็โทรศัพท์ให้พนักงานสองคนนั้นมาขนเอากระเป๋าเดินทางไป
พรรษิษฐ์ยืนดูอยู่ข้างๆก่อนพูดว่า
“แพรวารอก่อนลูกพ่อมีเรื่องอะไรจะคุยด้วยสักหน่อย”
แพรวาเงยหน้าขึ้นมองพรรษิษฐ์ยกมือโบกให้พนักงานย้ายของออกไปก่อน
ตอนนี้ก็เหลือแค่พ่อกับลูกพรรษิษฐ์ถึงกระแอมไอแล้วพูดขึ้นมา
“แพรวาวันนั้นลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
ในใจรู้สึกเหยียดหยันขึ้นมาพูดเย็นชาว่า“เรื่องมันผ่านมาตั้งหลายวันแล้วพ่อมาถามตอนนี้มันไม่ช้าไปหน่อยหรอคะ”
พรรษิษฐ์ได้ยินแบบนี้ก็ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมา“แพรวาตอนนั้นบริษัทต้องการเงินก้อนนั้นมากแค่เพียงแต่มีทางพ่อก็จะไม่พาหนูไปพ่อรู้ในใจหนูคงเกลียดพ่อมากแต่ที่พ่อทำก็เพื่อครอบครัวนี้”
แพรวาพูดแทรกขึ้นมา“พ่อบอกว่าเพื่อครอบครัวนี้แต่ไม่ใช่เพื่อครอบครัวที่มีแพรวาแต่กลับเป็นครอบครัวของแพรใจเพื่ออนาคตของแพรใจดังนั้นพ่อจึงตัดสินใจพาหนูไปเป็นตัวต่อรองแต่ว่าทำไมล่ะทั้งๆที่หนูก็เป็นลูกพ่อทำไมพ่อถึงใจดำกับหนูขนาดนี้”