ตอนที่74เป็นลม
ตนที่74เป็นลม
“คุณแน่ใจหรอ?”
ปิยะวัฒน์มองสีหน้าของเธอและสงสัยในคำพูดของเธอ
แพรวาเพียงแต่ยิ้มออกมาแล้วตอบเขาว่า“อือระบบย่อยอาหารของฉันไม่ค่อยดีเมื่อก่อนตอนที่กินอาหารร่วมกันฉันก็เป็นแบบนี้บ่อยๆเออใช่สิ!วันนี้คุณต้องไปดูงานไม่ใช่หรอขึ้นเครื่องตอนแปดโมงเช้าคุณรีบไปสิเดี๋ยวได้ตกเครื่องกันพอดี”
ปิยะวัฒน์มองนาฬิกาจากนั้นเขาก็หันกลับไปมองแพรวาแล้วพูดกับเธอว่า“ผมให้จรณ์พาคุณไปโรงพยาบาลตรวจดูหน่อยดีกว่า”
“คุณให้ฉันพักผ่อนเถอะฉันพักผ่อนสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
แพรวาผลักไหล่เขาออกไปก่อนจะพูดว่า“คุณรีบไปเถอะฉันจะนอนแล้ว”
ปิยะวัฒน์ไม่รบกวนเธอเขาอาบน้ำและเก็บของ
เมื่อเขาจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วเขามานั่งข้างๆเตียงแล้วยื่นมือไปลูบหัวของแพรวาอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า“ผมไปก่อนน่ะถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรหาจรณ์”
“อื้อ”
แพรวาเม้มปากก่อนจะพูดว่า“รีบกลับมาน่ะ”
ปิยะวัฒน์ก้มลงไปจูบเธอจากนั้นเขาก็ลากกระเป๋าเดินทางเดินออกไป
เมื่อเขาไปแล้วแพรวานอนขดตัวเหมือนตัวกุ้ง
เธอปวดท้องอย่างรุนแรงปวดมาเป็นครั้งคราวราวกับลำใส้จะขาดออกจากกัน
ไม่นานเธอก็พยายามจับมือถือขึ้นมาโทรหาจิตรา“จิตราสะดวกมารับฉันสักหน่อยไหม?”
“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรที่นี้เรียกรถได้ไม่ค่อยสะดวกอ่ะ”
“รอฉันแป๊บนึงน่ะฉันกำลังไป”
วางโทรศัพท์เสร็จเธอก็ลุกขึ้นนั่งดื่มน้ำร้อนรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเธอก็ไปเปลี่ยนชุด
ตอนที่มารับเธอไปที่สตูดิโอจิตราเห็นสีหน้าของแพรวาเธอมีสีหน้าที่กังวล“เธอมีอาการเหมือนคนกำลังท้องหรือว่าเธอจะตั้งท้องจริงๆ”
แพรวาเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมาว่า“จะเป็นไปได้ยังไงก็เมื่อวานตอนกลางคืนฉันกินปิ้งย่างเข้าไปก็เลยอาจจะทำให้ท้องเสียก็ได้”
“คุณปิยะวัฒน์ไม่รู้หรอเขาทำไมไม่ส่งเธอไปโรงพยาบาล?”
“เขาจะส่งฉันไปแล้วแต่ฉันไม่ยอมอีกอย่างฉันก็ไม่ใช่คนที่อ่อนแอแค่กินยาก็พอแล้ว”
เมื่อเธอพูดจบเธอก็ยกเสื้อคลุมมาห่มตัวไว้แล้วก็หลับตาก่อนที่จะพูดกับจิตราว่า“ถ้าถึงแล้วปลุกฉันด้วยตั้งแต่เมื่อคืนถึงตอนนี้ยังนอนไม่ค่อยหลับเลย”
“เธอนอนเถอะถ้าถึงแล้วเดี๋ยวฉันปลุกเธอเอง”
จิตรารับปากแพรวาเธอได้ลดความเร็วลงและพยายามขับให้นุ่มที่สุด
สภาพของแพรวาตอนนี้มันไม่ดีขึ้นเหมือนอย่างที่เธอพูดเลย
สีหน้าของเธอซีดเผือดถึงแม้ว่าเธอจะแต่งหน้าแล้วก็ยังไม่สามารถปกปิดไว้ได้
ธนชัยจ้องไปที่ใบหน้าของเธออย่างไม่วางใจจากนั้นก็ถามเธอว่า“แพรวาคุณยังไหวหรือเปล่าถ้าไม่ไหวพรุ่งนี้ค่อยมาถ่ายก็ได้น่ะ”
แพรวายิ้มก่อนพูดว่า“ไม่มีปัญหาค่ะผู้กำกับ”
ก่อนหน้าเธอเลื่อนมาแล้วสองวันแพรวาจึงรู้สึกเกรงใจตอนนี้เธออยากอดทนให้มันผ่านไปเธอไม่อยากรบกวนคนอื่นอีกแล้ว
ธนชัยทำอะไรไม่ได้นอกจากพูดว่า“โอเคถ้าไม่ไหวแล้วจริงๆก็บอกแล้วกัน”
แพรวายิ้มแล้วพยักหน้าให้กับธนชัย
วันนี้เป็นฉากที่เธอต้องถ่ายกับจินเฮิงในท่ามกลางสายฝนเป็นอารมณ์ที่ค่อนข้างดุเดือดจุนเฮิงแสดงได้ดีมากตอนที่ถ่ายทำฉากนี้กับเขาทำให้แพรวาเข้าถึงอารมณ์ได้เร็วขึ้น
ฉากนี้แพรวาตั้งใจจะให้ผ่านในเทคเดียวผลของการที่เธอประเมินความอดทนของตัวเองสูงไปหลังจากที่วิ่งตากฝนเป็นระยะทางประมาณร้อยเมตรเหมือนโลกทั้งโลกดับสนิทจากนั้นก็หมดสติไป
เธอตื่นมาอีกครั้งในตอนเช้าของวันที่สองของการหมดสติไปแขนข้างหนึ่งมีเข็มให้น้ำเกลืออยู่ข้างๆเตียงมีคนคนนึงนั่งฟุบอยู่บนเก้าอี้ทีแรกแพรวาเห็นได้ไม่ค่อยชัดว่าเป็นใครแต่เธอค่อยๆเพ่งมองดูชัดๆในที่สุดเธอก็รู้ว่าคนคนนั้นคือปิยะวัฒน์นั้นเอง
เธอกระพริบตาปริบๆถึงแน่ใจว่าเธอไม่ได้มองผิด
เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวของเขาเป็นชุดเดียวกันกับที่เขาใส่เมื่อวานก่อนที่เขาจะออกจากห้องไป
แขนเสื้อของเขาถูกพับอยู่ดูเหมือนว่าตอนที่เขากลับมาถึงไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลย
“เธอหลับตาจากนั้นก็ดึงเข็มน้ำเกลือที่แขนเธอออกแล้วเธอก็ลุกขึ้นนั่งหยิบผ้าห่มหวังว่าจะเอาไปห่มให้กับเขา
เมื่อผ้าห่มเพิ่งจะไปโดนตัวของเขาเขาก็รู้สึกตัว
ใบหน้าหล่อเหลาดูตกใจเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขารีบคว้ามือเธอมาจับไว้แล้วถามขึ้นว่า“ทำไมลุกขึ้นมาหล่ะ?”
แพรวากำผ้าห่มไว้แล้วพูดว่า“ไหนบอกว่าจะไปสองวันถึงจะกลับมาไม่ใช่หรอแล้วทำไมกลับมาก่อนแถมยังไม่บอกอีกต่างหาก”
ปิยะวัฒน์ดึงเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมกอดของเขาจากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า“บอกแล้วว่าคุณไม่สบายให้ไปโรงพยาบาลไงแล้วทำไมคุณถึงไม่ฟังผมหล่ะ?”
ติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้สาเหตุเกิดมาจากการที่ไปปาร์ตี้กันวันนั้นแล้วไปกินอาหารทะเลที่ปรุงไม่สุกเข้าทำให้ร่างกายขาดน้ำอย่างรวดเร็วจนทำให้เธอก็แทบจะไปถ่ายไม่ได้ที่จริงแล้ววันนี้เขามีนัดทานข้าวกับลูกค้าแต่เมื่อได้รับโทรศัพท์จากจรณ์ก็เปลี่ยนเที่ยวบินรีบกลับมาตั้งแต่กลางดึกเมื่อวาน
แพรวาก้มหน้าก้มตาเหมือนกับเด็กที่ทำความผิดแล้วโดนจับได้พูดเบาๆว่า“ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นหนักขนาดนี้”
มองเธอแล้วปิยะวัฒน์เองก็โกรธเธอไม่ลง
“ตอนนี้เป็นไงบ้างยังมีตรงไหนไม่สบายอีกไหม?”
แพรวาใช้มือลูบที่ท้องของตัวเองแล้วทำเสียงอย่างน่าสงสารว่า“หิว”
มันก็ควรจะหิวไหมอาเจียนทั้งวันทั้งคืนไม่มีอะไรตกถึงท้องไม่หิวสิถึงจะแปลก
ปิยะวัฒน์ตบตูดเธอแล้วพูดว่า“ไปนอนรอที่เตียงผมจะลงไปดูสักหน่อยว่ามีอะไรกินได้บ้าง”
แพรวากลับไปนอนที่เตียงปิยะวัฒน์ได้เรียกให้หมอมาดูอาการเธอจากนั้นเขาค่อยออกจากห้องไป
ปิยะวัฒน์ออกจากห้องไปได้ไม่นานจิตรากับนิรมลก็เข้ามา
นิรมลสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงยาวสีน้ำเงินและผมสีแดงน้ำตาลดัดลอนอยู่เหนือไหล่ดูดีมาก
ช่วงนี้แพรวายุ่งๆอยู่กับการถ่ายละครทำให้นานแล้วไม่ได้เจอเธอวันนี้ได้เจอเธอแพรวาดีใจมาก
“นิรมลเธอมาได้ยังไง?”
จิตรารีบยกมือขึ้นแล้วพูดว่า“ขอบอกก่อนเลยว่าไม่ใช่ฉันที่ปล่อยข่าว”
นิรมลวางดอกไม้ในมือไว้บนโต๊ะก่อนตอบว่า“หมอคนที่เฝ้าไข้เธอเขาเป็นพี่ชายของเพื่อนฉันสมัยเรียนฉันได้ยินนางพูดเป็นไงมาไงถึงได้มานอนโรงพยาบาล?”
จิตราพูดพึมพำ“ก็เพราะว่าปิยะวัฒน์พาไป……….”
“ปิยะวัฒน์?”นิรมลถามอย่างแปลกใจ“แพรวาเธอกับปิยะวัฒน์ไม่ใช่เลิกกันแล้วหรอ?”
แพรวาจ้องไปที่จิตราแต่จิตราหลบหน้าแล้วพูดว่า“พวกเธอค่อยๆคุยกันน่ะเดี๋ยวฉันขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกแป๊บนึง”
จากนั้นก็เหลือเพียงแพรวากับนิรมลในห้องนิรมลถามกลับไปอีกรอบว่า“ที่จริงแล้วมันเรื่องอะไรกัน?”
“เรื่องมันมีอยู่ว่าเราตัดกันไม่ขาด”
นิรมลเห็นแพรวาไม่ค่อยเต็มจะพูดสักเท่าไหร่นิรมลก็เลยไม่ถามอีก
“เออใช่!นิรมลเมื่อสองวันก่อนฉันไปร่วมปาร์ตี้ฉันได้เจอเพื่อนเก่าด้วย”
นิรมลขยับเข้ามายิ้มแล้วก่อนจะพูดว่า“จริงหรอ”
“ใช่เธอยังจำแก้วที่อยู่หอพักเดียวกันกับพวกเราได้ไหมเด็กผู้หญิงที่ตัวผอมๆขาวๆอ่ะตอนนี้นางแต่งงานมีลูกแล้วลูกนางได้สามขวบแล้วมั้งเออใช่!ตอนที่นางแต่งงานนางบอกกว่านางถามเธอถึงช่องทางติดต่อของฉันแต่ก็ติดต่อไม่ได้”