ตอนที่89จะชดใช้หนี้ความรักนี้อย่างไร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่89จะชดใช้หนี้ความรักนี้อย่างไร
ป๴ยะวัฒน์ไปถึงโรงแรมอย่างรวดเร็วเขาแตะการ์ดเข้าไปในห้อง ภายในห้องเงียบมากเขาเคลื่อนไหวไปทั่วแต่ก็ไม่พบแพรวา ในห้องไม่ได้เปิดไฟภายในห้องมืดเต็มไปด้วยกลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์เขาขมวดคิ้วเปิดสวิตช์ที่อยู่ด้านข้างแสงไฟส่องสว่างเดินไปตามพรมแคชเมียร์ เมื่อถึงระเบียงเขาก็เห็นแพรวาโดยทันที เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวขนาดใหญ่เท้าเปล่านั่งอยู่ที่พื้นถัดจากหน้าต่างสูงจรดเพดาน ด้านข้างของมือมีแก้วไวน์ทรงสูงวางอยู่นอกจากนี้ยังมีขวดไวน์อีกสองขวดหนึ่งในนั้นเปิดขวดแล้วและหนึ่งในนั้นยังเหลืออีกหนึ่งในสาม ถัดจากขวดไวน์มีกล่องกระดาษตั้งอยู่ในกล่องเต็มไปอัลบั้มเขาเหลือบมองมันอย่างไม่สนใจเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าเธอย่อเข่าลง “ทำไมถึงหลบมาดื่มไวน์อยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ?” เสียงทุ้มต่ำของเขาทำให้รู้สึกถึงความอ่อนโยนและความสบายใจ แพรวานิ่งเงียบเธอหันไปมองและเอนตัวไปในอ้อมแขนของเขา ปิยะวัฒน์หยุดชะงักไปชั่วขณะค่อยๆลูบที่ไหล่ของเธอพูดเสียงเรียบ“ที่พื้นมันเย็นห็แนอุ้มเธอขึ้นดีไหม?” แพรวาส่ายหัวเธอไม่พูดอะไรออกมาสักคำเธอตัวสั่นและทันใดนั้นเองปิยะวัฒน์รู้สึกได้ถึงของเหลวอุ่นๆเปียกเข้ามาในเสื้อ เขาเหลือบมองยื่นมือไปช้อนหน้าของเธอขึ้น ดวงตาบวมแดงก่ำจมูกเปลี่ยนเป็นสีแดงยังมีรอบคราบน้ำตาราวกับว่าเธอกำลังเสียใจเหลือเกิน “ร้องไห้ทำไม?” เขาเอื้อมมือไปปาดคราบน้ำตาของเธอจำใจพูด“โตขนาดนี้แล้วทำไมยังทำตัวเป็นเด็กๆอีก” แพรวายังคงร้องไห้เงียบๆเธอร้องหนักขึ้นเรื่อยๆนั้นยิ่งทำให้ดูน่าสงสารเข้าไปใหญ่ ปิยะวัฒน์ไม่เคยเห็นแพรวาในด้านนี้มาก่อนผู้หญิงที่เขาประทับใจคนที่ถึงแม้จะได้รับความเจ็บปวดมามากแต่ก็แทบจะไม่มีน้ำตาหรือแม้จะร้องไห้แต่ก็อดทนมาตลอดแต่เวลานี้เธอร้องไห้อย่างไม่เป็นตัวเองสิ่งที่เขามองเห็นในดวงตาคู่นั้นคือความอ่อนแอและความเจ็บปวด เขาไม่ถามอะไรเธอแม้แต่ประโยคเดียวเพียงแค่ย่อตัวและอุ้มเธอขึ้นมา แพรวาฝังหน้าของเธอไว้ที่แผงอกของเขาหลังจากนั้นก็ร้องไห้จนผล็อยหลับไป เขารอให้เธอสงบลงแล้วปิยะวัฒน์จึงค่อยออกมาจากห้องนอน เขายืนอยู่หน้าหน้าต่างที่สูงจรดเพดานมองดูสมุดสเก็ตซ์ภาพที่อยู่ในกล่องจากนั้นก็ย่อตัวลงหยิบมันขึ้นมาทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น “คุณหาแพรเจอไหม?” เสียงเป็นห่วงของน้าแก้วดังออกมาจากโทรศัพท์ ปิยะวัฒน์ตอบ“อื้ม”ถามกลับ“วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?” “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” น้าแก้วนึกถึงกล่องสมุดสเก็ตซ์ขึ้นมาได้เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป“ฉันกลับมาจากบริษัทเธอก็เป็นแบบนั้นไปแล้ว” ปิยะวัฒน์ขมวดคิ้วเป็นปมอยุ่นานแล้วจึงพูดขึ้น“พรุ่งนี้เลื่อนตารางของเธอออกไปให้หมดเลย” เมื่อประธานพูดจบประโยคก็วางสายโทรศัพท์ไป นักลงทุนพูดออกมาเองน้าแก้วมีความสุขที่ได้ให้วันหยุดแก่ศิลปินของพวกเขา หลังจากที่วางสายไปได้ไม่นานปิยะวัฒน์ก็โทรหาจรณ์ต่อ“เช็คให้ทีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับคุณผู้หญิง” หลังจากที่วางแล้วเขาเหลือบมองสมุดสเกตซ์ที่พื้นพวกนั้นและหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องนอน เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดมาแพรวาปวดหัวไปหมด เธอกุมขมับตัวเองตั้งสติอยู่พักหนึ่งถึงจึงค้นพบว่าตัวเองได้กลับมาที่เรสสิริคอนโดแล้ว เมื่อคืนตอนดึกกลับมาได้อย่างไรเธอจำอะไรไม่ได้ทั้งหมดเลยจำได้แค่เพียงสมุดสเก็ตซ์ที่อยู่ในกล่องลังเท่านั้น สมุดสเก็ตซ์ เธอลุกออกจากเตียงและวิ่งออกไปเท้าเปล่า เมื่อประตูก็ชนเข้ากับปิยะวัฒน์เข้าอย่างจัง เพราะกล้ามเนื้อแข็งๆของอีกฝ่ายทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมา ปิยะวัฒน์จับไหล่ของเธอขมวดคิ้วถาม“เธอวิ่งทำไม?” แพนวาสูดจมูกครู่หนึ่งแล้วจึงค่อยตอบ“ทำไมคุณยังไม่ไปทำงานอีกล่ะ?” “วันนี้วันหยุด” ปิยะวัฒน์ค่อยๆพูดๆในมือยื่นแก้วมาให้เธอ “ดื่มนี่สิ” แพรวารับไปถามขึ้น“อะไรเหรอ” ปิยะวัฒน์มองดูเธอพูดหน้าตาย“ยาพิษ” แพรวาหัวเราะออกมาพูด“ของคุณสามีเป็นยาพิษฉันก็จะกิน” เธออย่างสดใสเหมือนกับว่าคนที่เมาคนที่ร้องไห้เมื่อคืนนี้ไม่ใช่เธออย่างไรอย่างนั้น เธอสวมหน้ากากให้ตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็จะดูมีความสุขตลอดเวลาแต่ในอีกด้านหนึ่งก็ไม่รู้ว่าเต็มไปด้วยความเศร้าและความเจ็บปวด เมื่อเข้าใจได้อย่างนี้มันทำให้เขาไม่พอใจนิดหน่อย เขากดริมฝีปากเมื่อเห็นว่าแพรวาดื่มน้ำมะนามน้ำจนหมดเขาจึงเอ่ยถาม“เธอมีอะไรจะบอกกับฉันไหม?” แพรวาตกใจ“ไม่มีนะ” ปิยะวัฒน์จ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจู่ๆก็หมุนตัวเดินห่างออกไป แพรวาที่ยืนอยู่ตรงนั้นค่อยๆหยิบถ้วยขึ้นมาเบาๆไม่นานนักก็เดินออกมา ปิยะวัฒน์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะบนโต๊ะมีนมสองแก้วตั้งอยู่และซาลาเปาหนึ่งจาน แพรวาทำความสะอาดห้องนอนถัดจากโต๊ะกาแฟก็เห็นเข้ากับกล่องใบนั้น เธอถอดหายใจวิ่งมาหาปิยะวัฒน์และก็นั่งลง “คุณสามีคุณโกรธรึเปล่า?” “คุณสามีคะชาน้ำผึ้งคุณทำได้เธออร่อยมา ยังคงอ่อนอื่นต่อไป แพรวากัดปาดของเธอยกมือขึ้นมาสามนิ้วพูดอย่างจริงจัง“ฉันสาบานได้อนาคตฉันจะไม่ดื่มเยอะมากขนาดนี้คุณสามีจะให้อภัยฉันได้ไหม” ในที่สุดปิยะวัฒน์ก็ขับตัวเขามองเธอและถามว่า“เธอคิดว่าฉันจะโกรธเธอเพียงเพราะเรื่องกินเหล้าอย่างนั้นเหรอ?” แพรวาถาม“คุณมีเหตุผลอย่างอื่นเหรอ?” ปิยะวัฒน์เลียริมฝีปากพับหนังสือพิมพ์พูด“ไปล้างมือก่อนกินข้าวไป” แพรวาลุกขึ้นเดินได้สามก้าวจู่ๆร่างกายก็หันหลับมาโอบที่คอของเขา “คุณสามีเราสองคนอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปตลอดได้ไหม?” เสียงของเธอฟังดูจะร้องไห้ปิยะวัฒน์ขยับตัวฝ่ามืออันใหญ่กุมน้อยเอาไว้กระซิบพูด“ตราบเท่าที่เธอต้องการ” แพรวาหลับตาลงตาร้อนผ่าวโน้มตัวเข้าไปประทับจูบที่ข้างใบหูของเขากระซิบอย่างแผ่วเบา“ถ้าเป็นไปได้” เมื่อปิยะวัฒน์กินข้าวเช้าเสร็จก็จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดสัดสัปดาห์แต่ความคืบหน้าของโครงการนั้นเร็วมากช่วงนี้เขายุ่งมากเพราะว่าเมื่อวานต้องไปตามหาแพรวาจึงทำให้งานต้องชะงักวันนี้เขาจึงต้องกลับไปทำงานชดเชย หลังจากที่ส่งปิยะวัฒน์แล้วแพรวาก็นั่งจัดเรียงอัลบั้มในกล่องต่อ ความทรงจำที่เลือนรางเหล่านั้นผลุดขึ้นมาเพราะอัลบั้มภาพในกล่องนี้มันทำให้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ความทรงจำที่เธออยากรู้มากที่สุดหากเมื่อใดที่เธอพยายามนึกถึงมันเธอมักได้แต่รู้สึกเสียใจเหมือนโชคชะตากำลังเล่นตลกกับเธอ ติดหนี้สามารถชำระคืนได้ด้วยเงินแต่ถ้าเป็นหนี้ความรักล่ะจะชดใช้คืนอย่างไร? แพรวานั่งกุมหน้าบนพื้นเพียงพริบตาเดียวร่างกายและจิตใจรู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้า บริษัทเอส.อาห้องทำงานของท่านประธาน ปิยะวัฒน์หยิบรูปสองสามใบขึ้นมาคิ้วเลิกขึ้น รูปถ่ายที่เบลอมากแต่อย่างไรก็ตามมันสามารถดูออกได้ว่าคนที่เด่นที่สุดก็คือแพรวา เธอกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งเตี้ยๆมีผู้ชายสวมชุดสูทยืนอยู่ตรงหน้าสองคนนั้นคนหนึ่งก้มหัวลงคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นระยะห่างที่ราวกับว่ากำลังจูบกันอยู่อย่างไรอย่างนั้น 
已经是最新一章了
加载中