ตอนที่ 105 ยอมแพ้เถอะ คนที่คุณลุงปิยะวัฒน์รักก็คือคุณป้าของฉัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 105 ยอมแพ้เถอะ คนที่คุณลุงปิยะวัฒน์รักก็คือคุณป้าของฉัน
ต๭นที่ 105 ยอมแพ้เถอะ คนที่คุณลุงปิยะวัฒน์รักก็คือคุณป้าของฉัน แพรวารู้สึกว่ารสนิยมของตัวเองแตกต่างจากเด็กสมัยนี้มาก เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าแต่งตัวแบบนี้มันสวยตรงไหน เด็กผู้หญิงคนนี้สูงมาก แพรวาสูงหนึ่งเมตรเจ็ด เด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ได้แย่ไปกว่าเธอ แต่ใบหน้าที่ดูเด็ก ทำให้ความเป็นเด็กยังไม่จางหายไป แต่ว่าจากประสาทสัมผัสทั้งห้าแล้ว รู้ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นคนที่สวยมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อเห็นแพรวา อีกฝ่ายก็ตกใจเช่นกัน จากนั้นก็ดันตัวเดินเข้ามาข้างใน “คุณลุงปิยะวัฒน์ คุณลุงห้า คุณลุงก็อยู่ด้วยเหรอคะ?” เธอทักทายด้วยความคุ้นเคย วางกระเป๋าแอร์เมสสีดำไว้บนเก้าอี้ จากนั้นก็ไปนั่งที่นั่งของแพรวา “นลิน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ทำไมไม่มาเที่ยวหาลุงห้าบ้างเลยละ?” ฐานทัตยิ้ม คุยเล่นกับสาวน้อย “เล่นที่ต่างประเทศจนเพลินสิท่า แม้แต่โทรหาลุงห้ายังไม่โทรเลยนะเรา” นลินหันไปมองบนใส่เขา “ก็ลุงห้าเปลี่ยนเบอร์บ่อยนี่คะ จะไปจะมาก็ไม่มีร่องรอยอะไรเลย ถ้าหนูคิดถึงคุณลุง เดี๋ยวหนูก็หาคุณลุงเจอเองแหละ” ฐานทัตมองไปที่เธอ “เด็กคนนี้นี่ ไปอยู่เมืองนอก กลับมากลายเป็นเด็กก้าวร้าวแล้ว เธอดูเธอแต่งตัวสิ ข้างนอกอุณหภูมิสูงสุดสิบองศา เธอยังจะแต่งตัวอย่างนี้อีกเหรอ?ไม่กลัวหนาวจนขาแข็งรึไง?” “คุณลุงจะไปรู้อะไร นี่เรียกว่าแฟชั่นค่ะ หนูกับเพื่อนทำวงร็อคด้วยกัน ทุกคนทำผมทรงนี้กันหมด เจ๋งมาก!” ตอนที่แพรวาเข้ามาข้างในและปิดประตู ทุกคนกำลังคุยกันอย่างมีความสุข เธอมองไปยังที่นั่งที่เธอนั่งเมื่อครู่ ที่ตอนนี้นลินกำลังนั่งอยู่ ทั้งยังเสื้อคลุมของเธอที่ตกลงไปกองอยู่ที่พื้น เธอหยุดไปพักหนึ่ง เดินไปหยิบเสื้อคลุมขึ้นและเดินไปนั่งที่ข้างฐานทัต ตอนแรกฐานทัตไม่ทันได้สังเกต แต่เมื่อเขาเห็นอย่างนั้นก็ลุงขึ้นยืนพร้อมพูดว่า “พี่สะใภ้ พี่มานั่งที่ผมเถอะ เรามาแลกที่กัน” ฐานทัตแยกออกจากปิยะวัฒน์ เขาตั้งใจจะให้เขาทั้งสองคนนั่งด้วยกัน ปิยะวัฒน์เองก็ส่งสายตาเป็นเชิงบอกให้แพรวาไปนั่งที่ตรงนั้น แพรวายิ้มบางๆ พูดขึ้น“นั่งที่ไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ อาหารเย็นหมดแล้ว ทานข้าวกันเถอะ” เธอพูดพลางยกตะเกียบขึ้น เธอยกน้ำซุปมาคิดจะยื่นให้ปิยะวัฒน์ แต่นลินยื่นตะเกียบในมือตัวเองให้แล้ว แพรวานิ่งไปพักหนึ่ง เธอลดสายตาลงมองกุ้งที่อยู่ในชาม ปิยะวัฒน์เห็นการท่าทีของเธอ แพรวาไม่ได้พูดอะไรออกมาและอดทนอย่างนั้น มันทำให้เขาปวดใจ ถึงฐานทัตจะเป็นไม่ค่อยสังเกต แต่ครั้งนี้เขากับเห็นปัญหาบางอย่าง เขากระแอมขึ้น เพื่อเป็นการเปิดบทสนทนา “นลิน นี่ป้าแพรวา เป็นภรรยาของลุงปิยะวัฒน์ สวยใช่ไหมล่ะ?” นลินเหลือบมองไปที่แพรวา พูดเยาะเย้ย “ก็งั้นๆค่ะ สวยไม่เท่าคุณป้าของหนู” “ปึก——” ปิยะวัฒน์วางถ้วยชาลงบนโต๊ะเสียงดัง นั่นทำให้นลินอดไม่ได้ที่จะกลัวจนตัวสั่น พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “คุณลุงปิยะวัฒน์.......” ปิยะวัฒน์มองด้วยสายตาเย็นชา “ไปเรียนต่างประเทศไม่กี่ปี เธอลืมมารยาทขั้นพื้นฐานไปหมดแล้วอย่างนั้นเหรอ นี่คือทัศนคติที่ควรมีกับผู้ใหญ่สินะ?” มือของนลินสั่นเทา เธอกัดริมฝีปากตัวเอง วางตะเกียบลง ก้มหน้าไปทางแพรวาแล้วพูด“ขอโทษค่ะป้าแพรวา เมื่อครู่นี้หนูไม่มีมารยาทเองค่ะ” จากที่บรรยากาศในห้องกำลังดีๆก็กลับกลายเป็นว่าตึงเครียดขึ้นมา แพรวารู้สึกไม่สบายใจ เธอเม้มปาก พูดขึ้น“คุณลุงปิยะวัฒน์ของเธอแค่ล้อเล่นน่ะ กินข้าวกันเถอะ” นลินขานรับ “ขอบคุณค่ะคุณป้าแพรวา” หลังจากนั้นก็ยกตะเกียบขึ้นและกินข้าวอย่างเชื่อฟัง สีหน้าของปิยะวัฒน์ค่อยๆคลายลง ฐานทัตเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “นลิน ก่อนหน้านี้เธอเรียนเชลโล่นี่ ตอนนี้ไม่เรียนแล้วเหรอ?” นลินถอนหายใจ “หนูไม่มีความสามารถเหมือนคุณป้า เรียนยังไงก็เรียนได้ไม่ดี ทุกวันเหนื่อยอย่างกับลูกหมาเลยค่ะ แบบทดสอบก็สอบไม่ผ่าน หนูก็เลยยอมแพ้แล้วละคะ” ฐานทัตพูดโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย “ตอนแรกอะไรเข้าสิงเธอกันนะ ไปเรียนเชลโล่ เธอคิดว่าใครก็เล่นได้อย่างนั้นเหรอ?กลับมาเรียนโรงเรียนซะดีๆ ลุงห้าแนะนำผู้ชายหล่อมาเป็นแฟนเราได้นะ” นลินมองเขาด้วยแววตาว่างเปล่า “แฟนผู้ชายจะทำให้เธอสนุกนะ” “เด็กคนนี้ เรียนสิ่งไม่ดีมาจากลุงปิยะวัฒน์แล้ว” บนโต๊ะอาหาร ส่วนมากจะเป็นฐานทัตที่พูดคุยกับนลิน ปิยะวัฒน์แทบจะไม่ค่อยพูดอะไรเลย นอกจากตอนที่นลินถาม เขาถึงตอบ สิ่งที่เขาทำคือก้มหน้าก้มตาแกะเนื้อปู แพรวาที่ไม่คุ้นเคยกับนลินเลยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งทำให้ไม่ค่อยได้พูดสักเท่าไหร่ จากที่นัดกันไว้ดิบดี เมื่อกลายมาเป็นเช่นนี้ มันทำให้ความอยากอาหารทะเลของแพรวาลดน้อยลง ทันใดนั้นเอง ก็มีเนื้อปูมาวางอยู่ตรงหน้าเธอ แพรวาตกใจ เงยหน้าขึ้นสบตากับปิยะวัฒน์ เขายิ้มให้เธอ พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “กินเยอะๆหน่อยสิ” แพรวารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ขอบคุณนะคะ” นลินมองสิ่งที่ทั้งสองคนทำให้กันก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เธอกำตะเกียบที่อยู่ในมือแน่น จนปลายนิ้วเปลี่ยนเป็นสีขาว “พี่ใหญ่ มาโชว์หวานกันแบบนี้ไม่มีจริยธรรมเลยนะ! พวกเรามีเพื่อตัวน้อยมาด้วยนะ เข้าใจไหม?” ฐานทัตแกล้งพูดหยอก ดวงตาที่เหมือนกับพีชคู่นั้นมองไปมองมา สายตาที่ดูน่าอึดอัดใจ เป็นเรื่องยากที่แพรวาจะรู้สึกเกรงใจแบบนี้ ประธานนิ่งเงียบ เขาชำเลืองมองฐานทัตและพูดอย่างเย็นชา “จุดยืนของนายค่อนข้างชัดเจนเลยนะ” ฐานทัต..... เวลาล่วงเลยไปนาน พนักงานของร้านขอพบฐานทัต เพราะแขกที่มาทานอาหารมีปัญหา ฐานทัตจึงต้องขอตัวออกไปก่อน หลังจากที่ฐานทัตออกไปได้ไม่นาน โทรศัพท์ของปิยะวัฒน์ก็มีสายเข้า เขาหยิบโทรศัพท์และออกไปรับสายข้างนอก ภายในห้องจึงมีเหลือแค่แพรวาและนลิน แพรวาเองก็ไม่ใช่คนที่กระตือรือร้น เมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า เธอมักจะแสดงออกอย่างเงียบๆ เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่คิดที่จะเริ่มหาหัวข้อสนทนาใดๆ แต่เธอสัมผัสได้ถึงสายตาที่นลินมองมาที่เธอ สายตาที่พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและดูแคลนเธออยู่ในตอนนี้ “คุณท้องอยู่เหรอ?” แพรวาอึ้งไปชั่วขณะ พูดพลางหัวเราะ“ใครบอกเธอว่าฉันท้อง?” “ก็ที่คุณลุงปิยะวัฒน์แต่งงานกับคุณ ไม่ใช่เพราะว่าคุณท้องหรอกเหรอ?” แพรวา...... ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้รู้มากแบบนี้นะ? เธอยักไหล่ “น่าเสียดายนะที่ฉันไม่ได้ท้อง” “อย่างนั้นแล้วทำไมคุณลุงปิยะวัฒน์ถึงแต่งงานกับคุณละ?” นลินกัดฟันพูด เพราะดูเหมือนว่าการที่ปิยะวัฒน์แต่งงานกับเธอเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ แพรวายิ้ม “คำถามนี้เธอควรไปถามคุณลุงปิยะวัฒน์ของเธอมากกว่านะ ทำไมเขาถึงแต่งงานกับฉัน อาจเป็นเพราะชอบฉันมากๆเลยมั้ง” “หลงตัวเองให้มันน้อยๆหน่อย!” แพรวาตวาด “คุณลุงปิยะวัฒน์ไม่มีทางชอบคุณหรอก คุณลุงชอบป้าของฉัน!” แพรวานิ่งไปพักหนึ่ง เธอถามเสียงเข้ม“คุณป้าของเธอคือใคร?” นลินรู้ตัวได้ว่าตัวเองเผลอพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป เธอทำหน้านิ่งไม่ยอมตอบคำถาม แพรวาไม่รีบร้อน แค่เด็กคนหนึ่งที่ความอดทนไม่มากเท่านั้นเอง “ถ้าเขาไม่ชอบฉัน เขาจะแต่งงานกับฉันทำไมละ?ชีวิตคนเราก็ยาวนานอยู่นะ ใครจะชอบคนๆเดียวไปได้ตลอดกันละ สาวน้อย เธอยังเด็กเกินไปสำหรับเรื่องนี้” นลินที่กำลังไม่พอใจพูด“คุณลุงปิยะวัฒน์ไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่ คุณลุงรักคุณป้าของฉัน คุณยอมแพ้ซะเถอะ!” 
已经是最新一章了
加载中