ตอนที่ 138 ต้องเจอกันอีกแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 138 ต้องเจอกันอีกแล้ว
ต๭นที่ 138 ต้องเจอกันอีกแล้ว แพรวายิ้มจางๆ และพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า "เป้าหมายของเธอเหมือนกับฉันเลย" ซือทู่หลินสะดุ้ง "เธอก็จะเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณลุงปิยะวัฒน์เหมือนกันหรอ?" น้ำเสียงนี้... บ้าเอ้ย ทำไมถึงฟังไม่ลื่นหู "ใช่ คงต้องเจอกันอีกแล้วสิ" สิ่งที่แปลกคือ ครั้งนี้ซือทู่หลินไม่โมโห แต่หัวเราะเยาะอย่างแปลกประหลาด ก่อนพูดว่า "หวังว่าวันนั้นเธอคงจะไม่ร้องไห้กลับบ้านนะ" "ใช่หรอ? งั้นฉันอวยพรให้เธอสมหวังนะ" อายุสิบหกสิบเจ็ดเริ่มเข้าใจโลกแล้ว ตอนที่แพรวาเป็นเด็กอายุเท่านี้ยังไม่กล้าต่อเถียงต่อคำเลย แต่ซือทู่หลินเหมือนกับไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากครอบครัว อย่าหาว่าปิยะวัฒน์ไม่อยู่เลย แม้แต่ตอนที่อยู่ เธอก็มักแสดงท่าทางไม่ไว้หน้าใครๆ ซือทู่หลินเผยสีหน้าแดงก่ำ และจ้องมองเธออย่างไม่วางสายตา จากนั้นก็หันหลังวิ่งออกไป ระหว่างทางกลับ ผ่านห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จู่ๆแพรวาก็ตะโกนต้นว่า "หยุดก่อน เดี่ยวฉันจะลงไปซื้อของสักหน่อย" ต้นน้ำสะดุ้ง "ที่นี่มีคนเยอะมากเกินไป ถ้าหากคุณอยากได้อะไร เดี่ยวผมช่วยซื้อให้" "ไม่เป็นไร" แพรวากระพริบตา "เดี่ยวฉันปกปิดหน้าตา คงจำไม่ได้แน่ อีกอย่างของที่ฉันอยากซื้อค่อนข้างเฉพาะทางด้วย ฉันกลัวว่าคุณจะซื้อผิดและต้องวิ่งกลับไปซื้อใหม่" "ถ้าเช่นนั้นเดี่ยวผมเข้าไปเป็นเพื่อน" ต้นยังคงไม่ไว้วางใจ "คุณรอฉันบนรถยนต์นี้แหละ หากเกิดปัญหาอะไร เดี๋ยวฉันโทรศัพท์หา" เมื่อเห็นเธอพูดแบบนี้ ต้นก็ไม่กล้าดึงดันอีก แพรวาสวมหน้ากาก และลงจากรถยนต์ ถึงแม้ว่าก่อนหน้าจะได้สัญญาจะให้กระดุมคู่หนึ่งให้กับปิยะวัฒน์ แต่เพราะตรงกลางเคยหายไปครั้งหนึ่ง เลยมักคิดว่าไม่ค่อยโชคดีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเลยต้องการส่งของขวัญให้เขาอีกอย่างหนึ่ง เมื่อครุ่นคิดกลับคิดไม่ออกว่าจะส่งอะไรให้ดี ตอนที่เพิ่งผ่านห้างสรรพสินค้า เธอเห็นป้ายโฆษณาข้างบนอยู่ จู่ๆเธอก็เกิดความคิดออก เธออยากส่งรูปภาพให้กับเขา เธอไม่ได้จับดินสอวาดรูปมาหลายปีแล้ว เลยไม่รู้ว่าวาดเป็นอย่างไรบ้าง อันที่จริงเธอเองก็ไม่มีความมั่นใจในตัวเองสักเท่าไหร่ แต่หากให้ของระลึกแบบนี้เขาคงชอบแน่ หลังจากเดินผ่านหลายร้าน ในที่สุดเธอก็สามารถหาของที่ต้องการในร้านภาพวาดพู่กันแห่งหนึ่งได้ กระดาษคุณภาพ มีดคัตเตอร์ พู่กันวาดภาพ และสีย้อม หลังจากเลือกเสร็จ เธอก็ไปจ่ายเงินยังไม่ทันควักเงิน จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านข้าง "แพรวาหรา?" แพรวาสะดุ้งตกใจ และเงยหน้าขึ้น คนที่เข้าแถวรอจ่ายเงินข้างหน้าเป็นคุณนายนัยนิตของบริวัตร แพรวาไม่สามารถถอดหน้ากากออก เลยยิ้มแย้ม พร้อมโบกมือทักทายเธอ นัยนิตยิ้มแย้ม และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ช่วยคิดเงินด้วยกันหน่อยค่ะ" แพรวาเพิ่งพูดว่าไม่เป็นไร แต่เธอได้ยื่นบัตรให้พนักงานแล้ว สถานที่แบบนี้ปฏิเสธลำบาก แพรวาเลยต้องพูดเบาๆว่าขอบคุณ หลังจากออกจากร้านภาพวาดพู่กัน แพรวาก็พูดว่า "ขอบคุณอีกครั้งนะคะ คุณนายนัยนิต เดี่ยวฉันเลี้ยงกาแฟให้สักแก้วนะคะ" นัยนิตมองประเมินท่าทางของเธอ และถามว่า "คุณจะสะดวกไหม?" แพรวาทำท่ามือ "โอเค" ร้านกาแฟอยู่ชั้นสาม คนในร้านไม่ได้มีคนเยอะมาก แพรวาเลือกนั่งตรงที่นั่งใกล้กับมุมห้อง "คาฟูชิโน" แพรวาหันหน้าถามนัยนิต "คุณนายนัยนิตจะดื่มอะไรค่ะ?" "เหมือนกับคุณเลยค่ะ" นัยนิตนิ่งสักพัก "อย่าเรียกฉันว่าคุณนายนัยนิตเลย ชื่อเรียกนี้ฟังดูแล้วเหมือนเยาะเย้ยยังไงไม่รู้" แพรวาสะดุ้ง และพูดว่า "ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น" "ฉันรู้ค่ะ" นัยนิตยิ้มจางๆ "คุณเคยช่วยชีวิตฉันมาครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าฉันเชื่อคุณ" เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา แพรวาก็รู้สึกกลุ้มใจ "ฉันทำแบบนั้นเขาเรียกว่าช่วยหรอ พูดออกมาแล้วรู้สึกอับอาย" นัยนิตก้มหน้าลง จู่ๆแพรวาก็สังเกตเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ผอมมากกว่าตอนงานเลี้ยงวันเกิดเมื่อเดือนที่แล้ว สีผิวของเธอปรากฏสีขาวซีดเหมือนเป็นโรค ร่างกายที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมใหญ่ผอมบางมาก แขนก็เรียวเล็ก และยังเห็นรอยแผลเขียวช้ำที่เห็นได้ชัดด้วย แพรวารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอหลบสายตาเหมือนกับเขินอาย "วันนั้นฉันทะเลาะกับบริวัตร คุณคงได้ยินข่าวมาแล้วใช่ไหม?" จู่ๆนัยนิตก็พูดขึ้นมา แพรวาสะดุ้งตกใจ และพูดอย่างเก้อเขินว่า "วันนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ..." "คุณไม่ต้องตื่นตูมหรอก" นัยนิตยิ้มแย้ม "ความสัมพันธ์ของฉันกับบริวัตร ในกลุ่มของพวกเขาล้วนไม่เป็นความลับแล้ว และไม่มีอะไรต้องปิดบัง" เรื่องครอบครัวของคนอื่น แพรวาไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทำได้เพียงฉีกปากยิ้มแห้งๆ "คุณกลับปิยะวัฒน์ยังอยู่ด้วยกันไหม?" ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่รู้เรื่องแต่งงานของพวกเขา แพรวาเองก็ไม่ได้ตั้งใจเปิดเผย เลยพูดว่า"อืม"ออกมา "เขาปฏิบัติดีต่อคุณไหม?" ดีหรือเปล่าหรอ? ก็ถือว่าดี อย่างน้อยตอนที่เธอเชื่อฟัง เขาก็จะรักและเอ็นดูเธอ อีกอย่างหากโมโหใส่เขาก็ดีกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว เธอยิ้มแย้ม "ก็ดี" "จริงหรอ" นัยนิตพูดว่า "ก็ดีแล้ว" "บริวัตร——นัยนิต คุณมีอะไรอยากบอกฉันไหม" นัยนิตเผยสีหน้าแววตากังวลใจ และพูดว่า "ฉันแค่รู้สึกว่า ตอนผู้หญิงมีความรัก อย่าได้ปล่อยเนื้อปล่อยใจให้เขาทั้งหมด แต่ควรรักตัวเองด้วย" แพรวาสะดุ้งตกใจ แต่ไม่เอ่ยปากออกมา นัยนิตยืนขึ้น "สายแล้ว ฉันต้องไปรับหนานหนานแล้ว มีโอกาสเดี่ยวฉันเลี้ยงข้าวคุณ" แพรวาเลยทำได้แค่ยืนขึ้นและกล่าวลาเธอ ระหว่างทางกลับ แพรวาเอาแต่นั่งครุ่นคิดประโยคเหล่านั้นจนสุดทาง แต่ก็ไม่ครุ่นคิดไม่ออก หลังจากผ่านสองวัน ซู่ชิงหยูนก็ส่งภาพออกแบบเสื้อผ้ามาให้ แพรวานอนพิงบนเตียงให้ปิยะวัฒน์ดู "คุณว่าเสื้อตัวไหนเหมาะสมกับฉัน?" ปิยะวัฒน์ยื่นมือรับและมองดู สุดท้ายเขาเลือกชุดเดรสยาวสีฟ้า บนกระโปรงมีลายดอกไม้สีมืด แถมยังเป็นเอวสูง จนทำให้คนที่มองรู้สึกว่าคนที่สวมเสื้อผ้าดูสูง ถึงแม้แพรวาจะไม่เตี้ยก็ตาม "คุณชอบชุดนี้หรอ?" แพรวาขมวดคิ้ว "ก็สวย" ปิยะวัฒน์กวาดตามองเธอ "ผมชอบตอนที่คุณไม่สวมอะไรเลย" แพรวาโยนหมอนใส่บนใบหน้าของเขา ประธานใหญ่ยื่นมือกันไว้ และลากมือของเธอ แล้วโอบกอด พร้อมหรี่ตาลงพูดว่า "พรุ่งนี้มีแผนอะไรไหม?" แพรวาครุ่นคิดสักพัก และส่ายหน้า "ละครเพลิงไฟจะฉายออกทางโทรศัพท์เดือนหน้า สัปดาห์หน้าต้องกำหนดเวลาที่แน่ชัด ช่วงเวลานี้เลยว่าคงไม่ได้ยุ่งอะไร" "ที่บ้านก็ไม่มีแผนหรอ?" เขาถามขึ้นมา แพรวาสะดุ้งตกใจ นี้ยังคงเป็นครั้งแรกที่ปิยะวัฒน์ถามถึงครอบครัวของเธอ เธอส่ายหน้าพูดว่า "น่าจะไม่มี" นับตั้งแต่ปิยะวัฒน์ถูกหมาของแพรใจกัดจนได้รับบาดเจ็บครั้งที่แล้ว แพรวาเลยไม่กลับบ้านประเทศนั้นอีก พรรษิษฐ์ดูเหมือนเพราะเธอไม่ได้ให้แพรใจกล่าวโทษเธอ สองเดือนแล้ว แม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่โทรเข้ามา ท่านประธานใหญ่บีบจมูกของเธอ "พรุ่งนี้อยู่บ้านอย่าออกไปไหน เดี่ยวผมจะโทษศัพท์" แพรวายิ้มและพูดว่า "ทำไมหรอ ความลับขนาดนี้เลยหรอ" ท่านประธานใหญ่ยิ้มแย้มและไม่พูดอะไร วันต่อมา หลังจากถูกปิยะวัฒน์ทรมานมาครึ่งชั่วโมง แพรวาก็เลยนอนหลับต่อบนเตียง เมื่อใกล้เวลาเที่ยง แพรวาก็รับสายโทรศัพท์จากปิยะวัฒน์ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วให้ต้นน้ำขับรถยนต์พาไป 
已经是最新一章了
加载中