ตอนที่540พ่อกับแม่ไม่เอาผมแล้วหรอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่540พ่อกับแม่ไม่เอาผมแล้วหรอ
ตอนที่540พ่อกับแม่ไม่เอาผมแล้วหรอ “ฉันไม่ยอมให้เธอพูดตัวเองแบบนี้!”คำนี้เหมือนมีมีดแทงเข้าไปในใจของเธอแต่เขาเพิ่มระดับเสียงเหมือนกำลังจะทำให้เธอได้สติคืน“เรื่องเลวร้ายขนาดนั้นพวกเราก็ผ่านมาแล้วตอนนี้เพราะแค่แผลที่ยังไม่หายหมดเธอก็จะท้อแล้วหรอ?” “ฉันก็ไม่อยากจะท้อแท้แต่ว่า.......”เธอร้องไห้แล้วพูดต่อไปไม่ลง “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันและปรัณเองเขาจะช่วยเธอผ่านด่านนี้ไปทุกคนกำลังรอเธอกลับไปหรือเธอไม่อยากจะเห็นธีมนต์เร็วๆ?” พอพูดถึงธีมนต์นัชชาก็ได้มีการตอบสนองนิดนึงถึงแม้จำไม่ได้ว่าเด็กคนนั้นมายังไงแต่ทุกครั้งที่พูดถึงเขาในใจของเธอก็จะเต้นแรงอารมณ์แบบนั้นที่พูดไม่ค่อยออกพร้อมกับความตื่นเต้นถึงแม้จะจำเด็กคนนั้นไม่ได้แล้วแต่ความรู้สึกที่อยู่ในใจลึกๆไม่มีทางหลอกคนหรอก เธอเกือบลืมไปแล้วว่าตอนนี้ตัวเองเป็นแม่คนแล้ว เตชิตเห็นเธอฟังเข้าหูก็โล่งอกไป“นัชชานี่ไม่ใช่ชีวิตของพวกเราแต่ตอนนี้เพียงแค่ต้องรับการรักษาเท่านั้นขอเพียงเธอมีความเชื่อมั่นแผลก็จะฟื้นตัวเร็วเราก็จะกลับไปอยู่ในชีวิตที่เหมือนเดิม” ตั้งแต่ที่เธอนั้นถูกจับตัวไปชีวิตของพวกเขาก็พังไปหมดตอนนี้คดีจบลงแล้วสิ่งที่ต้องรออย่างเดียวคือให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงส่วนเรื่องอื่นแค่พวกเขากลับไปในประเทศทุกอย่างก็จะดีขึ้น” นัชชาเริ่มตั้งสติได้จึงหยุดคิดเรื่องที่ทำให้ตัวเองปวดหัวนั่งเงียบๆข้างเตียงมองไปทางนอกหน้าต่างมองไปทางสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้กับหญ้ามองไปยังผู้ป่วยที่กำลังเดินเล่นกันอยู่เตชิตรู้ว่าเธอต้องการอยู่คนเดียวเงียบๆก็เลยไปอยู่นอกห้อง ในตอนที่ปรัณกับสุวีรามาเปลี่ยนยาก็เห็นเขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ปรัณจึงส่งสายตาให้สุวีราจากนั้นเธอก็เอายาเข้าไปในห้องปล่อยให้ผู้ชาย2คนอยู่นอกประตู “โดนไล่ออกมาเหรอ?”ปรัณแกล้งเขา “เธอเห็นแผลที่อยู่หลังตัวเองแล้วจากนั้นก็ร้องไห้หนักมากอารมณ์แย่มาก”เตชิตเอาศอกสองข้างเท้าไว้บนเขามือไปจับที่จมูกน้ำเสียงที่พูดออกมาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ปรัณรู้สึกประหลาดใจแต่ก็เหมือนสิ่งที่เขาคิดไว้เขาเงียบไปสักครู่แล้วพูดต่อว่า“จะช้าหรือเร็วยังไงก็ต้องรู้” “ปรัณฉันอยู่ดีๆก็รู้สึกไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้ว”เสียงทุ้มของผู้ชายดังขึ้นที่คิ้วก็ดูเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความกดดัน“เธอจำเรื่องราวระหว่างเราสองคนไม่ได้ไม่ว่าฉันจะพูดยังไงเธอก็เหมือนจะไม่เข้าใจสักอย่าง” ปรัณเข้าใจความรู้สึกของเขาสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือทั้งสองพยุงกันและให้ความเชื่อใจกันแต่ตอนนี้นัชชาจำเขาไม่ได้ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะต้องลงมือยังไง แต่ว่า...... “เตชิตถึงแม้การเสียความทรงจำทำให้ลืมนายไปชั่วคราวแต่ความทรงจำนั้นไม่มีวันหายไปคนคือสิ่งที่มีความรู้สึกในความทรงจำลึกๆนั้นนายก็ยังคงเป็นคนที่เธอเชื่อใจมากที่สุด”ปรัณยกมือขึ้นไปตบที่ไหล่ของเขาเขาผอมไปเยอะมากที่ไหล่เหมือนมีเนื้อหายไปมากเลย“ตอนนี้เธออยู่ในช่วงที่กำลังสับสนมากที่สุดนายจะต้องอดทนไว้” ถ้าทั้ง2เสียความมั่นใจไปถ้าเป็นอย่างนั้นไม่ว่าฝีมือของเขาจะดีขนาดไหนสุดท้ายก็ไม่มีทางดีขึ้น แปลว่ายังไงนัชชาก็คือผู้ป่วยการยอมรับเรื่องราวต่างๆก็มีขีดจำกัดต้องใช้สติที่แข็งแรงและกำลังใจจากคนรอบข้างถึงจะผ่านไปได้ด้วยดีและสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดก็คือเธอเสียความมั่นใจไป แต่ไม่ว่ายังไงก็ดีที่เขาไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้หลังจากที่ปรัณพูดจบเขาก็ลุกขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในห้อง ปรัณถอนหายใจมองไปทางประตูห้องผู้ป่วยในใจไม่ได้โล่งอกตั้งแต่เป็นหมอมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ทำให้เขารู้สึกยากที่สุดหวังว่าทั้งสองคนจะไม่เจอเรื่องที่ทุกข์ทรมานอีก …… แค่แป๊ปเดียวก็ผ่านไปแล้ว2เดือนนัชชารักษาอยู่ต่างประเทศรวมกับก่อนหน้านี้ที่จากไปก็ราวๆ3เดือนแล้วเทอมที่2ของธีมนต์จะจบลงแล้วแต่ก็ยังไม่ได้เจอพ่อกับแม่ ใครว่าเตชิตไม่อยากกลับมาดูเด็กแต่ถ้าเขากลับมาก็อยู่ได้แค่แป๊บเดียวสำหรับเด็กแล้วก็เป็นการทำร้ายเช่นกันอีกอย่างสภาพของนัชชาก็ไม่อำนวยให้เขากลับมาด้วย การวีดีโอคอลเป็นเรื่องที่ธีมนต์หวังในทุกๆวันใช้iPadเล็กๆนี้มาสื่อความรักที่มีอยู่ พอเวลาผ่านไปในใจของเด็กก็อาจจะมีความรู้สึกอื่นๆณัชชนม์และเมทนีเห็นแล้วก็รู้สึกสงสารพวกเขาทั้งสองอายุเยอะแล้วเวลาคุยกับเด็กก็ไม่ค่อยเข้าใจเด็กนักก็เลยต้องให้จินต์พาเด็กไปเล่น จินต์ก็ดีใจที่ได้ช่วยดูแลเด็กได้ยินธนัทพูดเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆของนัชชาเธอก็รู้สึกผิดที่ช่วยอะไรไม่ได้แต่ตอนนี้สามารถดูแลเด็กได้เธอก็รู้สึกดี วันนี้เธอพาธีมนต์ไปสนามเด็กเล่นที่ที่เขาชอบที่สุดเธอได้เห็นรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเด็กแต่ไม่นานก็หายไปจนถึงเวลากินข้าวก็ไม่มีความสุขเหมือนตอนแรกพี่มาแล้ว จินต์หั่นสเต็กที่อยู่ตรงหน้าหั่นไปด้วยถามไปด้วย“ธีมนต์กินข้าวแล้วคิดอะไรอยู่?” ธีมนต์ส่ายหัวนัยน์ตาดูไม่ค่อยดีนัก“ไม่ได้คิดอะไรครับ” จินต์ตั้งใจทำหน้าตาเศร้าๆมองไปทางเขา“ธีมนต์โตแล้วมีความลับของตัวเองแล้วไม่อยากพูดกับแม่บุญธรรมแล้วใช่ไหม?แม่บุญธรรมเสียใจจังเลย......” ธีมนต์เป็นเด็กมีเมตตาเขากระพริบตาแล้วก้มหน้าลงสักพักหนึ่งถึงจะพูดเบาๆออกมาว่า“ผมคิดถึงพ่อกับแม่แล้วครับ” จินต์มองไปทางไหล่ที่เล็กๆของเขาเมื่อเห็นร่างกายที่เล็กๆของเขาพร้อมกับเสียงที่เบาๆก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที “เธอวีดีโอคอลกับพ่อแม่ทุกวันไม่ใช่หรอ?” ธีมนต์พยักหน้า“แต่ผมอยากเห็นพวกท่านอยากให้พวกท่านส่งผมไปโรงเรียนเหมือนเมื่อก่อนแล้วก็กินข้าวกับผมครับ” ธีมนต์โตมาด้วยการเลี้ยงดูของนัชชาขาดความรักของพ่อไปทำให้เขารู้เรื่องและโตกว่าเด็กวัยเดียวกันตอนนี้ได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นครอบครัวไม่นานก็ต้องเผชิญหน้ากับการจากลาเด็กที่อายุ6ขวบในใจคงจะลำบากแน่ๆเลย จินต์รู้สึกสงสารจึงรีบไปจับมือของเขาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ“พ่อกับแม่มีธุระกลับมาไม่ได้จริงๆพวกเขาก็อยากจะเจอเธอมากๆเหมือนกัน” “จริงหรอครับ?”ธีมนต์เบะปากพยายามกลั้นความรู้สึกที่อยากร้องไห้ไว้“ผมกลัวว่าพวกเขาจะไม่เอาผมแล้ว.......” “จะเป็นไปได้ไง!”ในใจของจินต์เหมือนมีมีดมาทิ่มแทง“พวกเขาไม่มีทางที่จะทิ้งธีมนต์ไปแน่นอนพ่อกับแม่รักธีมนต์มากที่สุดแล้ว” “แล้วทำไมพวกเขาไม่มาดูผมหล่ะครับ?” จินต์ไม่รู้จะอธิบายกับเขายังไงก็เลยบอกไปว่า“ธีมนต์ครับทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองพวกเขานอกจากเป็นพ่อแม่ของเธอแล้วยังเป็นทนายพ่อของลูกต้องไปช่วยผู้คนอีกมากมายเลยนะครับ”
已经是最新一章了
加载中