ตอนที่ 567 ความอบอุ่นในครอบครัว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 567 ความอบอุ่นในครอบครัว
ตอนที่ 567 ความอบอุ่นในครอบครัว นัชชากลับมาเป็นวันที่สาม หลังจากจัดการอารมณ์เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจว่าจะไปพบผู้คนที่เธอควรไปพบ ออกจากบ้านที่แรกที่เวะคือบ้านของณัชชนม์และเมทนี แม้เธอจะสูญเสียความทรงจำไปส่วนหนึ่ง แต่สำหรับผู้สูงอายุสองท่านนี้แล้วไม่ได้มีผลกระทบอะไรมาก รถจอดที่ชั้นล่างของหมู่บ้านมีสุข ตอนที่ลงจากรถ เตชิตก็จูงมือเธอ บ้านสไตล์เก่าแก่ไม่มีลิฟต์ ขึ้นไปถึงชั้นห้าอย่างต่อเนื่อง ยืนอยู่นอกประตูบานใหญ่ที่คุ้นเคย ลังเลไม่กี่วินาที เธอก็ยกมือขึ้นกดกระดิ่ง ประตูก็ยังไม่เปิดออก ได้ยินเสียงของณัชชนม์ดังขึ้นอย่างรีบร้อน “ใครน่ะ มาแล้วๆ......” คำพูด ‘มาแล้ว’ คำสุดท้ายพูดจบ ประตูที่ปิดสนิทก็เปิดออกจากด้านใน รอยแยกประตูเปิดกว้างขึ้นอย่างช้าๆ ร่างที่คุ้นเคยค่อยๆปรากฎขึ้นสู่สายตา ก่อนที่พวกเขาจะมา ไม่ได้บอกณัชชนม์ล่วงหน้า เพราะกลัวว่าระหว่างทางเธอจะเปลี่ยนใจ เลยไม่ได้เตือนผู้อาวุโสทั้งสอง ตอนนี้ ในและนอกห้อง สบตากัน นัชชามองเพียงณัชชนม์ที่เส้นผมกลายเป็นสีขาวชั้นหนึ่งเพียงเจอกันไม่กี่เดือน ใช้เวลาไม่กี่วินาทีน้ำตาก็ไหลออกมา “แม่คะ......” ได้ยินเธอเรียกตัวเอง ณัชชนม์ดูเหมือนว่าจะมั่นใจว่าตรงหน้าเธอไม่ใช่ภาพหลอน ยืนอยู่กับที่สักพักหนึ่ง ตอนที่รอนัชชาเข้ามากอด เธอถึงกล้าเชื่อมั่นว่านี่ไม่ใช่ภาพหลอน “นัช นัชชา?” เธอดูเหมือนว่าไม่กล้าจะเชื่อ ยกมือขึ้นกอดอีกฝ่ายแน่น มือทั้งสองที่ผิวหนังหยาบกร้านลูบแผ่นหลังเธอไม่หยุด “ทำไมเพิ่งกลับมา ฉันกับพ่อเป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว......” “ขอโทษค่ะ แม่ หนูขอโทษ......” น้ำตาไหลลงมาอย่างดื้อรั้น นอกจากขอโทษ เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดว่าอะไร เมทนีหลังจากได้ยินเสียงก็รีบเดินมาที่หน้าประตู เห็นสองแม่ลูกกอดกันทั้งน้ำตา ผู้ชายที่แสดงออกไม่เก่งอย่างเขาก็อดแอบเช็ดน้ำตาเงียบๆไม่ได้ “กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้วลูก!” “เข้ามาเร็ว ให้แม่ดูลูกหน่อย” ณัชชนม์พูดไปก็ลากเธอเข้าห้อง เข้ามาในห้องนั่งเล่น ทั้งหมดเป็นลักษณะที่เธอคุ้นเคย ในใจนัชชาก็มั่นคงขึ้นมานิดหน่อย นั่งลงบนโซฟา รับชาร้อนที่ณัชชนม์ส่งมาให้ เธอก็เปิดใจพูดคุย “ไม่กลับมาตั้งนาน โทรศัพท์มาหาส่งข้อความมาก็น้อย ลูกไปทำอะไรกันแน่?” คนเป็นแม่อดเป็นห่วงไม่ได้ แม้ว่าลูกจะอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ก็ยังถามขึ้นมาอย่างกลัวๆ ยังดีที่ก่อนหน้านี้ เตชิตได้บอกเธอล่วงหน้าแล้วว่าควรตอบอย่างไร เธอเป็นคนที่โกหกไม่เก่ง แม้ว่าจะเป็นการโกหกเล็กๆน้อยๆ ขณะที่สบกับดวงตาแก่ชราของณัชชนม์ เธอก็รู้สึกผิดมาก ด้วยเหตุนี้ ตอนที่พูดประโยคคนี้ เธอตั้งใจเลี่ยงสายตาของณัชชนม์ ฉวยโอกาสก้มศีรษะดื่มชาร้อน “พวกเราไปสืบเรื่องคดีการลักลอบของบริษัทข้ามชาติน่ะค่ะ รายละเอียดไม่สามารถเผยออกมาได้เป็นเงื่อนไขของเบื้องบน การติดต่อในช่วงนี้ต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้นถึงจะทำได้ ไม่ใช่ฉันไม่คิดจะติดต่อมานานนะคะ แต่ว่าเบื้องบนมีเงื่อนไข ฉันก็ต้องทำตาม” “คดีการลักลอบของบริษัทข้ามชาติหรอ?” ณัชชนม์ฟังแล้วก็สีหน้าเปลี่ยนไป “ไม่ใช่ว่าอันตรายมากหรอ? นัชชา ตอนนี้เป็นแม่ของลูกแล้วนะ ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อน ทำอะไรก็นึกถึงครอบครัวและลูกด้วย นี่......” นัชชารู้ว่าเธออยากจะพูดอะไร วางแก้วลงแล้วยกมือขึ้นมากุมมือย่น “แม่คะ หนูรู้ค่ะ หนูรับประกันว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ต่อจากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว โอเคไหมคะ?” “อย่าไปรับคดีพวกนี้อีกแล้วนะ พวกเราเป็นคนธรรมดา ฉันและพ่อไม่ได้หวังให้ลูกเป็นฮีโร่อะไรหรอกนะ แค่มีสุขภาพที่ดี ก็ดีกว่าอะไรทั้งหมด เข้าใจไหมลูก?” คำพูดพวกนี้เข้าในหูนัชชา แทงเข้ามาในใจอย่างเหนือความคาดหมาย น้ำตาที่กลั้นไว้เมื่อครู่ก็เกือบจะไหลออกมาอีกครั้ง โชคดีที่หยุดไว้ได้ “รู้แล้วค่ะ แม่คะ หนูจะทำให้ดี จะดูแลแม่และพ่อ วางใจได้เลยค่ะ” ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ณัชชนม์ก็วางใจ มองเห็นเตชิตข้างๆ “พวกเธอไปด้วยกันใช่ไหม? ฉันเห็นเธอก็ผอมลงเยอะเลย” เตชิตไม่คิดว่าณัชชนม์จะเป็นห่วงตนด้วย ในใจก็อบอุ่นขึ้นมา “ผมไม่เป็นไรครับ คุณแม่” “เดี๋ยวอยู่กินข้าวกันสักมื้อนะ ในบ้านยังมีที่อาหารบำรุงที่เธอเคยให้มาตลอดเมื่อก่อน มีประโยชน์ก็คราวนี้” “พวกเธอยังเป็นวัยรุ่น ถ้าทำงานไม่ดูแลร่างกาย ใครจะไปรู้ว่าฉันและแม่เธอจะเป็นห่วงแค่ไหน” เมทนีที่นั่งข้างๆก็อไม่ได้ที่จะพูดเสริม “แค่คราวนี้ อย่ามีหนที่สอง พวกเธอในฐานะพ่อแม่ถ้าไม่ทำเพื่อตัวเองก็คิดว่าทำเพื่อลูก หายไปตั้งนาน ธีมนต์เศร้าทุกวัน เพราะว่าคิดถึงพ่อแม่ ถ้าไม่มีจินต์ล่ะก็ ธีมนต์ก็เศร้าตายเลย คุณครูก็ถามทั้งเทอมเลย พวกเราก็ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร” พูดถึงธีมนต์ นัชชาก็รู้สึกตื่นตระหนกในใจ โดยเฉพาะเรื่องโรงเรียนของลูก เธอไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกไป ดูเหมือนว่าจะรับรู้ถึงความรู้สึกแย่ของเธอ เตชิตก็ตอบเมทนีอย่างเป็นธรรมชาติ “คุณพ่อครับ วางใจได้ครับ พรุ่งนี้พวกเราจะไปคุยกับคุณครูธีมนต์ด้วยตัวเอง” เรื่องมาถึงตรงนี้ พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ แม้ว่าเมทนีจะไม่พอใจกับการกระทำทั้งสอง แต่หลังจากเห็นท่าทางที่ซูบผอมของพวกเขา จะมีกระจิตกระใจต่อว่าได้อย่างไร เลยรู้สึกสงสารแทน ณัชชนม์ทำไก่ตุ๋นกระเพาะเปลา เป็นซุปบำรุงที่ซับซ้อนมาก หลังจากต้องจัดการต้มกะเพราะปลาแล้ว จะต้องทำเนื้อไก่ให้สะอาด แต่เธอไม่ได้รู้สึกลำบากอะไรสักนิด คิดแค่ว่าจะทำให้พวกเขากินให้ดีที่สุด ในห้องครัวมีกลิ่นหอมของอาหารกลางวันลอยมา อยู่ต่างประเทศมา แม้ว่าจะมีเตชิตอยู่เป็นเพื่อนยังไงก็เหมือนขาดอะไรไป รู้สึกว่างเปล่ามานานในที่สุดก็ได้รับรู้ถึงบรรยากาศของครอบครัว หัวใจที่เข็มแข็งและเย็นชา ตอนนี้เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนผิดปกติ เธอก้มลงเล็กน้อย ตกอยู่ในภวังค์ความคิด มีความคิดอะไรบางอย่าง บนบ่าจู่ๆก็มีฝ่ามืออุ่นวางลงมา เธอหันข้างไปมอง ก็เห็นเขาโอบกอดเธอ เครื่องหน้าหล่อค่อยๆถูบนไหล่เธอ ใบหน้าหล่อเต็มไปด้วยความสบายใจ เหมือนเดิม นัชชาอยากจุมมือเขากลับ ราวกับเติมพลัง ให้พลังที่มั่นคงกับเธอ ทำอาหารเสร็จแล้ว ทั้งสี่นั่งบนโต๊ะทานอาหารที่ไม่ใหญ่ มีกับข้าวทั้งหมดสามอย่าง ซุปบำรุงหนึ่งชาม ทุกอย่างล้วนทำด้วยใจ เตชิตเห็นข้าวที่เยอะเป็นพิเศษตรงหน้าเขา ในใจก็รู้สึกชา ยกสายตาขึ้นไปเห็นณัชชนม์กำลังตักอาหารให้นัชชา และทางด้านนี้ เมทนีก็ไม่ได้ว่าง หยิบจานเล็กๆของเขาใส่จนเต็ม ไม่เคยได้รับความอบอุ่นอันลึกซึ้งขอบครอบครัวมาก่อน ในตอนนี้ ได้รับความรู้สึกอันลึกซึ้งแล้ว ไม่แปลกใจที่มีหลายคนติดบ้าน แต่ก่อนคิดแค่ว่ายังเด็กและไร้ประสบการณ์ แต่ตอนนี้กลับเข้าใจแล้ว ความรักยังห่างไกลจากครอบครัวมาก และคนในครอบครัวนี้ บนโลกอันแสนเย็นชาได้รับความอบอุ่นจากกันและกันก็พอแล้ว
已经是最新一章了
加载中