ตอนที่589 หน้าแดงอย่างกับอะไร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่589 หน้าแดงอย่างกับอะไร
ตอนที่589 หน้าแดงอย่างกับอะไร ชายที่เกือบแทบจะแตกสลายในวินาทีนั้นก็สงบลง “ผมรู้” อันที่จริงเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อเห็นร่างที่อ่อนแอของเธอ หัวใจก็เหมือนมีรอยแผลเป็นขึ้นมา เพียงเพราะความไม่สบายใจนี้ของเขา เขาไม่อยากให้เธอต้องแบกรับเอาไว้อีก ก็อย่างที่ปรัณพูด ครั้งนี้เขาจะต้องเป็นกำลังใจที่เข็มแข็งให้กับเธอ “สองวันแรกอย่างเพิ่งโดนน้ำ ผมเตรียมยาทาฆ่าเชื้อและช่วยสมานแผลเอาไว้ให้ ทาแล้วอาจจะคัน แต่จะฟื้นตัวเร็วมาก” ปรัณนำยาที่เตรียมไว้ให้ยื่นให้กับทั้งคู่ “ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้ผ่านมาได้แล้ว ไม่มีอะไรทนไม่ได้อีกแล้วล่ะ” นัชชาพยักหน้าและมองเขาด้วยความจริงใจ “ขอบคุณค่ะปรัณ” ปรัณรู้สึกปลื้มใจแต่ก็โบกมือ “ระหว่างพวกเราไม่ต้องเกรงใจ คุณเพิ่งได้รับการรักษา กลับไปพักผ่อนกับเตชิตเถอะครับ” เตชิตช่วยพยุงนัชชาไปที่ที่จอดรถชั้นใต้ดิน แม้ว่าเธอจะบอกว่าเธอไม่เป็นไรตลอด บอกว่าเดินเองได้ แต่คนนั้นก็ไม่ฟังและยืนยันที่จะทำเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะบาดแผลอยู่ที่ด้านหลัง เขาก็คงจะอุ้มเธอเข้าไปในรถแล้ว นัชชานั่งที่ที่นั่งข้างคนขับอย่างระมัดระวัง ด้านหลังพิงไปที่เบาะนุ่ม เธอไม่รู้ว่าเก้าอี้ด้านหลังของเธอถูกคลุมไปด้วยแผ่นรองที่นุ่มเป็นพิเศษตั้งแต่เมื่อไร ตอนนี้ด้านหลังเธอเจ็บจนชาไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตามไม่น่าเชื่อว่าเมื่อพิงแผ่นเจลนี้แล้วกลับไม่รู้สึกอะไร ประตูที่นั่งคนขับถูกเปิดออก อากาศเย็นในที่จอดรถหลั่งไหลเข้ามา ขายาวของชายคนนั้นก้าวขึ้นมา หลังจากนั้นประตูก็ปิดลง สิ่งแรกที่เขาทำคือหมุนและปรับที่นั่งของเธอด้วยความระมัดระวัง หัวใจของนัชชาค่อยๆอ่อนโยนลง ชายคนนั้นยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เธอจึงกระซิบปลอบใจเขา “ทำไมคุณต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วยค่ะ ฉันไม่ได้เป็นไรจริงๆค่ะ” “การรักษานั้นหนักหนามาก คุณยังมาบอกว่าสบายดีอีก” คราวนี้เตชิตไม่สงบเหมือนตอนที่อยู่ในออฟฟิต สายตาเขามองเธอด้วยความสงสาร “มันสาหัสมาก แต่ฉันก็อดทนผ่านมันมาได้แล้วไม่ใช่หรอคะ เมื่อเทียบกับว่าแผลนี้จะหายแล้วดีขึ้้นมา ฉันสามารถทนได้ค่ะ” เตชิตมองดูใบหน้าซีดเซียวของเขา เขาพูดขึ้นอย่างลังเลอีกครั้ง “ต้องรักษาจริงๆหรือ นัชนัช ผมเคยบอกแล้วไง ผมไม่ได้สนใจแผลเป็นของคุณเลย” นัชชารู้ว่าเขาต้องการพูดอะไรต่อไป เธอยิ้มและส่ายหัว ดวงตาของเขามั่นคง “ฉันจะต้องทำมันค่ะ” “เฮ่อ” ชายคนนั้นถอนหายใจออกมา สายตาเขามองออกไปที่ด้านหน้าของรถ ดูเหมือนว่าลังจะสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ผ่านไปสักพักเขาจึงพูดขึ้นว่า “แม้ว่ามันจะทำให้ผมต้องเป็นห่วงคุณ คุณก็ยังจะทำอย่างนั้นรึ” เตชิตไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่าเขาเป็นคนที่อ่อนแอเช่นนี้ เขามองดูเธอจากเครื่องดนตรี เขาเห็นเธอได้รับความเจ็บปวดทรมาน ด้านหลังเต็มไปด้วยเลือด หัวใจของเขาก็เหมือนถูกฉีกขาดจมลงสู่โคลน นัชชาปิดเปลือกตาลง เธอมองดูฝ่ามือใหญ่ที่สั่นอยู่หน้าคอนโซลรถโดยไม่รู้ตัว เธอรู้ว่าเขาเป็นห่วงเธอ เธอยกมือขึ้นไปแตะและพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงฉัน แต่ฉันไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น ฉันต้องการให้คุณเห็นฉันดีขึ้นด้วย” “คุณอยู่กายผมนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้ว คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือ” เมื่อพูดถึงตรงนี้เขาก็เริ่มจริงจังขึ้นมา ดูเหมือนจะเห็นทางตัน “ผ่านเรื่องราวมามากมาย ผมแค่ต้องการให้คุณและลูกมีความสุข มีสุขภาพดีและมีชีวิตที่ดีอยู่ข้างกายผม แผลเป็น หรือว่าอะไร ผมก็ไม่สนใจทั้งนั้น” “ฉันรู้ ฉันรู้ทั้งหมดล่ะ!” นัชชาเม้มริมฝีปาก เธอมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล จู่ๆเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เธอไม่ต้องการเห็นเขาทุกข์ใจเพราะกังวลเกี่ยวกับตัวเธอ แต่ว่าเรื่องราวต่างๆก่อนหน้านี้เธอเองก็จำไม่ได้ ตอนนี้ เธอถูกกระตุ้นด้วยความรักของผู้ชายคนนี้ เธอต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา ไม่ใช่ร่างกายที่ชำรุดทรุดโทรม “เตชิต คุณดีกับฉันมาก ดังนั้นฉันจึงอยากทำให้ตัวเองดีขึ้น ให้สมกับความเสียสละและความรักที่คุณมีให้กับฉัน” “ผมไม่ต้องการ…” พูดยังไม่ทันจบ นัชชาก็ยื่นมือออกไปดึงคอผู้ชายคนนั้น เธอพยายามฝืนความเจ็บปวดและโน้มตัวไปจูบริมฝีปากบางๆนั้น ริมฝีปากของเขาเย็นชืด เขาตกใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองเมื่อสักครู่ ความเย็นเล็กน้อยถูกส่งผ่านไปยังหัวใจที่นุ่มนวล นัชชาไม่ต้องการเห็นเขาเย็นชา ดังนั้นเธอจึงตวัดปลายลิ้นของเธออย่างประณีตไปที่ชายคนนั้นอย่างอ่อนโยน ให้ความอบอุ่นแก่เขาเล็กน้อย เตชิตรู้สึกถึงความอ่อนโยนบนริมฝีปาก ร่างกายเขาเหมือนตกหลุมจนไม่สามารถขยับเคลื่อนที่ได้ ดวงตาพร่าเล็กน้อยไม่สามารถโฟกัสได้อย่างสมบูรณ์ เขาเห็นเธอหลับตาลง เขาต้องการเอื้อมมือออกเพื่อดึงคนเข้าสู่อ้อมแขน แต่ก็กลัวจะสัมผัสถูกบาดแผลของเธอ มือทั้งสองแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว เหมือนเด็กโง่ที่เพิ่งเคยจูบเป็นครั้งแรก แข็งทื่ออยู่กับที่ นัชชาไม่ได้ตั้งใจปล่อยเขาไปโดยง่ายดาย เธอมีอารมณ์มากมายที่ต้องการจะถ่ายทอด มีคำพูดมากมายที่อยากจะบอกเขา เพียงแค่บอกเขาด้วยวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมา ลิ้นฉวัดเฉวียนเข้าไปในปาก ไม่มีเทคนิคอะไร เพียงแค่โต้ตอบกับเขาด้วยการเคลื่อนไหวที่ธรรมดาและงุ่มง่าม ทันใดนั้น ในที่สุดลิ้นก็ถูกเธอหยอกล้อจนพัวพันไปหมด นัชชาตกใจขึ้นมา จากนั้น ทั้งตัวก็ถูกคนด้านหน้านำพาไป เขาเปลี่ยนจากผู้ตามกลายมาเป็นผู้นำ ประกบริมฝีปากของเธอไว้และสนุกกับมัน ฮอร์โมนเพศชายที่แข็งแกร่งพลุ่งพล่านในทันที คละคลุ้งไปทั่วห้องโดยสารในรถ ลมหายใจของนัชชาถูกพรากไป สมองขาดออกซิเจนเช่นกัน ใจเธอมีความรู้สึกแปลกๆ กระจายผ่านริมฝีปากและลิ้น ทันใดนั้น ฉากที่คุ้นตาก็แวบผ่านเข้ามาตรงหน้า ในรถที่เงียบสงัด ผู้ชายกำลังจูบผู้หญิง จากนั้นก็มีฉากที่คล้ายกันนับครั้งไม่ถ้วน เธอเปิดช่องว่าง กัดไปที่ริมฝีปากของชายคนนั้นโดยไม่ทันระวัง ทำให้ปากเขาแตก มีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย เตชิตขมวดคิ้วและปล่อยตัวเธอ ชายคนนั้นเปิดทางพื้นที่มืดด้านหน้า เขาดึงเนื้อเยื่อสีขาวออกและกดเอากระดาษทิชชู่กดลงที่แผล นัยน์ตาดำดิ่ง เหมือนแวมไพร์ดูดเลือดในยุคกลาง ที่เหมือนจะมีความปรารถนาบางอย่าง ทั้งหน้าของนัชชาแดงก่ำ เธอเห็นสีแดงสดบนริมฝีปากของเขา ก็รีบรนขอโทษขึ้นมา “ขอโทษค่ะ เมื่อครู่อยู่ๆฉันก็นึกเรื่องในอดีตขึ้นมาได้…” เตชิตหยุดนิ่งสักครู่ “นึกถึงเรื่องอะไรได้ล่ะ” เมื่อถามถึงตรงนี้ นัชชารู้สึกยากที่จะอธิบายออกมา เธอลังเลที่จะตอบออกมา “ไม่… มันเป็นแค่ภาพในช่วงเวลาสั้นๆค่ะ” “ภาพอะไร” เขาถามต่อไปอีก ใบหน้าซีดเซียวของเธอถูกแทนที่ด้วยสีแดง ในที่สุดเธอก็รู้สึกผ่อนคลาย นัชชาถูกเขาจี้ถามก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย “เป็นเรื่องทั่วไปค่ะ…” เตชิตไม่รู้สึกว่าคำถามนี้จะตอบยากตรงไหน แต่กลับเห็นเธอหลบสายตา เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ด้วยการพินิจพิจารณาของเขา ผนวกกับเมื่อเห็นเธอหูแดง เขาก็ได้ข้อสรุปในใจ แขนอันทรงพลังนั้นสอดแทรกอยู่ทางด้านหน้า ร่างเขาเอนไปทางด้านหลัง เขาเปิดปากอย่างสงบนิ่ง “เข้าใจแล้ว ดูเหมือนจะเป็นภาพที่ไม่สามารถบรรยายได้ล่ะสิ” “...” เมื่อเสียงนั้นพูดขึ้น ลำคอของนัชชาก็กลายเป็นสีแดงด้วย ตาทั้งสองข้างมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอพูดได้อย่างไม่เต็มปาก “คุณ คุณอย่าพูดจามั่ว!” เตชิตยังไม่จบ เขาต้องการที่จะแหย่เธอ “ผมมั่วรึ” เมื่อพูดจบนิ้วที่เรียวงามราวไม้ไผ่ก็ชี้ไปที่ด้านบน แสงสว่างขึ้นอัตโนมัติ “มานี่ ลองดูสิ คุณอายจนหน้าแดงอย่างกับอะไรแล้ว”
已经是最新一章了
加载中