ตอนที่ 10 นินัทธ์   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 10 นินัทธ์
ต๭นที่ 10 นินัทธ์ เธอยื่นนิ้วมือออกมาผลักอกของเขาอย่างไม่ได้รีบร้อน “คุณต้องเข้าใจ ว่าคุณเป็นฝ่ายเข้ามาหาฉันก่อน ถือว่าซะว่ามันเป็นเกม แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดนะคะ มิฉะนั้น ...คุณก็จะตกรอบ” พูดจบเธอก็มอบรอยยิ้มที่สวยงามให้กับเขา “ฉันไม่อยากเรียกยาม ทางที่ดีคุณควรปล่อยฉันตอนนี้” คิ้วของธนเทพค่อยๆ ขมวดจนชนกันแน่น ความดื้อรั้นจากตัวเขา ก่อให้เกิดเป็นมาตรที่ดูยิ่งใหญ่ขึ้นมา มีคนสำคัญกำลังจะครอบงำเข้าหาเธอ เธอรู้ความร้ายกาจของเขามานานแล้ว แต่เศวยาก็ไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เธอหมุนตัวเพื่อสะบัดให้หลุดจากการรัดกุมของเขา แล้วพูดอย่างเย็นชา “ขอโทษนะคะ คุณขวางทางฉันอยู่น่ะ” ธนเทพมองเธออยู่นาน ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา “ผมธนเทพคนนี้พูดออกมาแล้ว ย่อมไม่เคยคืนคำ” เศวยายกข้อมือขึ้นมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมืออย่างไม่สนใจคำพูดของเขา เขาฉีกยิ้มมุมปาก จากนั้นก็หันหลังเดินเข้าไปนั่งในรถ รถขับแล่นออกไปด้วยเสียงเครื่องยน์ที่ดังลั่น พอเศวยามองเขาที่กำลังขับรถจากไป ความเย็นชาของเธอก็บอบบางลง หัวใจของเธอเริ่มเจ็บปวดอย่างควบคุมไม่ได้อีกครั้ง เศวยานั่งอยู่บนรถแท็กซี่ด้วยอารมณ์ที่สับสน พอนึกถึงคนที่เธอเฝ้ารอที่จะเจอ ความรู้สึกผิดและอยากตำหนิตัวเองก็ทะลักล้นพรั่งพรูออกมาจากก้นหัวใจของเธอ ในสายตาของคนนอก เขาเป็นเหมือนคนบ้า แต่มีเพียงตอนที่อยู่ต่อหน้าเธอเท่านั้นที่เขาจะแสดงพฤติกรรมที่เห็นถึงความบริสุทธิ์และดูปลอดภัยแต่เธอกลับทำลายความเชื่อใจนี้ไปด้วยตัวเอง… ความทรงจำทำให้เธอจมดิ่งอยู่กับความรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เธอเคยทำไปในชาติก่อน “คุณครับ ถึงแล้วครับ เอ่อ...คุณแน่ใจเหรอว่าให้จอดที่นี่ ที่นี่ไม่มีคนอยู่แล้วนะครับ!” คนขับแท้กซี่เตือนเธออย่างหวังดี แต่กลับเป็นการรบกวนการรื้นฟื้นความทรงจำที่สุดจะทนได้ของเธอ ก่อนที่คนขับแท้กซี่จะไป เขาก็ถามเธออีก “คุณ อยากให้ผมรอมั้ยครับ ตรงนี้อาจเรียกรถไม่ได้นะครับ” เธอยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ “ไม่ต้องค่ะ ขอบคุณค่ะ” หลังจากที่คนขับแท้กซี่มองเธอด้วยสายตาที่สงสัย ก็ขับรถจากไป เศวยายืนอยู่หน้าอาคารสามชั้นที่มีกำแพงสูง เธอเงยหน้ามองไปรอบๆ พบว่ามีไม้เลื้อยปกคลุมอยู่ทั่วกำแพงเหมือนกับครั้งแรกในตอนที่เธอเคยมาที่นี่ไม่มีผิด ไม่มีเพื่อนบ้านในละแวกข้างเคียงเลยสักหลังเดียว บ้านหลังนี้เป็นเพียงบ้านหลังเดียวที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวบนยอดเขา พอนึกถึงคนที่ถูกขังอยู่ในบ้านหลังนี้ หัวใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที เธอรวบรวมความกล้าเดินตรงไปหน้าประตูเหล็กสีขาว เธอยื่นมือออกไปกดกริ่งประตู ไม่ทันไรก็มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมา เธอคนนั้นมองเศวยาผ่านประตูรั้วด้วยความหวาดระแวงมาแต่ไกล “คุณคะ ไม่ทราบว่ามาหาใครเหรอคะ” “น้าลิล…” เศวยาเกือบจะเรียกชื่อของผู้หญิงที่เดินตรงมาหาเธอแล้ว แต่ก็รู้ตัวก่อนจึงรีบแก้คำพูดใหม่ “คุณป้าคะ ฉันมาหานินัทธ์ค่ะ” สีหน้าท่าทางของผู้หญิงวัยกลางคนตรงหน้าเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย พร้อมกับจ้องมองเศวยาอย่างระแวดระวังและตื่นตัว “คุณคะ คุณคงมาผิดที่แล้วล่ะค่ะ ที่นี่ไม่มีคนชื่อนี้ค่ะ” พูดจบเธอก็หันหลังเดินจากไป เศวยาก็รีบเรียกเพื่อหยุดเธอไว้ “คุณป้าคะ หนูไม่ได้ประสงค์ร้ายนะคะ หนูเป็นเพื่อนของเขาค่ะ แค่อยากจะเจอเขาสักหน่อยค่ะ” ผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นหยุดเดิน แล้วหันมาพูดด้วยความเข้มขรึมจริงจัง “คุณคะ ป้าไม่รู้หรอกว่าคุณต้องการจะทำอะไร แต่ว่า ป้าบอกไปแล้วว่าที่นี่เป็นที่พักส่วนตัว และไม่มีคนชื่อนั้นด้วย!คุณช่วยออกไปจากที่นี่ซะเถอะค่ะ! “คุณป้าคะ รอก่อนค่ะ...คุณป้า!” หญิงวัยกลางคนคนนั้นไม่หันมาสนใจเศวยา เดินตรงกลับไปแล้วปิดประตูบ้านเสียงดังปัง เศวยาไม่ยอมถอดใจ เธอกดกริ่งอีกครั้ง แต่กดอยู่นานก็ไม่มีใครออกมาต้อนรับ เธอจึงตะโกนเสียงดังเข้าไปให้ผ่านทะลุเข้าไปในประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิท “คุณป้าคะ หนูไม่ได้มีเจตนาร้ายจริงๆ นะคะ หนูก็แค่อยากจะ…” “ถ้ายังไม่ไปอีก ฉันจะแจ้งความแล้วนะ!”ทันใดนั้นก็มีคำเตือนครั้งสุดท้ายดังออกมาจากในบ้าน เธอรู้ว่าน้าลิลลี่พูดจริงทำจริง แม้ว่าจะเอาสถานะของเธอที่เป็นลูกสาวนายกเทศมนตรีมาแต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้มีปัญหาตามาได้ เศวยาจึงหันหลังกลับไปอย่างหงุดหงิด เธอทำได้แค่รีบจากไปอย่างไวเท่านั้น เมื่อสองปีก่อน ธนเทพเคยพาเธอมาที่นี่ ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับเส้นทาง ตอนนั้นน้าลิลลี่ยังมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและพร้อมยินดีต้อนรับเสมอที่มา ความคิดของเศวยาหดหู่ บางทีตอนนี้อาจยังไม่ถึงเวลาที่จะได้พบนินัทธ์ ต้องตามไทม์ไลน์ของเมื่อสองปีก่อนเท่านั้นงั้นเหรอ แต่เธอก็ไม่ถอดใจง่ายๆ วันนี้ไม่ได้เจอ พรุ่งนี้ก็จะมาอีก! เป็นเพียงเพราะว่า เธอเป็นหนี้อยู่ ที่หน้าต่างชั้นสาม มีเงาคนคนหนึ่งยืนอยู่... พอถึงบ้าน บริวุตก็เพิ่งวิ่งกลับมากจากมหาวิทยาลัยพอดี พอเห็นเศวยา เขาก็กอดอก ทำทางเหมือนเป็นผู้ใหญ่ “คุณเศวยา ได้ยินมาว่าเมื่อคืนคุณไปดื่มเหล้ามารึ” เศวยาชอบท่าทางของน้องชายตัวเองในตอนนี้มาก เธอจึงหัวเราะจนหลับตาปี๋ “ไปดวลเหล้ากับคนอื่นมาน่ะ” บริวุตพูดออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ “พี่คออ่อนขนาดนั้น ยังจะกล้าไปดวลเหล้ากับคนอื่นอีก! พี่ไม่กลัวโดนแบล็คเมลรึไง!” 
已经是最新一章了
加载中